กันยายน 2561

 
 
 
 
 
 
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
เริ่มต้นด้วยสิ่งที่คุณมี แต่อย่าดำรงอยู่ในสิ่งที่คุณมี
ชีวิตทุกชีวิตเริ่มต้นจากความไม่สมดุลย์ของจิตวิญญาณ spirit ขั้วลบ (อดีต) และจิตวิญญาณ soul ขั้วบวก (อนาคต) ที่เราทุกคนมีอยู่ในตัวเอง จิตวิญญาณทั้งสองคือ ส่วนหนึ่งและไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกันและกัน จิตวิญญาณ spirit ขั้วลบ (อดีต) คือ จิตวิญญาณ soul ขั้วบวก (อนาคต) และจิตวิญญาณ soul ขั้วบวก (อนาคต) ก็คือ จิตวิญญาณ spirit ขั้วลบ (อดีต) ทั้งจิตวิญญาณ spirit ขั้วลบ (อดีต) ใช่และยังไม่ใช่จิตวิญญาณ soul ขั้วบวก (อนาคต) จนกว่าเราจะสามารถนำพาจิตวิญญาณทั้งสองแยกออกจากกัน แต่ไม่ขาดออกจากกันได้สำเร็จโดยสมบูรณ์และทำให้ชีวิตของเราเกิดมีองค์ประกอบครบสมบูรณ์คือ มีอดีตปัจจุบันและอนาคต ความสามารถในการนำพาจิตวิญญาณทั้งสองแยกออกจากกัน แต่ไม่ขาดออกจากกันได้บางส่วนจะทำให้เรามีเพียงอดีตกับปัจจุบันและปัจจุบันกับอดีต=การพายเรือวนอยู่กับอดีตกับปัจจุบันและปัจจุบันกับอดีต ไม่มีอนาคตนั่นเพราะเรายึดติดอยู่กับสิ่งที่เรามีและทำแต่สิ่งที่เรามีจึงทำให้เรามีชีวิตวนอยู่กับอดีตกับปัจจุบันและปัจจุบันกับอดีตโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัวในเวลาเดียวกัน

จิตวิญญาณทั้งสองมีความเหมือนและไม่เหมือนกันในเวลาเดียวกันคือ มีระดับของความต้องการ (ความสมบูรณ์พูนสุขหรือความเป็นสุญญากาศโดยสมบูรณ์) อยู่ในระดับเดียวกัน แต่มีพลังงานขั้วลบและขั้วบวกต่างกันจึงมีทางเดินหรือวิธีการทำงานที่แตกต่างกันส่งผลทำให้ได้รับผลที่มีความเหมือนและแตกต่างกันตามไปด้วย จึงทำให้ภายในความเหมือนมีความต่างและภายในความต่างก็มีความเหมือนรวมอยู่ด้วยเสมอ การแยกแยะความเหมือนและความต่างออกจากกันเป็นเรื่องง่ายและไม่ง่ายในเวลาเดียวกันสาเหตุที่เป็นเรื่องง่ายในการแยกแยะความเหมือนและความต่างออกจากกันก็มาจากความเป็นมนุษย์ที่มีสมองที่สามารถสร้างสรรค์ความคิดและจิตนาการได้ไม่จำกัด แต่สาเหตุที่เป็นเรื่องไม่ง่ายในการแยกแยะความเหมือนและความต่างออกจากกันก็มาจากความเป็นมนุษย์ที่มีสมองที่สามารถสร้างสรรค์ความคิดและจิตนาการได้ไม่จำกัดแต่ถูกจำกัดโดยตัวความคิดและไม่ใช่ตัวความคิดเองในเวลาเดียวกัน

ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้คือสิ่งเดียวกันที่แยกออกจากกัน แต่ไม่ขาดออกจากกัน ฉะนั้นการยึดติดอยู่กับสิ่งที่เรามีอยู่จึงเท่ากับเรายึดติดอยู่กับสิ่งที่เราไม่มีอยู่ด้วยเช่นกัน โลกมีความใช่และไม่ใช่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน เป็นและไม่เป็นในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน มีและไม่มีในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน จริงและไม่จริงในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน อยู่และไม่อยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ฉะนั้นการดำรงอยู่ในสิ่งที่คุณมีจึงเท่ากับการดำรงในสิ่งที่คุณไม่มีด้วยเหมือนกัน เมื่อโลกมีความใช่และไม่ใช่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน เป็นและไม่เป็นในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน มีและไม่มีในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน จริงและไม่จริงในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน อยู่และไม่อยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน เราจึงควรปล่อยวางในความใช่และไม่ใช่ มีและไม่มี เป็นและไม่เป็น จริงและไม่จริงของโลก แล้วหันมาให้ความสนใจกับความใช่และไม่ใช่ มีและไม่มี เป็นและไม่เป็น จริงและไม่จริงของตัวเราเองที่จะทำให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการ=การเดินออกจากอดีตสู่ปัจจุบันและจากปัจจุบันไปสู่อนาคต

*การดำรงอยู่ในสิ่งที่เรามีทำให้เรามีและไม่มีอนาคตในเวลาเดียวกันเพราะ การดำรงอยู่ในสิ่งที่เรามี=ชีวิตวนอยู่กับอดีตกับปัจจุบันและปัจจุบันกับอดีต ฉะนันอนาคตของเราก็คือ อดีตของเราที่ยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นอนาคตโดยสมบูรณ์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอดีตเราเป็นขโมย ปัจจุบันเราก็ยังเป็นขโมย อนาคตเราก็ไม่สามารถเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากเป็นขโมย

*โลก คน สัตว์ สิ่งของ ทั้งหมดทำหน้าที่เป็นตัวนำของพลังงานต่างๆ มนุษย์คือ สัตว์ประเสริฐ ดังนั้นมนุษย์ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่เป็นตัวนำพลังงานเท่านั้นมนุษย์ยังต้องทำหน้าที่เป็นตัวแปลงพลังงานด้วยเพื่อทำให้ชีวิตเกิดมีองค์ประกอบที่ครบถ้วนความสมบูรณ์คือ อดีตปัจจุบันและอนาคต



Create Date : 07 กันยายน 2561
Last Update : 7 กันยายน 2561 13:02:22 น.
Counter : 671 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3784113
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

There is no way to happiness, happiness is the way.

การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง

คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว