... ^^ Welcome to suvilajamsai's world ^^...
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
21 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Oxford Story บทที่ 5


เวลาผ่านไปไวมากๆ ไม่ทันไรบทที่ 5 ก็มาแล้วค่ะ ตอนนี้เพื่อนของนางเอกของเราก็เดินทางมาสมทบแล้ว จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามอ่านได้เลยค่ะ


###########################

บทที่ 5

กิ๊ง ก่อง… กิ๊ง ก่อง…

ทันทีที่ประตูบ้านถูกเปิดออก เสียงใสๆ ก็ส่งมาทักทายทันที

“สวัสดีจ้า สาวน้อย ไม่ได้เจอตั้งนาน มามะ ขอฉันกอดที คิดถึงจัง”

พิมพ์ชญายิ้มกว้างทันทีเมื่อเพื่อนรักตรงเข้ามากอดพลางกอดตอบ …แม่เพื่อนรักตัวแสบ

“ไม่ต้องมาบอกว่าคิดถึงเลย กลับไปเมืองไทยตั้งนานแต่ไม่ค่อยจะอยู่กับฉันเลยนี่ มาเจอกันแว้บเดียวเธอก็มัวแต่ออกไปทริปนั้นทริปโน้น แถมยังติดต่อไม่ได้อีกต่างหาก นี่เหรอคิดถึง”

“อย่างอนสิ เดี๋ยวแก่เร็วนะ …ดูนี่ก่อน แล้วจะหายงอน”

กวิราทำราวกับผู้ใหญ่พยายามง้อเด็กแสนงอนโดยหยิบถุงของฝากใบโตส่งให้เพื่อนรัก พิมพ์ชญายังแสดงท่าเกี่ยงงอนนิดหน่อยก่อนจะยื่นมือไปรับ

“เห็นแก่ของฝากนะนี่ คราวนี้จะยกโทษให้ ว่าแต่ว่าคาสุล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันหรือ”

เจ้าของบ้านถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนรักยืนอยู่คนเดียวโดยปราศจากแฟนหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น-ฮ่องกงสุดหล่อขณะที่ทั้งคู่เดินเข้าไปในบ้าน

“อ๋อ วันนี้คาสุมีนัดกับเพื่อนที่ห้องสมุดน่ะ ช่วงนี้เขาเรียนหนักมากเลย บางคืนฉันเห็นเขาเร่งทำรายงานส่งทั้งคืนไม่ได้นอนเลย น่าสงสารจริงๆ …ว่าแต่วันนี้บ้านเธอเงียบเชียว ’เขา’ ไม่อยู่เหรอ”

“อื้อ วันนี้วันเสาร์ เขาทำงานช่วงบ่ายน่ะ แต่เช้าวันนี้เห็นรีบออกไปห้องสมุดเหมือนกัน”

พิมพ์ชญาหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า เมื่อเธอตื่นนอนลงมาพบสังเกตในสภาพที่พร้อมจะออกไปข้างนอกแล้ว และกำลังเขียนโน้ตไว้ให้เธอบนโต๊ะอาหาร เขาทักทายเธอ …ตามแบบฉบับของเขา


‘เพิ่งตื่นหรือ ดูนาฬิกาบ้างหรือเปล่าว่านี่มันกี่โมงแล้ว’

คนถูกกล่าวหาว่าตื่นสายเหลือบมองนาฬิกาแขวนที่ฝาผนัง

อะไรกัน… นี่มันเพิ่งจะเก้าโมงครึ่งเท่านั้นเองนี่นา ไม่ได้สายเป็นครึ่งค่อนวันเสียหน่อย แล้วนี่มันก็วันเสาร์ด้วย

หญิงสาวจึงแกล้งเลิกคิ้ว ทำท่าอัศจรรย์ใจนักหนา

‘ตอนนี้ก็เก้าโมงสามสิบห้านาทีไงคะ อุ๊ยๆ ไม่ใช่ ตอนนี้สามสิบหกนาทีแล้ว คุณสังเกตดูนาฬิกาไม่เป็นหรอกหรือคะนี่’

แน่นอนว่าคนฟังต้องหน้าตึง แต่ก็ยังมีแก่ใจเอ่ยขึ้นลอยๆ

'เอาล่ะ ลงมาแล้วก็ดีแล้ว กำลังจะเขียนบอกพอดีเลยว่าผมจะออกไปห้องสมุดแล้วเลยไปทำงานเลย เข้าใจไหม ดังนั้น วันนี้คุณจะทำอะไรก็ได้ตามสบาย มื้อเย็นก็ไม่ต้องคอยด้วย’

‘เจ้าค่ะ เจ้าค่า’ เธอรับคำอย่างประชดประชัน

ตกลงผู้ชายคนนี้เห็นฉันเป็นเพื่อนร่วมบ้านหรือคนอาศัยฟรีๆ กันแน่ยะ หนอย… วันนี้คุณจะทำอะไรก็ได้ตามสบายงั้นเหรอ ฉันก็ไม่เคยคิดจะขออนุญาตอยู่แล้วล่ะย่ะ

สังเกตสั่นหน้านิดๆ กับอาการแยกเขี้ยวของเธอ...ผู้หญิงอะไร๊ หาความน่ารักไม่ได้เลย

ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยฟะ!

‘วันนี้เพื่อนฉันจะมาหาที่บ้านนะ’

‘อ๋อ นี่คุณกำลังขออนุญาตเหรอ’ ชายหนุ่มถามพลางกระตุกคิ้วขึ้นสูง

ริมฝีปากสีสดของคนถูกถามเม้มนิดๆ ก่อนตอบ

‘เปล๊า ฉันแค่บอกให้รู้ไว้เฉยๆ เดี๋ยวนายจะว่าฉันได้ว่าฉันพาเพื่อนมารบกวน ฉันมันคนมีมารยาท จะพาแขกไปใครมา ก็คิดว่าควรจะบอกให้เพื่อนร่วมบ้านรับรู้ไว้’

‘โอเคๆ ไม่อยู่ต่อปากต่อคำกับคุณแล้วดีกว่า เสียเวลา ไปแล้วนะ’

เขาพูดพลางสวมเสื้อโค้ท ก่อนจะเดินไปเปิดประตูบ้าน

‘ไปดีมาดีล่ะ’

หญิงสาวตะโกนไล่หลังไปด้วยน้ำเสียงที่ขัดกับคำพูดโดยสิ้นเชิง และคำตอบที่ได้รับคือเสียงปิดประตูปังใหญ่ ทำให้เธอต้องแลบลิ้นสีชมพูส่งตามไปอีกที แม้จะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางได้เห็นหรอก


พิมพ์ชญานินทา...หรือเรียกให้ดูดีว่า ‘เล่าสู่กันฟัง’ ถึงเรื่องเพื่อนหนุ่มร่วมบ้านของเธอให้กวิราฟังอย่างออกรสออกชาติ พร้อมทั้งเลียนแบบวิธีพูดและท่าทางหยิ่งจองหองเย็นชาของเขาให้เพื่อนสาวได้เข้าใจอย่างถ่องแท้

“เขานะหาเรื่องมาค่อนแคะฉันได้ทุกวี่ทุกวันเลย ไม่รู้อะไรกันนักหนา ฉันทำอะไรก็ผิดไปหมด วันนี้ไม่อยู่บ้านก็ดีแล้ว ขืนอยู่บ้านนะ สงสัยได้มีสงครามประสาทกันทั้งวันแน่ แค่นี้ก็ต่างคนต่างอยู่กันจะแย่อยู่แล้ว”

“แล้วเธอจะจับเจ่าอยู่บ้านอย่างนี้ทั้งวันเหรอ ไม่เอาน่า พิ้งค์ วันนี้เข้าลอนดอนกันเถอะ ฉันจะพาเธอช้อปปิ้งเอง อยู่ที่นี่ทั้งวันเบื่อตายเลย”

พิมพ์ชญาอารมณ์ดีขึ้นทันทีเมื่อคิดว่าจะได้เข้าลอนดอน มาถึงอังกฤษไม่เข้าลอนดอนเมืองหลวงก็เหมือนมาไม่ถึงอังกฤษน่ะสิ

“แต่เราจะไปได้เหรอ นี่มันก็เที่ยงแล้วนะ กว่าเราจะไปถึงอีก จะมีรถหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“นี่ คุณนาย เธอคิดว่าเธอกำลังอยู่กับใครกันจ๊ะ ฉันอยู่ที่นี่เข้าลอนดอนบ่อยอย่างกับออกไปซื้อของหน้าปากซอยบ้าน ไปง่ายจะตาย ไม่นานด้วย”


วิธีการเดินทางไปลอนดอนง่ายอย่างที่กวิราพูดไม่ผิดเพี้ยน สองสาวเพียงแค่เดินทางไปซิตี้ เซ็นเตอร์ของเมืองออกซ์ฟอร์ดเพื่อขึ้นรถโค้ชสีแดงคันใหญ่ที่เขียนว่าออกซ์ฟอร์ด ทู้บส์ (Oxford Tubes) ซึ่งมีรถวิ่งเป็นประจำทุกราวๆ สิบห้านาที

หลังจากเดินทางเพียงไม่ถึงสองชั่วโมงเต็ม พวกเธอก็ได้ลงมาเดินอยู่บนถนนช้อปปิ้งชื่อดังของอังกฤษ ซึ่งชื่อของถนนเป็นชื่อเดียวกับเมืองที่พวกเธออาศัยอยู่ เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ ย่านออกซ์ฟอร์ด เซอร์คัส (Oxford Circus) จึงมีผู้คนเดินกันขวักไขว่ ในมือของแต่ละคนถือถุงช้อปปิ้งจากร้านรวงต่างๆ หลากสีสัน กวิราเริ่มสวมวิญญาณไกด์สาวทันที

“ที่เธอกำลังเดินอยู่นี่คือ ออกซ์ฟอร์ด สตรีท (Oxford Street) ซึ่งมีร้านรวงแฟชั่นมากมาย นี่ๆ เห็นไหม French Connection Benetton H & M ...ใกล้ๆ กันนี้จะมี บอนด์ สตรีท (Bond Street) และเลยออกไปอีกหน่อย คือ นิว บอนด์ สตรีท (New Bond Street) สวรรค์ของนักชอปปิ้งของแบรนด์เนม เราจะเริ่มกันที่ไหนก่อนดี”

แล้วสองสาวก็เดินเข้าเดินออกแทบจะทุกร้าน กวิราไม่ลืมที่จะพาพิมพ์ชญาแวะห้างหรูชื่อดังฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟใต้ดิน บอนด์ สตรีท อย่างเซลฟริดเจส (Selfridges) ที่เคยใช้เป็นฉากภาพยนตร์รักโรแมนติคเรื่อง Love Actually ซึ่งเป็นเรื่องที่สองสาวชอบมาก

“เธอเห็นทางเข้าข้างๆ ร้านกุชชี่นี่ไหม ที่นี่แหละ ที่ช่วงเซลส์จะมีคนมาต่อแถวกันยาวเหยียดออกไปเป็นกิโล เพื่อจะซื้อกระเป๋ากุชชี่ลดครึ่งราคา คราวที่แล้วฉันมาเข้าคิวตั้งสามชั่วโมง กว่าจะเข้าไปซื้อกระเป๋าออกมาได้สักใบหนึ่ง อ้อ… ในถุงของฝากที่ฉันให้เธอ ฉันซื้อกระเป๋าสตางค์ให้เธอใบนึงด้วยนะ กลับไปลองเปิดดูก็แล้วกันว่าชอบหรือเปล่า”

พิมพ์ชญามองดูเพื่อนสาวอย่างทึ่งๆ …ก็รู้อยู่หรอกว่ากวิราชอบช้อปปิ้งมาก ใช้เงินหรือก็เก่งแสนเก่งอย่างที่หาเองได้คงจะไม่พอใช้ตั้งแต่วันแรก แต่นี่ถึงขั้นซื้อของราคาแพงขนาดนี้แจกจ่ายเพื่อนฝูงแล้วหรือ

