เมษายน 2563

 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
แชร์ประสบการณ์ตรงการเปิดเผยตัวตนในโลกควอนตัมที่เชื่อมต่อมาจากโพสต์ก่อนหน้า

ในหัวข้อก่อนหน้าที่ผู้เขียนได้นำเสนอเกี่ยวกับสถานะและสภาวะของความเป็นขั้วเหนือ ขั้วใต้ของโลกที่มีขั้วคู่ที่มีสถานะและสภาวะที่ซ้อนทับและพัวพันกันอยู่ในลักษณะที่กลับด้านกันทั้งภายในและภายนอกตัวเองและภายในและภายนอกกันและกัน ความหมายคือ ภายในขั้วเหนือจะมีขั้วใต้ และภายในขั้วใต้จะมีขั้วเหนือ ซึ่งขั้วทั้งสองที่มีสถานะและสภาวะที่ซ้อนทับกันอยู่และมีทิศทางในการหมุนเป็นของตัวเอง (ตามเข็มนาฬิกา และทวนเข็มนาฬิกา) ทำให้เกิดเป็นช่องว่างและเวลา (มีและไม่มี)/วงกลมขึ้นมาอีกหนึ่งวงขั้นอยู่ตรงกลางระหว่างวงกลมทั้งสองวง+เวลา (มีและไม่มี) ในทางคณิตศาสตร์กล่าวว่า คนๆหนึ่งสามารถสร้างวงกลมได้สองวง ในทางวิทยาศาสตร์หมายถึง spacetime and/or space time ในความหมายจะแยกออกเป็นสองส่วนคือ spacetime ที่เป็นส่วน/สิ่งเดียวกัน และหรือ space time ที่ไม่ได้เป็นส่วน/สิ่งเดียวกัน คำว่า spacetime ที่เป็นส่วน/สิ่งเดียวกันก็จะแยกออกเป็นสองส่วนคือ เป็นส่วน/สิ่งเดียวกันและไม่ได้เป็นส่วน/สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน—->เวลาเดียวกันใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน และคำว่า space time ที่ไม่ได้เป็นส่วน/สิ่งเดียวกันก็จะแยกออกเป็นสองส่วนคือ ไม่ได้เป็นส่วน/สิ่งเดียวกันและเป็นส่วน/สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน—->ไม่ใช่เวลาเดียวกันและใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน ทั้งในส่วนของ spacetime and/or space time ที่แยกออกจากกันอย่างชัดเจนและไม่ชัดเจนในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันจะสามารถทำให้เกิดมีปฏิสัมพันธ์ และหรือสร้างความพัวพันกัน (entanglement) กันได้ทั้งหมดและไม่ทั้งหมดในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ในทางฟิสิกสเรียกว่า ควอนตัม ทันเนอลิง (quantum tunnelling) ที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้อนุภาคเกิดการกลายพันธ์ุหรือไม่เกิดการกลายพันธุ์ หรือที่เราเรียกความพยายามในการกลายพันธ์ุนี้ว่า การเอาชนะตัวเอง ซึ่งควอนตัม ทันเนอลิง (quantum tunnelling) ก็คือ กำแพงที่เราสร้างขึ้นเพื่อป้องกันและปกป้องตัวเราเองไม่ให้คน/สิ่งที่อยู่ภายนอกเข้ามาทำร้ายเรา ซึ่งกำแพงนี้นอกจากจะป้องกันและปกป้องตัวเราเองไม่ให้คน/สิ่งที่อยู่ภายนอกเข้ามาทำร้ายเราแล้วยังทำหน้าที่เป็นเสมือนกำแพง/กรงขังเราไม่ให้ออกไปข้างนอกอีกด้วย ซึ่งถ้าหากเรามีความต้องการที่จะออกไปข้างนอก สิ่งที่เราต้องทำก็คือเพิ่มพลังงาน/เพิ่มความกล้าให้กับตัวเราเองเพื่อวิ่งชนทะลุกำแพงไปเลย ไม่ใช่การกระโดดข้ามกำแพง ขอนำประสบการณ์ตรงที่ผู้เขียนประสบกับตัวเองมาแชร์นะค่ะ ต้องขอออกตัวก่อนว่า ประสบการณ์การโพสต์บทความทุกบทความผ่านโซเชียลมีเดียของผู้เขียนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ในแต่ละครั้งผู้เขียนจะพยายามประวิงเวลาหรือยืดเวลาออกไปให้นานที่สุดจนกระทั่งมีสัญญาณส่งมาผลักดันให้ผู้เขียนโพสต์ข้อความออกสู่สาธารณชน คนที่เป็นสายมูทั้งหลายคงเคยได้สัมผัสกับการส่งสัญาญาณที่เปรียบได้กับแรงผลักดันให้ลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งเหตุผลหลักที่ผู้เขียนไม่ชอบการโพสต์ก็เนื่องจากว่า ในทุกๆครั้งก่อนที่ผู้เขียนจะโพสต์บทความผู้เขียนจะมีอาการมือเย็น ใจเต้นแรง มือสั่น ซึ่งอาการต่างๆเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อถึงช่วงเวลาที่ผู้เขียนต้องกดปุ่ม enter แต่หลังจากที่ผู้เขียนกดปุ่ม enter ไปแล้วอาการต่างๆเหล่านั้นจะหายไปทันทีเหมือนไม่เคยเกิดมีขึ้นมาก่อน

ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งชนทะลุกำแพงไปเลย หรือการกระโดดข้ามกำแพงทั้งสองวิธีมีความจำเป็นต้องเพิ่มพลังงานเข้าไปภายในระบบเหมือนกัน การเพิ่มในระดับและวิธีการที่แตกต่างกันสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เหมือนหรือแตกต่างกันก็ได้ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้น/จุดยืนที่แต่ละคนยืนอยู่ ซึ่งจุดยืนของคนเราจะเปรียบได้กับการยืนบนเท้าทั้งสองข้างของเราที่จะอยู่และไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน และ อยู่และไม่อยู่ในโมเมนตัมเดียวกันในเวลาเดียวกัน (การอ่านเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถทำให้คุณมองเห็นและรับรู้ภาพที่ซ้อนทับและพัวพันกันอยู่ได้ แต่การลงมือปฏิบัติ/ทำการทดสอบด้วยตัวคุณเองจะทำให้คุณสามารถแยกภาพที่ซ้อนทับและพัวพันกันอยู่ออกจากกันได้ง่ายขึ้น) ซึ่งการลงมือปฏิบัติก็จะมีสองระดับคือ จุลภาคและมหภาค ปฏิบัติเช่นไรได้รับผลตอบรับเช่นนั้น ขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่หลังจากที่ผู้เขียนได้โพสต์ข้อความออกสู่สาธารณชน ผู้เขียนก็ได้รับการเปิดเผยจากโลกที่แสดงให้ทราบถึงสถานะและสภาวะของโลกที่สอดคล้องและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับที่ผู้เขียนได้นำเสนอไปคือ สถานะและสภาวะระหว่างมหาสมุทรแปรซิฟิกกับมหาสมุทรแอตแลนติกที่เป็นเหมือนเส้นแบ่งระหว่างโลกสองโลกที่ดูเหมือนมีกำแพงกั้นกลาง ที่ถึงแม้จะเป็นน้ำเหมือนกัน แต่มันก็มีความแตกต่างกันทั้งความหนาแน่นและลักษณะทางเคมีเช่นระดับความเค็มและคุณภาพอื่นๆที่เห็นได้ชัดว่าฝั่งหนึ่งมีสีที่แตกต่างจากอีกฝั่งหนึ่งอย่างชัดเจน และมีการแบ่งแยกระหว่างพืชพันธุ์และสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในแต่ละฝั่งอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน ซึ่งผู้เขียนได้เคยสัมผัสกับประสบการณ์ตรงก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อครั้งที่ข้อมูลยังอยู่ภายใต้กระบวนการทางความคิดและรู้สึกที่ยังไม่ได้เปิดเผยออกสู่สาธารณชน (การเปิดเผยระดับมหภาค) แต่เป็นการเปิดเผยผ่านการเขียนลงในไอแพดของผู้เขียนเอง (การเปิดเผยตัวตนในระดับจุลภาค) ที่ผู้เขียนและเพื่อนชาวต่างชาติได้ไปที่ Siam Ocean World (SEA LIFE Bangkok Ocean World) ที่สยามพารากอน ในขณะที่ผู้เขียนได้เดินไปที่ตู้ปลาขนาดใหญ่ปานกลางผู้เขียนได้เห็นว่าปลาทั้งหมดภายในตู้ได้ว่ายแยกออกจากกันเป็นสองฝั่ง (มากและน้อย) อย่างชัดเจนและต่างก็หันหน้าเข้าหาผู้เขียน ซึ่งฝั่งที่ผู้เขียนยืนอยู่จะมีปลาหลากหลายชนิดทั้งขนาดเล็กและใหญ่อยู่จำนวนมากกว่าอีกฝั่งหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งต่อมาเมื่อเพื่อชาวต่างชาติที่ไปด้วยกันกับผู้เขียนได้เดินเข้ามาที่ตู้ปลาตู้นี้และก็ได้เห็นปรากฏการณ์นี้เช่นเดียวกัน เพื่อนชาวต่างชาติของผู้เขียนถึงกับอุทานเป็นคำพูดว่า Oh! They like you ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้เกิดเป็นความชัดเจนแก่ผู้เขียนในทันที่ที่ไม่ใช่เป็นการแสดงออกถึงความชอบหรือไม่ชอบ แต่เป็นการแสดงออกของความเป็นพวก/สิ่งเดียวกันและไม่ใช่พวก/สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้นผู้เขียนก็ได้รับประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน แต่แตกต่างกันไปตามสถานะและสภาวะ+เวลาที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งหลังจากผู้เขียนได้โพสต์ข้อความเดียวกันออกสู่สาธารณชน ผู้เขียนก็ได้รับการเปิดเผยจากโลกในระดับมหาภาค ซึ่งทำให้ผู้เขียนรู้ได้ทันที่ว่า ข้อมูลที่ผู้เขียนค้นพบจากภายในเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงภายนอก มีคำกล่าวที่ว่า สิ่งใดที่เรากำลังมองหา สิ่งนั้นก็กำลังมองหาเราเช่นกัน เราให้โลกมากเท่าไหร่ โลกก็จะให้เรากลับคืนมามากเท่านั้นไม่มากและไม่น้อยไปกว่านั้น นี่คือการเปิดเผยตัวตนของควอนตัม และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ผู้เขียนยังคงโพสต์ข้อความอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีผู้อ่านที่ยังเข้าไม่ถึงและไม่เข้าใจงานของผู้เขียน แต่เรียกร้องให้ผู้เขียนยุติการโพสต์ข้อความ ก่อนอื่นผู้เขียนต้องขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน โดยเฉพาะผู้ที่แสดงความคิดเห็นที่ทำให้ผู้เขียนรับรู้ได้ในทันทีถึงสถานะและสภาวะของตัวผู้เขียนที่มีสถานะเป็นและตายในเวลาเดียวกัน ความหมายคือ ข้อความที่โพสต์ไม่สามารถทำให้ผู้อ่านเกิดมีความรู้ความเข้าใจได้ เนื่องจากกระบวนการทำงานของควอนตัมที่แม้แต่นักฟิสิกส์เองก็ยังมีข้อสงสัยในความลึกลับอยู่มากมาก จึงทำให้สถานะของผู้เขียนเท่ากับตาย แต่ข้อความเดียวกันที่ผู้อ่านเข้าไม่ถึงนั้น สามารถทำให้โลกเกิดมีความรู้ความเข้าใจได้ จึงทำให้สถานะของผู้เขียนเท่ากับเป็น ซึ่งผู้เขียนสามารถรับรู้ได้จากการเปิดเผยข้อมูลของโลกต่อผู้เขียนที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้เขียนได้ทำการเปิดเผยข้อมูลในส่วนของตัวเองออกไป ซึ่งโลกไม่ได้แสดงออกถึงการรับรู้เท่านั้น แต่ยังแสดงว่าโลกและมนุษย์เรากำลังเดินไปในทิศทางเดียวกันอีกด้วย ขอยกอีกตัวอย่างหนึ่งจากหัวข้อเดียวกันคือ การสลับขั้วแม่เหล็กภายในของโลก ที่สามารถดูได้จากการเปลี่ยนขั้วหรือย้ายฐานการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ย้ายจากจีนไปสู่ยุโรปและสู่อเมริกา ซึ่งหลังจากที่ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการกลับด้านกันของความเป็นขั้วมหาอำนาจของโลกที่จะย้ายจากยุโรปและอเมริกากลับไปสู่จีนอีกรอบหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่ไวรัส COVID-19 ผ่านพ้นไป จีนจะขึ้นมาเป็นประเทศมหาอำนาจแทนที่สหรัฐอเมริกา

ก่อนที่ไวรัส COVID-19 จะเปิดเผยออกสู่สาธารณชน ผุ้เขียนได้รับการเตือนกล่วงหน้าจากอาการแพ้อากาศคือ หลังจากบ่ายโมงลงไปอยู่ๆก็มีอาการเริ่มจากน้ำมูกไหลเป็นทุกวันเป็นเดือน และในเวลาเดียวกันไม่ว่าผู้เขียนจะเดินไปที่ไหนผู้เขียนจะได้กลิ่นซากศพซึ่งในตอนแรกผู้เขียนคิดว่าเป็นกลิ่นของจิ้งจกตาย แต่เมื่อลองค้นหาดูก็ไม่พบว่าไม่มีอะไรตายอยู่แถวนั้น หลังจากที่ผู้เขียนมีอาการของน้ำมูกไหลเยอะมากผ่านไปสองสามวัน ผู้เขียนจึงคิดว่า ควรจะทานยาแก้แพ้ดีไหม และในทันทีผู้เขียนก็ได้ยินโฆษณาทางทีวีบอกว่า หวัดไม่ใช่โรค ไม่จำเป็นต้องทานยา ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถรับรู้ได้ในทันทีว่า นี่ไม่ใช่อาการแพ้อากาศธรรมดา และหลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีประกาศการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จากประเทศจีน และหลังจากนั้นอาการน้ำมูกไหลจู่ๆก็อันตรธานหายไปและไม่กลับมาเป็นอีก จนกระทั่งสองวันก่อนที่จะเกิดการระบาดหนักที่ประเทศไทย ผู้เขียนก็ได้มีอาการน้ำมูกไหลและได้กลิ่นซากศพโดยไม่ทราบสาเหตุอีกครั้ง มีอาการน้ำมูกไหล 3-4วัน แต่ได้รับกลิ่นเพียงไม่กี่ชั่วโมงแล้วก็หายไป (ในวันที่มีม้าตายจำนวนมากผู้เขียนก็ได้กลิ่นซากศพอีกครั้งโดยไม่มีอาการแพ้อากาศร่วมด้วย) อย่างที่ผู้เขียนได้เคยโพสต์ไปว่า การแพร่ระบาดในเมืองไทยไม่ได้มีความประสงค์เพื่อทำให้เกิดการตายทางด้านร่างกายของคนจำนวนมาก แต่เป็นการทำให้เกิดการตาย-เกิดใหม่ทางความคิดความรู้สึกและการกระทำที่กำลังจะเปลี่ยนโลกนี้ไปตลอดกาล ยิ่งเราพาตัวเองเข้าสู่การรับรู้และลงมือปฏิบัติในโลกควอนตัมเร็วเท่าไหร่ COVID-19 ก็จะจากไปเร็วขึ้นเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วคนไทยเราได้รับทราบและลงมือปฏิบัติตามแนวคิดใหม่นี้จากในหลวงร.๙ เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงกันไปบ้างแล้ว

#change



Create Date : 06 เมษายน 2563
Last Update : 6 เมษายน 2563 9:39:05 น.
Counter : 427 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3784113
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

There is no way to happiness, happiness is the way.

การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง

คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว