พฤษภาคม 2563

 
 
 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ชีวิตกลับด้าน New Normal ในระดับควอนตัม (Must read)
การสร้างวิถีชีวิตแบบใหม่บนพื้นฐานของการใช้ชีวิตแบบเดิม คำว่า พื้นฐานการใช้ชีวิต จะมีสถานะและสภาวะของความน่าจะเป็นสองระบบคือ จุลภาคและมหภาค และสองทิศทางคือ ภายในและภายนอก ทั้งสี่ส่วนถือเป็นองค์ประกอบของระบบเดียวกัน แต่ภายใต้ความเป็นองค์ประกอบของระบบเดียวกันทั้งสี่ส่วนกลับมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งขนาด จำนวนและปริมาณ ทิศทาง ตำแหน่งและโมเมนตัม

ตัวเราเองประกอบด้วยอิเล็กตรอน อะตอมและโมเลกุล ซึ่งถือว่าเป็นระบบควอนตัม

การใช้ชีวิตแบบปกติ Normal ในระดับควอนตัมมหภาค หมายถึง การเปิดเผยตัวของสถานการณ์ต่างๆทั้งในส่วนที่มนุษย์สามารถและไม่สามารถรับรู้และทำความเข้าใจได้ ทุกสิ่งจะตามมาด้วยการตั้งคำถามต่างๆมากมายทั้งที่เราสามารถหาคำตอบได้ด้วยตัวเองและรอ/ถามจากผู้รู้ ซึ่งคำตอบจะมีน้ำหนักและมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสถานะและคุณสมบัติภายนอกของผู้ตอบคำถามว่าอยู่ในสถานะที่น่าเชื่อถือหรือไม่ ถ้าหากเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงก็จะทำให้คำตอบมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แต่ถ้าหากเป็นบุคคลทั่วไป no name ความน่าเชื่อถือก็จะถูกทำให้ลดน้อยลงตามลำดับ ซึ่งทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับจุดยืนของผู้ตั้งคำถาม/ผู้ตอบคำถามแต่ละคน ซึ่งการแสดงออกส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่แสดงว่า บุคคลผู้นั้นเป็นอย่างไร และมีความน่าจะเป็นในส่วนของคนอื่นที่แยกออกเป็นสองทางคือ คนอื่นเป็นอย่างไรและไม่เป็นอย่างไร ความหมายคือ สิ่งที่เราคิดและเข้าใจว่าคนอื่นเป็นอย่างไรอาจมีความไม่แน่นอนที่จะเป็นและหรือไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดและเข้าใจว่าเค้าเป็นก็ได้ แต่สิ่งที่มีความแน่นอนคือ เราเป็นในสิ่งที่เราคิดรู้สึกและทำ ถ้าหากเรายังไม่เข้าใจตัวเอง เราจะเข้าใจผู้อื่นได้อย่างไร สิ่งที่มนุษย์เรียกว่า ปัญหา เกิดมาจากสองส่วนคือ ภายในและภายนอก ทั้งสองส่วนมีความสำคัญเหมือนกัน แต่มีไม่เท่ากัน ซึ่งในระดับมหภาคมนุษย์จะให้ความสำคัญกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกมากกว่าภายใน เนื่องจากเป็นส่วนที่สามารถมองเห็นและรับรู้ได้ง่ายกว่าและเป็นส่วนที่ส่งผลกระทบต่อความคิดความรู้สึกภายในของเราได้มากกว่าและรวดเร็วกว่า ซึ่งเกิดจากการกระทำของแรงโน้มถ่วง แรงดึงดูดแรงไทดัล และการหมุนทวนเข็มนาฬิกาและตามเข็มนาฬิกาของโลก (สังเกตได้จากการไหลของน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติก)

การใช้ชีวิตกลับด้าน New Normal ในระดับควอนตัมจุลภาค หมายถึง เมื่อใดที่มีการเปิดเผยตัวของทุกสรรพสิ่งไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นใคร/อะไรอยู่ไกลแค่ไหน ถ้าหากเราได้ยินข่าวหรือได้รับรู้ว่ามีสิ่งนั้นเกิดขึ้นเราจะสามารถรู้ได้ทันที่ว่าสิ่งนั้นเกิดจากอะไรและทำไม ซึ่งความสามารถในการรับรู้ได้ทันที่เกิดจากการยกระดับและขยายขอบเขตระหว่างความคิด ความรู้สึกและการกระทำที่เริ่มต้นจากการตั้งคำถามและค้นหาคำตอบที่กระทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการกระทำดังกล่าวสามารถนำพามนุษย์ไปสู่การค้นพบธรรมชาติของความจริงที่มีความน่าจะเป็นสองด้านคือ อดีตและอนาคต ถ้าหากเราค้นหาในระดับมหภาคเราจะเจออดีต แต่ถ้าหากเราค้นพบในระดับจุลภาคเราจะเจออนาคต นักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์เรียกว่า ระบบไม่เชิงเส้น (nonlinear system) ถึงแม้ว่าในระบบควอนตัมทั้งระดับจุลภาคและมหภาคจะถือเป็นองค์ประกอบของระบบเดียวกัน แต่ทั้งสองกลับมีกระบวนการทำงานและมีทิศทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

คุณรู้หรือไม่ว่าในชั่วขณะหนึ่งความคิดและความรู้สึกของคนเราจะมีการสลับตำแหน่งและโมเมนตัมไปมาระหว่างอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ดังนั้นสิ่งที่คุณคิดและเข้าใจว่ามาจากความคิดอาจไม่ได้มาจากความคิด แต่มาจากความรู้สึกก็ได้ และในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันสิ่งที่คุณรู้สึกว่ามาจากความรู้สึกอาจไม่ได้มาจากความรู้สึก แต่มาจากความคิดก็ได้ ซึ่งการนำเอาความคิดและความรู้สึกของเราออกมาลงมือปฏิบัติภายนอกจะสามารถบอกกับเราได้ว่าเรากำลังใช้ชีวิตอยู่ภายใต้สถานะและสภาวะทางความคิดหรือความรู้สึก ซึ่งสถานะและสภาวะที่ทำให้ชีวิต (โลก) เกิดมี/เป็นความสมบูรณ์และความสมดุลย์เราจำเป็นต้องทำให้เกิดมีขึ้นทั้งสองทางคือ สถานะความคิดและความรู้สึก และ สภาวะกึ่งความคิดกึ่งความรู้สึก สถานะและสภาวะของทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจะมีกระบวนการทำงานที่สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับธรรมชาติของโลกอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ การนำพาวิถีชีวิตที่ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดขึ้นจากความต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความสะดวกสบายและความเคยชินเก่าๆจากการยึดติดอยู่กับการใช้ชีวิตในระดับมหภาคเข้าสู่การใช้ชีวิตในระดับจุลภาค หรือที่เรียกว่า New Normal ที่จะช่วยเปิดโลกความรู้ความเข้าใจแบบใหม่ที่จะทำให้ปัญหา การบูลลี่ หรือความทุกข์ต่างๆหมดไป ความหมายของคำว่า “หมดไป” หมายถึง ไม่สามารถทำให้เรารู้สึกเป็นทุกข์ได้อีกต่อไป แต่จะทำให้เราเกิดความรู้สึกสงสารและเห็นใจแทน ซึ่งเป็นความรู้สึกที่อยู่อีกด้านหนึ่งของความทุกข์ที่คนนิยมเรียกว่า แสงที่ปลายอุโมงค์

การเดินทางระหว่างความคิด ความรู้สึกและการกระทำจะมีการเดินทางเช่นเดียวกันกับการเดินทางของแสงจากดวงอาทิตย์มายังโลกที่ต้องใช้เวลา 8 นาที ในทางวิทยาศาสตร์กล่าวว่า แสง/สิ่งที่เราเห็นและสัมผัสได้ณ.เวลาปัจจุบันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้/ในอดีต แต่ในระดับควอนตัมการมองเห็นและรับรู้สามารถเกิดขึ้นได้สองทางคือ อดีตและอนาคต ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับอดีตต่อไปหรือจะพาความคิด ความรู้สึกและการกระทำของเราไปสู่อนาคต แต่ถึงแม้ว่าเราจะไม่เลือกโลกก็กำลังผลักดันให้เราต้องเดินออกจากอดีตไปสู่อนาคตอยู่ดีเนื่องจากเวลาของการใช้ชีวิตภายใต้ระบบเก่าๆได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดของโลกยุคเก่าแล้วและกำลังเข้าสู่จุดเริ่มต้นใหม่ ซึ่งโควิด 19 คือ สัญญาณของการเริ่มต้นเข้าสู่ระบบจุลภาคที่โลกส่งมาถึงมนุษย์ ซึ่งส่งผลโดยตรงทันที่ต่อคนชราและเด็กที่เกิดใหม่ ทางที่ง่ายที่สุดคือ การนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ร่วมกับการทำงานของชีวิตที่จะทำให้เราสามารถค้นพบจิ๊กซอว์ที่หายไปและมองเห็นทางเดินส่องหนได้อย่างกระจ่างชัดและชัดเจนมากยิ่งขึ้น Research in neuroscience tells us that the brain doesn’t really do tasks simultaneously, as we thought (hoped) it might. In fact, we just switch tasks quickly. Each time we move from hearing music, to writing a text, or talking to someone, there is a stop/start process that goes on in the brain. ถ้าหากเราไม่นำพาตัวเราเข้าไปทำการสังเกตรับรู้และทำความเข้าใจกับการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งและโมเมนตัมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไปมาระหว่างการใช้ความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราเอง เราก็จะไม่มีทางเข้าถึงและเข้าใจแม้กระทั่งความคิดความรู้สึกและการกระทำของตัวเราเองที่เกิดขึ้นณ.เวลาปัจจุบันของเราอย่างท่องแท้ ซึ่งจุดยืนที่เราคิดและเข้าใจว่าเป็นอนาคตของเราอาจไม่ใช่อนาคตแต่เป็นอดีตของเราเองก็ได้

***ปรากฏการณ์ตายหมู่ที่เกิดขึ้นกับสัตว์หลายชนิดรวมทั้งการเป็นอัมพาตหมู่ของนกที่กำลังบินอยู่แล้วตกลงมาตายเกิดจากการสลับขั้วแรงโน้มถ่วงซึ่งมาจากการสลับขั้วแม่เหล็กชั้นในของโลกที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ การตายหมู่ของสัตว์โลกรวมทั้งมนุษย์ด้วยจะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าการสลับสับเปลี่ยนจะกลับเข้าสู่สภาวะสมดุลย์ มนุษย์สามารถช่วยเร่งกระบวนการนี้ได้ด้วยการยกระดับและขยายขอบเขตระหว่างความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราเองเข้าสู่ระบบจุลภาคและขยายไปสู่คนอื่นและโลก เราเรียกระบบการทำงานนี้ว่า ระบบไม่เชิงเส้น (nonlinear system) และปรากฎการณ์นี้ว่า "เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว" หรือ "ผีเสื้อขยับปีกทำให้เกิดพายุ" butterfly effect

#change



Create Date : 16 พฤษภาคม 2563
Last Update : 16 พฤษภาคม 2563 9:55:00 น.
Counter : 435 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3784113
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

There is no way to happiness, happiness is the way.

การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง

คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว