กรกฏาคม 2550

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
29
30
31
 
 
All Blog
ท่องทุ่งดอกกระเจียว (2)

ดอกกระเจียวกับดงหญ้าเพ็กในป่าเต็งรัง



ดอกกระเจียวยักษ์



ทางเดินชมทุ่งดอกกระเจียวกับป้ายเตือน!


"ทะเลหมอกเช้าตรู่" มุมมองจาก "ผาคอยนาง"



แนวเทือกเขาฝั่งตะวันตก



ภูมิทัศน์ป่าหินงามในยามเช้า



ลานป่าหินงาม...อีกมุม



หินรูปช้างเอราวัณ



หินรูปแม่ไก่ฟักไข่



ภาคค่ำ
เมื่อพระอาทิตย์ตกหลังเขาป่าหินงาม บรรยากาศกำลังดี เราชวนกันไปออกกำลังขา เดินชมร้านค้า ขายข้าวปลา กาแฟ ต้นไม้และเครื่องปั่นดินเผาประดับสวนสวยงาม คนขายอย่าฝันหวานจะได้สตางค์ นักท่องเที่ยวอย่างฉันเดินชมอย่างเดียว......ขอบอก

ฉันมุดเข้าที่นอนตอน 3 ทุ่ม อย่า...อย่าคิดว่าจะหลับในทันใด เพราะมีแก๊งวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง เล่นกีตาร์รำพันเพลงเพื่อชีวิต กล่อมนักท่องเที่ยวได้รับบรรยากาศแห่งความสุนทรียโสตจากเสียงดนตรี

เสียงลมพัดพรูมาเป็นระยะ ลมหนาวหอบเอาความเย็นผ่านช่องระบายอากาศ แทรกซึมเข้ามาถึงข้างในเต็นท์ ฉันหลับตานิ่งได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นตุ๊บ ๆ พร้อมจังหวะดนตรีที่ดังอยู่ใกล้ ๆ อย่าว่าแต่เสียงดนตรีที่เล่นกันเบา ๆ ขนาดเสียงพูดคุยกันเงียบ ๆ สองหนุ่มสาวอยู่ในเต็นท์ถัดไป ห่างกันประมาณ 1 วา ได้ยินชัดถนัดหู ไม่มีกระจิตกระใจฟังเสียงกีตาร์ พับผ่าซิ!

เสียงสายฝนโปรยปรายตกกระทบเต็นท์ดังเปาะ ๆ แป๊ะ ๆ สลับกับสายลมเริ่มพัดแรงขึ้น ปลุกให้ฉันตื่นจากการหลับใหลในชั่วขณะ พลิกตัวหันมามองน้องโมเม เธอนอนหลับปุ๋ยเคียงข้างน้องติ๋ว ที่นอนขดตัวเพราะความหนาวเย็น ถ้าเกิดฟ้าพิโรธฝนตกหนักในคืนนี้ คงโกลาหลกันยกใหญ่ ต้องลุกหาที่นอนในศูนย์บริการฯ แน่ ๆ โอ้! เจ้าฟ้าปราณี ไม่ได้เทฝนไปมากกว่านี้

ชุดนอน ชุดเที่ยว ชุดเดียวกัน
คติประจำใจนักเดินทางทุกยุคสมัยไม่เคยตกเทรน ยังนำมาใช้ได้เสมอ ฉันตื่นนอนก่อนนาฬิกา(โทรศัพท์) ปลุก เพราะได้ยินเสียงคนข้างเต็นท์คุยกันจุ๋ง ๆ จิ๋ง ๆ น้องติ๋วปลุกน้องโมเมชวนกันไปเข้าห้องน้ำ ฉันขอกอดผ้าห่ม ดมกลิ่นหมอน นอนคุดคู้เป็นซออู้อีกสักพัก

พวกเราซื้อตั๋วรถนำเที่ยว ที่คณะกรรมการจัดงานฯ กำหนดไว้ คนละ 10 บาท (ไป-กลับ) รถโดยสาร 6 ล้อ บรรทุกนักท่องเที่ยวหน้าตาแบบชาวบ้าน 5 ชีวิต พวกเราเลือกนั่งด้านในสุด สักพักก๊วนนักท่องเที่ยวตามมาขึ้นรถเต็มคัน

สถานีแรกที่กลุ่มนักท่องเที่ยวถูกปล่อยลงจากรถ ณ “จุดชมวิวสุดแผ่นดิน” เป็นจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย 846 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง เกิดจากการดันตัวของแผ่นดินภาคกลาง (ฉานไทย) ซุกเข้าใต้แผ่นดินภาคอีสาน (อินโด-ไชน่า) ทำให้เกิดขอบยกสูงขึ้น แบ่งระหว่างภาคกลางกับภาคอีสาน จึงเรียกบริเวณนี้ว่า “สุดแผ่นดินอีสาน-กลาง” (ข้อมูลอ้างอิงจากป้ายบนเทือกเขา อะคึ่ ๆ)

“ผาคอยนาง” ชื่อเรียกอีกอย่าง จุดเด่นคือ แผ่นหินที่ยื่นออกเป็นมุมแหลม คล้าย “ผาหล่มสัก ณ ภูกระดึง” แต่มองดูแล้วหวาดเสียวกว่า เนื่องจากไม่มีต้นไม้หรือต้นสนมาบดบังความสูง มองลงเบื้องล่างพบกับหุบเหว และแนวเทือกเขาเป็นแถวไกลลิบ ๆ มีริ้วเมฆทะเลหมอกขาว พาดผ่านเป็นทางยาวฝั่งตะวันตก

เมฆขาวลอยต่ำเหนือยอดเขา บดบังแสงแดดจากดวงอาทิตย์ที่กำลังโผล่พ้นป่าเต็งรังอย่างอ้อยสร้อย พวกเราพบสัตว์ป่า 2 ชนิด อย่างเต็มตา คือ "กระรอก" ตัวกระจ้อยกระโดดหนีนักท่องเที่ยว และเกือบเหยียบเต็มเท้า โชคดีที่เรามองเห็นตัวมันก่อน อยากรู้ไหมว่าคือตัวอะไร บอกให้ก็ได้ “เจ้าตัวร้อยขา” ไงละ กำลังเคลือบคลานไปตามลานหินอย่างเชื่องช้า ตัวอ้วนจ้ำหม้ำเชียว

พวกเราลัดเลาะไปตามทางเดินของป่าเต็งรัง ระยะ 350 เมตร ก่อนถึงทุ่งดอกกระเจียว ระหว่างทางพี่อ้อเห็นเห็ดป่าชนิดหนึ่ง สัญชาตญาณยายฉิมเก็บเห็ดเข้าร่างทันที น้องติ๋วบอกว่าเป็นเห็ดกินได้ ชื่อที่ชาวบ้านเรียกคือ “เห็ดหน้ามอม” แต่คนเก็บหน้าบาน

“ต้นปรงโบราณ” พบเห็นหลายต้น เป็นพันธุ์เดียวกันในป่า อช.น้ำหนาว แต่ต้นปรงที่นี่ขนาดเล็กกว่า ฉันไม่สามารถคาดเดาอายุของต้นไม้พวกนี้ ที่แน่ ๆ อายุต้นปรงมากกว่าฉันหลายเท่านัก



“ดอกกระเจียวหรือบัวสวรรค์”
นางเอกของเรื่องเธอทอดสะพาน เอ้ย! มีทางเดินเป็นสะพานคอนกรีตยกพื้นสูงเล็กน้อย มีป้ายเตือนนักท่องเที่ยวห้ามลงไปในทุ่งดอกกระเจียว มีการแหวกกฎในบางกลุ่ม สงสัยเป็นคนต่างด้าว จึงอ่านภาษาไทยไม่ออก ลงไปแอ็คชั่นเอาใบหน้าไปสัมผัสกับดอกกระเจียวอย่างใกล้ชิด ไม่เกรงใจเทพารักษ์นางไม้ เอ้ย! ไม่ละลายแก่ใจเลย ถ้าอยากได้ภาพถ่ายใกล้ชิดกับดอกกระเจียว ไม่ยากนะไปที่ร้านขายดอกไม้ด้านล่างก่อนทางขึ้นอุทยานฯ ดอกกระเจียววางเรียงรายแป็นแถวสวยงาม เจ้าของร้านใจดีไม่มีต่อว่า นักท่องเที่ยวจะถ่ายภาพใกล้ชิดกลีบดอกแนบกับใบหน้า แม้ไม่ซื้อต้นไม้ก็ตาม

กลีบสีชมพูอมม่วงเรียงลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ แทงช่อสีสวยเหนือยอดหญ้าเพ็ก เสมือนพื้นพรมปกคลุมลานดิน สีสันดอกกระเจียวตัดกับใบเขียวสดชอุ่มชุ่มน้ำค้างกระจายทั่วทุ่ง ท่ามกลางม่านหมอกขาวจาง ๆ บรรยากาศแบบนี้ อาการโรแมนติกกำเริบ ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดเข้มข้น กำลังได้อารมณ์ซึ้ง ๆ รู้สึกเคืองในใจนิด ๆ ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวและบ่นพึมพำแว่วๆ “ถ้าใครชวนมาอีก ฉันไม่มานะ”
“ถ้านักท่องเที่ยวคาดหวังสูง แต่ไม่ได้ดั่งใจที่วาดฝัน แล้วบ่นให้ได้ยินแบบนี้ อย่ามาดีกว่า”
ฉันคิด

คนที่รักป่ารักธรรมชาติ ไม่ได้คาดหวังความสวยงามจากป่าอย่างเดียว คุณค่าของป่าและธรรมชาติมีอะไรมากกว่าความสวยงาม ถ้านักท่องเที่ยวไม่มองอย่างผิวเผินแล้วผ่านไป

จากจุดชมวิวสุดแผ่นดินถึงทุ่งดอกกระเจียว 1 ชม.ผ่านไป พวกเราใช้เวลาน้อยมาก แต่ความอิ่มเอิบจากธรรมชาติมันเอ่อล้นหัวใจจนจุกลิ้นปี่



ก๊วนสาวบ้านนอก 5 นาง ตกลงปลงใจกับสองขา เดินไปตามทาง 1.8 กม. นักท่องเที่ยวสามารถโบกรถได้ทุกจุดที่ต้องการขึ้น คนที่นั่งบนรถคงแปลกใจ ที่พวกเราทำเป็นหยิ่งทระนงในตน เดินดุ่ม ๆ ชมความสวยงามตามธรรมชาติระหว่างทาง

ความเร็วของการก้าวเดินในอัตรา 40-50 ก้าว/นาที ถึงเป้าหมายช้ากว่าคนอื่น แต่พวกเราซึมซับพลังจากธรรมชาติที่อยู่รอบตัว ๆ ได้มากกว่า อาจจะเสียเวลาและเม็ดเหงือที่ออกจากรูขุมขน แต่สิ่งที่ได้ทดแทนคืนมา คือ เม็ดเลือดแดงที่สูบฉีดทั่วร่างกาย

“ป่าหินงาม” เกิดจากการกัดเซาะของเนื้อดินและหิน มีรูปร่างแปลกตาตามจินตนาการของแต่ละคน บรรยากาศเช้า ๆ เหมาะสำหรับการเดินทางมาชม ขึ้นมาถึงด้านบนของลานหินงาม สามารถมองเห็นพื้นที่โดยรอบของอุทยานฯ เทือกเขาเรียงรายซ้อนกันเป็นทิวแถว สีเขียวครึ้มตัดกับขอบฟ้าสุดปลายตาเลยทีเดียว

พวกเราเดินกลับที่พัก ผ่านเส้นทางที่มีการสร้างฝายเก็บน้ำ ที่อยู่ด้านหลังศูนย์บริการฯ ฝั่งทิศตะวันตก มีปริมาณน้ำเล็กน้อย เพราะอยู่ระหว่างการขุดเจาะเซาะเนื้อดิน เพื่อใช้เป็นอ่างเก็บน้ำในอนาคต

หลังอาหารมื้อเช้า พวกเราแวะไปชมโครงการหลวงดอยคำ-เชียงใหม่ ดื่มกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นนุ่มลิ้น (อาราบีก้า) ประทับใจการต้อนรับจาก อ.ปิยภัทร์ คอยบริการชงกาแฟในถ้วยที่มีสัญลักษณ์ตัวอักษร “สก” ให้นักท่องเที่ยวดื่มฟรี พร้อมทั้งเสริฟข้าวกล้องผสมธัญพืชและน้ำพริกเผาเจสูตร “เจ้าแสงเดือน”



อ.ปิยภัทร์ เล่าเรื่องที่มาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในโครงการหลวงฯ ด้วยความปลาบปลื้มปิติและมีความสุข นักท่องเที่ยวท่านใดสนใจ แวะไปทักทายท่านได้ตลอดช่วงเทศกาล “ดอกกระเจียวบาน” จะได้พบกับความประทับใจเช่นเดียวกับฉันแน่นอน รับประกันความประทับใจ

ปล. ถ้าท่านไม่พอใจ

“สาวบ้านนอกฯ ยินดีเลี้ยงกาแฟผู้อ่าน 1 แก้ว ณ ขอนแก่น”


คำแนะนำ : ชมภาพสวยงามประทับใจ...เพิ่มเติมได้ที่ thai-tour.com




Create Date : 28 กรกฎาคม 2550
Last Update : 22 สิงหาคม 2550 8:20:08 น.
Counter : 4114 Pageviews.

16 comments
  
โดย: mint IP: 203.152.41.4 วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:36:48 น.
  
ดอกกระเจียวดูใกล้ๆนี่สวยจังเลยค่ะ

แม่โสมยังไม่เคยเห็นดอกจริงเลย

ขอบคุณค่ะ ที่นำมาให้ชม
โดย: โสมรัศมี วันที่: 28 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:42:02 น.
  
อ่านม่วนป่วนชีพจร
วอนปลาแดก
รูปหินผิดแผกแปลกตา
ข้าน้อยหุดหิดเป็นนักหนา
เขียนป้ายตัวเบ้อเร่อบ้าร่า
ทัศนะอุจาดตา
หารู้ตัวไม่ว่า
ทำลายความงามธรรมชาติ
ป้ายฉลาด ๆ นั่นแหละพอลลูชั่น
จินตนาการฉัน จินตนากรวย-คุณ
เมืองไทยเป็นของททท. ไม่ก็ของกรมป่าม้วย
ฮ่วย...เคียดหลาย
โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:00:06 น.
  
ผาคอยนาง นางไปคอย ที่ภูผา
ชี้ชมฟ้า ฟ้าสวย งามสดใส
เช้าลมหนาว โชยพัด กระทบกาย
แล้วหัวใจ ก็ไหวไปตามลม

ชมท้องทุ่ง ดอกเจ้า ชมพูสวย
เดินนวยๆ นาดไป ใจนึกหวั่น
สวยจับจิต พินิจดู คู่รำพัน
ช่างจัดสรร เจ้าสวย คู่พงไพร

ดั้นด้นมา จับตามอง ดูดอก
กะเจียวสวย ขอบอกว่า หลงไหล
ในท้องทุ่ง อยากกลิ้ง เคล้าเจ้าไป
ในหัวใจ ประทับไว้ ชมพู งาม

นาม กะเจียววววว....
โดย: พี่ดวง IP: 210.246.72.24 วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:31:42 น.
  
หวายยยย...เค้ามากันเป็นกลอนเลย
เราขอเป็นโคลงเคลงแล้วกัน

สุดยอดเลยจ้ะ นำเที่ยวชุดนี้ เต็มอิ่ม ข้อมูลแน่น
ภาพสวย แต่ไม่เห็นสาวบ้านนอกเลยนะ อะคี่ๆๆ

ปล. โห พ่อดอกกระเจียว อะไรจะใหญ่ขนาดน้านนนนน..
มันขนาดเท่านี้ไดไงนะ งงจัง
โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:45:46 น.
  
ไปมาตอนปีใหม่เมื่อหลายปีที่ผ่านมาค่ะ
เงียบดีนะคะ
เพราะไม่ใช่ช่วงดอกกระเจียวบาน
เลยมีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวอีกครั้งค่ะ
โดย: สเลเต วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:08:12 น.
  
สวัสดีค่ะ
ไม่เคยไปทุ่งกระเจียว
แต่ชอบกินซุบดอกกระเจียว

สาวขอนแก่นฯ ขยันเขียนบล็อกจัง คุยก็เก่งเนาะ

โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:23:36 น.
  
ขอบคุณมิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน
-------------------------------------------------
เพียงแวะผ่านมาชม (อ่าน) และฝากความเห็น
สาวฯ ชื่นชะแล่มแจ่มจิตเสมอ ๆ ค๊า

ปล. สุขสันต์วันเข้าพรรษา คิดดี พูดดี ทำดี
......ตลอดปี ตลอดไป...สาธุ
โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:27:58 น.
  
ชื่อ "ผาคอยนาง" น่ะตั้งเองหรือเปล่า ?

ใครนะไปรนางที่ตรงนั้น
โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.22.24 วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:06:00 น.
  
"ผาคอยนาง" เป็นชื่อที่ชาวบ้านบอกเล่าต่อ ๆ กันมา
ความเป็นมาต้องสืบสาวราวเรื่อง กับชาวบ้านในท้องถิ่นค่ะ

อยากรู้เหมือนกัน ใครน๊าไป "รอนาง" จนเก้อ ณ ที่นั่น
แน่จริง ๆ มาเจอกันตัวเป็น ๆ เลยดีฟ่า
อะคึ่ ๆ
โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:07:36 น.
  
ตามมาดูดอกกระเจียวด้วยคนค่ะ

เคยคิดอยากไปเที่ยวแต่ไม่ได้ไปซักที

คงต้องรอปีหน้าแล้วล่ะค่ะ
โดย: random-4 วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:19:28:59 น.
  
เขียนดีจริง ๆ หว่า

น่าจะส่งไปเสนอรวมเล่มเป็นผลงานให้คนที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ได้อ่านบ้าง ช่างคมคายเหลือคิดจริง ๆ นะสาวขอนแก่น

"กำลังได้อารมณ์ซึ้ง ๆ รู้สึกเคืองในใจนิด ๆ ได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวและบ่นพึมพำแว่วๆ “ถ้าใครชวนมาอีก ฉันไม่มานะ”
“ถ้านักท่องเที่ยวคาดหวังสูง แต่ไม่ได้ดั่งใจที่วาดฝัน แล้วบ่นให้ได้ยินแบบนี้ อย่ามาดีกว่า” ฉันคิด

คนที่รักป่ารักธรรมชาติ ไม่ได้คาดหวังความสวยงามจากป่าอย่างเดียว คุณค่าของป่าและธรรมชาติมีอะไรมากกว่าความสวยงาม ถ้านักท่องเที่ยวไม่มองอย่างผิวเผินแล้วผ่านไป"

ใช่เลย ๆ ๆ ในความรู้สึก "ไม่มีอะไร" ของบางคน แต่อาจมากล้นด้วยคุณค่าในความรู้สึกของอีกหลาย ๆ คน ผู้บ่นน่าจะไปเดินอยู่ตามศูนย์การค้า หรือตลาดนัดอะไรพันนั้นมากกว่า

ลุงมาอ่านแล้วนะสาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น อะคึ ๆๆ

จะส่งหนังสือให้แต่ขี้เกียจขับรถออกจากบ้าน จะใช้ไหว้วานใครก็ไม่ได้ โฮ....
โดย: ลุงบูลย์เอง IP: 125.27.232.79 วันที่: 2 สิงหาคม 2550 เวลา:15:38:55 น.
  
ตามมาเที่ยวและเก็บข้อมูล เผื่อจะได้ไปกะเค้าซะที
โดย: i_nookae วันที่: 3 สิงหาคม 2550 เวลา:3:56:48 น.
  
ตามมาเที่ยวอีกทีค่ะ


ดูแล้วก้ออยากไปแฮะ
โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:14:17:00 น.
  
จริง ๆ ตามมาดูรูปหาดจอมเทียนค่ะ

แต่หาไม่พบ.. ลงชื่อจองไว้ล่วงหน้าดีกว่า

โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:8:52:28 น.
  
อยากจะดุแต่ไม่ใด
โดย: บายดิ IP: 117.47.166.14 วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:13:22:15 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
Location :
ศรีสะเกษ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ลูกคนสุดท้องน้องสาวคนเล็ก
เด็ก ๆ ชอบเอาตัวไปปลายนา
เอาขาไปวิ่งเล่นที่ทุ่งหญ้า
โตเป็นสาว..ชอบอยู่บ้านนอก
อนาคต..ได้ไปที่ชอบ..ที่ชอบ
อะคึ่ ๆ


Friends Blog
[Add สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น's blog to your weblog]