จากใจ เด็กตาบอดคนหนึ่ง
ความรู้สึกของหนู เมื่อเกิดมาตาบอด
ผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน หรือบางคนที่เป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่ เพื่อน ๆ เด็ก ๆ ที่ยังเรียนชั้นประถม หรือบุคคลอื่น ๆ ส่วนมาก จะคิดเสมอยามพูดคุยกับหนู ถามไถ่ประวัติของหนูว่า
“ทำไมจึงตาบอด” หรือ “ทำไมพี่จึงตาบอด”
หนูตอบเขาได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ถ้าตอบได้ก็จะตอบไปว่า
“เกิดจากแม่พี่ครรภ์เป็นพิษ พี่คลอดออกมาหนัก 9 ขีด เข้าตู้อบอยู่เดือนครึ่ง ทำให้เส้นประสาทตาถูกทำลายจนบอดไป 1 ข้าง อีกข้างหนึ่งเห็นได้เพียงเลือนลางเท่านั้น”
แต่ถ้าหนูตอบไม่ได้ก็จะบอกว่า
“เรื่องมันยาว น้องไม่เข้าใจหรอก” คำตอบนี้ไว้สำหรับเด็กอนุบาลที่ยังเล็ก
เมื่อหนูเล่าความเป็นมาเสร็จ พวกเขามักจะพูดว่า
“อาจจะเกิดจากกรรมที่พี่ทำไว้เมื่อชาติก่อนก็ได้” หรือ “ชาติที่แล้วพี่ไปควักลูกตาปลามา พี่ถึงได้ตาบอด” เป็นต้น
เมื่อหนูได้ยินคำพูดเหล่านี้ หนูถึงกับเดินหนี ไม่สามารถรับฟังได้ เพราะความเชื่อของหนู หนูเชื่อในหลักความเป็นจริง คือ ตาของหนูเกิดจากเส้นประสาทตาถูกทำลาย จึงมองไม่เห็น
เมื่อปรึกษากับพ่อ พ่อก็ให้ความเห็นว่า “แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน ลูกอย่าไปสนใจมาก เชื่อยังไงเราก็เชื่อของเราอย่างนั้น”
ฉะนั้น เมื่อมีใครมาพูดเรื่องกรรมกับหนู หนูจึงทำเฉย รับฟังเอาทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยเชื่อ
ยามใดที่หนูเดินเข้าไปในสังคมน้องอนุบาลที่โรงเรียนแจ้งวิทยา ขณะที่หนูกำลังจะเดินเข้าห้องเรียน ซึ่งต้องผ่านแถว ที่น้องอนุบาลเข้าอยู่ พวกเขามักจะล้อว่า
“ตาบอด ตาบอด”
หนูก็โกรธวูบหนึ่ง แต่พอรู้สึกตัวอีกทีก็เตือนตัวเองว่า “ไม่เป็นไร เขาไม่เข้าใจ”
หนูโดนล้อมาเยอะ ทั้งจากเพื่อน ๆ วัยเดียวกัน ตอนย้ายมาอยู่โรงเรียนใหม่ ตอนนั้นหนูเข้าใหม่ อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดนเพื่อนรุมล้อว่า
“ไอ้เด็กไม่มีปัญญา ไอ้บอด พ่อแม่มึงตาย” สารพัด
โดนหยิก อิจฉาริษยา เป็นต้น หนูแก้ปัญหา โดยการร้องไห้ลูกเดียว
มาตอนหลัง ๆ หนูอ่านหนังสือของอาจารย์วิริยะ นามศิริพงพันธ์ ชื่อว่า
“บอดแค่ตา แต่การศึกษาช่วยพัฒนา”
หนูยังจำได้ขึ้นใจถึงประวัติของท่าน สาเหตุที่ท่านตาพิการ และความประสบผลสำเร็จในชีวิตของท่าน หนังสือเล่มนี้คือ “แรงบันดาลใจ” หรือ “ไฟฉาย” ให้หนูได้ตาสว่าง
ตอนนี้ หนูไม่รู้สึกแล้วว่าหนูตาบอด แปลกใจตัวเองเหมือนกัน ความรู้สึกตอนนี้คือ เหมือนคนปกติ ไม่นึกสงสารตัวเอง แถมไม่นึกด้วยซ้ำว่าเราตาบอด แปลกมาก อาจเป็นเพราะไม่มีใครมาล้อกระมัง จึงรู้สึกแบบนี้ วันหลังคงต้องไปให้คนเขาล้อกันมาก ๆ จะได้ชิน อ้อ ล้อเล่นน่ะ
สิ่งที่หนูและคนตาบอดรายอื่น ๆ ต้องการเป็นอย่างยิ่ง คือ โอกาส หนูอยากขอร้องท่านที่เป็นคนตาดี กรุณาให้โอกาสหนู ได้แสดงศักยภาพ หนูคิดว่าคนตาบอดสามารถทำเกือบทุกอย่าง ได้เหมือนคนปกติ ถ้าเขาได้เรียนรู้ และ มีเวลาฝึกสอน อย่างถูกต้อง มากเพียงพอ
ป.ล. เรื่องนี้ น้องโรสเคยเขียนเอาไว้แล้ว ครั้งหนึ่ง ผมเห็นว่า เป็นความรู้สึกจากใจเขา ลึกๆ ก็เลย เอามาพิมพ์ อีกครั้งครับ
ทวีศักดิ์
เช้านี้ ที่หัวเขาแดง สงขลา
หัวเขาแดงเป็นคอคอด เป็นทางออกสู่ทะเลหลวง ของทะเลสาบสงขลา ภาพนี้ เป็นภาพ panorama 180 องศา ด้านซ้ายมือเราสุด จะเป็น ทะเลสาบสงขลา ด้านขวามือ คือ ทะเลหลวง หรือ อ่าวไทย นั่นเอง ดูภาพใหญ่กดตรงนี้ ครับ
เมื่อได้ภาพแล้ว กดที่ภาพอีกครั้ง จะเป็นภาพใหญ่ที่สุดครับ
Create Date : 22 กรกฎาคม 2551 |
|
12 comments |
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 14:42:44 น. |
Counter : 1048 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Chulapinan IP: 202.149.101.35 22 กรกฎาคม 2551 12:20:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่หวาน IP: 124.121.230.156 22 กรกฎาคม 2551 12:22:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่ป้อมพี่ปาน IP: 125.24.220.158 22 กรกฎาคม 2551 13:01:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: yyswim 22 กรกฎาคม 2551 13:58:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่ป้อมพี่ปาน IP: 125.24.230.232 23 กรกฎาคม 2551 16:00:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทวีศักดิ์ ถาวรรัตน์ (คนตาพิการ ) 23 กรกฎาคม 2551 22:09:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: natalie IP: 203.121.162.4 24 กรกฎาคม 2551 12:43:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]
|
คนตาพิการ
ชื่อจริง นุ่นนิจ ถาวรรัตน์ ชื่อเล่น โรส
ปัจจุบัน อายุ 23 ปี ตาพิการทั้ง 2 ข้าง กำลังเรียนหนังสือ ณ สถาบันราชภัฏ สงขลา คณะ ครุศาสตร์ ปีที่ 3 โปรแกรมภาษาไทย
โรส ชอบเขียนเรื่องราวต่างๆที่ได้ประสบ พิมพ์เป็นตัวอักษรปกติบนคอมพิวเตอร์ แล้วพ่อจึง copy นำมา Post ที่นี่
ข้อความต่างๆส่วนใหญ่เป็น ความคิด ความเข้าใจ และจินตนาการ บนพื้นฐานของความเป็น คนตาพิการ ของ น้องโรส ทั้งหมด
E-mail คุยกับน้องโรส คนตาพิการ
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|