มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการฆ่าตัดหัวมันเป็นเรื่องราวการติดตามคดีของนักข่าวหนุ่มผู้มีใจให้วรรณกรรม มันเป็นเรื่องราวของการเปิดเผยขั้นตอนตั้งแต่เริ่มคดีไปจนเกือบจบมันควรถูกจำกัดความว่าอาชญนิยาย หรือนิยายสืบสวนสอบสวนแต่นั่นอาจจะทำให้ผู้อ่านกรอบเรื่องไว้เพียงความตื่นเต้นของการติดตามสืบค้นคดี และผ่อนคลายสุขสมเมื่อปมทุกอย่างถูกคลี่คลายแต่มันไม่ใช่กับนิยายสืบสวนของตาบุคคีเล่มนี้ ไม่ใช่แน่ๆ คดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม คล้ายจะถูกคลายปมโดยง่าย แม้จะเริ่มต้นจากการพบศพโดยบังเอิญของชายยิปซีเพียงคนเดียวเหตุการณ์เกิดขึ้นในเมืองหนึ่งของโปรตุเกส เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องผ้าขี้ริ้ววัว การมาถึงของนักข่าวหนุ่มทำให้หมอกที่ปกคลุมเรื่องราวอยู่ค่อยๆ จางหาย งานของนักข่าวหนุ่มที่มาเพื่อทำข่าวคดีฆาตกรรมสยองขวัญดูคล้ายไม่ต้องลงแรงมากเท่าไหร่ สละเพียงเวลาเขียนบทความถึงวรรณกรรมที่สนใจอยู่ และช่วงเวลาใกล้ชิดกับคนรัก ด้วยเจ้าของเกสต์เฮ้าส์สาวผู้มากไปด้วยคอนเนคชั่นหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ อีกทั้งโทรศัพท์จากชายลึกลับผู้ช่วยคลายปมหลักของคดี และที่ขาดไม่ได้คือทนายอ้วนผู้รับว่าความด้วยอารมณ์ศิลปินทุกส่วนถูกเชื่อมต่อโยงใยอย่างเป็นจังหวะ ข้อมูลมากหลายทั้งเชิงลึกและลับถูกส่งต่อไปยังหนังสือพิมพ์ต้นทางของนักข่าวหนุ่ม ส่งผลให้ยอดขายหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นเพิ่มขึ้นผิดหูผิดตา เรื่องราวดำเนินไปในลักษณะนั้นคดีที่เหมือนจะยากเย็นจึงถูกคลายปมลงอย่างง่ายดาย ความจริงที่เกิดขึ้นถูกจับมาวางเรียงให้เห็นเด่นชัด คนผิดก็ว่ากันไปตามผิด แต่การลงโทษผู้กระทำผิดดุลพินิจนั้นอยู่ที่ศาล ตาบุคคีวางเรื่องให้เป็นไปในแบบนิยายสืบสวนสอบสวน ใครที่ชอบอ่านนิยายแนวนี้ก็จะรู้สึกได้ว่าไม่แตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นในแนวนี้มากนัก คดีความในเรื่องถูกจัดวางอย่างเหมาะเจาะและสมจริง ตัวละครทุกตัวโลดแล่นราวกับมีชีวิต ปมเรื่องราวที่ผูกไว้ในตอนต้นจะได้รับการปลดคลายในช่วงท้าย แต่ความประทับใจต่อหนังสือเล่มนี้ไม่ได้อยู่ที่การวางโครงเรื่องชั้นยอด กลับเป็นบทสนทนาระหว่างนักข่าวหนุ่มและทนายอ้วน จริงอยู่ที่หลักๆทั้งสองจะพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับคดี แต่ทุกครั้งของการสนทนาทนายอ้วนจะแฝงซ่อนอะไรบางอย่างไว้ในคำถามบางคำถาม การพาออกนอกเรื่องราวที่กำลังพูดคุยอยู่ หรือแม้กระทั่งการพาไปยังสถานที่บางแห่ง ที่สำคัญคือการที่ทนายอ้วนมักยิงคำถามเด็ดเข้าสู่เรื่องราวที่นักข่าวหนุ่มสนใจ ความงดงามของหนังสือเล่มนี้ตามความเห็นส่วนตัวจึงมอบให้กับบทสนทนาของตัวละครที่สำคัญทั้งสอง หากว่าคุณประทับใจกับเพลงรัตติกาลในอินเดีย และคำยืนยันของเปย์เรรา ก็ไม่น่าจะมีเหตุผลใดที่จะไม่หยิบ หัวที่หายไปของดามัชเซนู มงเตย์รู ติดมือกลับบ้านอีกเล่ม คุณจะอ่านรวดเดียวจบด้วยว่าเรื่องราวชวนติดตาม หรือจะละเลียดทีละตอนด้วยมีเรื่องราวชวนให้อยากตีความ ล้วนแล้วแต่จะได้รับอรรถรสที่เปี่ยมล้น หากให้กล่าวสั้นๆ ถึงหนังสือเล่มนี้ ความงดงามของอาชญนิยายน่าจะเหมาะควร. |