| All Blog
|
มีอะไร...ไปคุยกับทนายผม "มีอะไร...ไปคุยกับทนายผม" แหม๋อยากพูดประโยคนี้มานานล่ะ ดูเป็นผู้มีอิทธิพลดี ก็นะ.. ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ใช้มุขนี้จริง ๆ เพียงแต่เปลี่ยนเป็น... "มีอะไร...ไว้คุยกับประกัน" ใช่แล้วครับ... ประกัน... ไม่ใช่ ประกันเงินกู้นะ แต่เป็นประกันอุบัติเหตุ แฮะ ๆ แบบว่า เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยอ่ะ ชนกะรถจักรยานยนต์ อะไร? ใครบอกว่า ผมขับรถขนอีกแล้ว? จะบ้าเรอะ...ไม่เคยขับชนมอ'ไซต์นะ เพิ่งครั้งแรก อย่ามามั่ว เล่าเหตุการณ์เลยล่ะกัน แบบว่า นอกเรื่องมานาน ปกติร้าน(ที่)เรา(ทำงาน)จะปิดตอน 4 ทุ่ม เพราะฉะนั้นราว ๆ 3 ทุ่มกว่า ๆ เราจะย้ายรถจากหลังร้าน(ที่อยู่ในซอย)มาจอดที่หน้าร้าน ก็ทำเป็นกิจวัตรล่ะ เพราะแถวหลังร้านมันเป็นร้านเหล้า มีพวกขี้เหล้าเยอะ แล้วก็มีมอ'ไซต์ชอบมาจอดขวางหน้าขวางหลัง ก็เลยต้องย้ายมาจอดหน้าร้าน จะได้สะดวกกว่า เมื่อวานก็เหมือนทุกวัน สัก 3 ทุ่มกว่า ๆ เราก็บอกพี่ผู้จัดการว่า ขอไปย้ายรถหน่อย เดี๋ยวมา แล้วก็หยิบไปแค่กุญแจ เราก็ขับรถออกมาจากซอยเหมือนปกติ บังเอิญวันนี้แถวหน้าซอย มีรถแต่ง ติดสปอยเลอร์ ติดฟิล์มทึบ ก็มองไม่เห็นถนนเลย เราก็เลยค่อย ๆ แหย่ออกมา แล้วจังหวะนั้นเองก็...โครม!!!! O[]o!!! รถจักรยานยนต์ที่มาจากไหนไม่รู้ (จริง ๆ ก็รู้ล่ะ ว่ามาจากทางไหน แต่ตอนมามองไม่เห็น) ล้มไปต่อหน้าต่อตา คือ เค้าขับมาเร็วมาก เราเบรกแล้ว แต่เค้าหลบเราไม่ทัน ก็เลยเฉี่ยวรถเราล้ม (ชนหัวมุมรถเราด้านข้างแล้วลากป้ายทะเบียนเราไปด้วย) ไทยมุงล้านแปด(และฝรั่งอีกนิดหน่อย)ก็มามุงว่าเกิดอะไรขึ้น พลเมืองดี(ฝรั่ง)ก็ไปช่วยคนขี่รถจักรยานยนต์ เค้าปลอดภัยนะ ไม่เป็นไรมาก แต่รถเค้ามีรอยประมาณ 2-3 รอย แล้วเค้าก็เริ่มโวยวาย โวยวายใส่ฝรั่งมุง ในขณะที่เรายกมือขึ้นแล้วก็พูดว่า "เออ...คือ เป็นเจ้าของรถคันนี้ค่ะ" แล้วเค้าก็ยังไม่ยอมหยุดพูดอะนะ ฝรั่งเค้าก็เลยเดินหนี แต่ไทยมุงแถวนั้นยังอยู่ จนในที่สุดก็มีคนบอกให้เค้ามาคุยกับเรา เราเริ่มรำคาญนิด ๆ ประมาณว่า 'มีไรคุยกับฉันดิ คุยกันดี ๆ ทำไมต้องโวยวายใส่คนอื่นด้วย' เราก็บอกว่า "โอเค ทางนี้เป็นฝ่ายผิด เดี๋ยวขอติดต่อประกันก่อน แต่ก่อนอื่นขอไปเอาโทรศัพท์ก่อน เพราะไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย" อย่างที่บอก เราหยิบมาแต่กุญแจรถ ไม่ได้หยิบอะไรมาเลย เลยต้องวิ่งกลับไปที่ร้าน เพื่อไปเอาโทรศํพท์แล้ววิ่งกลับมาที่รถเพื่อโทรหาประกัน เบอร์ที่ติดหน้ารถเป็นเบอร์กทม. เลยโทรไปขอเบอร์เชียงใหม่ ได้มาก็โทรหาประกัน เพื่อดำเนินเรื่อง คนรับโทรศัพท์คุยดีมาก ๆ แบบว่า รู้สึกเหมือนอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อน(ตอนนั้นอยู่คนเดียว) เค้าก็บอกว่าจะรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ให้มาหาเรา ก็ขอเบอร์เราไป แล้วก็แนะนำให้แจ้งความไว้เลย เราก็เลยบอกกับเจ้าของจยย. บอกว่า "รอสักครู่ได้ไหมคะ ตอนนี้ประกันกำลังมา" อยากจะบอกว่า ตอนเราติดต่อประกัน เค้ายังโวยวายไม่หยุดเลย แถมเข้ากับไทยมุงแถวนั้นได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยซะด้วย พอเราบอกว่า ประกันกำลังมา เค้าก็ไม่ยอม แถมไทยมุงก็ยุให้ไม่ยอมซะด้วย ยิ่งเราบอกว่า เราจะแจ้งความก่อน ยิ่งช่วยกันโวยวายใหญ่ เหมือนโดนรุมไงไม่รู้ ถ้าแจ้งความเราเป็นฝ่ายผิดนี่ เค้าไม่น่าจะเสียหายตรงไหน แต่เค้าโวยวายไม่ยอมหยุด (เรามารู้ทีหลังว่า เพราะใบขับขี่เค้าถูกยึดอยู่) เราเลยโทรหาประกันอีกรอบ บอกเค้าว่า อีกฝ่ายไม่ยอมให้แจ้งความ คนรับโทรศัพท์ก็บอกว่า ติดต่อเจ้าหน้าที่แล้ว ตอนนี้กำลังเดินทางไป แล้วเดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะจัดการให้เอง(จะเคลียร์กับอีกฝ่ายให้) เราขี้เกียจฟังเค้าโวยวาย เราก็เลยคุยกับประกันต่อ เรื่องเงื่อนไขการรับประกันอะไรแบบนั้น พอวางหูไป สักพักเจ้าหน้าที่ก็โทรมาบอกว่า ตอนนี้กำลังไปเอาเอกสาร จะไปถึงภายใน 15 นาที เราก็เลยบอกคนนั้นว่า "อีก 15 นาที ประกันจะมา ช่วยรอหน่อยได้ไหมคะ" ตอนนั้น เซ็งมากเลย เพราะไอ่ที่เค้าโวยวายก็ประมาณว่า เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ไทยมุงแถวนั้นฟัง แล้วก็พยายามพูดว่าเราเป็นฝ่ายผิด ประมาณ 30 รอบ/วินาที เออ...เรายังไม่ได้พูดออกไปสักคำว่า เราถูก เราพูดด้วยซ้ำว่า ทางนี้ผิด ก็ยอมรับผิดแล้ว ขอโทษแล้ว เรายังไม่ได้โทษเค้าสักคำ อีกอย่าง การที่เราจะรับผิดชอบโดยการเรียกประกันนี่มันไม่ดีตรงไหนเนี่ย ไม่ให้แจ้งความก็ไม่แจ้งแล้ว รู้ว่ารีบ(เค้าต้องเอาของไปส่งให้หัวหน้า แต่เค้าโทรบอกหัวหน้าแล้วนะ) เราก็ไม่ได้อยู่ว่าง ๆ นี่ เราก็อยู่ในเวลางานเหมือนกันนะ แค่ขอให้รอประกันนี่ จะเงียบหน่อยไม่ได้เรอะ พยายามคุยดี ๆ ด้วยแล้วนะ เคืองนิด ๆ รำคาญหน่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ฟังเค้าโวยวายอยู่ฝ่ายเดียว เค้าขอให้เราจ่ายค่าเสียหาย เราก็บอกไปว่า เราไม่มีเงินติดตัว(ก็มีแค่กุญแจรถ กับมือถือที่เพิ่งไปเอามา) ช่วยรอประกันอีกสักพักได้ไหม แต่ก็เหมือนคุยกันไม่รู้เรื่อง เราก็เลยบอกไปว่า ไว้รอประกันมา แล้วคุยกับประกันล่ะกัน จนในที่สุดเราก็ทนไม่ได้ เลยต้องโทรเร่งเจ้าหน้าที่ ซึ่งเค้าก็กำลังจะมาถึงน่ะล่ะ เหลือเลี้ยวอีก 1 ครั้งก็ถึงแล้ว ในที่สุด เจ้าหน้าที่ก็มาถึง เค้าเลยหันไปโวยวายใส่เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เค้าก็ใจเย็นน่ะนะ(คงเจอคนลักษณะแบบนี้มาเยอะ) ก็พูดนั่นพูดนี่ กับคนนั้น เราก็ได้แต่ยืนฟัง เจ้าหน้าที่เค้าก็สรุปว่า ให้ฝ่ายเราจ่ายค่าเสียหายให้เค้า 800 บาท แล้วก็ให้เราไปติดต่อรับเงินคืนกับทางบริษัท แอบคิดในใจ 'แค่รอยข่วน 2 - 3 รอย นี่มันตั้ง 800 เชียวเรอะ แล้วให้ฉันออกไปก่อนเนี่ยนะ แล้วจะมีประกันไว้ทำไมเนี่ย' เราเลยคุยกับเจ้าหน้าที่สักพัก ก็ยอมตกลงตามที่เค้าบอก (ฝ่ายนั้นเริ่มพูดน้อยลงแล้ว) แต่ว่า เราไม่มีเงินติดตัว เลยขอกลับไปเอาเงินก่อน รวมทั้งเอาบัตรประชาชนไปถ่ายเอกสารด้วย (บัตรเราก็อยู่ที่ร้านอ่ะ) โชคดีหน่อย ร้านถ่ายเอกสารที่อยู่ข้างร้านเรา ยังไม่ปิด(ปกติจะปิดแล้ว) ก็เลยไม่ต้องไปถ่ายไกล ระหว่างนี้เราก็โทรบอกแม่ ก็บอกประมาณว่า ขับรถชน ตอนนี้ประกันกำลังจัดการ กลับไปที่รถอีกที ก็เห็นว่า เจ้าหน้าที่กับฝ่ายนั้น ถือเบียร์คนละกระป๋อง ไม่รู้ว่าเค้าคุยอะไรกัน แต่เราสังเกตได้ว่า ฝ่ายนั้นเงียบไปเลย เลิกโวยวายแล้ว เออ...ประกันมีวิธีแบบนี้ก็ไม่บอก จะได้จัดการซะตั้งแต่แรก เราก็ตกลงจ่ายเงินให้กับฝ่ายนั้น ขอโทษเค้าอีกครั้ง แล้วก็ขอบคุณ แล้วเค้าก็กลับไป แต่เรายังต้องเคลียร์กับประกันต่อ ก็คุย ๆ กันเรื่องการติดต่อของเงินคืน สรุปว่า เราต้องไปติดต่อที่ office แล้วเค้าจะจัดการให้ ต้องเอาทะเบียนรถ(สำเนา) ไปด้วย แต่ office ปิดวันอาทิตย์ เราก็เลยบอกว่า วันจันทร์เราจะติดต่อไป แล้วก็ขอบคุณเค้าที่มาเป็นธุระให้ หลังจากนั้นเราก็ต้องกลับไปที่ร้าน ไปขอโทษพี่ผู้จัดการ ที่เราไม่ได้ช่วยทำงาน ช่วยปิดร้าน พี่เค้าก็เข้าใจ(มั้ง ไม่เห็นว่าอะไร แต่ก็ไม่ได้ยิ้มสักนิด) กลับบ้าน ปกติเราจะยิงเข้ามือถือแม่ ให้มาเปิดประตูวัดให้(เราจอดรถในวัด) แต่เมื่อวาน เราจอดรถแล้วก็เดินเข้ามาตามแม่ที่บ้าน เลยถูกบ่นตั้งแต่ที่บ้าน --> ที่จอดรถ --> ที่บ้าน แต่ก็ไม่มาก(ถ้าเทียบกับตอนที่เคยชนเมื่อก่อน) แล้วเราก็โทรหาเจ้าได ไประบายให้ฟัง ^^"" พอได้ระบายก็หายเครียดนิดหน่อย พรุ่งนี้จะไปติดต่อขอเงินคืน (เค้าบอกว่า จะได้คืนภายใน 15 วัน ในรูปแบบเช็ค) แล้วผลเป็นยังไงจะมาเล่าให้ฟังอีกที
ครับผม
โดย: ดำรงเฮฮา
 วันที่: 28 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:05:03 น. |
riar
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
|||||||||||||
