พ่อครับ ผมขอโทษ...
พ่อซื้อมือถือให้ผมใหม่ปลายเดือนสิงหา ช่วงที่ผมขับรถเป็นใหม่ ๆ
พ่อเลือกเครื่องที่ค่อนข้างแพงหน่อย แบบที่ถ่ายรูปได้ และทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้
ตอนนั้นพ่อบอกกับผมว่า เป็นเครื่องสุดท้ายแล้วที่พ่อจะซื้อให้ อีกหลายปีข้างหน้า ถ้าอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่ ก็ทำงานเก็บเงินซื้อเอง
ตอนนั้นผมค่อนข้างถูกหลาย ๆ คนที่บ้านไซโค เพราะทำให้พ่อต้องเสียเงินค่อนข้างมากโดยไม่จำเป็น เพราะในความเป็นจริงแล้ว ผมก็ไม่ได้ใช้มือถือทำอะไรเลย นอกจากรับสาย-โทรออก
แต่พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร อีกอย่างผมก็ถูกเลี้ยงมาแบบสปอยมาก ๆ
จริง ๆ เรื่องมือถือ ผมไม่เคยขอพ่อนะ แต่ก็เคยบ่น ๆ ให้ฟังว่าเครื่องที่ใช้อยู่มันมีปัญหา ไอ่อยากได้ใหม่ก็ใช่อยู่ แต่ตอนนั้นก็ตั้งใจว่าจะทนใช้ของเก่าไปก่อน
แล้ววันหนึ่งพ่อก็โทรหาผม บอกว่า จะซื้อเครื่องใหม่ให้ จะเอาไหม
แล้วพ่อก็ซื้อส่งมาให้จริง ๆ
ผมดีใจนะ ดีใจมาก
แต่ตอนนี้ ผมก็เสียใจมากเช่นกัน ที่ไม่อาจจะรักษามันไว้ได้
ต้องเสียมันไป ด้วยความโง่ของผมเอง
พ่อครับ ผมขอโทษ...
อย่างที่แม่พยายามจะบอกว่า อย่าซื้อให้ผม เพราะผมรักษาของไม่ดี
เครื่องแรกที่แม่ให้..ผมก็ทำหาย...ถูกล้วงกระเป๋า
2 เครื่องต่อมา...พี่ยกให้ผม...ผมก็ทำมันเสีย
แม้แต่ซิมก็ทำหายอยู่หลายครั้ง ต้องเปลี่ยนเบอร์ใหม่ไม่รู้ตั้งกี่รอบ
เครื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ผมตั้งใจจะรักษาให้ดีที่สุด แต่ผมก็ยังทำให้ทุกคนผิดหวัง
ตอนนี้ที่บ้านก็มีเรื่องให้กลุ้มใจมากพอแล้ว จนแม่ก็ยังไม่อยากที่จะว่าอะไรผม
ผมทำตัวไม่ดีเลย นำแต่ปัญหามาให้
ทั้ง ๆ ที่ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อกับแม่ฝากความหวังไว้ที่ผมมากกว่าพี่ ๆ
แต่ดูเหมือนว่า พี่ ๆ จะทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจได้มากกว่าผม พี่ ๆ จะเป็นที่พึ่งพาได้มากกว่าผม
ผมรู้ว่า พ่อและแม่รักผมมากแค่ไหน แต่ผมก็ยังทำให้พ่อและแม่ผิดหวังได้เรื่อย ๆ
ตอนโทรหาพ่อ ผมพยายามกลั้นน้ำตาอย่างที่สุด พยายามที่จะไม่ให้พ่อรู้ว่าผมร้องไห้อยู่
แต่เสียงผมก็อู้อี้จนพ่อฟังผมพูดแทบไม่รู้เรื่อง
และพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรผมเลย
เหมือนกับครั้งแรกที่มันเคยเกิดขึ้น
ช่วงปลายพฤศจิกายน เมื่อ 2-3 ปีก่อน
ผมไปเที่ยวงาน RVS Fun Fair
คนในงานมากมาย แต่ผมก็ยังโง่เอามือถือใส่ไว้ในกระเป๋า
ช่วงที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน ผมก็รู้สึกว่ากระเป๋าถูกดึง และผมก็ดึงมันกลับ ตอนนั้นล่ะที่ผมรู้ว่า มือถือผมหายไปแล้ว
แต่ผมก็ยังปลอบใจตัวเอง ยังเดินหามือถือ พยายามให้เพื่อนโทรเข้าเครื่อง แน่นอนว่า เครื่องปิดไปแล้ว
ในที่สุด ตอนนั้นผมก็ร้องไห้ออกมา ด้วยความเจ็บใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้
ก่อนที่จะตัดสินใจกลับบ้านทันที ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเข้ามาในงานได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ผมกลับบ้านทั้งที่ร้องไห้แบบนั้น รถแดงที่มาส่งผมตอนนั้นคงแปลกใจ
ผมเดินเข้าบ้าน สิ่งแรกที่ผมทำก็คือโทรหาพ่อกับแม่
ตอนนั้นแม่อยู่บนรถไฟ กำลังจะเดินทางกลับมาเชียงใหม่
แม่คงอยากจะว่าอะไรผมบ้าง แต่เพราะเสียงรถไฟที่ค่อนข้างดัง และเพราะผมร้องไห้อยู่ แม่ก็เลยบอกแค่ว่า ไว้แม่ถึงเชียงใหม่ค่อยคุยกัน
ส่วนพ่อ ตอนผมโทรไป พ่อก็บอกแค่ว่า ไม่เป็นไร หายแล้วก็หายไป พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรผมสักคำเช่นกัน
เมื่อกี๊ ตอนผมวางโทรศัพท์ลง น้ำตามันก็ไหลออกมาอีก
ทิชชู่กองเต็มหน้าคอมเลย
ผมรู้สึกแย่นะ
ผมยอมรับว่า ไม่ได้พูดออกไปตรง ๆ ว่าทำหายได้อย่างไร
ผมกลัวที่จะถูกว่า ถูกตำหนิ ผมก็เลยบอกไปว่า หาไม่เจอ ไม่รู้หายไปไหน
แต่จริง ๆ แล้วผมรู้...ผมพอจะนึกออกว่ามันหายไปได้ไง
ด้วยความโง่ของผม เมื่อคืน ตอนไปโทรศัพท์หาแม่ที่ตู้สาธารณะ
ผมหยิบมันออกมา วางไว้บนตู้ ทั้ง ๆ ที่ปกติ ผมจะวางมันไว้ในรถ เพราะเบอร์แม่น่ะ ผมจำได้อยู่แล้ว
แล้วตอนวาง ผมยังนึกอยู่เลย "วางไว้แบบนี้ เดี๋ยวก็ลืมหรอก"
แล้วผมก็ลืมมันจริง ๆ เพราะนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นมัน
หลังจากนั้น ผมก็กลับเข้าบ้าน ตอนอยู่ในบ้านผมก็หาไม่เจอ คิดเอาเองว่า ลืมไว้ในรถ ไม่ได้คิดเลยสักนิดว่ามันหายไป
จนวันนี้ วรินมาหาที่บ้าน ผมก็บอกไปแค่ว่า "เดี๋ยวขอไปดูในรถหน่อย ลืมมือถือไว้"
วรินก็บอกกลับมาว่า "มิน่า..โทรหาแล้วปิดเครื่อง"
เป็นประโยคที่ทำให้ผมแปลกใจ
มือถือผม ไม่เคยปิดเครื่อง(ยกเว้นบางวันที่หนีหนี้) แบตผมชาร์ตไว้เต็มตลอด ถึงไม่เต็มก็เป็นไปไม่ได้ที่เครื่องจะปิดอยู่
และแน่นอนว่า ผมหาในรถไม่พบ ผมก็ยังโง่..ขอเดิน(วิ่ง)ไปดูที่ตู้ที่ผมโทรหาแม่อีกหน ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่ามันไม่อยู่แล้ว
ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ก็เลยกลับเข้าบ้านไปหาอีกรอบ ทั้ง ๆ ที่ผมมั่นใจว่า เมื่อเช้าหาดีแล้ว
ตั้งใจว่า จะไปเที่ยวงาน Book Fair วันนี้ แต่ผมกลับรู้สึกว่า ถึงเที่ยวไปก็คงไม่สนุก
หลังจากที่ไปส่งวรินทำงาน แล้วรบกวนวรินไปส่งคืนการ์ตูนที่หลังมอ ผมก็กลับบ้านมานั่งฟูมฟายอยู่คนเดียว
รู้สึกแสบจมูกไปหมดเลย ทิชชู่ก็ใกล้จะหมดมวนแล้ว
ก็ขอโทษวรินด้วยล่ะกัน ที่กะรันไม่ได้ตั้งใจช่วยทำงาน ได้แต่เร่งวรินให้ทำนั่นทำนี่ และเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีใส่ด้วย
อย่าคิดมากเลยนะคะ
หลังจากนี้ก็ระวังให้มากๆละกัน
ไม่มีใครคนไหนอยากทำพลาดหรอกค่ะ
เราก็เหมือนกัน เคยพลาดแล้วถูกต่อว่า
แต่จริงๆแล้ว ใครกันล่ะที่อยากจะเป็นแบบนั้น จริงม๊ะ
ถ้ากลัวว่าตัวเองจะลืมอีกหายอีก
ก้อไม่ต้องใช้เครื่องแพงมากละกันนะคะ
ถ้ามันเกิดขึ้นอีกก็จะไม่เสียใจมาก
be happyๆๆๆ นะคะ