โกรธแค้นหรือขอบคุณ
สิ่งที่ทำให้เราได้รับผลลัพธ์ที่เหมือนหรือแตกต่างกันก็เป็นเพราะน้ำหนักของพลังงานบวก Positive Thinking และน้ำหนักของพลังงานลบ Negative Thinking + ความหนักเบาของความเข้มแข็งและความอ่อนแอมากน้อยทางด้านความคิดและการกระทำเก่าใหม่ ที่เราใส่เข้าไปในสถานการณ์หรือเหตุการณ์ต่างๆที่เราเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ทุกคนจะได้รับผลจากความคิดและการกระทำที่เกิดขึ้นสองทาง ซึ่งทั้งสองทางล้วนเกิดขึ้นมาจากความคิดและการกระทำของตัวเองด้วยกันทั้งสิ้นคือ
1. เราจะได้รับผลจากความคิดและการกระทำของตัวเอง
2. เราจะได้รับผลจากการนำเอาความคิดความรู้สึกและการกระทำของตัวเองเข้าไปรองรับความคิดความรู้สึกและการกระทำของผู้อื่น
ซึ่งการตัดสินใจที่จะเลือกทางใดทางหนึ่งก็มาจากระดับของความเข้มแข็งและความอ่อนแอ+ระดับของพลังงานบวก Positive Thinking และพลังงานลบ Negative Thinking ที่อยู่ในตัวของคนเรา มนุษย์ทุกคนมีทั้งความคิดดีและความคิดชั่วรวมกันอยู่ในความคิดของคนเรา เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นได้ทั้งคนดีและคนไม่ดีขึ้นอยู่กับว่า เราจะเลือกหยิบเอาความคิดใดขึ้นมาปฎิบัติและการจะเลือกหยิบเอาความคิดใดขึ้นมาปฎิบัติก็ขึ้นอยู่กับระดับของความเข้มแข็งและความอ่อนแอ+ระดับของพลังงานบวก Positive Thinking และพลังงานลบ Negative Thinking ในแต่ละเรื่องแต่ละความรู้ความเข้าใจที่เรามีอยู่ในตัวของเรา ทุกเหตุการณ์ทุกสถานการณ์ทุกคนที่เข้ามามีส่วนร่วมก็เป็นไปเพื่อให้เราได้สัมผัสและมองเห็นความจริงที่เกิดขึ้นในความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราและเราส่งความคิด(พลังงาน)เหล่านั้นออกไปเพื่อดึงดูดผู้คนเพื่อเข้ามาช่วยสร้างสถานการณ์และเหตุการณ์ต่างๆขึ้น พลังงานที่เหมือนกันก็จะดึงดูดพลังงานที่เหมือนกันเข้าหากัน ซึ่งหมายความว่า ทั้งเราและคนที่เข้ามามีส่วนร่วมกับสถานการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างก็ดึงดูดกันและกันเข้าหากันเพราะฉะนั้นทุกคนต่างก็ต้องมีส่วนร่วมกันแสดงความรับผิดชอบในส่วนของความคิด ความรู้สึก และการกระทำของตัวเองด้วยกันทุกคน ถ้าทุกคนสามารถแสดงความรับผิดชอบในส่วนของความคิด ความรู้สึก และการกระทำของตัวเอง ปัญหาต่างๆจะไม่สามารถไปต่อได้ถ้าปราศจากการส่งต่อหรือสานต่อ
ทุกสิ่งทุกอย่างทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดถูกเราสร้างขึ้นเพื่อทำให้ภาพมายาหรือภาพจิตนาการที่เราคิดขึ้นในความคิดเกิดความสมบูรณ์ เพราะเราไม่สามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจสิ่งที่เราคิดอยู่ภายในเพียงอย่างเดียวได้ เราจะต้องได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่สามารถบ่งบอกถึงการมีอยู่ของภาพมายาหรือภาพจิตนาการที่เราคิดขึ้นในความคิด เราจึงต้องสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นภายนอกเพื่อให้เราได้รับความรู้สึกที่เกิดจากการได้แตะต้องสัมผัสกับสถานการณ์การจริงและเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่มีส่วนสำคัญในการเติมเต็มให้ภาพมายาหรือภาพจิตนาการที่เราคิดขึ้นในความคิดและทำให้การเรียนรู้และทำความเข้าใจเป็นไปด้วยความสมบูรณ์พร้อมที่สุด ดังนั้นแทนที่เราจะแสดงความรู้สึกโกรธแค้นชิงชังกับสถานการณ์หรือผู้คนที่เข้ามามีส่วนร่วมกับสถานการณ์หรือเหตุการณ์ต่างๆราควรจะแสดงความขอบคุณกับสถานการณ์หรือผู้คนที่เข้ามามีส่วนร่วมกับสถานการณ์หรือเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นและทำให้เราได้สัมผัสกับภาพมายาหรือภาพจิตนาการที่เราคิดขึ้น ซึ่งทำให้การเรียนรู้และทำความเข้าใจเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบและสวยสดงดงามอย่างที่ควรเป็น
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [