' กะทิไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเราคนไทยไม่คิดกันง่าย ๆ ว่า แค่ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ใครมีหน้าที่กวาดถนนก็กวาด ใครมีหน้าที่ปลูกข้าวก็ปลูก ใครเป็นช่างไม้ก็เป็น ทำหน้าที่ของตนเองให้ดี ทำครอบครัวของตนเองให้ดี สั่งสอนลูกเต้าของตนเองให้ดี แค่นี้สังคมโดยรวมก็จะดีเอง
แต่นี่ ตัวเองเป็นแม่ค้า เป็นชาวนา แต่อยากมีชีวิตเหมือนนายธนาคาร แต่ไม่เคยไปศึกษาเลยว่ากว่าคนจะขึ้นมาเป็นนายแบงก์ เป็นนายธนาคาร เป็นเจ้าสัว เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ต้องอดทน มีวินัย ต้องสู้ชีวิตมาแค่ไหน
ไม่แต่เพียงเท่านั้น คนพวกนี้ยังเอาแต่ขูดต้นไม้หาหวย ไม่เคยศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง เลยไม่รู้ว่าที่ตัวเองต้องเกิดมาเป็นอะไรในชาตินี้มันขึ้นอยู่กับกรรมเก่าจากชาติที่แล้วด้วย แทนที่จะก้มหน้าก้มตาสั่งสมกรรมดี เผื่อชาติหน้าเกิดมาจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ กลับไปโทษว่าเป็นเพราะการเมือง เพราะความไม่มีประชาธิปไตยอะไรไปนู่น
กะทิเพลียใจจริง ๆ สะกดคำว่าประชาธิปไตยยังไม่เป็นกันเลย รู้หรือเปล่าว่าประชาธิปไตยคืออะไร แปลว่าอะไร สักแต่จำขี้ปากนักการเมืองโกงชาติโกงแผ่นดินมาพูด
จนแล้ว มีกรรมเก่ามาสาหัสแล้วยังจะต้องมาถูกนักการเมืองหลอกอีก นี่มันสร้างกรรมซ้อนกรรมเป็นผลกรรมซ้ำซาก น่าเห็นใจจริง ๆ '
About กะทิ : คำ ผกา
หน้า 89 คอลัมน์คำ ผกา มติชนสุดสัปดาห์
ฉบับประจำวันที่ 13 - 19 มกราคม พ.ศ.2555
ปีที่ 32 ฉบับที่ 1639
อ่านแล้วก็ได้แต่หึๆ น่ะจ้าาา