เมษายน 2563

 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
การปิดเมือง กับ ภูมิคุ้มกันหมู่ herd immunity ในระดับควอนตัม (must read)
มาตราการปิดเมือง โดยหลักการจะเป็นการปิดความรู้สึกเพื่อเปิดความคิด/ลดความรู้สึกเพื่อเพิ่มความคิด และมาตรการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ herd immunity โดยหลักการจะเป็นการเปิดความคิดเพื่อปิดความรู้สึก/เพิ่มความคิดเพื่อลดความรู้สึก ซึ่งถ้าหากมองจากสถานการณ์ภายนอกเราจำเป็นต้องเลือกใช้มาตราการใดมาตราการหนึ่ง แต่ถ้าหากมองจากสถานการณ์ภายใน/ส่วนที่ซ้อนทับและพัวพันอยู่ภายใต้การเลือกใช้มาตราการใดมาตราการหนึ่ง เราจำเป็นต้องทำทั้งสองทางคือ ปิดความรู้สึกเพื่อเปิดความคิด/ลดความรู้สึกเพื่อเพิ่มความคิด และเปิดความคิดเพื่อปิดความรู้สึก/เพิ่มความคิดเพื่อลดความรู้สึก ซึ่งความน่าจะเป็นในโลกควอนตัมในระดับจุลภาคในทางฟิสิกส์หมายถึง สถานะของอนุภาคและคลื่น ถ้าหากเราจัดการทดลองให้ระบบแสดงสมบัติคลื่น ก็จะได้คลื่น และถ้าจัดการทดลองให้ระบบแสดงสมบัติด้านอนุภาค ก็จะได้อนุภาค อย่างไรก็ตามระบบควอนตัมจะไม่แสดงคุณสมบัติทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน เราจึงจำเป็นต้องนำเอาหลักการเติมเต็ม (complementarity principle) มาใช้ แต่ความน่าจะเป็นในโลกควอนตัมในระดับมหภาคที่หมายถึง สถานะของพลังงาน จะมีส่วนที่แสดงออกอยู่สองส่วนคือ ส่วนที่สามารถเปลี่ยนรูปไปเป็นอะไรก็ได้และส่วนที่ไม่สามารถเปลี่ยนรูปไปเป็นอะไรก็ได้ (ไม่ใช่ทั้งหมดของพลังงานในระบบจะสามารถถูกเปลี่ยนหรือถูกโอนโดยกระบวนการของงาน) ยกตัวอย่างเช่น โลกและมนุษย์ ทั้งสองต่างก็มีโครงสร้างหลักภายนอกและโครงสร้างหลักภายใน ที่แต่ละส่วนจะมีความน่าจะเป็นสองส่วนคือ สามารถเปลี่ยนรูปไปเป็นอะไรก็ได้และไม่สามารถเปลี่ยนรูปไปเป็นอะไรก็ได้ และแต่ละส่วนก็จะมีความน่าจะเป็นในส่วนของตัวเองและของกันและกัน ถ้าหากมองในด้านของพลังงานที่มีค่าเท่ากับ 0/1 หรือ การหมุนเวียนพลังงานคำว่า ไม่ใช่ทั้งหมดของพลังงานในระบบจะสามารถถูกเปลี่ยนหรือถูกโอนโดยกระบวนการของงาน จะมีการทำงานบนระบบไม่เชิงเส้น (nonlinear system) คือ ไม่สามารถและสามารถ ความหมายคือ พลังงานสามารถถูกเปลี่ยนหรือถูกโอนโดยไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการของงานโดยตรง แต่ผ่านผลที่เกิดขึ้นทางอ้อมจากกระบวนการของงานที่ได้กระทำไปแล้ว ซึ่งทำให้พลังงานนิ่งเกิดมีมวลมากขึ้นส่งผลทำให้พลังงานเกิดมีการเคลื่อนที่โดยอัตโนมัติ วัตถุใด ๆ ที่มีมวลเมื่อหยุดนิ่ง (จึงเรียกว่ามวลนิ่ง) มีพลังงานนิ่งที่สามารถคำนวณได้โดยใช้สมการ ของ Albert Einstein E = mc2 การเป็นรูปแบบของพลังงานแบบหนึ่ง, พลังงานนิ่งสามารถถูกเปลี่ยนไปยังหรือจากรูปแบบอื่น ๆ ของพลังงาน ในขณะที่ปริมาณทั้งหมดของพลังงานไม่เปลี่ยนแปลง จากมุมมองนี้ จำนวนของสสารในจักรวาลก่อให้เกิดการรวมของพลังงานทั้งหมด (โลกยังมีสมการจากทฤษฎีควอนตัมอีกชุดหนึ่งที่มีคุณสมบัติในการสร้างและทำลายล้างสูงในลักษณะที่ย้อนกลับ/กลับด้านกันกับสมการของ Albert Einstein ในอนาคตสมการทั้งสองชุดนี้จะค่อยๆเข้ามามีส่วนร่วมอยู่ในชีวิตประจำวันของมนุษยชาติมากขึ้นๆ สมการจากทฤษฎีควอนตัมก็คือ จิ๊กซอว์ที่หายไป ที่จะเข้ามาเติมเต็มความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงให้มีความกระจ่างมากขึ้น)

ในทำนองเดียวกัน พลังงานทั้งหมดจะปรากฏเป็นจำนวนสัดส่วนของมวล แต่ถ้าหากมองในด้านของพลังงานทั้งหมดที่มีค่าเท่ากับศูนย์จะเห็นว่า พลังงาน (ทั้งหมด) ของระบบสามารถเพิ่มหรือลดได้โดยการถ่ายโอนเข้าหรือออกจากระบบเท่านั้น รูปแบบใหม่ของพลังงานไม่สามารถกำหนดกฎเกณฑ์ตามใจได้ เพื่อที่จะให้ถูกต้อง มันจะต้องถูก แสดงให้เห็นว่าสามารถเปลี่ยนรูปไปยังหรือจากจำนวนที่คาดการณ์ได้ของพลังงานบางรูปแบบที่รู้จักกัน นี่จึงแสดงให้เห็นว่าปริมาณพลังงานจะมากแค่ไหนที่มันเป็นตัวแทนในหน่วยเดียวกันที่ใช้ ในรูปแบบอื่น มันจะต้องปฏิบัติตามการอนุรักษ์พลังงาน ดังนั้นมันจะต้องไม่ลดหรือเพิ่ม ยกเว้น ผ่านการเปลี่ยนแปลง (หรือถ่ายโอน) ความหมายคือ สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสถานการณ์ไปเรื่อยๆ แต่ภายใต้การเปลี่ยนรูปไปของสถานการณ์จะมีส่วนที่ซ้อนทับและพัวพันอยู่ ซึ่งทำให้สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นล้วนมีที่มาที่ไป มันจะต้องปฏิบัติตามการอนุรักษ์พลังงาน มันจะต้องไม่ลดหรือเพิ่ม ยกเว้น ผ่านการเปลี่ยนแปลง (หรือถ่ายโอน) มีคำที่รู้จักกันโดยทั่วไปกล่าวว่า ความไม่แน่นอนคือ ความแน่นอน และในทางกลับกันความแน่นอนคือ ความไม่แน่นอน แต่ในโลกควอนตัมที่ใช้หลักความน่าจะเป็นความแน่นอนคือ ความแน่นอนและความไม่แน่นอน ในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันความไม่แน่นอนคือ ความไม่แน่นอนและความแน่นอน ซึ่งจะมีกระบวนการทำงานบนระบบไม่เชิงเส้น nonlinear system ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเราไม่นำเอาสิ่งที่เราคิด/นึกได้ณ.เวลาใดเวลาหนึ่งออกมาลงมือทำเลย ระบบการทำงานทางตวามคิดและความรู้สึกก็จะให้เราเกิดอาการลืมความคิด/นึกนั้นไปส่งผลทำให้ต้องเริ่มต้นกระบวนการทำงานทางตวามคิดและความรู้สึกใหม่ทั้งหมด ซึ่งความน่าจะเป็นของระยะเวลาอาจเริ่มต้นได้ตั้งแต่ 0-ค่าอนันต์