เห็นสายตาที่มองมาแบบนั้น กวิรารีบชิงปรามเสียก่อน

“หยุด ไม่ต้องมองฉันอย่างนั้น ฉันซื้อให้แต่เธอ คาสุ แล้วก็ยัยเอลี่เท่านั้นแหละ”

เอลี่ หรือ เยลลี่ ที่กวิราพูดถึง คือ อลิสา เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของสองสาว เอลี่เองก็เป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกัน รู้จักกันมาตั้งแต่ชั้นประถม แต่พิมพ์ชญาและกวิรานั้นถือได้ว่ารู้จักกันมาตั้งแต่เกิด เนื่องจากคุณแม่ของทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ครั้งยังสาวๆ คุณแม่ของทั้งสองนั้นมีเชื้อสายผู้ดี และแต่งงานกับหนุ่มมีอนาคตทั้งคู่ คุณแม่ของพิมพ์ชญาแต่งงานกับคุณพ่อของเธอ ที่มีแววว่าจะเป็นศัลยแพทย์มือดีตั้งแต่ครั้งยังหนุ่ม แม้ว่าคุณพ่อจะไม่ใช่ชายไทยรับราชการ แต่เป็นชาวไทยเชื้อสายจีนที่ฐานะดีคนหนึ่ง ส่วนคุณแม่ของกวิรา แต่งงานกับหนุ่มนายทหาร ในขณะนี้ท่านทั้งสองดำรงตำแหน่งนายพลและคุณหญิง ส่วนอลิสานั้น ครอบครัวของเธอเป็นคนไทยเชื้อสายจีน แต่ร่ำรวยมีกิจการส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปขนาดใหญ่ ตัวอลิสาเองถูกส่งตัวมาศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีหมาดๆ ขณะนี้เจ้าตัวกลับไปช่วยงานที่บ้านที่เมืองไทย โดยมีกำหนดการที่จะแต่งงานในปีหน้านี้

“พูดถึงเอลี่ เขายังไม่โทรมาหาฉันเลย อีเมล์ไปก็ไม่ตอบ สงสัยมัวแต่งานยุ่ง”

“อ้าว พิ้งค์ นี่เธอไม่รู้เหรอ สงสัยมัวแต่ยุ่งๆ อยู่ล่ะสิ เอลี่ได้หยุดพักร้อนก็เลยไปเที่ยวออสเตรเลียกับแฟน คงยังไม่มีเวลาเช็คอีเมล์หรอก แต่อีกสองสามวันก็คงจะกลับแล้วล่ะ”

“อ้าว ทำไมไม่ไปฝรั่งเศสล่ะ เห็นเอลี่ชอบพูดนักนี่นาว่าถ้ามีแฟนอยากไปปารีสด้วยกันสองคน ...เออ พูดถึงแล้วจำได้ไหม ที่พวกเราเคยไปปารีสกันครั้งนึงเมื่อตอนที่เอลี่ยังเรียนอยู่ที่นี่ อุตส่าห์ลงทุนบินมาจากเมืองไทยเพราะเอลี่ขอร้องให้มาเที่ยวเป็นเพื่อน ทั้งๆ ที่เจ้าตัวเคยบอกว่าอยากจะเก็บไว้มาเที่ยวกับแฟนแท้ๆ ตอนนี้เลยเปลี่ยนแพลน เปลี่ยนทวีปซะแล้ว”

ทั้งสองสาวคิดถึงเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง ที่ร่ำร้องอยากจะไปฉลองคริสต์มาสที่ปารีส แต่เมื่อเดินทางไปถึง เพื่อนคนสวยกลับดูหงอยๆ ไม่เข้ากับบรรยากาศรื่นเริงของเทศกาลแม้แต่น้อย

“ก็...ไม่รู้เหมือนกัน... เฮ้ พิ้งค์ ร้านนั้นลดราคาอยู่แน่ะ ไปดูกันไหม”

แล้วสองสาวก็ช้อปปิ้งต่ออย่างสนุกสนาน พร้อมรับประทานอาหารเย็นก่อนจะเดินทางกลับเมืองออกซ์ฟอร์ด


กว่าสองสาวจะเดินทางกลับมาถึงบ้านของพิมพ์ชญาก็เป็นเวลาเกือบยี่สิบสามนาฬิกาเข้าไปแล้ว กวิรายืนยันที่จะไปส่งพิมพ์ชญาถึงบ้านโดยอ้างว่าเพื่อนสาวยังไม่คุ้นทาง แม้พิมพ์ชญาจะอ้างว่าเมืองนี้ปลอดภัย แต่กวิราก็ยังยืนกรานที่จะไปส่งให้ถึงที่

เมื่อทั้งสองเดินทางไปถึงบ้านของพิมพ์ชญาก็พบว่าห้องนั่งเล่นยังเปิดไฟสว่าง มีสังเกตนั่งดูโทรทัศน์อยู่ เมื่อเขาเหลือบมองมา เธอจึงทักออกไปตามมารยาทด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“กลับมาแล้ว”

“คงจะเที่ยวสนุกสนานเพลินจนลืมเวลาสินะ ถึงได้กลับดึกขนาดนี้ ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะปลอดภัยมากก็เถอะ แต่คุณก็ควรจะรู้นะว่าเป็นผู้หญิงไม่ควรกลับบ้านดึกดื่น มันไม่ดี”

กลับมาถึงก็สั่งสอนเชียวนะ พิมพ์ชญาเม้มริมฝีปาก ฮึ ต่อไปนี้จะเรียกนายว่าคุณพ่อเลยดีไหม ไม่ดีๆ คุณพ่อฉันออกจะใจดี ต่างกับนายอย่างสิ้นเชิง

…โอเค ฉันยอมรับว่าอาจจะกลับดึกเกินเวลาไปบ้าง แต่กว่าจะรอรถออกซ์ฟอร์ด ทู้บส์ กว่ารถจะกลับมาถึงตัวเมืองออกซ์ฟอร์ดเนี่ย มันใช้เวลาน้อยเสียเมื่อไรเล่า

“มันก็ใช่ แต่ฉันก็กลับมาอย่างปลอดภัยดีแล้วนี่ไง แล้วฉันก็ไม่ได้ไปคนเดียวด้วย ฉันไปกับเพื่อน นี่เพื่อนฉันชื่อกีวี่”

สังเกตมองกวิรานิ่ง ขณะที่กวิราส่งยิ้มที่ออกจะฝืนฝืดไปให้ชายหนุ่ม

“สวัสดีค่ะ เกต”

พิมพ์ชญามองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที เริ่มรู้สึกได้ว่าบรรยากาศในบ้านกดดันแปลกๆ

“อ้าว นี่รู้จักกันแล้วเหรอ”

“พิ้งค์ ฉันกลับก่อนนะ เดี๋ยวจะดึกไปกว่านี้”

“นี่ เธอมีเรื่องอะไรกับเขาเหรอ ทำไมทำหน้าแปลกๆ กันทั้งสองคนเลยล่ะ”

พิมพ์ชญาที่ออกมาส่งกวิราที่หน้าบ้านจึงเก็บความสงสัยไว้ไม่ได้ กวิราอึกอักนิดหนึ่งก่อนที่จะตอบเลี่ยงๆ

“ก็… คือ… พิ้งค์ เกต เพื่อนร่วมบ้านเธอคนนี้น่ะ เป็นเพื่อนสนิทกับคาสุ”

“แล้วยังไงล่ะ”

“เขาเคยไปเอาของที่บ้านคาสุ แล้วพบฉันตอนอยู่ในนั้นเข้า ก็เท่านั้น”

“แล้ว…”

“แล้วเขาก็เลยมองฉันแปลกๆ ทุกครั้งที่เจอกันน่ะสิ เหมือนฉันทำอะไรไม่ดีไม่สมควรแบบนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วเธอก็รู้นี่ว่าความจริงมันเป็นยังไง”

พิมพ์ชญาเข้าใจเรื่องได้โดยทันที กวิรากับคาสุแฟนของเธอเช่าแฟลตสองห้องนอนอยู่ด้วยกัน แม้ทั้งคู่จะแยกห้องนอนกันก็ตาม แต่ก็ยังถือเป็นแฟลตเดียวกัน การที่ผู้หญิงชาวไทยไปอาศัยบ้านเดียวกับชายหนุ่มตั้งแต่ก่อนแต่งงานนั้น สำหรับสังเกตคงจะมองเห็นว่าเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างมาก

อ้าว แล้วกรณีของเรากับเขาล่ะ

พิมพ์ชญาฉุกคิดขึ้นมา ตัวเธอเอง ก็ถือได้ว่าอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเขาเหมือนกันนะ ห้องครัว ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่นก็ใช้ร่วมกัน แถมประตูห้องก็ล็อกไม่ได้เสียด้วย

อีตานั่นจะคิดว่าเราเป็นคนยังไงกันล่ะนี่… เพราะอย่างนี้หรือเปล่าเขาถึงได้มองเราแปลกๆ
แต่ถ้าเพราะเหตุผลนี้ เขาเองก็รู้ว่ามันเป็นความเข้าใจผิดตั้งแต่แรก แล้วจะมามีอาการลมเพลมพัดอะไรเอาป่านนี้อีกล่ะ


((ติดตามต่อที่บทที่ 6 ค่ะ))


Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 25 เมษายน 2554 16:02:17 น. 11 comments
Counter : 601 Pageviews.

 
เอ๊ ก็ว่าแบ่งตอนเท่าๆ กันน้า แต่ไม่รู้ว่าทำไมรู้สึกว่าตอนนี้จัดหน้าเสร็จเร็วกว่าปกติก็ไม่รู้สิ สงสัยเริ่มชิน

ตอนคอมเมนต์บทที่แล้วค่า

คุณ mimny -- จะทายถูกหรือไม่ รอลุ้นต่อไปค่ะ ^^

คุณ an-o -- ทายแม่นมากๆ หุๆๆๆ ตบมือให้ค่ะ ^^

น้องเหมียวก้อย -- แฮปปี้วาเลนไทน์ย้อนหลังจ้า ดอกไม้สวยจัง ^^

น้องตูน -- แฮปปี้วาเลนไทน์จ้ะ พักนี้ยุ่งแหงๆ เลย ขอบคุณที่ยังแวะมาทักทายกันนะคะ


โดย: ...ศุวิลา... วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:36:11 น.  

 
ตัวอย่างตอนต่อไป...


“นี่! ฉันไม่รู้ว่านายเป็นบ้าอะไรขึ้นมานะ แต่ขอบอกเอาไว้เลยว่าฉันไม่ใช่คนที่นายจะมาล้อเล่นแบบนี้ได้ รู้ไว้ด้วย”

“แล้วถ้าไม่ล้อเล่นล่ะ”

สังเกต ขยับเข้าใกล้ ทำให้อีกฝ่ายเริ่มรู้สึกถึงความกลัวที่คืบคลานเข้ามาแทนที่ความโกรธ ไม่ยอมแสดงออกให้เขารู้ พิมพ์ชญาปั้นสีหน้าและน้ำเสียงเย็นยะเยียบถามกลับไป

“พอซะที บอกมาดีกว่า นายต้องการอะไร ไม่ต้องมาทำแบบนี้ ฉันไม่ชอบ!!”


และ...


“แต่ ถ้านายยังคิดว่าฉันเป็นคนแบบนั้นก็ตามใจ จะคิดยังไงก็เชิญ ฉันคงจะไปเปลี่ยนความคิดนายไม่ได้ แต่เราคงจะอยู่บ้านเดียวกันไม่ได้ พรุ่งนี้ฉันจะเก็บของย้ายออกไป หวังว่านายคงจะพอใจ!”


แอบบอกว่าตอนหน้ายาวนิดนึงนะคะ


โดย: ...ศุวิลา... วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:47:41 น.  

 
แน่ะๆ มีมายั่วอ่ะพี่โน๊ต


โดย: Narilin Nay IP: 223.206.67.103 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:7:36:04 น.  

 
อยากรู้มากเลยว่านายเกตคิดอะไรอยู่


โดย: ree IP: 114.128.15.177 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:03:20 น.  

