" เรื่องราวต่างๆเป็นดั่งทองคำในเทพนิยาย เมื่อคุณแจกจ่ายไปมากขึ้น คุณก็ได้รับกลับมามากขึ้น " พอลลี แมคไกวร์
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
201.อำนาจใหม่ หรือ POWER SHIFT





POWER SHIFT
อำนาจใหม่
การอุบัติขึ้นของอำนาจใหม่ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลง บทบาทของความรู้ อันก่อให้เกิดการเคลื่อนย้าย ของอำนาจในด้าน เศรษฐกิจ การเมือง สังคม


อำนาจในความหมายใหม่

เหมาเจ๋อตุง: อำนาจเกิดจากกระบอกปืน
นิรนาม: เงินพูดได้
ฟรานซิส เบคอน: ความรู้คืออำนาจ





หนังสือเรื่อง อำนาจใหม่ หรือ Power Shift ผมอ่านครั้งแรกเป็น ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1. กันยายน 2535 (หนังสือแปล โดย ขุนทอง ลอเสรีวานิช) หรือ เมื่อ18 ปีก่อน

18 ปีก่อนได้อ่านหนังสือเล่มนี้ แล้ว พยายามมโนภาพว่าโลกข้างหน้าอีก 20 ปีจะเป็นอย่างไร ?

ในวันนี้โลกเป็นแบบนี้และอย่างนี้ ผมจึงได้ย้อนกลับไปอ่านหนังสือเล่มนี้ใหม่อีกครั้งหนึ่งเพื่อย้อนกลับไปสู่อดีตว่าเมื่อ 18 ปีก่อนนั้นหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงอะไรบ้าง และ พยายามเปรียบเทียบดูว่า สิ่งที่ควรเป็นและสิ่งที่เป็นอยู่นั้นมีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร ?

และ ในวันนี้ พ.ศ.2553 โลกเป็นอย่างนี้ หรือ ประเทศไทยเป็นแบบนี้ อีก 10-20ปี ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร การเกิดขึ้นของ AEC หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ GMS จะมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันไปสู่อนาคตแบบไหน ?

จากเรื่อง คลื่นลูกที่สาม (THE THIRD WAVE) ฟิวเจอร์ช็อค (FUTURE SHOCK) มาสู่ พาวเวอร์ชิฟท์ (POWER SHIFT)

หนังสือสามเล่มนี้เริ่มจากข้อเสนอว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันที่อุบัติขึ้นทุกวันนี้นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องของความอลหม่าน และ ก็ไม่ใช่เกิดขึ้นอย่างสะเปะสะปะตามที่เชื่อกัน แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีรูปแบบที่ชัดเจน หากยังเกิดขึ้นจาก "พลัง" ซึ่งสามารถอธิบายได้ เมื่อใดที่สามารถเข้าใจแบบแผนและพลังเหล่านี้ เราจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีทิศทาง แทนที่จะจัดการไปทีละเรื่องๆอย่างสะเปะสปะ

การที่จะเข้าใจและคิดอย่างเป็นระบบต่อการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้น เราต้องมองให้ทะลุว่า ความเปลี่ยนแปลงแต่ละอย่างที่มีความแตกต่างกันนั้น มีความสัมพันธ์ต่อกันและกันอย่างไรบ้าง

หนังสือเล่มนี้ ก็เช่นเดียวกับสองเล่มก่อนหน้าที่ทำหน้าที่ส่องขอบโค้งแห่งอารยธรรมใหม่ซึ่งกำลังแผ่คลุมไปทั่วโลกของเราใบนี้ ให้เห็นกันอย่างชัดเจนและรอบด้าน

ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอารยธรรมใหม่ที่เข้าปะทะกับพลังเก่า หนังสือเล่มนี้มองการเทคโอเวอร์ในวงการธุรกิจ และ การปรับโครงสร้างขององค์การว่าเป็นเหมือนกระสุนนัดแรกของการสู้รบทางธุรกิจ ยังมีการปะทะกันซึ่งใหญ่และแปลกใหม่กว่าซึ่งจะติดตามมา ที่สำคัญกว่าไปกว่านั้นคือ ถ้าเป็นสงคราม การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน ในยุโรปตะวันออกและโซเวียต ก็เป็นแค่การซุ่มโจมตีเท่านั้น การสู้รบที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คือ การต่อสู้ของอำนาจต่างๆในระดับโลกที่กำลังจะมาถึง

พาวเวอร์ชิฟท์ เป็นเสมือนจุดสุดยอดของการเดินทางอันน่าตื่นตาตื่นใจที่กินเวลานานถึง 25 ปี...

มิติทางด้านเวลาของหนังสือชุดนี้ เริ่มต้นประมาณกลางทศวรรษ 1950 และไปจบลงที่ปี 2025 ยาวนานถึง 75 ปี หรือ เท่ากับช่วงชีวิตหนึ่งของคน ช่วงเวลานี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นรอยเชื่อมต่อแห่งประวัติศาสตร์ก็ได้ เพราะเป็นยุคที่อารยธรรมแบบอุตสาหกรรมปล่องควันไฟ ซึ่งมีบทบาทครอบงำสังคมโลกมานับศตวรรษ ถูกแทนที่ด้วยอารยธรรมใหม่ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการต่อสู้ทางอำนาจที่เขย่าโลกทั้งโลก

แม้ทั้งสามเล่มจะพุ่งเป้าไปที่ช่วงเวลาเดียวกัน แต่ในแต่ละเล่มก็พิจารณาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยแง่มุม หรือ ประเด็นที่ต่างกัน





Future Shock พูดถึง "กระบวนการ" ของการเปลี่ยนแปลง กล่าวคือ ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคนและองค์กร The Third Wave หรือ คลื่นลูกที่สาม เน้นที่ "ทิศทาง" ของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวันนี้ว่า จะพาเราไปที่ไหน ส่วน Power Shife พิจารณาว่า ใครจะเป็นผู้ "ควบคุม" การเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง และ ด้วยวิธีการอย่างไร





Future Shock เสนอว่า การพัฒนาอย่างเร่งรุดของประวัติศาสตร์ก่อให้เกิดผลลัพธ์ในตัวของมันเองที่ไม่ขึ้นต่อทิศทางที่แท้จริงของการเปลี่ยนแปลง ปัจเจกชน องค์กร และ ประเทศชาติถูกรุมกระหน่ำจากการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปในช่วงเวลาสั้นๆ จนกระทั่งทำให้เกิดความสับสน และ ล้มเหลวที่จะปรับตัวรับสถานการณ์และนำไปสู่อาการที่เรียกว่า "Future Shock"

"Future Shock" ประกาศว่าครอบครัวเดี่ยวจะแตกสลายในไม่ช้า สังคมแบบ "ใช้แล้วทิ้ง" กำลังเกิดขึ้น เช่นเดียวกับการปฏิวัติทางการศึกษา ซึ่งเป็นคำประกาศที่สวนทางกับกระแสความคิดในปัจจุบัน

"Future Shock" ตีพิมพ์ครั้งแรกในสหรัฐฯ เมื่อปี ค.ศ.1970





The Third Wave


The Third Wave หรือ "คลื่นลูกที่สาม" ซึ่งตีพิมพ์ออกมาในปี ค.ศ.1980 พูดถึงการปฏิวัติในทางเทคโนโลยีและสังคม รวมทั้งสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากการปฏิวัตินี้ หนังสือเล่มนี้ เรียกการปฏิวัติเกษตรกรรมเมื่อหนึ่งหมื่นปีที่แล้วว่าเป็น "คลื่นลูกที่ 1" ของระลอกคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ส่วน "คลื่นลูกที่ 2" ก็คือ การปฏิวัติอุตสาหกรรม และ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สังคมในกลาลทศวรรษ 1950 คือ "คลื่นลูกที่สาม" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของอารยธรรมใหม่หลังยุคอุสาหกรรมปล่องควันไฟ (Smockstack Industries หมายถึง อุตสาหกรรมหนักที่เกิดขึ้นในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมเหล็กกล้า รถยนต์ ซึ่งมีขีดจำกัดที่จะเติบโตต่อไป และ มีรายได้ ผลกำไร ขึ้นลงตามวงจรเศรษฐกิจ)

ยี่สิบปีหลังจาก "Future Shock" และ สิบปีหลังจาก "The Third Wave" หนังสือเรื่อง "POWER SHIFT" ก็เสร็จสมบูรณ์ โดยมุ่งประเด็นไปที่การเปลี่ยนแปลงบทบาทของความรู้ที่สัมพันธ์กับอำนาจ ด้วยการเสนอทฤษฏีใหม่เกี่ยวกับ อำนาจ สังคม และ สำรวจการเคลื่อนย้ายของอำนาจในวงธุรกิจ เศรษฐกิจ การเมือง

"POWER SHIFT" ได้ศึกษาอำนาจทั้งในระดับบนสุดและล่างสุดของสังคม

ได้ศึกษาเรื่องอำนาจ จาก คนอื่นๆที่ได้ชื่อว่าอยู่ในกลุ่มบุคคลที่ทรงอำนาจที่สุดของโลก

ได้สนทนาในหัวข้อเรื่องอำนาจกับนายธนาคาร นักสหภาพแรงงาน ผู้นำทางธุรกิจ นักวิทยาศาสตร์ผู้ได้รับรางวัลโนเบล ผู้เชี่ยวชาญเรื่องคอมพิวเตอร์ และ นักหนังสือพิมพ์

ได้เรียนรู้ว่า แม้แต่นักโทษก็ใช่ว่าจะไร้อำนาจเสียทีเดียว ตรงกันข้าม นักโทษบางคนรู้จักใช้ข้อมูลเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางอำนาจ





วงเดียวเพื่อครองพิภพ
วงเดียวเพื่อค้นพบจบหล้า
วงเดียวเพื่อสาปสิ้นทุกวิญญาณ์
พันธนาไว้ในความมืดมน





Create Date : 30 มีนาคม 2553
Last Update : 13 เมษายน 2553 10:22:55 น. 1 comments
Counter : 1850 Pageviews.

 
สมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย (สถาบันอบรมไอทีไอ)
เปิดรับสมัครตัวแทนออกของ ภูมิภาค ชลบุรี
อบรมระหว่าง 5 มิถุนายน -25 กรกฎาคม 2553 (ส.-อา)
ผ่านเวปไซด์www.ctat.or.th
//www.ctat.or.th/News_EditorPopup.aspx?NewsID=rS6%2fb87YHgaAmBmwN8Dpww%3d%3d&LanguageID=Nt5SU3fV7Uhe5l3yR8Wmuw%3d%3d


โดย: สมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย IP: 58.8.197.77 วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:14:42:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

moonfleet
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




ไม่มีสิ่งใดจะเกิดขึ้นมาได้ หากไม่เคยเป็นความฝันมาก่อน
New Comments
Friends' blogs
[Add moonfleet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.