ความรักของเธอและเขา เกิดขึ้นที่สุสานแห่งผู้วายชนม์ เธอมาเพื่อใช้เวลาครึ่งชั่วโมงแรกตัดพ้อต่อว่าการจากไปอย่างงี่เง่าของอดีตสามี และอีกครึ่งชั่วโมงต่อมารับสภาพของตัวเธอเอง ส่วนเขามาที่สุสานของแม่และพ่อ เพื่อควานหาปลายเชือกเส้นเล็กยึดเหนี่ยวให้คืบเคลื่อนไปบนทางที่ถูกที่ควรในขณะที่ถูกสิ่งต่างๆ รายล้อม ผ่านการปลูกและดูแลต้นไม้บนหลุมศพ แล้วเขาและเธอก็ได้พบกันบนม้านั่งที่สุสานนั่น มันเกิดขึ้นตอนนั้นตอนที่เธอเห็นรอยยิ้มของเขา

เธอ-เดซิเร่ บรรณารักษ์สาวผู้รายล้อมไปด้วยหนังสือ มีนาฬิกาชีวภาพที่ทำงานไม่เป็นเวลา และที่สำคัญเธอเป็นสาวเมือง
เขา-เบนนี่ หนุ่มปศุสัตว์ผู้รายล้อมด้วยวัวนมยี่สิบสี่ตัว มีชีวิตในวงจรเกษตรกรเต็มขั้น และที่สำคัญเขาเป็นหนุ่มบ้านนอก

มันเริ่มต้นด้วยความรักที่แสนสามัญคู่รักส่วนใหญ่บนโลกก็น่าจะพบเจอช่วงเวลาแบบนี้ ลุ่มหลง เรียนรู้ และร่วมรัก เธอกับเขาก็เช่นกัน แต่หลังจากช่วงเวลาเหล่านั้นผ่านไป ความจริงของทั้งสองก็วางแผ่ตรงหน้ารอท่าให้ทั้งคู่ตัดสินใจ เธอเป็นสาวในเมืองผู้เสพติดการทำงาน ส่วนเขาอุทิศชีวิตให้กับฟาร์มมรดกตกทอดจากบิดา แม้ระยะห่างระหว่างเขาและเธอมีเพียงสี่สิบกว่ากิโลเมตร แต่ก็สร้างความแตกต่างที่เธอเรียกมันว่าความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม เขาเฝ้าหาคู่ที่จะเข้ามาช่วยจัดแจงชีวิตในฟาร์มและอยู่เคียงข้างเมื่ออ่อนแรง เธอต้องการคนรักที่พร้อมจะปรับตัวเข้าหารสนิยมของเธอ แต่ถ้าหากคิดว่าจะยอมแพ้ง่ายๆ ไม่เลยทั้งคู่พยายามอย่างยิ่งที่จะหาจุดลงตัว โดยเฉพาะเขา ที่ทำการวาดวางแผนอนาคตสำหรับทั้งคู่ หากอยากรู้ว่าปลายทางของเรื่องราวความรักบนความแตกต่างเป็นเช่นไร เชิญหยิบหนังสือแล้วเปิดอ่านเองเถิด อย่าได้ให้ใครมาสรุปและตีความตามอารมณ์ของตัวเองเลย

เริ่มแรกขณะอ่าน ใบหน้าผมเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เรื่องราวเขาและเธอสลับกันบทต่อบท หากแต่ต่อเนื่องกัน ทำให้ผู้อ่านได้รับรู้เรื่องราวที่ต่อเนื่องจากมุมมองของคนทั้งสอง และสิ่งที่เรียกรอยยิ้มนั้น เป็นเพราะเขาและเธอดูจะเหมาะเจาะลงตัว ขณะสลับอ่านความคิดของแต่ละคน จึงได้รู้ว่าทั้งคู่นั้นทันกันเพียงใด เมื่อเรื่องราวคืบเคลื่อนไปได้สักพัก ใบหน้าผมระคนไปด้วยความลุ้นระทึก คอยให้กำลังใจทั้งคู่กับความรักที่มันเป็นไปในแบบฉบับนั้น พลางรำพันว่ารักนี้เหตุใดจึงยากจริงหนอ และเมื่อปลายทางของเรื่องราวมาถึง มีรอยยิ้มฉาบใบบนหน้าผม หากแต่เป็นรอยยิ้มที่ยากแก่การคาดเดา

ผลงานจากนักเขียนสาวชาวสวีเดนเล่มนี้ ได้รับคำชื่นชมมาค่อนโลก ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ต้องฝากคำชื่นชมไปยังผู้แปลด้วย ที่ทำให้ผมได้อ่านเรื่องราวของเขาและเธอได้อย่างลื่นไหลและชวนติดตามด้วยภาษาที่ผู้แปลหยิบมาใช้ช่วยให้อรรถรสถูกขับออกมาทางตัวอักษรแทบทุกตัว หากจะถามว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร ผมตอบได้อย่างไม่ลังเลว่า เหมาะกับคนที่มีความรักและกำลังคิดที่จะมีความรัก ผมเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือฮาวทู เพราะฉะนั้นผมจะเลือกหนังสือเล่มนี้ให้หากใครอยากที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับความรัก, ความรักนั้นเรียบง่ายก็จริงอยู่ หากแต่มันก็ทำให้ร้าวรานได้เช่นกัน.

“นั่นแหละที่ฉันต้องการ ฉันอยากมานานแล้ว ไม่รู้ทำไม ฉันหมายถึงฉันอยากมีลูกกับเธอ”

“ถ้าวันหนึ่งมีผู้หญิงที่ทำให้ผมเป็นผู้ชายที่ดี ผมจะไม่ทอดทิ้งเธอ, ผมจะอยู่กับเธอ”