ความน่าจะเป็นในโลกควอนตัมก็คือ การเพิ่มและหรือลดพลังงานที่ความน่าจะเป็นเกิดจากการเปลี่ยนแปลง/ถ่ายโอนเข้าหรือออกจากระบบสองทางคือ ทางตรงและทางอ้อม หรือ เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติและไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน —->สิ่งเดียวกันใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน—->เวลาเดียวกันใช่และไม่ใช่ในเวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน ดังตัวอย่างเช่น มาตราการปิดเมือง โดยหลักการจะเป็นการปิดความรู้สึกเพื่อเปิดความคิด/ลดความรู้สึกเพื่อเพิ่มความคิด และมาตรการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ herd immunity โดยหลักการจะเป็นการเปิดความคิดเพื่อปิดความรู้สึก/เพิ่มความคิดเพื่อลดความรู้สึก ***สถานการณ์สามารถเปลี่ยนไปเป็นอะไรก็ได้ แต่หลักการจะคงอยู่ตลอดไป

ในอดีตจนถึงปัจจุบันเรามักมีความเข้าใจที่เกี่ยวกับการเพิ่มและลดพลังงานว่า เป็นการสร้างความสมดุลระหว่างตัวเรากับคนอื่น (โลก) เมื่อคนหนึ่งร้อนคนหนึ่งต้องเย็นชีวิตจึงจะมีความสมดุล หรือ เมื่อมีผู้รับก็ต้องมีผู้ให้ แต่ในโลกอนาคตการสร้างความสมดุลจะมีความแตกต่างออกไปคือ การเพิ่มและลดพลังงานจะหมายถึง การสร้างความสมดุลระหว่างความรู้สึก-ความคิด (สมองส่วนท้าย และหรือ RNA) และ ความคิด-ความรู้สึก (สมองส่วนหน้า และหรือ DNA) ของเราเอง ถ้าหากเราทุกคนสามารถสร้างสภาวะความสมดุลให้เกิดมีขึ้นกับภายนอกของตัวเราเองโดยใช้/นำเอาหลักการทำงานเดียวกันกับกระบวนการทำงานของอวัยวะภายในของเราเองออกมาลงมือปฏิบัติภายนอก โลกก็จะเกิดมี/เป็นสภาวะความสมดุลโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะส่งผลทำให้ทุกสิ่งที่เราเคยคิดและเข้าใจว่าเป็นปัญหาจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

การสร้างความสมดุลให้กับชีวิตในรูปแบบใหม่ง่ายๆคือ เมื่อมีความคิด-ความรู้สึก (สมองส่วนหน้า และหรือ DNA) เพิ่มขึ้น ความรู้สึก-ความคิด (สมองส่วนท้าย และหรือ RNA) ต้องลดลง ดังตัวอย่างการทำงานที่ตั้งอยู่บนหลักความแน่นอนระหว่าง DNA และ RNA เมื่อ DNA หมุนตามเข็มนาฬิกา RNA ต้องหมุนทวนเข็มนาฬิกา และในทางกลับกันเมื่อ RNA หมุนตามเข็มนาฬิกา DNA ต้องหมุนทวนเข็มนาฬิกา และจากข้อมูลที่มีความเป็นไปได้มากมายที่หมุนเวียนเข้าออกภายในสมองทั้งสามส่วน แต่เวลาเรานำพาตัวเราเข้าไปทำการสังเกต เราจะมองเห็นเฉพาะข้อมูลที่เราต้องการเห็นก่อนเสมอ ส่วนข้อมูลอื่นๆจะยุบหายไป ซึ่งข้อมูลส่วนที่ยุบหายไปจากภายในของแต่ละคนจะถูถส่งออกมาสู่ภายนอกโดยอัตโนมัติ และจะปรากฏในรูปแบบต่างๆตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นของแต่ละคน จะเห็นได้ว่าข้อมูลทั้งหมดจะมีความน่าจะเป็นสองทางคือ เราเป็นผู้นำเอาข้อมูลจากภายในออกสู่ภายนอกด้วยตัวของเราเอง และอีกส่วนหนึ่งจะถูถส่งออกมาสู่ภายนอกโดยอัตโนมัติตามกระบวนการทำงานตามธรรมชาติ (การเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติและไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน —->สิ่งเดียวกันใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน—->เวลาเดียวกันใช่และไม่ใช่ในเวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน) ***มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย

#change



Create Date : 14 เมษายน 2563
Last Update : 14 เมษายน 2563 10:31:12 น.
Counter : 465 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3784113
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

There is no way to happiness, happiness is the way.

การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง

คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว