-สาส์นลับที่สาบสูญ- 12ชั่วโมงของการผจญภัย กับกว่า600หน้าที่กำลังเป็นภัยผจญที่ท้าทาย
. .
"บางครั้งตำนานที่ยืนยาวมานานหลายศตวรรษ ก็ยืนยาวโดยมีเหตุผล" . ผมได้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้ ไม่ใช่ด้วยความบังเอิญเหมือนหลายๆครั้ง แต่ด้วยความตั้งใจ ถ้าใครได้อ่านบทความผมบทก่อนก่อน ที่ผมเขียนถึง the lost symbol ; สาส์นลับที่สาบสูญ ผลงานเล่มใหม่จาก แดน บราวน์ ก็น่าจะจำได้ว่าวันนี้(23)เป็นวันที่หนังสือเล่มนี้วางขายวันแรก เรียกว่าวางเรียกน้ำย่อยก่อนงานหนังสืออีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยเฉพาะน้ำย่อยจากนักอ่านโรคจิตเช่นผม . หลังจากคิดพิจารณาตัดสินใจอยู่ชั่วขณะ ว่าจะรีบเป็นเจ้าของหลังจากรอคอยมานาน หรือจะรอไปเคลมในงานหนังสือซึ่งน่าจะมีส่วนลดยวนใจเยอะ สุดท้ายเหตุเกิดที่ร้านนายอินทร์ พารากอน เพราะผมก็อดใจไม่ไหวจากตอนแรกคิดว่าไปลูบคลำทำความรู้จักกันก่อน สุดท้ายเจ้าเล่มโตเล่มนี้ก็ชวนผมให้พามันกลับบ้านจนได้ อีกเหตุผลที่ต้องพาเจ้าเล่มนี้กลับบ้านด้วยก็เพราะความโรคจิตส่วนตัว(ลอกเลียนแบบได้)ของผมเอง ก็ไอ้เจ้าคำว่า"พิมพ์ครั้งที่ 1"นั่นเองที่คอยยั่วผมตลอดเวลาที่รอหนังสือเล่มใหม่ เล่มนี้ก็เช่นกัน ถ้าหากรองานหนังสืออาจจะไปถึง พิมพ์ครั้งที่ 5 แล้วก็เป็นได้ แต่สุดท้ายเจ้าเล่มที่ได้มาก็เป็น พิมพ์ครั้งที่ 2 จนได้ เพราะที่ร้านได้มาแต่พิมพ์นี้ และหลังปกเห็นข้อมูลว่า พิมพ์ครั้งที่1และ2 พิมพ์พร้อมกัน แต่ความรู้สึกก็ต่างกันมากมายนัก (นี่แหละความโรคจิต) หนังสือในชั้นของผมส่วนใหญ่90%จะเป็น "พิมพ์ครั้งที่ 1" ทั้งนั้น นึกแล้วก็เสียดาย เฮ้อ . . หลังจากจ่ายค่าตัวของเจ้าเล่มโตเป็นที่เรียบร้อย ผมก็แวะไปนั่งพักผ่อน จริงๆก็ตื่นเต้นอยากอ่านซะเดี๋ยวนั้น เลยไปนั่งกินมื้อเย็นที่แมคโดนัลด์ พร้อมกับอ่านหนังสือไปด้วย จากนั้นระหว่างทางกลับบ้านก็ยังอ่านต่อเนื่อง จนรู้สึกได้ว่าอ่านเพลิน อ่านมัน จนไม่อยากจะวางมันลงเลยจริงๆ อยากอ่านให้จบซะเดี๋ยวนั้น เรื่องราวชวนติดตามตั้งแต่เริ่มเรื่อง จนรู้สึกว่าไม่เยิ่นเย้อ ปูทางเรื่องมากมาย มาถึงก็เข้าเรื่องตรงประเด็น จนถึงตอนที่อ่านอยู่ตอนนี้ บอกได้คำเดียวว่า ใครที่เป็นแฟน แดน บราวน์ ชอบเรื่องราวทฤษฎีสมคบคิด รับรองได้เลย(ขนาดเพิ่งอ่านไปไม่กี่ตอน)ว่าไม่ผิดหวังแน่ โดยเฉพาะใครเป็นแฟนกลุ่มเมสัน ที่ออกมาผลุบโผล่หลายครั้งในเล่มก่อนๆของเค้าล่ะก็ ไม่ผิดหวังแน่ เพราะเรื่องราวในเรื่องเริ่มต้นจากประเทศแม่ของกลุ่มนั่นเอง . เอาเป็นว่าวันนี้ มาเขียนยั่วน้ำลายคนที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าของ เผื่อจะเปลี่ยนใจไปหยิบก่อนงานหนังสือ เพราะทนไม่ไหวเหมือนผม ก็ไม่ว่ากัน เพราะงานหนังสือรอบนี้รับรองว่ามีอีกหลายเล่มนอนผึ่งพุงรออีกหลายเล่มเลยครับ โดยเฉพาะเล่มนี้ "ปีศาจแห่งเล็กซิงตัน" เล่มปิดในโครงการแฟนมูราคามิรวมหัว และที่ประหลาดใจเล็กน้อยก็ค่ายมติชน ที่งานรอบนี้ออกงานใหม่น่าสนใจหลายเล่ม โดยเฉพาะเล่มนี้ "คิง ไกเซอร์ ซาร์ สามกษัตริย์ผู้นำโลกสู่สงคราม" แปลโดยคุณนพดล เวชสวัสดิ์ (ไม่พลาดแน่นอน) และอีกเล่มแถมท้าย "ห้องสมุดลับของฮิตเลอร์" อย่าพลาดนะครับ เจอกันที่มหกรรมหนังสือแห่งชาติครับ . . "ในปี 1991 เอกสารฉบับหนึ่งถูกเก็บลั่นกุญแจ อยู่ในตู้นิรภัยของผู้อำนวยการซีไอเอ ทุกวันนี้เอกสารนั้นยังคงอยู่ที่นั่น ข้อความเข้ารหัสในเอกสารนั้น รวมถึงการอ้างอิงเรื่องประตูโบราณ และสถานที่ใต้ดินซึ่งไม่มีใครรู้จัก เอกสารฉบับนั้นยังบรรจุประโยคที่ว่า -มันซุกอยู่ตรงไหนสักแห่งที่นั่น-
*ขอบคุณรูปจาก amarinpocketbook.com ด้วยครับ*
Create Date : 24 มีนาคม 2553 |
|
15 comments |
Last Update : 24 มีนาคม 2553 1:14:00 น. |
Counter : 2546 Pageviews. |
|
|
|