เข้าชั้นเรียนกับ Drucker (2)
ชั้นเรียนที่ Claremont
Bill Cohen ผู้เขียนและถ่ายทอดความทรงจำของตนกับคุณปู่ Drucker เป็นศิษย์ปริญญาเอกรุ่นแรกของ Claremont Graduate School ใช้ชีวิตในชั้นเรียนที่นี่ระหว่างปี 1975-1979 (พ.ศ. 2518-2522 ) ความสัมพันธ์ของบุคคลทั้งคู่ แม้จะไม่ลึกซึ้งถึงขนาด Mitch Albom กับคุณครู Morrie ในหนังสือและหนังเรื่อง'ซึ้งเศร้า Tuesdays with Morrie ( ได้ดูกันหรือเปล่าเอ่ย ประโยคสำคัญที่พอจำได้ Once you know how to die, you know how to live) แต่ Bill ก็คงสถานภาพศิษย์-ครู Mentor จวบจนวาระสุดท้ายของฝ่ายหลัง
ก่อนจะเข้าชั้นเรียนปริญญาเอกที่ Harper Hall อันเก่าแก่ มาทำความรู้จักโรงเรียนธุรกิจของเราสักเล็กน้อย
Claremont Graduate School เป็น Business School สังกัด Claremont Colleges แห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย อันมีคุณปู่ Peter Drucker ผู้ตัดสินใจมุ่งตะวันตก มาบุกเบิกตำนานเป็นปรมาจารย์ เมื่อปี 1971 อายุอานามขณะนั้นก็ประมาณ 60 ปีกว่าๆ วัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นโรงเรียนบริหารธุรกิจสำหรับคนทำงาน (Practicing Manager) อำนวยการสอนหลักสูตร MBA, Executive MBA และต่อมาขยายถึงระดับ PhD ซึ่ง Bill Cohen เป็นหนูเอ๊ยศิษย์ทดลองรุ่นแรก
Claremont Graduate School ได้เปลี่ยนชื่อ เป็น Peter F. Drucker and Masatoshi Ito Graduate School ในปี 1987 เพื่อยกย่องและให้เกียรติผู้บุกเบิกหลักสูตรคือคุณปู่ Drucker และ Mr. Ito ผู้ให้เงินทุนสนับสนุนก่อตั้งแต่แรกเริ่ม แน่นอน การเปลี่ยนชื่อก็ย่อมมีกุศโลบาย เพื่อเรียกความสนใจจากตลาดการศึกษาด้วย ไหนๆโปรเฟสเซอร์ชื่อดังสอนสถิตที่นี่ (และคิดว่าคงจะไม่ไปไหนอีกแล้ว) ไฉนเลยจะไม่เอามาเป็นจุดขาย
คุณปู่ Drucker สอนจนถึงฤดูใบไม้ผลิปี 2002 ก่อนจะเลิกราไปเพราะปัญหาสุขภาพ นั่นหมายความว่า คุณปู่ขอปลดเกษียณหยุดสอนสิ้นเชิงตอนอายุ 93 ปี ว๊าว...
แล้ว Bill Cohen ล่ะเป็นใคร ถึงยอมสมัครใจมาเป็น 1 ใน 10 ของหนูเอ๊ยศิษย์ทดลองรุ่นแรก ทำคะแนนวิชาที่คุณปู่สอนได้ดีที่สุด ขณะที่วิชาอื่นก็งั้นๆ
จากบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์ที่ West Point ต่อ MBA ที่มหาวิทยาลัยชิคาโก Bill Cohen มีโอกาสเปิดหูเปิดตาไปประจำการที่อิสราเอลพักหนึ่ง แล้วก็กลับมาทำงานในหน่วยงานผลิตเครื่องชูชีพ ให้กับกองทัพอากาศและสายการบินอเมริกัน ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนา ที่วันๆหมกมุ่นอยู่ในแต่ห้องทดสอบระบบ จนถึงวันหนึ่งเงยหน้าขึ้นมา เอ้า...พรรคพวกหายไปไหนหมดแล้ว กอปรกับตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น ปกครองดูแลลูกน้องมากหน้าหลายตา จนชักจะเห็นว่า ออกแบบ แก้ไขแบบชิ้นส่วนสารพัด อย่างไง้อย่างไงก็ไม่ยุ่งยากเหมือนแก้ไขปัญหาคน ทำงานมาเป็นสิบๆปีรู้จักเครื่องยนต์กลไกพิศดารหมด แต่ไม่เคยรู้ลึกถึงหัวใจคนทำงานเลย คิดสะระตะได้ดั่งนี้แล้ว เห็นทีจะต้องหาที่ฝึกปรือวิทยายุทธ์ใหม่นอกจากห้องทดลอง
นี่คือจุดเริ่มต้นของการเข้าชั้นเรียนกับคุณปู่ Drucker ที่ Claremont Graduate School ซึ่งเจ้าตัวต้องจำทนขับรถจากที่ทำงานตอนเย็นมาถึงบริเวณแคมปัสเป็นเวลา 2 ชั่วโมง เข้าชั้นเรียนช่วงหัวค่ำจนดึกแล้วก็ขับกลับบ้านอีก 2 ชั่วโมง เป็นเช่นนี้ทุกอาทิตย์ตลอดระยะเวลาที่เรียนที่นี่
แต่อะไรล่ะที่ทำให้ Bill ยอมขับรถไกลวันละ 4 ชั่วโมงเพื่อมาเรียนกับ Drucker (ที่ชอบสอนเกินชั่วโมงเรียนอยู่เรื่อย คือ 4 ทุ่ม บางครั้งปาเข้าไปเกือบ 5 ทุ่ม หรือสอนจนกว่าจะสิ้นสุดแม้จะถึงเที่ยงคืนก็ตาม )
แน่ล่ะ นอกเหนือจากได้มีโอกาสใกล้ชิด กับนักปรัชญาธุรกิจคนดังผู้เขียนหนังสือมากมาย หลักสูตรและวิธีการสอนของชั้นเรียนที่นี่ต่างหากที่ทำให้เขาคิดว่า.. ใช่เลย
ปกติชั้นเรียนปริญญาเอกทุกที่จะเน้นความเป็น Specialization ผู้สมัครเข้ามาเรียนถึงระดับนี้ ก็มักจะเป็นอาจารย์ นักวิจัย นักวิชาการของแขนงนั้นๆ มาต่อยอดองค์ความรู้ของตัวเอง ใครสนใจแขนงวิชาไหน ขุดกันให้ลึกลงไป ถึงราก ถึงโคน ถึงต้นตระกูลเลยถ้าเป็นไปได้ ฉะนั้นไม่แปลกใจถ้าบรรดาด็อกเตอร์ทั้งหลายจะยืดอกพูดอย่างภูมิใจว่า ยิ่งเรียนสูงเท่าไหร่ ยิ่งรู้น้อยลงเท่านั้น ยิ่งรู้น้อย ยิ่งไม่กล้าพูด หรือตระหนี่ ระมัดระวังคำจำนรรจามากขึ้น และเจ้าความรู้ในสิ่งที่น้อยคนรู้นี่แหละ ทำให้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษในเวลาต่อมา
โอ้..พระเจ้า
ท้ายสุด ก็มักจะจบบทบาทเป็นนักวิชาการ ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัย (เอ..ถึงตอนนั้นแล้วต้องกล้ากล้าพูดแล้วกระมัง)
หากที่ Claremont หลักสูตรการสอนซึ่งคุณปู่ Drucker มีส่วนร่าง มุ่งเจาะจง Practicing Manager / Practitioner มากกว่า เริ่มตั้งแต่คุณสมบัติเบื้องต้น ผู้เรียนจะต้องทำงานด้านบริหารมาไม่น้อยกว่าเวลาที่กำหนด ระหว่างเรียน (และทำงานไปด้วย)ก็ต้องทำวิจัย ค้นคว้า เขียนบทความ นำเสนอผลงานในชั้นและพร้อมจะถูกวิจารณ์เป็นระยะๆ ท้ายสุดของผลลัพธ์ก็เพื่อนำความรู้ไปปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในฐานะผู้บริหารองค์กร เนื้อหาทั้งหมดย้ำเน้นถึงหลักจัดการบริหารธุรกิจสมัยใหม่สำหรับองค์กรที่มีอยู่จริง มากกว่าจะเน้นให้คนเรียนจบไปเป็นนักทฤษฎีผู้ริเริ่มโมเดลธุรกิจชวนทึ่ง แต่ถ้าอยากหันเหชีวิตไปลับคมหอกวิชาการ ก็ไม่ผิดกติกาอะไร อย่าง Bill เองในบั้นปลายชีวิตก็กลับมาเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย
ฉะนั้นเมื่อคุณจบ MBA มา คุณเป็นเป็ด เมื่อจบที่ Claremont Graduate School คุณก็ยังเป็นเป็ดอยู่
เพียงแต่เป็ดพันธุ์ใหม่อาจจะรู้วิธีบินสูงเหิรฟ้าไกลกว่าเดิม เวลาร่อนถลาก็นุ่มนวลกว่า อาจจะรู้วิธีว่ายน้ำให้ไกลกว่าเดิม ดำน้ำได้อึดกว่า แยกแยะจอกแหนออกจากสาหร่ายได้แม่นยำกว่า สวมบทบาทความเข้าใจในมิติของสัตว์อื่นนอกเหนือจากเป็ด เช่น สายตาเหยี่ยวที่มองฝูงลูกไก่แน่วนิ่ง กับสายตาลูกไก่ที่ดีใจกะตู้วู้เพียงเมื่อเห็นหนอนตัวกะจิดริด
ตอนหน้า ไปรู้จัก คุณครู Drucker ผู้ไม่ธรรมดา
Create Date : 29 สิงหาคม 2551 |
|
4 comments |
Last Update : 30 สิงหาคม 2551 11:19:41 น. |
Counter : 974 Pageviews. |
|
|
มีความสุขนะค่ะ
ว้าวววววววววว
เราอยากเป็นเป็ดพันธ์ใหม่ค่ะ
อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