Group Blog All Blog
|
ไม่มีอะไรที่เป็นความบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นความบังเอิญ ไม่มีอะไรที่ไม่ขึ้นตรงต่อกันทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนมีส่วนที่เชื่อมโยงถึงกันไม่ว่าจะเป็นชาติที่แล้ว-ชาตินี้-ชาติหน้า, พลังงาน(วิญญาณ)-มนุษย์-พลังงาน(วิญญาณ)และอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต สิ่งที่เชื่อมโยงทั้งหมดเข้าด้วยกันคือ 1. ความต้องการในการดำรงเผ่าพันธุ์ 2. ความต้องการในการพัฒนาพลังงานหรือจิตวิญญาณไปสู่นิพพานหรือความเป็นสูญญากาศโดยสมบูรณ์ (perfect vacuum) หรือการหลุดพ้นที่ยั่งยืนถาวร การที่เรายังวนเวียนอยู่ในวัฏจักรของการเวียนว่ายตายเกิดก็ไม่ใช่เพราะความบังเอิญ แต่เป็นเพราะเรายังไม่สามารถนำพาความคิดความรู้สึกและจิตวิญญาณของเราหลุดพ้นออกจากความต้องการของเราเองได้ ดังจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นความต้องการในการหลุดพ้นหรือความต้องการในการดำรงอยู่ทุกสิ่งล้วนมาจากความต้องการของเราเองทั้งสิ้นจึงไม่มีอะไรที่เป็นไปได้และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ไม่มีอะไรผิดและไม่มีอะไรถูก ไม่มีอะไรที่ใช่และไม่มีอะไรที่ไม่ใช่ ไม่มีอะไรที่เป็นเราและไม่มีอะไรที่ไม่ใช่เราเพราะในสถานการณ์หนึ่งเราเป็นสิ่งหนึ่งเราก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งด้วยเหมือนกัน เราคือวัฏจักรของตัวเราเอง เราคือทุกสิ่งแต่เราไม่ใช่อะไรเลย ยกตัวอย่างเช่น เราคือผู้ให้และเราก็คือผู้รับ เราคือผู้รับและเราก็คือผู้ให้ เราคือผู้สร้างและเราก็คือผู้ทำลาย เราคือผู้ทำลายและเราก็คือผู้สร้าง เราคือนักบุญและเราก็คือคนบาป เราคือคนบาปและเราก็คือนักบุญ เราคือยาพิษและเราก็คือยาถอนพิษ เราคือยาถอนพิษและเราก็คือยาพิษ เราคือครูและเราก็คือนักเรียน เราคือนักเรียนและเราก็คือครู เราคือพ่อแม่และเราก็คือลูก เราคือลูกและเราก็คือพ่อแม่ เราคือคนทำงานและเราก็คือผู้ที่ได้รับผลจากงานที่เราทำ เราคือผู้ที่ได้รับผลจากงานที่เราทำและเราก็คือคนทำงาน เราคือผู้สร้างสรรค์ผลงานและเราก็คือคนลอกเลียนแบบ เราคือผู้ลอกเลียนแบบและเราก็คือผู้สร้างสรรค์ เราเป็นสะพานให้ผู้อื่นเดินข้ามและเราก็คือผู้ที่ต้องเดินข้ามสะพานของเราเองและของผู้อื่น เราคือผู้ซื้อและเราก็คือผู้ขาย เราคือผู้ขายและเราก็คือผู้ซื้อ เราคือผู้ให้บริการและเราก็คือผู้ใช้บริการ เราคือผู้ใช้บริการและเราก็คือผู้ให้บริการ เราคือคนดีและเราก็คือคนไม่ดี เราคือคนไม่ดีและเราก็คือคนดี เราคือผู้ล่าและเราก็คือผู้ถูกล่า เราคือผู้ถูกล่าและเราก็คือผู้ล่า เราคือบัณฑิตและเราก็คือโจร เราคือโจรและเราก็คือบัณฑิต โลกภายนอกคือภาพสะท้อนของโลกภายในและโลกภายในก็คือภาพสะท้อนของโลกภายนอก เราจะได้รับผลจากความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราเอง=เราคือผู้กำหนดชีวิตตัวเอง เราจะได้รับผลจากความคิดความรู้สึกและการกระทำของผู้อื่น=การกำหนดชีวิตตัวเองด้วยการเอาชีวิตตัวเองขึ้นอยู่กับผู้อื่น ทั้งการกำหนดชีวิตตัวเองและการกำหนดชีวิตตัวเองด้วยการเอาชีวิตตัวเองขึ้นอยู่กับผู้อื่นล้วนเป็นไปตามวัฏจักรและตามกฎแห่งธรรมชาติ การผูกชีวิตตัวเองไว้กับผู้อื่นมาจากความต้องการในการดำรงเผ่าพันธุ์ ดังนั้นผู้อื่นจึงไม่ใช่ผู้อื่น แต่ผู้อื่นก็คือตัวเรา การช่วยผู้อื่น=การช่วยตัวเอง การช่วยตัวเอง=การช่วยผู้อื่น การกำหนดชีวิตตัวเองมาจากความต้องการในการพัฒนาพลังงานหรือจิตวิญญาณไปสู่นิพพานหรือความเป็นสูญญากาศโดยสมบูรณ์ (perfect vacuum) หรือการหลุดพ้นที่ยั่งยืนถาวร เรากำหนดชีวิตตัวเองเพื่อช่วยตัวเองสู่การหลุดพ้นและเรากำหนดชีวิตตัวเองด้วยการเอาชีวิตตัวเองขึ้นอยู่กับผู้อื่นเพื่อช่วยให้ผู้อื่นหลุดพ้นเพราะการช่วยผู้อื่น=การช่วยตัวเอง การช่วยตัวเอง=การช่วยผู้อื่น เรามาจากที่เดียวกันและเราก็กลับคืนสู่ที่เดียวกัน การช่วยตัวเองและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันคือวัฏจักรของการใช้ชีวิต เราไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้โดยปราศจากการช่วยเหลือจากผู้อื่น และในทางกลับกันผู้อื่นก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้โดยปราศจากเรา ทั้งเราและผู้อื่นคือกระจกที่ใช้ส่องความคิดความรู้สึกและการกระทำของกันและกัน เราและผู้อื่นคือเงาของกันและกัน เราคือคนคนเดียวกัน ทุกคนทุกชีวิตบนโลกนี้คือคนคนเดียวกัน เราไม่ได้เกิดมาเพื่อต่อสู้แย่งชิง แต่เราเกิดมาเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การช่วยเหลือซึ่งกันและกันไม่ได้หมายความว่า ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องเป็นผู้ให้ตลอดไปและฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องเป็นผู้รับตลอดไป ทุกฝ่ายจะต้องเป็นทั้งผู้ให้และเป็นทั้งผู้รับในสถานการณ์เดียวกันเพราะเราคือวัฏจักรของตัวเองและเราคือวัฏจักรของกันและกัน เราเป็นสะพานให้ผู้อื่นเดินข้ามและเราก็คือผู้ที่ต้องเดินข้ามสะพานของเราเองและของผู้อื่น เราคือผู้ให้และเราก็คือผู้รับ เราคือผู้รับและเราก็คือผู้ให้ การเอาชนะการต่อสู้แย่งชิงคือ สัญชาตญาณของสัตว์ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อการอยู่รอด มนุษย์คือ สัตว์+ประเสริฐ=สัตว์โลกผู้เจริญแล้ว ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเอาชนะตัวเองแต่เราไม่มีความจำเป็นที่ต้องต่อสู้เอาชนะเพื่อการอยู่รอด - เราจำเป็นต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชนะใจตัวเอง แต่เราจำเป็นต้องยอมแพ้ให้กับจิตวิญญาณของตัวเองเพื่อทำให้เราเป็นผู้ชนะทั้งภายในและภายนอก การเอาชนะตัวเอง=การเอาชนะผู้อื่น - เราไม่จำเป็นต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชนะผู้อื่น ความพยายามในการเอาชนะผู้อื่นอาจนำมาซึ่งความพ่ายแพ้ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งการพ่ายแพ้ในที่นี้หมายถึง การเป็นผู้แพ้ภายในแต่ชนะภายนอก หรือการเป็นผู้แพ้ภายนอกแต่ชนะภายใน หรือการเป็นผู้แพ้ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งการยอมเป็นผู้แพ้ให้กับผู้อื่นคือ การเอาชนะใจตัวเองและการชนะใจผู้อื่นนั่นเองเพราะเราคือวัฏจักรของกันและกัน เราคือวัฏจักรของตัวเราเอง เราคือผู้ชนะและเราก็คือผู้แพ้ เราคือผู้แพ้และเราก็คือผู้ชนะของตัวเราเอง การต่อสู้ดิ้นรนเพื่อการเอาชนะภายนอกมาจากสองสถานการณ์ซึ่งเป็นไปตามกฎแห่งธรรมชาติและเป็นวัฏจักรของการดำรงอยู่คือ การให้ความช่วยเหลือและการขอความช่วยเหลือ=การจับมือโดยไม่จับมือ=การให้ความช่วยเหลือตัวเองด้วยการช่วยตัวเองและการให้ความช่วยเหลือผู้อื่น - สัญญาณที่บ่งบอกถึงความอ่อนแอภายในแต่มีความเข้มแข็งภายนอกคือ สิ่งที่ส่งออกมาเพื่อเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากตัวเองและผู้อื่นความหมายคือ การขอความช่วยเหลือจากตัวเองและผู้อื่นที่สมบูรณ์เราต้องให้ความช่วยเหลือตัวเองด้วยเพราะเราคือคนที่จะต้องก้าวเดินออกจากความอ่อนแอภายในของตัวเอง - สัญญาณที่บ่งบอกถึงความเข้มแข็งภายในแต่มีความอ่อนแอภายนอกคือ สิ่งที่ส่งออกมาเพื่อเป็นสัญญาณให้ความช่วยเหลือตัวเองและผู้อื่นความหมายคือ การให้ความช่วยเหลือตัวเองที่สมบูรณ์เราต้องให้ความช่วยเหลือผู้อื่นด้วย การให้ความช่วยเหลือตัวเองที่สมบูรณ์เราต้องนำพาตัวเองก้าวออกจากความอ่อนแอภายนอกของตัวเองโดยใช้ความเข้มแข็งภายในของเราเองเป็นตัวช่วย การช่วยเหลือผู้อื่นโดยการทำให้ผู้อื่นยอมก้าวออกจากความอ่อนแอภายนอกของผู้อื่นด้วยตัวของผู้อื่นเองโดยใช้ความเข้มแข็งภายในของผู้อื่นเป็นตัวช่วย จริงคือไม่จริง ไม่จริงคือจริง และจริงคือจริง ไม่จริงคือไม่จริง ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน และความแน่นอนคือความแน่นอน ความไม่แน่นอนคือความไม่แน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็ยืนอยู่บนฐานของกันและกัน การทำร้ายทำลายผู้อื่นเท่ากับเราทำร้ายทำลายตัวเอง |
สมาชิกหมายเลข 3784113
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง There is no way to happiness, happiness is the way. การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว Link |