จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น ,แค่น้ำตาจากคนที่เข้าใจ เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้ แม้แต่จุดต่ำสุด
วรรณกรรมแปลจากเรื่อง The Catcher in the Rye : J.D.Salingerโดย ปราบดา หยุ่น . . ผม ลงมือเขียนถึงเล่มนี้ทันทีที่อ่านจบ ผม อ่านเล่มนี้จบเมื่อเช้าก่อนมาทำงาน บนรถไฟฟ้า หนังสือเล่มนี้ได้มาจากงานหนังสือครั้งที่ผ่านมา จากบู๊ทสนพ.ระหว่างบรรทัด หลังจากระหน่ำหยิบหนังสือไม่อั้นจากบู๊ท ก็มาสะดุดตากับหนังสือปกส้มเล่มนี้ พร้อมคำแนะนำว่าน่าอ่าน จากน้องที่บู๊ทและพี่แป๊ดเจ้าของบู๊ทด้วย เล่มนี้แปลโดยปราบดา หยุ่น ผม อ่านงานของปราบดา มาเพียงเล่มเดียว คือ ฝนตกตลอดเวลา ด้วยเหตุผลส่วนตัว เลยไม่ค่อยได้เสพงานของเค้าเท่าไร แต่เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่ทำให้ ผม ประทับใจในเรื่องราวของหนังสือได้เป็นอย่างดี . . หนังสือเล่มนี้เคยได้รับการแปลมาแล้ว โดย คำรวี-ใบเตย ใช้ชื่อว่า 'ชั่วชีวิตของผม' และแปลใหม่อีกครั้ง โดยปราบดา หยุ่น The Catcher in the Rye มีชื่อเสียงในอเมริกาเพิ่มมากขึ้นเมื่อ มาร์ค เดวิด แชปแมน (Mark David Chapman) ฆาตกรผู้ชักปืนออกมากระหน่ำยิง จอห์น เลนนอน (John Lennon) นักร้องดังชาวอังกฤษแห่งวง The Beatles ที่ด้านหลัง 5 นัดซ้อนด้วยปืน .38 กล่าวในจดหมายที่เขาเขียนส่งไปยังหนังสือพิมพ์ The New York Times ว่า"อ่านหนังสือเล่มนี้สิ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมผมถึงยิงเขา" . . เรื่องราวในเล่ม เป็นเรื่องราวของวัยรุ่นอเมริกันคนหนึ่ง โฮลเดน คอลฟีลด์ เปิดเล่มมา ไม่มีคำโปรย ไม่มีคำนำ ไม่จั่วหัว เหมือนนั่งอ่านเรื่องเล่าจาก โฮลเดน (พี่แป๊ดเจ้าของสนพ.ระหว่างบรรทัด บอก ผม ว่าคนเขียนต้องการแบบนั้นจริงๆ) ชีวิตของเค้าตกต่ำตั้งแต่เริ่มต้นเรื่อง จากการโดนไล่ออกจาก เพนเซย์ โรงเรียนของเค้า ซึ่งก็โดนไล่ออกมาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน เหตุผลจากการโดนไล่ออก ก็เพราะเค้าสอบตกทุกวิชา ยกเว้น วิชาวรรณคดีอังกฤษ มันเป็นช่วงเวลาก่อนวันคริสต์มาส เวลาแห่งการเฉลิมฉลองของทุกคน แต่ไม่ใช่กับ โฮลเดน . โฮลเดน มีมุมมองต่อคนรอบข้างที่แปลกประหลาด มองเห็นความ เฟก ของคนอื่นอยู่ตลอดเวลา มีคนรอบข้างเพียงไม่กี่คนที่เค้ารู้สึกดีด้วย ไม่กี่คนจริงๆ โฮลเดน ตัดสินใจออกจากหอพักที่โรงเรียน ก่อนกำหนดไล่ออกของเค้า หลังจากมีเรื่องกับรูมเมต การเดินทางเพื่อพบเจอเรื่องต่างๆก็เกิดขึ้น คุณจะรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ว่า ห่วยแตก ของสิ่งต่างๆรอบตัว โฮลเดน ไปหมด ไม่ว่าเรื่องผู้หญิง เรื่องเพื่อน เรื่องกินเหล้าในบาร์ไม่ได้ เรื่องเต้นรำ หรืออะไรก็แล้วแต่ มีบางมุมที่ ผม แปลกใจกับความคิดของ โฮลเดน ในบางครั้ง เช่น เค้ารู้สึกชอบแม่ชีสองคนที่พบเจอระหว่างทาง อย่างไม่มีสาเหตุ อยู่ดีดีก็รู้สึกรักผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมาซะอย่างนั้น โฮลเดน เหมือนจะเป็นคนเข้มแข็ง เอาเรื่อง แต่บางมุม ก็รู้สึกได้ว่าเค้าอ่อนแอ และอ้างว้างเพียงใด ตอนที่สะเทือนใจ ผม ที่สุดคือตอนที่เค้านั่งอยู่ในที่รอที่สถานีรถไฟแกรนด์ เซ็นทรัล มันเป็นความหดหู่ ของเค้าที่ไม่มีทางไปต่อ และไม่รู้จะทำอะไร แม้กระทั่งหยิบอ่านหนังสือที่วางข้างตัว มาอ่านเพื่อลืมเรื่องราวตรงหน้าแม้เพียงชั่วขณะก็ตาม มันบีบคั้นสุดสุด ในมุมมองของ ผม ต่อชีวิตของ โฮลเดน . อย่างไรก็ตาม จุดที่ต่ำสุด ก็จะยังคงมีแสงสว่างอยู่เสมอ สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของ โฮลเดน ไว้ตลอดเวลา ก็คือ พี่ชาย ดี.บี. น้องชายที่ตายไปแล้ว อัลลี่ และน้องสาว ฟีบี ซึ่งเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิต ตามความรู้สึกของ ผม ฟีบีมีอิทธิพลต่อความรู้สึก โฮลเดน ตลอดเวลา เค้ารู้สึกเสียใจเมื่อทำซีดีที่ซื้อไปฝาก ฟีบี หล่นแตก และในขณะที่เค้าได้คุยกับ ฟีบี คืนที่เค้าแอบไปบ้านก็ดูจะทำให้เค้ามีความสุขมากที่เดียว และสุดท้าย จุดเปลี่ยนของเรื่องราว คือตอนที่ โฮลเดน เห็น ฟีบี ลากกระเป๋าเดินทางมา และบอกเค้าว่าขอหนีไปด้วย และเธอเริ่มร้องไห้ออกมา สุดท้าย โฮลเดน ก็เปลี่ยนใจที่จะไม่ไปไหน และจะกลับไปอยู่บ้าน เพื่อให้ ฟีบี หายโกรธ และนั่นก็เป็นทางออกให้กับชีวิตที่ตกต่ำของเค้า ครอบครัว นั่นเอง ที่สุดท้ายแล้วยังพร้อมรอเค้าอยู่เสมอ . . บางครั้ง คนเราเลือกที่จะวิ่งหนีปัญหา โดยที่รู้สึกหรือคิดไปเองว่า ไม่ใครที่เข้าใจ และพร้อมจะอยู่เคียงข้าง แต่ก่อนที่เราจะไขว่คว้าความช่วยเหลือจากใครรอบตัวเรา เราควรมองหาความรักและความเข้าใจจากคนใกล้ตัวเราเสียก่อน - ในทุกทุกความมืดมิด ยังคงมีแสงสว่างซ่อนตัวอยู่เสมอ อยู่ที่ว่าใครคนนั้นจะสามารถมองเห็นแสงสว่างนั้นได้หรือไม่ แสงสว่างที่ซ่อนตัวอยู่นั้นก็คือ "แสงสว่างในใจ"ของทุกคนนั่นเอง -
Create Date : 23 ธันวาคม 2552 |
|
18 comments |
Last Update : 6 มกราคม 2553 10:32:09 น. |
Counter : 2976 Pageviews. |
|
|
|
ย่างเข้าปีใหม่สุขใจทุกวัน
ไม่ว่าปีไปวันไหม่เวียนผ่าน
กาลเวลาแสนนาน
ขอให้ยังเบิกบานในใจ
ขอให้มีความสุขตลอดปี
ไม่ว่าปีนี้หรือปีไหนๆวันเปลี่ยนเวียนไป
ขอให้สุขใจจริงเอย