|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
รักหมดใจ…ให้เพียงเธอ (ภาคพิเศษของ Oxford Story) บทที่ 4
สวัสดีค่า วันนี้มาไวนิดนึงนะคะ กำลังจะหนีเที่ยว ต้องรีบโพสท์อย่างด่วนจี๋ ^___^
ตอนนี้เรื่องนี้ก็ใกล้จะจบเข้ามาทุกที เพราะมีแค่ 5 บทเท่านั้นเองค่ะ ใครที่กลัวคิดถึงกัน ติดตามอ่าน ทริปวุ่น หัวใจลุ้นรัก ได้นะค้า เพิ่งลงตอนใหม่ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เองค่ะ
#####################
บทที่ 4
หายไปไหนกันนะ…
หญิงสาวชาวไทยที่สวมแว่นสายตากรอบดำสนิทมองไปรอบๆ คอมพิวเตอร์ แล็บ …วันนี้เป็นวันที่ห้าแล้ว นับจากวันที่ไปดูแฟนธ่อม ออฟ ดิ โอเปร่าด้วยกันในวันนั้นที่คมสันไม่ปรากฏตัวให้เธอเห็นอีกเลย แม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่ติดต่อเข้ามาเหมือนอย่างเคย
“ไฮ วาว่า”
เจนนี่ เพื่อนสาวชาวอังกฤษตรงเข้ามาทัก วรรษิณียิ้มตอบ
“ฮัลโหล เจนนี่ มีอะไรหรือ”
“แคลร์ฝากฉันมาชวนเธอ เพราะเขาไปที่ร้านแล้ว เขาบอกให้เธอรีบตามไปที่ Three Goat Heads เราจะมีปาร์ตี้กัน”
“ปาร์ตี้เหรอ ปาร์ตี้อะไร”
คนถูกชวนงง …แคลร์เพิ่งจะฟูมฟายอย่างหนักเรื่องคมสันไม่นานมานี้ไม่ใช่เหรอ แล้ววันนี้นึกอย่างไรจัดปาร์ตี้
“ก็ปาร์ตี้ฉลองที่มิสเตอร์ซันนี่อกหักแทบบ้าน่ะสิ” เจนนี่เฉลยยิ้มๆ แต่คนฟังกลับไม่ขำด้วย
“อกหัก!!! เป็นไปได้ยังไง เมื่อไร”
“เอ อันนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ รู้แต่ว่าเขาเศร้ามาก แทบจะไม่ออกมาเรียนเลยล่ะ นี่พวกอลันแวะไปหานะถึงได้รู้ว่าเขาอกหัก แคลร์ดีใจใหญ่เลยที่รู้ว่าซันนี่ก็เจ็บปวดเสียใจอย่างที่เขาเคยเป็น ถึงขั้นจัดปาร์ตี้นี่ล่ะ”
หมายความว่ายังไงกันนะ ที่ว่านายคมสันอกหัก… มันเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อไร
…และที่สำคัญ ‘ใคร’ ที่เป็นผู้หญิงคนนั้น …คนที่ทำให้ผู้ชายที่ไม่มีหัวใจอย่างนั้นรู้จักคำว่าอกหัก ผิดหวัง …คำคำนี้ผุดขึ้นมาในความรู้สึก …แน่นอน เธอผิดหวัง เพราะอยากจะเป็นคนที่ทำให้เขาต้องเสียใจเองกับมืออย่างที่เคยประกาศเอาไว้ต่อหน้าเขา ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกตัดหน้าไปเสียได้ แต่ ทำไมนะ… ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิดที่รู้ว่าเขาเองก็เจ็บปวดด้วยรสชาติเดียวกับผู้หญิงอื่นๆ ที่เขาคบไว้เล่นๆ เคยรู้สึก
คงเป็นเพราะลั่นวาจาเอาไว้แล้วว่าอยากจะเป็นคนที่ทำให้เขาเสียใจด้วยตัวเองนั่นแหละ…วรรษิณีพยายามตอกย้ำตัวเองให้เชื่อในคำตอบนี้… ใช่!! มันจะต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ
“เฮ้ วาว่า มัวทำอะไรอยู่ รีบเก็บของสิ เราจะได้ไปด้วยกันก่อนที่ฝนจะตก”
เสียงของเจนนี่ทำให้วรรษิณีตื่นจากภวังค์ เธอถอดแฟลช ไดรฟ์ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนจะรีบเดินตามออกไป
“ฉันล่ะสะใจจริงจริ๊งที่ได้รู้ว่าเขาหมดสภาพอย่างนั้น อยากจะเห็นสภาพของเขาในตอนนี้ด้วยตาของตัวเองจัง”
แคลร์ประกาศเสียงใสในวงปาร์ตี้ หญิงสาวดูมีความสุขมาก …แน่ล่ะสิ นอกจากจะได้รู้ว่าคมสันอกหักแล้ว สาวสวยลูกครึ่งยังมีชายหนุ่มที่พร้อมจะรับหน้าที่ดามอกเธอทุกเมื่ออยู่ข้างกาย
“เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาอกหัก เขาพูดออกมาเลยหรือ”
วรรษิณีถามแคลร์เมื่อทั้งสองมีโอกาสพูดคุยกันตามลำพัง แคลร์เอียงคอยิ้มหวาน
“ผู้ชายอย่างนั้นไม่มีทางยอมรับออกมาตรงๆ หรอกจ้า ดูท่าทางเจ้าตัวจะยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำไปมั้ง แต่ไอ้อาการเซื่องซึม ใจลอย… ข้าวปลาไม่กิน ถอนหายใจวันละหลายร้อยรอบเนี่ย ฉันว่ามันใช่นะ”
ก็อาการนั้นเหมือนเธอเมื่อสองสัปดาห์ก่อนเปี๊ยบเลยน่ะสิ ขาดแค่น้ำตาฟูมฟายเป็นเผาเต่าเท่านั้นเอ๊ง...
คนฟังขมวดคิ้ว “แต่เขาอาจจะเสียใจเรื่องอื่นก็ได้นี่ ทางบ้านเขาอาจจะมีเรื่องยุ่งๆ อะไรทำนองนั้น หรืออาจจะกลุ้มใจเรื่องเรียนก็ได้”
“อ๋อ ไม่ใช่แน่นอนจ้ะ เรื่องนั้นฉันเช็กดูแล้ว แหม…เรื่องเรียนเขาก็ออกจะรุ่งนี่ แถมอีตาอลันที่อยู่ในแล็บเดียวกันยังบอกอีกด้วยว่าได้ยินเขาพูดอะไรเหมือนคนอกหักด้วยล่ะ”
…เป็นความจริงหรือนี่ คนอย่างนั้นน่ะหรือ …ผู้ชายที่เพิ่งจะพูดกับเราว่ายังไม่เคยรักใครเลยตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตนน่ะหรือกำลังอกหัก
วรรษิณีเดินกลับบ้านตามลำพังเมื่อเพื่อนๆ ของเธอตกลงใจที่จะย้ายไปสังสรรค์กันต่อที่ผับอื่น สมองคิดวนเวียนถึงแต่เรื่องที่เพิ่งจะได้ยินได้ฟังมา
“วาวา”
เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งเรียกชื่อขณะกำลังเข้าคิวจ่ายเงินซื้อของสดเพื่อไปประกอบอาหารอยู่ที่เซนส์เบอรี่ส์ ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ออกซ์ฟอร์ด ซิตี้ เซ็นเตอร์ หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียกนั้น
“พี่กรณ์ สวัสดีค่ะ”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร หญิงสาวจึงทักทายตอบ …แต่ฝ่ายนั้นไม่ได้มาคนเดียว ยังมีชายหนุ่มอีกคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเขา …ชายหนุ่มที่เป็นหัวข้อสนทนาของงานปาร์ตี้ ที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอด้วยซ้ำ
“มาซื้อของคนเดียวหรือเรา เพื่อนๆ หายไปไหนกันหมด”
“อ๋อ พวกนั้นมีปาร์ตี้กันน่ะค่ะ แต่วามีงานจะต้องรีบทำส่งก็เลยขอตัวกลับก่อน วากลัวฝนจะตกก่อนกลับถึงบ้านด้วยน่ะ”
ระหว่างที่สนทนากับปกรณ์ ดวงตาคมหวานได้แต่ชำเลืองมองชายหนุ่มเป็นระยะๆ …เขาไม่สบตาเธอเลยแม้แต่น้อย แถมทำราวกับไม่มีตัวตนอยู่ตรงนี้อย่างนั้นล่ะ
มือบางหยิบกระเป๋าสตางค์จ่ายเงินและหยิบของที่ซื้อใส่ถุงจนเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงลาเฉพาะ ‘พี่กรณ์’ เท่านั้น หากทว่า…
“อย่าเพิ่งรีบกลับ เดี๋ยวไปส่ง”
ชายหนุ่มที่ประพฤติตัวราวกับอากาศธาตุบอกกับเธออย่างนั้น เล่นเอาทั้งวรรษิณีและปกรณ์ทำหน้าเหมือนได้ยินอะไรที่ประหลาดที่สุด
สุดท้าย…ปกรณ์ก็รู้หน้าที่ของตนเองเป็นอย่างดีจึงขอตัวกลับบ้านไปก่อน ปล่อยให้คมสันได้มีโอกาสเดินไปส่งวรรษิณีตามลำพัง…
พูดอะไรสักคำสิ อึดอัดจะตายอยู่แล้ว…
วรรษิณีอยากจะพูดคำนี้กับชายหนุ่มที่เดินอยู่ข้างๆเต็มแก่ แต่สิ่งที่เธอทำคือสิ่งเดียวกับเขา …เดินเหม่อมองพื้นอย่างเงียบๆ
“ได้ข่าวว่าไม่ค่อยสบายใจเหรอ”
หญิงสาวถามออกไปในที่สุดหลังจากทนกับบรรยากาศกดดันนี้อีกต่อไปไม่ได้ คมสันหยุดมองหน้าเธอนิ่ง…
“ไม่ยอมพูดอะไรแบบนี้แล้วฉันจะไปรู้เรื่องได้ยังไง”
เธอถามต่อเมื่อเขายังคงไม่ตอบคำถาม
โอ๊ย ช่วยหยุดทำท่าซังกะตายแบบนี้เสียทีได้ไหม มันไม่เข้ากับมิสเตอร์ซันนี่อย่างนายเลยสักนิดเดียวนะ!!
“ก็ได้ งั้นมีเวลาพอจะนั่งคุยกันสักนิดไหม”
จากที่ตั้งใจว่าจะทำกับข้าวรับประทานคนเดียวง่ายๆ วรรษิณีกลับต้องมานั่งอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังกับคมสันจนได้
“ไม่เจอกันหลายวัน ยังสบายดีอยู่ใช่ไหม วาวา” เฮ้อ…พูดได้แล้ว กำลังนึกกลัวอยู่เชียวว่าวันนี้จะต้องมากินข้าวกับคนใบ้
“แน่นอน จะให้ฉันเป็นอะไรไปล่ะ”
เธอพยายามฝืนทำน้ำเสียงสดใส เผื่อว่าบรรยากาศจะดีขึ้น …แต่คมสันกลับเข้าใจไปคนละอย่าง “ก็น่าจะมีความสุขดีอยู่หรอกนะ ได้เจอคนสำคัญแล้วนี่”
พาลนี่… วรรษิณีนึก อ๋อ… ตัวเองอกหักก็พาลเลยคนมีความสุข แย่จริงๆ
“แน่นอน ได้เจอคนพิเศษใครๆ เขาก็ดีใจทั้งนั้นแหละ …แต่เรื่องนี้คนไม่เคยมีความรักคงจะไม่เข้าใจหรอกเนอะ”
หญิงสาวลอยหน้าลอยตาตอบยิ้มๆ …คราวนี้จะได้รู้สักทีว่านายคนนี้อกหักจริงอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า
...หวาย… สงสัยจะจริง …คนที่เพิ่งจะจงใจกวนประสาทถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อแววตาของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามจ้องมองมาอย่างน่ากลัว ดวงตาของเขาวาวขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนที่จะสลดลง …และไม่ยอมสบตาเธออีกเลย
ทั้งๆ ที่อาหารตรงหน้าอร่อยมาก แต่วรรษิณีกลับรู้สึกว่ามันจืดชืดฝืดคอยิ่งนัก
นี่เราแกล้งเขาเกินไปหรือเปล่า… ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะปลอบใจเขาแท้ๆ เชียว แต่เมื่อนึกถึงว่าเขาอกหัก ทำไมถึงอยากจะแกล้งเขานักก็ไม่รู้…
“มีความสุขมากใช่ไหม ได้ตอกย้ำคนอื่นให้เขาเสียใจมากขึ้น”
หญิงสาวขบริมฝีปากตนเองอย่างแผ่วเบา …ทำเกินไปจริงๆ ด้วย
“เอ่อ…”
“ใช่สิ วาวาชนะพนันแล้วนี่ สะใจไหมล่ะที่เห็นผมเป็นแบบนี้ หรือว่าต้องรอให้ผมร้องไห้ให้ดูก่อนถึงจะพอใจ”
คมสันพูดแค่นั้นแล้วเดินจากไป ทิ้งไว้แต่หญิงสาวที่มองตามเขาด้วยความรู้สึกผิดทั้งหลายทั้งมวลที่ประดังกันเข้ามา …แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยอย่างเงียบเชียบ
การได้เห็นเขาเป็นทุกข์เพราะความรักไม่เห็นจะรู้สึกดีอย่างที่เคยคิดเอาไว้เลย...
ผู้หญิงใจร้าย ช่างไม่รู้เสียเลยนะว่าที่เราเจ็บปวดแทบตายน่ะ เป็นเพราะใครกัน ไม่เคยมีความรักงั้นหรือ …ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แล้วที่รู้สึกแปลบๆ อยู่ในหัวใจนี่ล่ะ มันคืออะไร!!!
คมสันคิดถึงคำพูดที่เพื่อนๆ ชอบพูดกับเขาเวลาที่เขาแซวเมื่อเห็นเพื่อนพวกนั้นอกหักว่า ‘เฮ้ย อกหักดีกว่ารักไม่เป็น’ …แต่… ในเวลานี้ เขาได้พิสูจน์แล้วว่ามันไม่จริง
เวลาไม่มีความรัก ไม่เห็นเคยรู้สึกทรมานขนาดนี้เลย...
