เส้นแบ่งเขตระหว่างความดีกับความชั่วที่เรามองไม่เห็น
หลายคนใช้ชีวิตอยู่กับการทำสิ่งไม่ดีไม่ควรโดยไม่รู้และไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ไม่ดีไม่ควร นี่คือภัยเงียบที่ทำร้ายทำลายตัวเองและคนอื่น(สังคม) การใช้ชีวิตโดยการเดินก้าวออกจากความดีไปเรื่อยๆที่ละนิดวันละหน่อยทำให้เราไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเราไม่ได้ยืนอยู่บนฐานของความดีอีกต่อไปแต่เรากำลังยืนอยู่บนฐานของความไม่ดีโดยเรายังมีความคิดที่เข้าข้างตัวเองอยู่ว่าเราคือคนดี เราไม่ได้ทำผิดอะไร นี่คือการทำร้ายทำลายตัวเองและคนอื่น(สังคม)โดยไม่รู้ตัวและไม่อยากรับรู้(เกมซ่อนหา)
ความจริงคือ ไม่ว่าเราจะเลือกใช้ชีวิตอยู่โดยการเป็นคนดีหรือคนไม่ดี เราไม่สามารถหลีกหนีการได้สัมผัสกับความทุกข์ความสุขในระหว่างทางที่เราเดินไปได้เพราะทั้งหมดคือการเรียนรู้คือบททดสอบที่เราทุกคนเกิดมาเพื่อทำมันด้วยตัวของเราเอง เพราะฉะนั้นการหลีกเลี่ยงไม่ยอมเรียนรู้และลงมือทำสิ่งที่เราได้เรียนรู้แล้วนั้นจะทำให้เราต้องกลับไปทำแบบทดสอบเดิมๆครั้งใหม่รอบแล้วรอบเล่าจนกว่าเราจะยอมเรียนรู้และลงมือทำ ทำไมเราถึงใช้ชีวิตเหมือนพายเรือวนอยู่ที่เดิมซ้ำไปซ้ำมา?
ความจริงยิ่งกว่าคือ การเลือกใช้ชีวิตโดยการเป็นคนดีหรือคนไม่ดีของเราเองนี่แหละที่จะนำพาเราไปสู่จุดหมายปลายทางของการมีความสุขตลอดไป ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่พบเจอกับความทุกข์อีก แต่หมายความว่าความทุกข์จะไม่สามารถทำให้เรารู้สึกเป็นทุกข์ได้อีกต่อไป หรือการมีความทุกข์ตลอดไปคือการขังตัวเองอยู่ในหลุมที่เราเป็นคนขุดขึ้นด้วยตัวเราเอง
ความสามารถในการมองเห็นเส้นแบ่งเขตระหว่างความดีกับความชั่วไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการปิดกั้นการมองเห็นของตัวเราเอง