... ^^ Welcome to suvilajamsai's world ^^...
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
10 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 

รักหมดใจ…ให้เพียงเธอ (ภาคพิเศษของ Oxford Story) บทที่ 3


อุ๊ยต๊ายยยยย ท่าทางนายคมสันจะขายดีกว่านายเกตนะคะเนี่ย โฮะๆๆๆ ขอแอบบอกว่าเมื่อสมัยที่เคยโพสท์และตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 6 ปีก่อน กระแสนายคนนี้ก็แรงกว่านายสังเกตค่ะ และเป็นพระเอกที่โน้ตว่าเขียนสนุกมากเลยนะคะ ดูมีชีวิตชีวาดี ^________^

สัปดาห์หน้าก็มีงานหนังสือเด็กแล้วนะคะ รู้สึกว่าจะเป็นวันที่ 13 - 17 กค ค่ะ โน้ตยังไม่แน่ใจเลยว่าจะไปวันไหน แต่คิดว่าอาจจะไม่ไปเลย หรือถ้าไปก็คงไปวันที่สาวๆ ครสด. มีกิจกรรม เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนไหนจะไปงานบ้างคะ มีหนังสือที่จะออกในงานนี้เล่มไหนแนะนำบ้างเอ่ย

ชวนคุยซะยาวเชียว มาอ่านนายคมสันบทที่ 3 กันเถอะค่ะ


###################################

บทที่ 3

นี่เราเป็นอะไรไปนะ…

วรรษิณีนึกโกรธตัวเองกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นยามที่ไขประตูเข้าแฟลต น่าแปลก…เธอหวังว่าเขาจะเรียกเธอเอาไว้ ซึ่งเขาก็ทำเช่นนั้นจริง …แต่ไม่ใช่เพื่อขอเข้ามาในแฟลตอย่างที่เธอคาดเอาไว้ เขาเพียงแต่เดินเข้ามาใกล้ ก่อนที่จะยกมือขึ้นปลดแว่นสายตาออกจากใบหน้าสวย

‘รู้ไหม แบบนี้คุณสวยขึ้นเยอะเลย แต่ถ้าจะให้ดี ผมชอบให้คุณปล่อยผมลงมามากกว่ารวบเอาไว้แบบนี้’

สีหน้ายามที่เขาพูดดูจริงจัง… จริงจังเสียจนวรรษิณีต้องหลบตา คิดแล้วหัวใจยังเต้นระทึก
สายตาแบบนี้เองสินะที่ทำให้เขากุมหัวใจสาวๆ ทั่วออกซ์ฟอร์ดเอาไว้ได้…

หญิงสาวที่สวมชุดนอนเสร็จแล้วยืนแปรงผมยาวสลวยอยู่ที่หน้ากระจกพลางเพ่งพิศรูปโฉมของตนเองที่ปราศจากแว่นสายตาในกระจกเงา …จิตใจเจ้ากรรมก็ประหวัดไปถึงคำพูดที่ได้ยินก่อนที่จะขึ้นมาที่ห้องพักอีกครั้ง

’รู้ไหม แบบนี้คุณสวยขึ้นเยอะเลย… แต่ถ้าจะให้ดี ผมชอบให้คุณปล่อยผมลงมามากกว่ารวบเอาไว้แบบนี้…’

กรี๊ด อยากจะบ้า! …ทำไมคำพูดนี้ถึงได้หลอกหลอนนักนะ ทั้งๆ มันก็เป็นแค่คำพูดของผู้ชายกะล่อนคนหนึ่งเท่านั้นเอง ป่านนี้เจ้าตัวอาจจะลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ!


‘ผู้ชายกะล่อน’ ของวรรษิณียังคงความช่างตื๊อแบบเนียนๆ ตามสไตล์ของเขาอย่างไม่เปลี่ยนแปลง แม้วรรษิณีจะแกล้งเขาโดยการแต่งตัวให้ดู ‘ป้า’ ยิ่งกว่าเดิมด้วยเครื่องแต่งกายที่ออกจะคล้ายสูททำงาน แทนที่จะเป็นชุดกางเกงยีนส์สบายๆ อย่างที่นักศึกษาทั่วไปนิยมใส่กัน ‘แว่นคุณป้า’ ที่เธอเคยสวมก็ไม่เคยถูกถอดออกจากใบหน้า แม้ยามที่เธอจะไม่ได้กำลังอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ตามที ยิ่งกว่านั้น หญิงสาวยังไม่ยอมปล่อยเรือนผมยาวสลวยลงมาคลี่คลุมแผ่นหลังอีกด้วย

แต่… เธอหารู้ไม่ว่า ที่เธอแกล้งทำเพื่อทดสอบดูว่าชายหนุ่มจะทนจีบ ‘ป้า’ ได้นานแค่ไหนนั้น เธอในเครื่องแต่งกายแบบสาวทำงานกลับดูสวยเซ็กซี่ น่าค้นหามากกว่าหญิงสาวทั่วไป… และคงเป็นอย่างที่เขาว่ากันว่าผู้ชายมีสัญชาตญาณของการเป็นนักล่า อะไรที่ได้มายาก เขาจะยิ่งสนใจและใช้ความพยายามเพื่อให้ได้มาครอบครองมากขึ้น วรรษิณีจึงมีเสน่ห์ในแบบที่คมสันไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน และทำให้เขาอยากอยู่ใกล้เธอมากขึ้นทุกวันอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใคร

“พรุ่งนี้ตอนบ่ายว่างไหมครับ วาวา”

คมสันถามขึ้นหลังจากมารับเธอไปรับประทานอาหารด้วยกันตอนเย็นวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันหลังจากที่วรรษิณีส่งรายงานไปเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวจึงอารมณ์ดีพอที่จะถามต่อ

“ทำไม จะชวนฉันไปไหนหรือไง”

“ก็… ผมแค่จองบัตรแฟนธ่อม ออฟ ดิ โอเปร่า (Phantom of the Opera) เอาไว้สองใบเท่านั้นเอง …ว่าจะชวนคนสวยแถวนี้ไปดู …แต่ไม่รู้ว่าเขาจะใจดีพอที่จะไปด้วยหรือเปล่าน่ะสิครับ”

แฟนธ่อม ออฟ ดิ โอเปร่า รึ … วรรษิณีหูผึ่งทันที …ละครเพลงเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เธอใฝ่ฝันอยากจะดูตั้งแต่ก่อนเดินทางมาที่อังกฤษแล้ว แต่บัตรชมละครเรื่องนี้จองยากมากแม้จะเปิดแสดงทุกวัน หญิงสาวจึงไม่มีโอกาสได้ชมสักที

“ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะครับ… คงจะมีผู้หญิงสวยๆ ใจดีๆ อีกหลายคนยอมไปเป็นเพื่อนผม”
ชายหนุ่มแสร้งถอนหายใจ ตีหน้าเศร้า …ซึ่งในความคิดของวรรษิณี มันดูน่าหมั่นไส้มากกว่าน่าสงสาร

หนอย พูดออกมาได้ ทำเป็นน่าสงสาร ใครๆ ก็ไม่รัก แต่แววตานี่ยิ้มเชียวนะ… รู้อยู่แล้วนี่ว่าคงไม่ถูกปฏิเสธ เชอะ

สุดท้าย…วรรษิณีก็ยอมเข้าลอนดอนกับเขาเพื่อไปดูละครเพลงเรื่องโปรดจนได้ หญิงสาวท่องไว้ในใจตลอดเวลา…

เธอไปกับเขาเพื่อแฟนธ่อมเท่านั้นหรอก!


แฟนธ่อม ออฟ ดิ โอเปร่า ยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือ…สมแล้วที่โรงละคร เฮอร์ มาเจสตี้ เธียเตอร์ (Her Majesty Theatre) ที่อยู่ในย่านเลสเตอร์ สแควร์ในกรุงลอนดอนแห่งนี้เป็นโรงละครแห่งแรกที่นำบทประพันธ์อันเลื่องชื่อมาดัดแปลงให้เป็นละครเพลง …บทเพลงที่ใช้ประกอบละครเรื่องนี้ไพเราะมาก ไม่ว่าจะเป็น Phantom of the Opera ที่เป็นบทเพลงเปิดตัวแฟนธ่อม หรือว่าทำนองเพลง Masquerade ในหีบเพลงประจำตัวแฟนธ่อมที่เป็นเครื่องปลอบประโลมจิตใจอันเศร้าสร้อย …แต่เพลงที่วรรษิณีประทับใจมากที่สุดก็คือ All I ask of you… ทั้งๆ ที่เป็นเพลงรักหวานซึ้งระหว่างคริสทีน นางเอกของเรื่องและราอูล ชายคนรักของเธอ แต่หญิงสาวกลับเห็นภาพหัวใจที่แสนเจ็บช้ำจากโศกนาฏกรรมรักของแฟนธ่อมแฝงอยู่ในทุกตัวโน้ต …เธอถึงกับน้ำตาซึมกับฉากสุดท้าย …ฉากที่แฟนธ่อมเสียสละความรักของตนเองเพื่อปล่อยให้หญิงสาวที่ตนเองรักได้มีความสุขกับคนที่เธอรัก

คมสันหันไปมองใบหน้าของหญิงสาวข้างตัว และตกใจเมื่อเห็นน้ำตาของเธอ… แต่แค่เพียงแวบเดียว หญิงสาวก็ปาดมันทิ้งไปเสียแล้ว

…มันน่าเศร้าถึงขนาดนั้นเชียวหรือ ไม่เข้าใจจริงๆ

…สำหรับเขา หากผู้หญิงคนนั้นไม่เลือกเขา ทำไมเขาจะต้องรัก ต้องรอเธอด้วย… ไม่จำเป็นเลยสักนิด ในเมื่อสาวนักเต้นรำในโรงละครยังมีอีกนับสิบ ถ้าเขาเป็นแฟนธ่อม แม้คนหนึ่งจะไม่รัก ก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นที่เหลือจะไม่มีใจให้เขามิใช่หรือ…


“แปลว่านายไม่เชื่อในความรักเลยสินะ” วรรษิณีถามคมสันเมื่อชายหนุ่มแสดงความคิดเห็น
เฮ้อ เพิ่งรู้ว่าคนอย่างนี้ก็มีด้วย

“ไม่รู้สิ …จนป่านนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าความรู้สึกรักเป็นยังไง”

“จริงอ่ะ”

เสียงหวานถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่ท่าทางของคมสันดูจริงจังเกินกว่าจะคิดว่าเขาล้อเล่น

“จริงๆ นะ ตั้งแต่เกิดมายี่สิบกว่าปีผมยังไม่เคยรักใครเลย …หมายถึงความรักแบบหนุ่มสาวนะ ไม่นับรักพ่อรักแม่ หรือรักสัตว์เลี้ยงที่บ้าน”

“โห นายคนนี้ยังเป็นคนธรรมดาอยู่หรือเปล่านี่”

หญิงสาวบ่นงึมงำกับตนเอง แต่ไม่ได้เบาเกินกว่าที่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ จะได้ยิน

“แล้ววาวาล่ะครับ เคยมีความรักแล้วหรือไง ถึงได้พูดเหมือนผมเป็นตัวประหลาด”

“วาวา!!”

ยังไม่ทันที่วรรษิณีจะได้ตอบอะไรออกไป ก็มีเสียงชายคนหนึ่งเรียกชื่อของเธอ หญิงสาวจึงหันไปตามเสียงที่เรียกขาน

“พี่วิน!!!”

เจ้าของชื่อร้องอย่างดีใจก่อนที่จะวิ่งเข้าไปหาชายหนุ่มคนนั้น

ไหนเจ้ากรณ์ว่าจีบยากนักหนาไง ท่าทางไม่เห็นจะเป็นอย่างนั้น ดูทำเข้าสิ สนิทสนมกลมเกลียว ยิ้มหวานทั้งตาทั้งปาก ทีกับเราไม่เห็นเคยทำท่าทางแบบนี้เลย มีแต่ทำสีหน้าเย็นชาใส่ตลอดเวลา

แม้บางครั้งเธอจะยิ้มให้ แต่เขารู้สึกได้ตลอดเวลา ….เธอไม่เคยไว้ใจเขา

ก็น่าอยู่หรอก… คมสันยิ้มเศร้าให้กับตัวเอง… ผู้หญิงคนนี้รู้ดีว่า 'ประวัติ' ของเขาเป็นอย่างไร …ไม่ว่าจะทำอย่างไร เขาก็คงจะไม่มีวันเป็นคนดีขึ้นมาในสายตาเธอหรอก...