 
เอาตอนต่อไปมายั่วแบบนี้
แสดงว่าจะเอามาลงให้อ่านเร็วๆ นี้แน่เลย
แอบเดาๆ ไว้ในใจแล้วล่ะ
แต่ไม่บอกหรอกนะค่ะ เผื่อเดาผิด


โดย: an-o IP: 49.229.20.252 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:21:18 น.  

 
พิงค์ตามอารมณเกตไม่ทันและไม่เข้าใจว่าเกตหวังดี ส่วนเกตก็วิธีแสดงความห่วงใยมันแข็งไปหน่อยพิงค์เลยนึกว่าวัยทอง


โดย: mimny วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:29:20 น.  

 
แว้บมาเช็กเรทติ้งกลางสัปดาห์ค่ะ 555555 ขอบคุณที่แวะมาติดตามกันนะคะ

ดูท่าทางการลงตัวอย่างตอนต่อไปจะดีน้า... คราวต่อๆ ไปเอาอีกดีกว่า ^o^


โดย: ...ศุวิลา... IP: 125.24.105.181 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:1:04:39 น.  

 
พี่โน้ตไปงานหนังสือปีนี้ไหมคะ


โดย: ColdOut วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:34:12 น.  

 
ไปค่ะ มีแจกลายเซ็นต์วันที่ 3 เมษาตอนบ่ายค่า ถ้าว่างแวะไปเม้าท์กันสิคะน้องตูน


โดย: ...ศุวิลา... IP: 125.24.103.134 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:47:46 น.  

 
พี่โน้ตมีเรื่องออกใหม่ปีนี้เหรอคะ ตกข่าวอ่ะ เดี๋ยวไปทักค่ะ ปีนี้ไปได้ค่ะวันที่ 3 เมษา จะไปล่าเกมส์ด้วย อิอิ


โดย: ColdOut วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:15:35 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ศุวิลา
แอลหลงมาที่นี่ด้วยความบังเอิญแท้ๆ
กำลังตะลุยหาหนังสือคู่มือสอบเข้ามือสองอยู่
แล้วก็ไปเจอเขาขาย Oxford story เข้า
แต่ตัวคนขายเขาไม่อยู่แล้ว เหมือนว่า ลงทิ้งไว้หลายปี หาทางติดต่อไม่ได้เลย
เลยออกจะเสียใจหน่อยๆ

เพราะ เรื่องนี้ เคยอ่านตอนป.5 หรือ ป.6 แน่ะ
เป็นนิยายเล่มแรกๆ
อาจจะเล่มแรกสุดเลยด้วยมั้ง
เคยเช่ามาอ่านจากร้านเช่าข้างๆบ้านซึ่งย้ายไปนานแล้วน่ะค่ะ ต่างคนต่างย้าย
(บอกเพื่ออ...555)
จำได้ว่า ชอบมาก มากถึงมากที่สุดเลยค่ะ
ทำให้ได้รู้จัก Oxford
จำได้ว่าตอนจบป.6 ต้องย้ายโรงเรียน
เฟรนชิปที่เขียนให้เพื่อนทุกเล่ม
แอลเขียนไว้เลย ว่า ชั้นจะไปเรียนOxford นะจ๊ะ 555
แรงบันดาลใจจากเรื่องนี้เลยค่ะ

ค่อนข้างมีคุณค่าทางจิตใจพอสมควร
พอมาเจอบล็อกนี้เข้า ดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สุดจะบรรยาย เลยมาบอกพี่ศุวิลาไว้หน่อย

แอลจะพยายามตามหาหนังสือเรื่องนี้ให้เจอต่อไปนะคะ

ว่าแต่ สามารถหาซื้อได้อยู่มั้ยคะตอนนี้ ?


โดย: แอล IP: 101.108.167.188 วันที่: 12 กรกฎาคม 2556 เวลา:0:41:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

...ศุวิลา...
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




'ศุวิลา' นักเขียนแนว LOVE (ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก) สนพ. แจ่มใส ♥








Friends' blogs
[Add ...ศุวิลา...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.