หัวใจปวดแปลบเมื่อคิดถึงภาพแววตาที่วรรษิณีมองชายหนุ่มที่ชื่อวินคนนั้นด้วยความรัก
จะต้องทำอย่างไรนะ ถึงจะหลุดพ้นจากความรู้สึกนี้
คำตอบทั้งหมดอยู่ที่วรรษิณี …ผู้หญิงคนนั้น …ผู้หญิงเย็นชาที่เป็นเพื่อนสนิทของคู่ควงเก่าของเขา ผู้หญิงที่เคยพูดใส่หน้าเขาตั้งแต่วันแรกที่พบกันว่าเกลียดผู้ชายอย่างเขา และสาปแช่งขอให้เขาต้องเจ็บปวดเสียใจไม่แพ้ผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาเคยหักอกไว้...
ก็สมใจเธอแล้วนี่ เธอชนะ... และเขาแพ้ พ่ายแพ้อย่างยับเยินให้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอ ถ้าเธอพอใจที่จะให้เป็นเช่นนั้น …เขาจะเป็นฝ่ายบอกให้เธอได้รับรู้เอง …แล้วเขาจะปล่อยให้เธอไปมีความสุขกับคนที่เธอรัก
เวลานี้ เขาเข้าใจความรู้สึกของแฟนธ่อมอย่างถ่องแท้… หัวใจของเขากำลังร้องตะโกนบอกหญิงสาวอยู่เช่นกันว่า Go now…and leave me!!
ความรู้สึกที่ปนเปกันพาคมสันมาหยุดยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของแฟลตของหญิงสาวที่ทำให้เขาอกหักโดยไม่รู้ตัว
นี่เขาจะพูดกับเธอว่าอย่างไรดีนะ
แต่…ภาพตรงหน้าทำให้คมสันรู้ว่าเขาคงจะไม่มีโอกาสได้พูดอะไรออกไปอีกแล้ว เมื่อหญิงสาวที่อยู่ในห้วงคำนึงของเขาทุกขณะเปิดประตูแฟลตต้อนรับชายหนุ่มคนสำคัญของเธอ
“พี่วิน ฮือ….”
วรรษิณีร้องไห้โฮก่อนที่จะโผเข้าสู่อ้อมกอดของชายคนนั้น เขายกมือขึ้นกอดและลูบผมของเธออย่างอ่อนโยน…
“ไม่เป็นไรนะ วาวา พี่อยู่นี่แล้ว”
จริงสินะ …เธอมีคนสำคัญอยู่เคียงข้างแล้ว …แล้วความในใจของเขาจะมีความหมายอะไร คมสันคิดเช่นนั้นก่อนที่จะหันหลังกลับท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย
((ติดตามอ่านตอนจบครั้งหน้านะคะ))
Create Date : 17 กรกฎาคม 2554 |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2554 13:06:47 น. |
|
7 comments
|
Counter : 569 Pageviews. |
|
|
|
โดย: nay narilin IP: 223.205.84.135 วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:33:41 น. |
|
|
|
โดย: lovekalo วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:14:32:33 น. |
|
|
|
โดย: bug IP: 110.169.75.71 วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:23:13 น. |
|
|
|
โดย: orn IP: 101.108.187.129 วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:04:08 น. |
|
|
|
โดย: VEE IP: 66.172.227.200 วันที่: 17 กรกฎาคม 2554 เวลา:22:04:38 น. |
|
|
|
โดย: ปุ๊ก IP: 203.144.220.246 วันที่: 19 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:01:32 น. |
|
|
|
| |
|
|
ตอบคอมเมนต์นะคะ
หมวย -- พระเอกของแท้ต้องมึนๆ บ้างเป็นบางเวลานะคะ 555 แต่จริงๆ แล้ว นายสันไม่ได้มึนหรอกค่ะ หุๆๆๆๆ เอ๊ะ นี่เราสปอยล์ป่าวเนี่ย
น้องเน -- ใช่แร้วจ้า แม่นที่สุด
คุณ bug -- ลุ้นิอีกอึดใจเดียวค่ะ ครั้งหน้าก็จบแล้ว ^^
คุณ orn -- อะไรแบบนั้นค่ะ โฮะๆๆๆๆ
คุณปุ๊ก -- อันนี้ต้องติดตามกันต่อไปนะค้า
น้องลี่ -- หัวเราะได้ใจมากอะ โหหหห นายสันเศร้าไปเลย กร๊ากกกกกกกก (เอ๊ะ แล้วชั้นช่วยน้องกร๊ากทำไม ^^")
ขอบคุณนะค้า