“สวัสดีครับ”

เมื่อรู้ตัวว่าถูกทัก คมสันหันกลับมามองต้นเสียง จึงได้พบว่า ‘พี่วิน’ ของวรรษิณีมายืนทักทายอยู่ตรงหน้า ข้างๆ ของชายหนุ่มคนนั้นมีหญิงสาวที่มาด้วยกันกับเขาเกาะแขนเอาไว้แน่น …เขาทักอีกฝ่ายตอบตามมารยาททั้งๆ ที่ใจจริงไม่นึกอยากจะทำเช่นนั้นแม้แต่นิดเดียว

“สวัสดีครับ”

“พี่วินคะ นี่คมสันค่ะ ‘เพื่อนเก่า’ ของยัยแคลร์เพื่อนสนิทวา …ส่วนคนนี้พี่วินค่ะ”

วรรษิณีจำเป็นที่จะต้องแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันทั้งที่ไม่ใช่ความเต็มใจของเธอเลยสักนิด หากแต่เธอขัดพี่วินไม่ได้

เพื่อนเก่าของแคลร์หรือ… แม้แต่แนะนำให้รู้จักกับ…คนที่อาจจะเป็นคนรักของเธอ เธอยังไม่แม้แต่จะแนะนำเขาว่าเป็น 'เพื่อน' ของเธอด้วยซ้ำ ฐานะของเขาในสายตาเธอคงจะต่ำต้อยยิ่งกว่าคนรู้จักเสียอีกสินะ

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ถ้ายังไง ฝากคมสันดูแลวาวาด้วยนะ สำหรับผม คนนี้สำคัญมากที่สุด”

วิธวินพูดแล้วมองหญิงสาวข้างกายด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก เมื่อเห็นวรรษิณีสบตาแล้วยิ้มตอบ คมสันก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นในใจอย่างที่ไม่เคยเป็น ...รู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวขัดหูขัดตาไปหมด

“ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง”

เขารับคำ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีโอกาสดูแลเธอได้อย่างที่พูดหรือเปล่า ในเมื่อเธอยังไม่นับเขาเป็นแม้แต่เพื่อนเสียด้วยซ้ำ…


เป็นอะไรไปล่ะนี่…

วรรษิณีนึกสงสัยเมื่อคมสันนิ่งขรึมไป จากที่ปกติเป็นคนช่างพูดช่างคุยหาเรื่องยั่วแหย่เธออยู่ตลอดเวลา ตอนนี้กลับกลายเป็นคนถามคำตอบคำไปเสียอย่างนั้น

“ไม่สบายหรือเปล่า”

หญิงสาวถามออกไปหลังจากทนเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่ ซึ่งได้รับคำตอบเป็นการโคลงศีรษะเบาๆ

“แน่ใจนะ”

เธอถามซ้ำอีกครั้ง และคำตอบที่ได้ก็เป็นเพียงการพยักหน้าเท่านั้น

“นี่ เป็นอะไรก็บอกฉันสิ”

“ไม่เป็นอะไรหรอก แค่เพลียเท่านั้นเอง ขอนอนพักก็แล้วกัน”

ชายหนุ่มพูดออกมาในที่สุดก่อนที่จะหลับตาลง ทำให้วรรษิณีไม่กล้าที่จะรบกวนเขาอีก …ตลอดทางที่นั่งรถออกซ์ฟอร์ด เอ็กซ์เพรสร่วมสองชั่วโมง วรรษิณีได้แต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างตามลำพัง ซึ่ง…หญิงสาวต้องยอมรับว่ามันเงียบเหงามากกว่าตอนขามาที่มีเขาคอยเย้าแหย่ ชวนคุย ชวนทะเลาะ

…แต่ คมสันไม่ได้หลับจริงตามที่เขาต้องการ ตรงกันข้าม คำพูดคำหนึ่งดังก้องอยู่ในหัวอยู่ตลอดเวลา

‘ฝากดูแลวาวาด้วยนะครับ สำหรับผม คนนี้สำคัญมากที่สุด’

ถ้าเธอสำคัญถึงขนาดนั้น ก็มาดูแลเองเสียเลยสิ!


“ไม่ต้องไปส่งฉันก็ได้นะ ไม่สบายไม่ใช่เหรอ”

วรรษิณีบอกคมสันด้วยสุ้มเสียงเกรงใจเมื่อทั้งสองลงมาจากรถโดยสารออกซ์ฟอร์ด เอ็กซ์เพรสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แทนที่จะคิดว่าหญิงสาวอาจจะเป็นห่วงว่าและอยากให้เขาได้พักผ่อน คมสันกลับตีความหมายไปว่าเธอคงพูดอย่างนั้นเพราะไม่อยากอยู่ใกล้เขาอีกต่อไปแล้ว …ในเวลานี้ ชายหนุ่มไม่อาจคิดเข้าข้างตัวเองได้อย่างที่มักจะเป็น ความคิดในแง่ดีทั้งหลายดูเหมือนจะอันตรธานไปจนหมดสิ้นจนน่าแปลก

“ก็ตามใจ ถ้าอย่างนั้น กลับบ้านดีๆ ล่ะ”

คนฟังอยากจะคิดว่าตัวเองหูฝาดไป …หากเป็นยามปกติ คมสันจะต้องหยอดแหย่คำพูดหวานเลี่ยนต่างๆ เป็นต้นว่า ‘ไม่ว่าจะป่วยหนักแค่ไหน เพื่อไปส่งวาวาผมทำได้อยู่แล้ว’ พร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่มโปรยเสน่ห์ แต่คราวนี้ไม่มีเลยสักนิด ราวกับว่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่กับเธอตรงนี้ไม่ใช่นายคมสันคนเดิมอย่างนั้นล่ะ

หลังจากเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในใจ …ความรู้สึกที่เธอเองก็ยังไม่เข้าใจ ริมฝีปากนุ่มจึงตัดสินใจเอ่ยคำลา

”ถ้างั้น...ฉันไปล่ะนะ”

แม้จะไม่อยากจะดูแล ไม่อยากจะเข้าใกล้หญิงสาวอีกต่อไป แต่สองขากลับไม่เป็นไปตามที่สมองสั่ง คมสันอดไม่ได้ที่จะแอบเดินตามวรรษิณีไปห่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเธอกลับถึงบ้านโดยปลอดภัย… เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องดูแลเธอตามที่ ’ใครบางคน’ ฝากฝังมา ในเมื่อเธอคนนี้มี ‘คนสำคัญ’ อยู่แล้ว …และนี่คงจะเป็นสาเหตุที่เธอไม่เคยเปิดใจรับเขาหรือใครๆ เข้าไปไว้ในหัวใจของเธอ

“ฮัลโหล พี่วินหรือคะ”

เสียงหวานของวรรษิณีตอบรับโทรศัพท์ระหว่างทาง แม้คมสันไม่ตั้งใจฟังก็สามารถได้ยินคำพูดต่างๆ ได้อย่างถนัดชัดเจนเนื่องจากผู้คนไม่พลุกพล่านนัก หญิงสาวพูดโทรศัพท์ไปพลางหัวเราะคิกคักเสียงใส

“พี่วินจะมาเยี่ยมวาที่ออกซ์ฟอร์ดหรือคะ …ค่ะ ได้แน่นอนสำหรับพี่วิน …โธ่ จะไปอยู่ B & B* ให้เปลืองเงินไปทำไมล่ะคะ พักกับวาก็ได้ …แค่นี้ได้อยู่แล้วสำหรับพี่วิน …”

…มันน่าหัวเราะจริงๆ นี่หรือ ที่เขาเคยประกาศต่อหน้าเธอว่าจะทำให้เธอต้องเสียน้ำตาเพราะเขา …เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าคงจะมันคงจะไม่มีวันเป็นไปได้

จะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อเธอมีคนของหัวใจอยู่แล้ว …คงเป็นเพราะอย่างนี้นี่เอง หนุ่มๆ ในออกซ์ฟอร์ดถึงพูดกันว่าการพิชิตพื้นที่ในหัวใจของเธอนั้นยากนัก… นั่นเป็นเพราะมันไม่เคยมีที่ว่างเหลืออยู่แล้วนั่นเอง

แล้วเขาควรจะทำยังไงต่อไปดี

คมสันหัวเราะเสียงขมขื่นให้กับตัวเอง เมื่อนึกถึงคำตอบ

จะยากอะไร้ เมื่อผู้หญิงเขาไม่สน ก็หาคนใหม่ ก็เท่านั้น… ง่ายจะตาย ผู้หญิงที่รักเขายังมีอยู่อีกมากมาย

…ก็แค่ mission incomplete อีกครั้งหนึ่งเท่านั้นเอง

B & B* หรือ Bed & Breakfast เป็นที่พักชั่วคราวแบบหนึ่งซึ่งถือว่ามีราคาถูกหากเทียบกับโรงแรม มักจะดำเนินกิจการโดยครอบครัวมากกว่าเป็นธุรกิจเต็มรูปแบบ จึงเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว


((โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ))




 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2554
7 comments
Last Update : 10 กรกฎาคม 2554 23:11:26 น.
Counter : 435 Pageviews.

 

ตอบคอมเมนต์ค่า

หมวย -- ครุคริ ครุคริ เจอนายคมสันแล้วจะทำอะไรจ๊ะ

น้องลี่ -- ฮี่ๆๆๆๆๆ ดีใจที่ชอบค่ะ พี่ก็สนุกกับการเขียนนายคมสันมากๆ เลย ทั้งๆ ที่ปกติไม่ชอบคนเจ้าชู้เหมือนกัน

น้องเน -- ต้องอย่างนี้สิ!! ฉลาดมั่กๆ สมแล้วที่เป็นหญิงไทยใจงาม ฮุๆๆๆๆ

คุณ VEE -- อ๊ากส์ เปล่านะค้า ><

คุณปุ๊ก -- แหมมมมม มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ ตกฝ่ายเดียวก็รักเขาข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่งน่ะสิคะ ช้ำใจแย่เลย

 

โดย: ...ศุวิลา... 10 กรกฎาคม 2554 23:48:00 น.  

 

โหยยยย คมสัน นะคมสัน ไม่น่าเลยยย ความรักบังตาละสิ.. ชื่อคล้องกันขนาดนั้น พี่ชายชัวร์ ชิมิ ชิมิ ... อิอิ แต่ก็สมน้ำหน้า ให้โดนซะบ้าง คุคิ

 

โดย: หมวย IP: 125.24.107.227 11 กรกฎาคม 2554 0:01:09 น.  

 

ผู้หญิงที่รักนายยังมีอยู่อีกมากมาย
แต่...ผู้หญิงที่นายรัก มันมีแค่คนเดียวไม่ใช่หรือ ^__,^

 

โดย: nay narilin IP: 223.206.67.151 11 กรกฎาคม 2554 0:40:52 น.  

 

ลุ้นจังเลยค่ะ ว่าจะจบแบบไหนนะคะ ^__^

 

โดย: bug IP: 203.121.182.195 11 กรกฎาคม 2554 9:49:12 น.  

 

อย่างนี้เรียกว่ารักแล้วอะป่าวอะ มีน้อยใจด้วย

 

โดย: orn IP: 182.53.80.111 11 กรกฎาคม 2554 13:22:51 น.  

 

โดนเสน่ห์คุณป้ามัดใจยังไม่รู้ตัวอีก แต่ก็นะ วาว่าก็น่าจะโดนด้วยเหมือนกัน ไม่งั้นคมสันซึมไป ก็น่าจะไม่สนใจ
เหมือนกันค่ะ พี่ชายชัวร์

 

โดย: ปุ๊ก IP: 203.144.220.246 15 กรกฎาคม 2554 23:08:39 น.  

 

น่าจะเป็นพี่ชายแน่ๆ เลย ฮ่าๆๆๆๆ

คมสันซึม ฮ่าๆ สมน้ำหน้า กร๊ากๆๆ

รออ่านตอนต่อไปนะคะ สนุกมากๆ เลย

 

โดย: lovekalo 16 กรกฎาคม 2554 13:24:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


...ศุวิลา...
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




'ศุวิลา' นักเขียนแนว LOVE (ความรู้สึกดี...ที่เรียกว่ารัก) สนพ. แจ่มใส ♥








Friends' blogs
[Add ...ศุวิลา...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.