014. Ambition ว่าด้วย ความทะเยอทะยาน
ambition 1. An earnest or eager desire for some type of achievement or distinction, as power, honor, fame, or wealth, and the willingness to strive for its attainment. 2. The object, state, or result desired or sought after: "To be a professional baseball player has been his life-time ambition." 3. A desire for exertion or activity; energy: "We had no ambition to go dancing this evening." ambitious 1. A strong feeling of wanting to be successful in life and to achieve great things. 2. An aim or objective that someone is trying to achieve.
"ทะเยอทะยาน" คำว่า "ทะเยอทะยาน" ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง อาการอยากมีฐานะหรือภาวะสูงกว่า ดีกว่า ที่เป็นอยู่
ความทะเยอทะยาน
เหตุใดเธอจึงต้องการเป็นกวี ถ้าความต้องการนั้นเกิดขึ้นจาก ความทะเยอทะยาน ความอยากที่จะมีชื่อเสียงแล้วไซร้ ก็นับว่าเธอเลือกผิด เพราะเยอรมันในปัจจุบันนี้มิได้ใส่ใจอะไรมากนักกับพวกกวี และสามารถอยู่ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องมีคนประเภทนี้ นี้ก็เป็นเช่นเดียวกับเรื่องการหาเงินหาทอง สมมติว่าเธอเป็นกวีที่มีชื่อเสียงที่สุดในเยอรมัน (ไม่นับรวมการละคร) ถ้าเปรียบเทียบกับพวก ผู้จัดการหรือรองผู้จัดการบริษัทค้าหุ้น หรือโรงงานผลิตเข็มแล้วล่ะก็ เธอก็มีฐานะดีกว่าขอทานสักเล้กน้อยเท่านั้น
แต่อาจเป็นได้ว่า เธอไปสะดุดถูกอุดมคติที่จะเป็นกวีเข้า ก้เพราะและเห็นกวีในฐานะของสิ่งที่สดใหม่ มีคุณสมบัติริเริ่ม เป็นผู้สำรวจดูโลก และใฝ่ทางธรรม มีความบริสุทธิ์ในหัวใจ เต็มไปด้วยความละเอียดอ่อน และชื่นชมในชีวิตที่อุดมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก เป็นบุคคลผู้สามารถหยั่งถึงความลี้ลับ เป็นผู้แสวงหาแรงบันดาลใจ เพื่อทำให้การดำรงอยู่เป็นสิ่งสูง อาจเป็นไปได้ที่เธอมองว่ากวีเป็นสิ่งตรงข้ามกับพวกนักล่าเงิน กับผู้ใฝ่อำนาจ อาจเป็นไปได้ว่าการที่เธอดิ้นรนเพื่อทางสายนี้ มิใช่เพื่อเขียนบทกวีหรือหวังชื่อเสียง แต่เพราะเธอรู้สึกว่า กวีนั้นเป็นผู้เบิกบานอยู่ในอิสรภาพ และในความโดดเดี่ยว แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความรับผิดชอบอันสูงยิ่ง และเขาจะต้องอุทิศตัวอย่างสิ้นเชิง ถ้าอาชีพกวีของเขามิใช่สิ่งเสแสร้ง
และถาเป็นดังนี้ละก็ ก็นับว่าเธอได้เดินบนหนทางที่ถูกต้องของการเขียนกวีแล้ว แต่ในกรณีนี้ก็เช่นกัน มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าต่อไปเธอจะได้เป็นกวีหรือไม่ ด้วยว่าคุณสมบัติอันสูงส่งของกวี นั่นก็คือความซื่อสัตย์ต่อตนเอง การหยั่งลึกในธรรมชาติ การยอมรับที่จะทุ่มเทอุทิศตัวจนเกินคนสามัญ ความรับผิดชอบอย่างสูง ซึ่งอาจจะไม่พึงพอใจอะไรง่ายๆ และยินดีที่จะยอมอดหลับอดนอน เพียงเพื่อค้นหาถ้อยคำอันงดงามสักประโยคหนึ่ง แต่งคำชั้นดีออกมาสักวลีหนึ่ง บรรดาคุณธรรมเหล่านี้ (ถ้าหากจะเรียกดังนั้น ) นับเป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศ มิใช่เพียงสำหรับกวีที่แท้เท่านั้น แต่ยังเป็นเกียรติยศของมนุษย์ที่แท้จริงด้วย มันคือเครื่องหมายของความไม่เป็นทาส ของมนุษย์ที่มิใช่จักรกล ของมนุษย์ผุ้รับผิดชอบและน่าเคารพ ไม่ว่าเขาจะมีอาชีพใดก็ตาม
ดังนี้ ถ้าเธอนึกภาพของมนุษย์ในอุดมคติไว้เช่นนี้ ถ้าภายในของเธอไม่ได้ถูกผลักดันด้วยแรงปรารถนาที่จะมีชื่อเสียง ที่จะโด่งดังคับฟ้า ทั้งมิใช่เพื่อแสวงหาเงินและอำนาจ หากปรารถนาชีวิตที่ตกผลึกอยู่ภายในตัวเอง และไม่หวั่นไหวด้วยโลกธรรม ถ้าเป็นดังนี้แล้วไซร้ แน่ใจได้เลยว่าเธอยังไม่ได้เป็นกวีหรอก หากแต่เธอเป็นพี่น้องของกวี เป็นเผ่าพันธุเดียวกัน และนี่เอง ที่ทำให้ การเขียนกวีของเธอแฝงไว้ด้วยความหมายอันลึกซึ้ง
จาก: จดหมายถึงกวีรุ่นเยาว์
หนังสือ : มาจากทางสายเปลี่ยว
โดย : เฮอร์มาน เฮสเส
แปล: พจนา จันทรสันติ
สำนักพิมพ์ ตถตา ;กันยายน 2528
จากพระไตรปิฏกฉบับประชาชน
๗๖. พระพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญความหยุดอยู่ในกุศลธรรม "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่สรรเสริญความหยุดอยู่ในกุศลธรรมทั้งหลาย จะป่วยกล่าวไปใยว่า เราจะสรรเสริญความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย อนึ่ง เราย่อมสรรเสริญความเจริญ ไม่สรรเสริญความหยุดอยู่ ไม่สรรเสริญความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย ที่มิใช่ความหยุดอยู่ มิใช่ความเจริญเป็นอย่างไร? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ มีพื้นเพแค่ไร เกี่ยวกับศรัทธา(ความเชื่อ) ศีล(ความเป็นปกติทางกาย วาจา) สุตะ(ความสดับตรับฟัง) จาคะ(ความสละ) ปัญญา(ความรู้) ปฏิภาณ(ความไหวพริบ) ธรรมเหล่านั้นของเธอ ย่อมไม่ตั้งอยู่ ย่อมไม่เจริญขึ้น. เรากล่าวข้อนั้นว่าเป็นความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย มิใช่ความหยุดอยู่ มิใช่ความเจริญ ดูก่อนภิกษุทังหลาย อย่างนี้แล คือความเสื่อมในกุศลธรรมทั้งหลาย มิใช่ความหยุดอยู่ มิใช่ความเจริญ
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความหยุดอยู่ในกุศลธรรมทั้งหลาย ที่มิใช่ความเสื่อม มิใช่ความเจริญเป็นอย่างไร? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ มีพื้นเพแค่ไร เกี่ยวกับศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา ปฏิภาณ. ธรรมเหล่านั้นของเธอย่อมไม่เสื่อมไป ย่อมไม่เจริญขึ้น เรากล่าวข้อนันว่าเป็นความหยุดอยู่ในกุศลธรรมทั้งหลาย มิใช่ความเสื่อม มิใช่ความเจริญ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล คือความหยุดอยู่ในกุศลธรรมทั้งหลาย มิใช่ความเสื่อม มิใช่ความเจริญ
"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลาย ที่มิใช่ความหยุดอยู่ มิใช่ความเสื่อมเป็นอย่างไร? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ มีพื้นเพแค่ไร เกี่ยวกับศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา ปฏิภาณ. ธรรมเหล่านั้นของเธอย่อมไม่ตั้งอยู่ ย่อมไม่เสื่อมไป. เรากล่าวข้อนั้นว่าเป็นความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลาย มิใช่ความหยุดอยู่ มิใช่ความเสื่อม. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล คือความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลาย มิใช่หยุดอยู่ มิใช่ความเสื่อม."
ทสกจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๔/๑๐๑
Create Date : 07 กันยายน 2550 |
|
173 comments |
Last Update : 5 สิงหาคม 2552 16:23:26 น. |
Counter : 9345 Pageviews. |
|
|
|
Ambition never comes to an end.
- Kenneth Kaunda