กุมภาพันธ์ 2549

 
 
 
2
3
4
5
7
8
9
12
13
14
15
16
17
18
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
10 กุมภาพันธ์ 2549
All Blog
เหนื่อยเกินไปรึป่าว?
บล๊อกวันนี้ออกจะงง ๆ สักหน่อย
คำพูดออกจะมั่ว ๆ นิด ๆ
ก็แค่อยากพิมพ์ในสิ่งที่คิด
แนะนำว่า ปิดไปเลยก็ได้


ช่วงนี้เครียด อย่างไม่มีสาเหตุ
ไม่สิ...จะบอกว่าไม่มีสาเหตุก็ไม่ถูก เพียงแต่ว่า มันหลายเรื่องซะจนไม่รู้ว่า เครียดเพราะเรื่องไหนกันแน่
จริง ๆ ก็เครียดเรื้อรังมานาน นานหลายเดือน จนพยายามที่จะไม่คิดอะไร
ทั้ง ๆ ที่พยายามไม่คาดหวังอะไร แต่ผลที่ได้รับมันเกินจะยอมรับได้

ไม่มั่นใจที่จะก้าวต่อไป แต่ก็ไม่สามารถจะถอยหลังกลับได้
เราค่อย ๆ เดินช้าลง แล้วปล่อยให้เวลาไหลผ่านไป
รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน แต่ก็ไม่อยากให้เวลาผ่านเร็วไปมากกว่านี้
กลัวว่า ยิ่งเวลาผ่านไปเร็วเท่าไหร่ จะยิ่งพบกับสิ่งที่ทำให้เจ็บปวดมากขึ้น
กลัวว่า ถ้าเวลานั้นมาถึง เราจะไม่สามารถเดินต่อไปได้อีก


รู้สึกว่ายิ่งเครียด เรายิ่งหนี
ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเราไม่ใช่คนแบบนี้ ไม่ใช่คนที่จะหนีปัญหา
แต่เดี๋ยวนี้ เราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในโลกส่วนตัว โลกแห่งจินตนาการ โลกแห่งความเพ้อฝัน
อยู่กับอดีต...ละทิ้งปัจจุบัน..และเพ้อฝันถึงอนาคต
ทั้ง ๆ ที่เราควรจะโตขึ้น และใช้เหตุผลในแก้ปัญหา
แต่เรา..ไม่โตขึ้นเลยสักนิด

ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ที่พบว่า..
เรากำลังเดินทางผิด...
เราเริ่มหลงทาง..
เริ่มไม่รู้ว่า..ตอนนี้อยู่ที่ไหน
เริ่มสับสนและหวาดกลัว..
"นี่เรากำลังทำอะไรอยู่"
"เราควรจะทำอะไรกันแน่"
"อะไรคือสิ่งที่ดีทีสุด"
"เรากำลังทำอะไรผิดรึป่าว?"
"เราพลาดตรงไหน"



เรากำลังคาดหวังอะไรกันแน่ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้ว ว่า ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง
ทั้ง ๆ ทีรู้อยู่แล้ว ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นผลที่เกิดขึ้นมาจากการกระทำ


ถ้าเป็นเมื่อก่อน
ปัญหาแค่นี้ เราคงผ่านมันไปได้ด้วยความมั่นใจและความภาคภูมิใจ คงผ่านไปโดยไม่ใส่ใจสักนิดว่า มันเป็นปัญหารึป่าว คงผ่านไปโดยคิดว่า มันก็แค่เหตุการณ์หนึ่งเท่านั้น

แต่ตอนนี้ ไม่ว่าอะไรจะผ่านเข้ามา เรื่องเล็กเรื่องใหญ่แค่ไหน เรากลับมองว่า มันเป็นปัญหาไปซะหมด เราไม่ลุกขึ้นสู้เลยสักนิด เอาแต่หนีปัญหา กลัวที่จะเผชิญกับมันโดยตรง

เราไม่เข้มแข็งเลยสักนิด
ยอมรับตรง ๆ เลยว่า ทุกวันนี้เราอยู่ได้เพราะคนรอบข้าง


เมื่อก่อน เราก็เคยเจอปัญหาที่ทำให้อยากจะหายไปจากโลกนี้
ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่เราตัดสินใจหยุดเดิน
ตอนนั้นเราจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า เราทำอะไรแย่ ๆ ไว้บ้าง
เราค่อนข้างจะ"ลืม"และสูญเสียความทรงจำในช่วงนั้นไป
เราปิดช่วงเวลานั้นเอาไว้ แล้วเลือกที่จะหยุดทุกสิ่งทุกอย่าง
ในตอนนั้น เราค่อนข้างโชคดี ที่อย่างน้อย ก็ยังมีคนดึงเราขึ้นมา จูงมือเราให้เราก้าวเดินต่อไป
เราไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า เค้าจะรู้อะไรเกี่ยวกับเราแค่ไหน แต่อย่างน้อย ในตอนนั้น เค้าก็อยู่เคียงข้างเรา ช่วยให้เราลุกขึ้นยืนและเดินได้อีกครั้ง แม้ว่า มันอาจจะสายเกินไป เพราะในตอนนั้นเราปิดเส้นทางที่ควรจะเดิน แล้วเลือกที่จะเปลี่ยนเส้นทางเดิน...ซึ่งผลของมัน กลับส่งผลให้เราเป็นเช่นทุกวันนี้

แต่ปัญหาในตอนนี้มันไม่เหมือนกัน
แม้เราจะยังไม่หยุดเดิน แต่ก็เดินช้าลงมาก
นาน ๆ ทีเพื่อน ๆ ก็จะคอยผลักเราให้เดินเร็วขึ้น แต่สักพัก เราก็จะกลับมาเดินช้าเหมือนเดิม


เราพบว่า แม้เราจะบอกว่า เราอยู่ได้เพราะคนรอบข้าง แต่เรากลับมองไม่เห็นคนที่จะอยู่กับเราในเวลาที่เราต้องการ
บางครั้งเราก็รู้สึกเหงา โดดเดี่ยว
เราไม่ได้ต้องการให้ใครมาอยู่กับเรา 24 ชม.
แต่บางครั้ง เรากลับไม่รู้ว่า เราควรจะคุยกับใครดี
มองไปรอบ ๆ ตัว ไม่มีใคร อยากจะโทรหาใครสักคน แต่ไม่รู้จะโทรหาใคร
ช่องว่างระหว่างเรากับคนรอบตัว เพิ่มขึ้นเมื่อไหร่ไม่รู้
ทั้ง ๆ ที่คิดว่า สนิทกัน แต่บางครั้งก็รู้สึกว่า เราคงเป็นส่วนเกิน.. เค้ามองเห็นเรารึป่าว.. สุญญากาศ..?
เราคิดไปเองสินะ

เราคงเอาแต่ใจมากไป ไม่มีใครชอบคนเอาแต่ใจหรอก
ทุกคนก็เอาแต่ใจตัวเองกันทั้งนั้น
คาดหวังอยากให้สิ่งนั้นเป็นอย่างนี้ สิ่งนี้เป็นอย่างนั้น
อะไรที่มันต่างออกไป ถ้ายอมรับได้ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ายอมรับไม่ได้ ก็ไม่ชอบ

อยากจะกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง..
แต่เรากลับลำช้าไป...เพิ่งมารู้สึกตัวก็ตอนที่สายไปซะแล้ว
จริง ๆ ช่วงที่ผ่านมา เรารู้มาตลอดว่าไม่สามารถกลับไปเริ่มต้นใหม่ได้อีก รู้มาตลอดว่า ทางเลือกของเรา ไม่เหลือแล้ว
ทั้ง ๆ ที่เป็นแบบนั้น แต่เราก็พยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้เราเข้าใกล้สิ่งที่ใกล้เคียงกับการเริ่มต้นใหม่ แม้ว่ามันอาจจะไม่สวยงามเหมือนเมื่อก่อน และอาจจะต้องแลกด้วยความไว้วางใจของคนรอบข้าง
เราไม่ยอมรับทางเดินที่ผิดพลาดของตัวเอง ไม่ยอมรับว่าตัวเองเดินทางผิด ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด
แต่จริง ๆ แล้ว เราอาจจะยอมรับมันก็ได้ เพราะยอมรับว่าทางเดินนี้มันผิดพลาด เพราะยอมรับว่ากำลังเดินทางผิด เพราะยอมรับว่าเรานั่นแหละที่ผิด เราก็เลยพยายามที่จะหนีออกจากเส้นทางที่ผิดพลาดนี้ เพื่อไปหาเส้นทางใหม่ที่คิดว่าดีกว่า แม้ว่าจะต้องเริ่มต้นใหม่
และแล้วเราก็รู้ว่า เรากลับไปไม่ได้อีกแล้ว สิ่งที่ใกล้เคียงกับการเริ่มต้นใหม่อะไรนั่น ก็แค่จินตนาการ แค่ความฝัน มันไม่มีอยู่จริงตั้งแต่ต้น สร้างวิมานในอากาศ ทุ่มเทไปกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน เรากำลังหลอกตัวเอง

สับสนกับเส้นทางเดิม พอคิดว่า อาจจะได้ความภาคภูมิใจกลับมากับเส้นทางใหม่ ก็ต้องผิดหวังซ้ำสอง
ยิ่งเดิน ยิ่งก้าวพลาดมากขึ้น
ความภาคภูมิใจ ความมั่นใจที่เคยมีกำลังจะหมดไป



สิ่งเดียวที่หวังอยู่ตอนนี้ ก็แค่...
ไม่ขอให้ล้มไปมากกว่านี้


ช่วงนี้อาจจะเดินช้าไปบ้าง แต่ภาวนาว่า อย่าล้มเป็นพอ
ถ้าเมื่อก่อนล้มแล้วคงจะลุกได้ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้ เราไม่มั่นใจอีกแล้วว่า ถ้าเราล้มไป เราจะเข้มแข็งพอที่จะสามารถลุกขึ้นมาได้ด้วยตัวเองอีกครั้งไหม

อยากจะโตพอ.. มีเหตุมีผล
อยากจะเข้มแข็ง.. กล้าเผชิญกับปัญหา
อยากจะอยู่ได้ด้วยตนเอง.. ไม่ใช่เพราะคนรอบข้าง


แต่ก็รู้สึกเหนื่อย เกินกว่าที่จะทำอะไร...

ถ้ามัวแต่หยุดพัก.. คงไม่มีวันไปถึงเส้นชัย

ปลอบตัวเองให้ เดินไปอย่างช้า ๆ เพื่อที่วันหนึ่งอาจจะไปถึงเส้นชัยที่ยังมองไม่เห็น...

เส้นชัย..ที่ไม่มีอยู่จริง



"โลกสวยงามเสมอ"

และ

"โลกโหดร้ายเสมอ"

อยู่ที่ว่าจะมองเช่นไร?


สุดท้าย...โลกก็แค่ดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง




Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2549 23:00:19 น.
Counter : 426 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

riar
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments
  •  Bloggang.com