|
|
|
- 03.10.2564 กาอัล ดอร์นิค (Gaal Donick) การเดินทางสู่ ทรานทอร์ (Trantor)
- 03.10.2564 ฮาริ เซลด็อน (Hari Seldon) นักอนาคตประวัติศาสตร์
- 14.04.2560 วัดหนอง สีคูณเมือง หรือ วัดหนองศรีคูนเมือง, หลวงพระบาง, สปป.ลาว.
- 11.04.2560 การประกวดนางสังขาร หลวงพระบาง สปป.ลาว ประจำปี พ.ศ.2017 (วันแรก)
- 11.04.2560 วัดป่าฮวก (Wat Pa Houak) หรือ วัดป่ารวก หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก สปป.ลาว
- 16.04.2560 การแสดงโขน พะลัก.พะลาม @หอคำหลวงพระบาง หรือ หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง สปป.ลาว.
- 301. บัญญัติ 10 ประการของโทมัส เจฟเฟอร์สัน ประธานาธิบดีคนที่ 3 ของประเทศสหรัฐอเมริกา (ค.ศ.1801-1809)
- 300. วันอาสาฬหบูชา
- มีความสุขที่สุดในโลก
- สัมภาษณ์: "เดโช ไชยทัพ" ท้องถิ่นโตเองไม่ได้
- รูปแบบของกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ
- เดี่ยวไมโครโฟน 8
- You Tube: บทอาขยาน เช่น วิชาเหมือนสินค้า
- มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- Bangkok Thailand
- Manila City, Philippines
- Kuala Lumpur, Malaysia
- The Fastest Growing Economic Countries in Asia : ไม่มีประเทศไทยแลนด์ ดินแดนแห่ง....
- Jakarta City : กรุงจาการ์ต้า เมืองหลวงแห่ง อินโดนีเซีย
- Tokyo City : กรุงโตเกียว
- New York City
- หนังสั้น หรือ ภาพยนต์เรื่องสั้น หรือ Short Movie หรือ Short Story
- นักเรียน และ นักศึกษา
- เพลงที่เคยชอบในอดีต และ ปัจจุบันก็ยังคงชอบฟังอยู่ดี : Christie San Bernadino
- loveis 26 : You Tube ของ loveis 26
- Only in Vietnam
- กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
- เมื่อจะไปเฝ้า พระราชา อุปฌาย์ ตุลาการ หญิงสาว และ หญิงแก่ผู้มีลูกสาวซี่งเรารักใคร่
- มายาคือความมั่งคั่ง และ มายาคือความรักนี้มีคุณดีที่ไหนบ้าง ?
- นิทานเวตาล เรื่องที่ 3. เรื่องของนกแก้วชื่อ วิทัคธจูฑามณี ของพระเจ้าวิกรมเกศริน กับนกขุนทอง
- นิทานเวตาล เรื่องที่ 2. เรื่องของนางมันทารวดี กับ พราหมณ์หนุ่ม 3 คน
- นิทานเวตาล เรื่องที่ ๑. เรื่องของเจ้าชายวัชรมกุฏ กับพระสหายชื่อ พุทธิศรีระ
- เริ่มเรื่อง เวตาลปัญจวิงศติ
- คำนำ นิทานเวตาล
- พระเจ้าจันทรคุปต์ที่ 2 จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
- นิทานเวตาล จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
- อาหารมื้อเช้าภายใต้เส้นงบประมาณ 10 บาท
- นกน้อยทำรังแต่พอตัว แต่ต้องมีความมั่นคงและแข็งแรงด้วยมิฉะนั้นสมาชิกในครอบครัวจะได้รับอันตรายดังนี้
- งานที่ไม่ได้เริ่มต้น คือ งานที่ใช้เวลายาวนานที่สุดกว่าจะสำเร็จ
- วันคุ้มครองโลก 22 เมษายน พ.ศ. 2553 : พิธีบวชอุบาสิกาแก้วรุ่น 500,000 คน และหล่อพระธรรมกาย
- วันคุ้มครองโลก 22 เมษายน พ.ศ. 2553 : พิธีมอบผ้าสไบแก้ว แก่ อุบาสิกาแก้วรุ่น 500,000 คน
- 1. วิวรณ์ของพระเยซูคริสต์
- ความชั่วช้าของมนุษยชาติ : พระเจ้าทรงเห็นว่าความชั่วช้าของมนุษย์มีมากบนแผ่นดิน จึงเสียพระทัยที่ได้...
- ๓. จักกวัตติสูตร
- 204. ทอมัส เจฟเฟอร์สัน
- 203.Power Shift : หมอ พระเจ้าในเสื้อคลุมสีขาว
- 202. Power Shift : ยุคสมัยแห่งการเคลื่อนย้ายของอำนาจ
- 201.อำนาจใหม่ หรือ POWER SHIFT
- ความพอประมาณ คือ อะไร ? ปัญญา คือ อะไร ?
- ตำนานพระญาธัมมิกราช
- ธันวาคม เดือนแห่งการสรุปบทเรียน
- The Little Match Girl
- CARMEN :"ความรัก คือ นกป่า" ที่ "ไม่มีวัน เชื่อง"
- ทำอย่างไรจึงจะมีความสุข ไม่ว่าจะมั่งมี หรือ ยากจน
- หนังสือที่ใครไม่ได้อ่านจะต้องเสียใจ: การเดินทางของส่วนที่หายไป : The Missing Piece Meet the Big O
- เยาวชน มีความปราถนาอันสูงส่ง ในอันที่จะไปสร้าง ความใฝ่ฝันอันยิ่งใหญ่ ของตน
- พระผู้ทรงปกเกล้าฯ ประชาธิปไตย
- 16 ข้อแห่งความยิ่งใหญ่ของเวียดนามเหนือไทย ศักยภาพที่น่ากลัวของเวียดนาม . . . ไทยควรอ่านเพื่อสังวร
- การเลือก"แฟน" มีความเสี่ยง ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นหลักประกันผลการดำเนินงานในอนาคต
- 1 ใน โครงการตักบาตรพระ 500,000 รูป
- เด็กเท้าเปลือย
- จากเจ้าพระยาถึงฝั่งโขง ของ สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์
- The Greatest Salesman In the World by Og Mandino
- ว่าด้วย เฟาสต์ เรื่องเล่าโดยจดหมายเก้าฉบับ by อีวาน ตูร์เกเนฟ
- ว่าด้วย กฏแห่งกรรม The Law of Karma ( หน้าที่ของกรรม)
- Trust Models
- คนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
. ผู้บันดาลให้มนุษย์ขึ้นไปเยือนดวงดาวได้สำเร็จ
- รายชื่อ นายกรัฐมนตรี ประเทศไทย
- THE ROAD NOT TAKEN : ทางที่ไม่ได้เลือก
- ปรัชญาการบริหารเวลา ทำงานให้ฉลาดขึ้น ไม่ใช่ให้หนักขึ้น"
- OF VISION ... ว่าด้วย วิสัยทัศน์
- OF...DREAM
- 7. โอหัง ( pride / hubris ) 1 ในบาป 7 ประการ
- 6. อิจฉา ( envy ) 1 ในบาป 7 ประการ
- 5. โทสะ ( wrath ) 1 ในบาป 7 ประการ
- 4. เกียจคร้าน (sloth / laziness ) 1 ในบาป 7 บาป
- 3. โลภะ ( greed / avarice ) 1 ในบาป 7 ประการ
- 2. ตะกละ (ภาษาลาติน: gula กูลา ; ภาษาอังกฤษ: gluttony) 1 ในบาป 7 ประการ
- บาป 7 ประการ (seven deadly sins)
- 1. ราคะ (ภาษาลาติน: luxuria ลุกซุเรีย ; ภาษาอังกฤษ: lust) 1 ในบาป 7 ประการ
- Of Carmen ว่าเพลง คาร์เมน
- OF ว่าด้วย คุณ น้ำมนต์ ธีรนัยน์ ณ หนองคาย
- OF Carmen .... ความรัก คือ นกป่า
- สิบสองเรื่องอุปรากร
- Of Carmen ว่าด้วย เรื่อง คาร์เมน
- Of Re-imagine by tom peters ว่าด้วย คิดใหม่
- Of Sins & Hells ว่าด้วย บาป และ นรก 8 ขุม ?
- Of....Hermann Hesse ว่าด้วย เฮอร์มานน์ เฮสเส ประพันธกรเอกเยอรมันผู้ได้รับรางวัลโนเบล
- Of http://plaza.harmonix.ne.jp/~onizuka/galgaE.html
- Of Imaginary Worlds ว่าด้วย โลกจินตนาการ
- Of มุ่งสู่รอบพันปีที่สามแห่งคริสต์กาล
- Of MEGATRENDS 2000 by John Naisbitt & Patricia Aburdene
- Of The Secret Power by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง อานุภาพพิศวง แปลและเรียบเรียงโดย อมราวดี
- Of THE MURDER OF DELICIA by Merie Corelli นางแก้ว แปลและเรียบเรียงโดย อมราวดี
- Of INNOCENT by Marie Corelli ว่าด้วย ผู้บริสุทธิ์ แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Of The Trench Comrade by Marie Corelli ว่าด้วย เพื่อนร่วมสนามเพลาะ แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Of The Signal by Marie Corelli ว่าด้วย แสงสัญญาณ แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Of The Lady with the Carnations by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง นางในภาพ แปล/เรียบเรียงโดย อมราวดี
- Of "Sunny" by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง "ซันนี่" แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Of The Song of Miriam by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง เพลงพยาบาท แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Of Angel's Wickedness by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง ผู้ที่พระเจ้ารัก แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Of The Boy by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง สาวสำนึก แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Of Rejected by Marie Corelli ว่าด้วย โลกศิลปะ แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Of The Panther by Marie Corelli ว่าด้วย สัตว์กับคน แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Of Lolita by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง โลลิตา แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Of Why She was Glad by Marie Corelli ว่าด้วยเรื่อง ผู้ที่หล่อนไม่ปรารถนา แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Nehemiah P. Hoskins, Artist by Marie Corelli ว่าด้วย ศิลปินเอก แปล/เรียบเรียง อมราวดี
- Of The Silence of the Maharajah by Marie Corelli ว่าด้วย เรื่อง คนละโลก
- Of The DISTANT VOICE by Marie Corelli ว่าด้วย หนังสือเรื่อง เสียงสวรรค์ แปล โดย อมราวดี
- Of The Mighty Atom (1890) ว่าด้วย อำนาจพลังปรมณู
- Of God's Good Man (1894)
- Of The Silver Domino
- Of Twin Souls: The Strange Experiences of Mr Rameses
- Of Cameos by Marie Corelli
- Of The Sorrows of Satan by Marie Corelli
- Of Barabbas : A Dream of the World's Tragedy (1893) by Marie Corelli
- Of The Soul of Lilith by Marie Corelli
- Of Ardath by Marie Corelli
- Of Wormwood ( เถ้าสวาท) : A Drama of Paris by Marie Corelli
- Of Vendetta ( ความพยาบาท) by Marie Corelli
- Of A Romance of Two Worlds by Marie Corelli
- Of Thelma by Marie Corelli ว่าด้วย หนังสือเรื่อง เต็ลมา
- Of Shardik by Richard Adams ว่าด้วย ชาร์ดิก หมียักษ์ แปลโดย สุดจิตต์ ภิญโญยิ่ง
- Of WATERSHIP DOWN by Richard Adams ว่าด้วย เรื่อง ทุ่งวอเตอร์ชิพ
- Of ..The Currents of Space by Isacc Asimov ว่าด้วย ลาแล้วโลก
- Of ...Against the Fall of Night ว่าด้วย..ประหนึ่งจะเย้ยรัตติกาล ของ Arthur C. Clarke
- Of...The Achieving Society ว่าด้วย...สังคมแห่งความสำเร็จ
- Of ....The Limits to Growth. ว่าด้วย ขีดจำกัดความเจริญ
- Of One Hundred Countries, Two Billion People: by Robert S. McNamara ว่าด้วย ร้อยประเทศสองพันล้านคน
- ว่าด้วย ..ที่น่าสนใจ ในเรื่อง Foundation
- Of ...Hermann Hesse ว่าด้วย เรื่องของ เฮอร์มานน์ เฮสเส
- Of Robots and Empire ว่าด้วย นครห่นยนต์ โดย Isacc Asimov
- Of The Robots of Dawn ว่าด้วย นครอรุณรุ่ง โดย Isacc Asimov
- Of The Naked Sun ว่าด้วย เรื่อง นครสุริยะ โดย Isacc Asimov
- Of The Cave of Steel ว่าด้วย เรื่อง โลหะนคร ของ Isacc Asimov
- ว่าด้วย เรื่อง นักสืบหุ่นยนต์ (ชุดหนังสือ)
- Of I Robot ว่าด้วย เรื่อง ข้า คือ หุ่นยนต์
- ว่าด้วย กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์
- 089. Of Foundation's Triumph ว่าด้วย เรื่อง ชัยชนะของสถาบันสถาปนา โดย เดวิด บริน
- 088. Of Foundation and Chaos ว่าด้วย ฝ่าวิกฤตสถาบันสถาปนา ของ เกรก แบร์
- 087. Of Foundationงs Fear ว่าด้วย เรื่อง สุดหนทาง สถาบันสถาปนา โดย เกรกอรี เบนฟอร์ด
- 086. Of Forward the Foundation ว่าด้วย เรื่อง สู่เส้นทาง สถาบันสถาปนา ของ Isacc Asimov
- 085. Of Prelude to Foundation ว่าด้วย เรื่อง กำเนิดสถาบันสถาปนา โดย Isacc Asimov
- 084. Of Foundation and Earth ว่าด้วย สถาบันสถาปนา และ โลก ของ Isacc Asimov
- 83. Of...Foundation's Edge ว่าด้วย เรื่อง สถาบันสถาปนา และ ปฐมภพ ของ Isacc Asimov
- 082. Of..Second Foundation ว่าด้วย เรื่อง สถาบันสถาปนา แห่งที่สอง ของ Isacc Asimov
- 081. Of..Foundation and Empire ว่าด้วย เรื่อง สถาบันสถาปนา และ จักวรรดิ ของ Isacc Asimov
- 080. Of...Foundation ว่าด้วย เรื่อง สถาบันสถาปนา ของ Isaac Asimov
- 079. Of Children's End ว่าด้วย เรื่อง สุดสิ้นกลิ่นน้ำนม ของ Arthur C. Clarke
- 078. Of ...Love in the mist 1. ว่าด้วยความรักระหว่าง Cupid and Psyche
- 077. Of Schim Shimmel
- 076. Of INQUIRY IN TO THE NATURE AND CAUSES OF THE WEALTH OF NATION ของ ADAM SMITH
- 075. Of The Federalist Papers ว่าด้วย...เอกสารความคิดทางการเมืองอเมริกัน
- 074. Of The Post-Corporate World ว่าด้วย..โลกยุคหลังบรรษัท
- 073. Of When Corporations Rule the World เมื่อบรรษัทครองโลก
- 072. Of Love and Death in the American Novel
- 071.Of The Prince ของ Niccolo Macchiavelli ว่าด้วย...เจ้าผู้ปกครอง
- 070. Of Power ว่าด้วย อำนาจ
- 069. Of 101 Golden Keys to Success!
- 068. ว่าด้วย การพัฒนาตนเองด้วยการอ่านหนังสือของ Napoleon Hill
- 067. ว่าด้วย หนังสือของ หลวงวิจิตรวาทการ
- 066.ว่าด้วย ธรรมชาติของคนในสังคม และ อุปนิสัยและจริตของแต่ละบุคคล
- 065.ว่าด้วย จิต มโน วิญญาณ เกิดดับ
- 064. ว่าด้วย เรื่องของกิเลส (เครื่องใจให้เศร้าหมอง) ๑๐ อย่าง
- 063. ว่าด้วย ธรรมที่มีความทะยานอยากเป็นมูล ๙ อย่าง
- 062.ว่าด้วย ธรรม
- 061.ว่าด้วย ศัตรูภายใน (โลภะ, โทสะ, โมหะ)
- 060. ว่าด้วย...ทักษะการดำรงชีวิต
- 059. Of sloth / laziness ว่าด้วย ความเกียจคร้าน 1 ใน 7 บาป
- 058. ว่าด้วย...เด็กเอ๋ย เด็กดี ต้องมีหน้าที่10อย่างด้วยกัน
- 057. คนที่เกิดมีขวานมาในปากด้วย
- 056. ว่าด้วย ธรรม 10 อย่าง บุคคลละธรรม ๑๐ อย่างได้จึงควรเป็นพระอรหันต์
- 055. ว่าด้วยเรื่อง ไม่ฉลาดในเรื่องจิตของผู้อื่นก็ควรฉลาดในเรื่องจิตของตน
- 054. ว่าด้วย ตัณหา
- 053. Of Ignorance ว่าด้วย โมหะ (ความหลง) หรือ อวิชชา
- 052. Of Anger หรือ Wrath ว่าด้วย ความโกรธ (R.2)
- 051. Of Creed ว่าด้วย ความโลภ (R.2)
- 050. ว่าด้วย กิเลส
- 043. ว่าด้วย มงคลชีวิต 38 ประการ
- 049. ว่าด้วย อิทธิบาท ๔ : ธรรมแห่งความสำเร็จในการทำงาน
- 048. Of "Ten Commandments" ว่าด้วย "บัญญัติ 10 ประการ"
- 047. Of seven deadly sins ว่าด้วย บาป 7 ประการ
- 046. Of Pride / Hubris ว่าด้วย ความโอหัง 1 ใน 7 บาป
- 045. Of Envy ว่าด้วย ความอิจฉา 1 ใน 7 บาป
- 044. Of Wrath หรือ Ira ว่าด้วย โทสะ ความโกรธเคือง และ พยาบาท 1 ใน 7 บาป
- 042. Of Greed / Avarice โลภะ (ภาษาลาติน: avaritia อวาริเทีย ) 1 ใน 7 บาป
- 041.. Of Discoure ว่าด้วย วาทกรรม
- 040. Of Death ว่าด้วย ความตาย
- 039. Of Gluttony ว่าด้วย ตะกละ (ภาษาลาติน: gula กูลา ; ภาษาอังกฤษ: gluttony)
- 038. Of Lust / Luxuria ว่าด้วย ราคะ (ภาษาลาติน: luxuria ลุกซุเรีย)
- 037. Of Education ว่าด้วย การศึกษา
- 036. Of Custom ว่าด้วย ประเพณีนิยม
- 035. Of Cunning : ว่าด้วย เลห์กล
- 034. Of Counsel ว่าด้วย การปรึกษาหารือ
- 033. Of Suntzu ว่าด้วย ตำราพิชัยสงครามของ ซุนหวู่
- 032. Of Ceremonies and Respects ว่าด้วย พิธีกรรม และ การยอมรับนับถือ
- 031. Of Boldness ว่าด้วยความอาจหาญ
- 030. Of Beauty ว่าด้วย ความงาม
- 029. Of Adversity ว่าด้วย ความลำเค็ญ
- 028. Of Worry, anxious, apprehensive, uneasy ว่าด้วย ความกังวล ..... ความวิตกกังวล
- 027. Of Fear, afraid, apprehensive ว่าด้วย ความกลัว
- 026. ว่าด้วย นิวรณ์ ๕
- 025. ว่าด้วย กิเลส
- 024. ว่าด้วย สังโยชน์ ๑๐
- 023. ว่าด้วย กามราคะ
- 022. ว่าด้วย วิจิกิจฉา
- 021. ว่าด้วย อุทธัจจกุกกุจจะ
- 020. Of Revenge ว่าด้วย ความอาฆาต ความพยาบาท
- 019. Of Envy ว่าด้วย ความอิจฉา .... ความริษยา
- 018. Of Bias ว่าด้วย ความลำเอียง
- 017. ว่าด้วย โทสะ ความโกรธ แค้น ฉุนเฉียว ขุ่นมัว Of Anger หรือ Wrath
- 016.ว่าด้วย ความโลภ
- 015. Love ว่าด้วย ความรัก
- 014. Ambition ว่าด้วย ความทะเยอทะยาน
- 013. Of Dream ว่าด้วย ความใฝ่ฝัน
- 012. Of Hope ว่าด้วย ความหวัง
- 011. Of Family ว่าด้วย ครอบครัว
- 010. Of Good Friend ว่าด้วย เพื่อนที่ดีงาม "กัลยาณมิตร"
- 009. ว่าด้วย คุณลักษณะของผู้นำ (Leader Traits) ที่ประสบความสำเร็จ.
- 008. ว่าด้วย บุคลิกภาพ Of Personality
- 007. ว่าด้วย อุปนิสัย (อุปนิสัย 7 ของ Stephen R. Covey ) Of Habit
- 006. ว่าด้วย ความเห็น ( สัมมาทิฏฐิ และ มิจฉาทิฏฐิ ) Of Opinion
- 005. ว่าด้วย ทัศนคติ Of Attitude
- 004. ว่าด้วย หน้าที่ของ พ่อ แม่ ลูก และ ครอบครัว Of Parent Children and Family
- 003. ว่าด้วย การสมรส Of Marriage
- 002. ว่าด้วย มิตรภาพ Of Friendship
- 001. ว่าด้วย เพื่อน Of Friend
|
|
|
|
|
Of Carmen ว่าด้วย เรื่อง คาร์เมน
1.ฟังเพลง Carmen
Angela GHEORGHIU - Habanera - Carmen (Music Video)
Click:https://www.youtube.com/watch?v=pJLyZqETuBU
คัดลอกมาจาก คาร์เมน โดย วนิดา คุตตวัส
.....จิตวิญาณเสรีของคาร์เมน ปรากฏอยู่ในบทเพลงไพเราะ "ความรัก คือ นกป่า"
คาร์เมน ความรักคือนกป่า ที่ไม่มีวันเชื่อง เปล่าประโยชน์ที่จะเรียกร้องเรียกหา ถ้ามันไม่อยากมา ไม่ว่าจะขู่เข็ญหรืออ้อนวอน บางคนพร่ำคำชมเชย แต่บางคนทำวางเฉย และ คนนั้นแหละที่ฉันชมชอบ เขาไม่เอื้อนเอ่ย แต่ทำให้ฉันพึงใจ ความรัก! ความรัก! ความรัก! ความรัก!
ลูกคู่ ความรักคือนกป่า
คาร์เมน ความรักคือเด็กน้อยแห่งโบฮีเมียน มันไม่เคยรูจักกฏเกณฑ์ใดๆ ถ้าเธอไม่รักฉัน ฉันจะรักเธอ ถ้าฉันรักเธอ จงระวังตัวเอาไว้!
ลูกคู่ จงระวังตัวเอาไว้ ความรักคือเด็กน้อยแห่งโบฮีเมียน
คาร์เมน นกน้อยที่เธอคิดจะจับไว้ในมือ อาจจะกระพือปีกและโบยบินหนี ความรักนั้นจะหลีกลี้ไกล หากเธอเฝ้ารอ แต่ถ้าเธอไม่รอคอยอีกต่อไป มันก็จะมา มันบินวนมารอบตัวเธอแล้ว เร็วเข้า เร็วเข้า มันมาแล้วก็ไป แล้วก็กลับมาใหม่ เธอคิดจะจับมัน มันกลับหลีกหนี เธอคิดจะหลบลี้ มันกลับมาจับเธอ ความรัก! ความรัก! ความรัก! ความรัก!
ลูกคู่ มันบินวนมารอบตัวเธอแล้ว เร็วเข้า เร็วเข้า
คาร์เมน ความรักคือเด็กน้อยแห่งโบฮีเมียน ถ้าฉันรักเธอ จงระวังตัวเอาไว้!
ลูกคู่ จงระวังตัวให้ดี ความรักคือเด็กน้อยแห่งโบฮีเมียน
...สาวน้อยยิปซีแสนสวยคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า Carmen .....
Information จาก หนังสือ เรื่องจาก มหาอุปรากรอมตะ เรียบเรียงโดย อักษราพร สำนักพิมพ์ พี.เอส.กรุ๊ป
เนื้อเรื่อง Carmen
ในสมัยศตวรรษที่ 19 สเปญกำลังมั่งคั่งสมบูรณ์ ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยความร่าเริงสมบูรณ์พูนสุข
Don Jose สิบโท แห่งกรมทหารที่เซวิลลา เป็นชายหนุ่มร่างสง่างาม เขาจากบ้านเดิมอันเปล่าเปลี่ยวมามีชีวิตเป็นทหารมาหลายเดือนแล้ว เขาเป็นคนอารมณ์ดี มีศีลธรรมประจำใจอย่างมั่นคง เขาไม่ชอบที่จะมองสาวๆที่มาดูการเปลี่ยนกะเวรยามของทหารรักษาการณ์เหมือนทหารคนอื่นๆ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เขามีคนรักที่หมายมั่นอยู่แล้วนั่นเอง
...Micaela ลูกพี่ลูกน้องที่เติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวขึ้นมาในถิ่นเดียวกันนั่นเอง ทั้งฝ่ายบิดา และ มารดา ก็มีความประสงค์เช่นนี้อยู่แล้ว
Spain, Seville , Tobacco Factory
... Sevilles old tobacco factory.
เสียงระฆังโรงงานยาสูบตีบอกเวลาเที่ยง เสียงหมู่คนงานชายหญิง ดัง เอ็ดอึง จ๊อกแจ๊ก จอแจ เดินออกจากตึกเป็นหมู่ๆ มายังจัตุรัสปะปนเปกันไปกับพวกที่เดินเตร่ไปเตร่มาอยู่แล้ว สาวๆเมื่อได้เดินออกมาข้างนอก ก็คล้ายๆนกออกจากกรงขัง เธอทำตัวกระตุ้งกระติ้งเล่นหูเล่นตากับทหารหนุ่มและชายหนุ่มแถวจตุรัสไปตามทางตลอดไป ฝ่ายชายหนุ่มก็สนุกสนานเฮฮาไปกับการเกี้ยวพาราณสีกับพวกเธอไปด้วย มันเป็นเวลากลางวันที่สดใส บวก กับความเก่งกล้าเจ้าชู้ของหญิงสาว ซึ่งทำให้จตุรัสแห่ง เซวิลลา มีชีวิตจิตใจยิ่งนัก ในหมู่หญิงคนงาน สาวยิปซี คาร์เมน เป็นเด่นที่สุด เด่นทั้งร่างงาม สายตาดำขลับเป็นประกาย เด่นทั้งก๋ากั๋น ปากจัดไม่กลัวใคร เด่นทั้งท่าทาง กระตุ้ง กระติ๋ง ยั่วยวนใจ และ แปลงเปลี่ยนง่าย จนชายหนุ่มทุกคนพยายามรักเธอ เว้นไว้แต่ ดอน โฮเซ่ เพียงคนเดียว ที่ไม่ได้สนใจ หรือ เอาใจใส่ในตัวของเธอเลย
...ในหมู่หญิงคนงาน สาวยิปซี คาเมน เป็นเด่นที่สุด ทั้งร่างงาม สายตาดำขลับ...
โรงงานยาสูบ เซวิลลา ในปัจจุบัน
...ขณะที่เธอปรากฏตัวออกมานั้น มีเสียงตะโกนดังลั่น " คาร์เมน ! คาร์เมน! " หญิงสาว คนสวย เดินกรีดกรายมาตามหมู่ ชาย หญิง ที่แหวกช่องให้เธอ หนุ่มๆต่างพากัน เฮโลพูดเกี้ยวเธอ ยิ้มแย้มให้รอบๆ แต่ คาร์เมนไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลย "รัก รึ ?" เธอว่า "บางที พรุ่งนี้ แต่ ไม่ใช่ เดี๋ยวนี้" แล้วเธอร้องเพลง ฮาบาเนรา อย่างร่าเริง พร้อมทั้งเล่นหูเล่นตายั่วยวนไปในที เธอไม่รู้สึกต้องตาใครเลยในวันนี้ นอกจาก ดอน โฮเซ่ ทหารหนุ่ม ท่าทางสง่างามคนเดียว เธอพอใจที่เขามีลักษณะของชายอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ขณะที่ร้องเพลงเธอมักจะชายตา มาทางโฮเซ่เสมอๆ แต่โฮเซ่นั้น พยามยามนั่งนิ่งมิได้ไหวติงเสียเลย เขาง่วนอยู่กับโซ่และดาบ และ พยายามข่มสติอารมณ์ โดยเอา มิคาเอลา สาวสุดที่รักของเขาเป็นที่ตั้ง
..... เธอไม่รู้สึกต้องตาใครเลยในวันนี้ นอกจาก ดอน โฮเซ่ ทหารหนุ่ม ....
คาร์เมน กรายเข้าไปใกล้จนเกือบชิด หวังจะใช้เสียงของเธอเรียกร้องความสนใจให้ได้ โฮเซ่ เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับ "ความรักของสาวโรงบุหรี่" มาบ้างแล้ว ทั้งมโนภาพของ "มิคาเอลา หญิงคนรัก" มาลอยอยู่ด้วย เขาก็แสดงอาการเย็นชาอย่างยิ่ง คาร์เมน ยื่นหน้าเข้ามาร้องเพลงบทสุดท้าย.... "ถ้า หากฉันรักเธอ ระวังนะ!"
ยิ่งกว่านั้น เธอยังดึงดอกไม้สีแดงบนอกเสื้อของเธอ ขว้างมาแทบเท้าของเขาอีกด้วย แล้ว ก็หัวเราะอย่างร่าเริง โฮเซ่ ออกจะพอใจในเสน่ห์ของเธอขึ้นมาบ้าง เขาก้มลงคล้ายจะเก็บ คาร์เมน หัวเราะอย่างเย้ยๆ ลอยหน้าลอยตา แล้วก็วิ่งเข้าไปในโรงงาน พร้อม หญิงคนงานอื่นๆ ฝ่ายประชาชนเมื่อสนุกสนานกันพอแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันไป
...แล้ว เก็บดอกไม้ที่ตกอยู่แทบเท้านั้น...
โฮเซ่ ค่อยๆ ก้มลงช้าๆ คล้ายกับไม่เต็มใจ แล้ว เก็บดอกไม้ที่ตกอยู่แทบเท้านั้น ทันใดเขาก็นึกถึง สายตาที่เต็มไปด้วยความท้าทายของคาร์เมน เขาค่อยๆ ยกขึ้นสูดกลิ่นหอมอันมีเสน่ห์นั้นอย่างหนักหน่วง....คล้ายกับอำนาจมนต์วิเศษ โฮเซ่ เสียบดอกไม้นั้นไว้ในกระเป๋าเสื้อเหนือหัวใจ....
ขณะเดียวกัน มิคาเอลา ก็เดินมาหาด้วยความดีใจ เมื่อพบชายคนรัก เขาก็ดุจเดียวกันรีกตรงเข้าไปต้อนรับเธอด้วยความรักคิดถึงอย่างมากมาย เธอนำจดหมาย กับ เงินเล็กน้อยของมารดาที่สะสมไว้ ออกมาวางไว้บนฝ่ามือ เพื่อช่วยเหลือเงินเดือนอันแร้นแค้นของเขา พร้อมด้วยพรรณาถึง ความเป็นห่วงเป็นใยของแม่ทางบ้าน
"ใครหนอจะรู้ ฉันเกือบตกเป็นเหยื่อของความชั่วร้ายเสียแล้ว" เขารำพึง
มิคาเอลลาไม่อาจอยู่นานนัก และเมื่อลากลับเธอก็ส่งจุมพิต ซึ่งมารดาทางบ้านส่งมาให้นั้นอย่างเอียงอาย แล้วกล่าวว่า เธอจะมาหาเขาอีกเร็วๆนี้ แล้วก็เดินกลับฝ่าสายตาของคนข้างๆ กลับไปอย่างกลัวๆ โฮเซ่ คิดถึงบ้าน คิดถึงความหลัง คิดถึงบ้านเดิม คิดถึงมารดาที่เตือนให้เขากลับไปแต่งงานกับมิคาเอลา ซึ่งซื่อตรงจงรักต่อเขาเสียโดยเร็ว เขาจึง ค่อยๆ ล้วงไปในอกเสื้อ หยิดเอา ดอกไม้ของคาเมนออกมา...... ขณะที่จะทิ้งขว้าง
มีเสียงเอะอะของคนทะเลาะกันออกมาจากโรงงาน คาร์เมนได้ทะเลาะกับมานุเอลลิตา หญิงในโรงงานนั้นอีก และเธอได้ใช้มีดสั้นประจำตัวออกมาแทงอีกฝ่ายหนึง่จนบาดเจ็บสาหัส ผู้บังคับกองซูนิกาสั่งให้โฮเซ่ให้ไปจัดการจับกุมทันที นำตัวคาร์เมนมาสอบสวนยังกองรักษาการณ์ คาร์เมนซึ่งเธอถูกมัดมือไขว้หลัง พยายามยั่วยวนโฮเซ่ทหารหนุ่มด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อจะเป็นโอกาสให้เธอได้หลบหนี ........และ คาร์เมนก็สามารถหนีออกไปได้ และ โฮเซ่ก็ถูกลงโทษให้ถูกจำคุกสองเดือนตามระเบียบ จากคำพูดของ คาร์เมน ...ถ้าเขารักเธอจริงจงหนีไปอยู่กับเธอ ไปดำรงชีวิตยิปซีอันอิสระ ชีวิตที่เต็มไปด้วยการผจญภัยอันตราย และ การหลบหนี ชีวิตที่มีความสุขอยู่ภายใต้ดวงดาวและสายลม อันเป็นความสุขอันควรค่ากับความรัก ดังนั้นควรจะตามใจเธอ ไม่ว่าจะไปในที่แห่งใด นอกจากนั้น เธอยังกล่าวว่า ถ้าเขาไม่เห็นใจเธอ และ ไม่ไปด้วยแล้ว เขาก็คงจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีก
..โฮเซ่ จึงต้อง ละทิ้งกรมทหาร ทิ้งร่มเงาแห่งธงทหารอันเป็นที่รัก ไปอยู่กับพวกนอกกฏหมาย พวกค้าของเถื่อน และ มีชีวิตอยู่กับ คาร์เมน เขารักเธอมากขึ้นทุกวัน ๆ แต่ คาร์เมนกลับเบื่อหน่ายเขามากขึ้นๆ ทุกวันๆ เช่นกัน
จนวันหนึ่ง คาร์เมน ได้ถูกพบโดย เอสคามิลโย นักสู้วัวกระทิง ผู้งามสง่า และ เขาก็ได้ตกหลุมรักคาร์เมน
เอสคามิลโย ได้เชิญคาร์เมน และ เพื่อนๆร่วมแก๊ง ได้ไปชมการต่อสู้กับวัว ในวันอาทิตย์ที่ เซวิลลา
ใน วันต่อสู้วัวมาถึงแล้ว ประชาชนแห่งสเปญต่างก็หลั่งไหลมาชม ทหาร ชาวนา เจ้านาย หญิงสาวแก่แม่หม้าย ต่างทำผมประดับกายด้วยเสื้อผ้าแพรพรรณเครื่องประดับอันงดงาม ขบวนนักสู้วัวอันมีเกียรติใกล้เข้ามา เสียงฝูงชนโห่ร้องต้อนรับอึงคะนึงเมื่อขบวนเข้ามาในสนาม คาเมน แต่งตัวแบบสเปนงดงามบาดตาดูมีความสุขยิ่ง เดินควงคู่มากับ เอสคามิลโย ด้วย ก่อนเข้าสนามทั้งสองก็ลาจากกัน คาเมนให้สัญญาว่าจะไม่รักใครอีกต่อไป
โฮเซ่ ชายหนุ่มผู้ถูกหญิงสาวสลัดรักตามมาขอคืนดี แต่ คาร์เมนบอกกับเขาว่า บัดนี้เขากับเธอขาดกันแล้ว เธอไม่มีรักแม้นิดเดียว พร้อมกับบอกว่า เธอจะไม่รักใครอีกนอก จาก เอสคามิลโย นักสู้วัวกระทิง คนเดียว โฮเซ่ อ้อนวอน ด้วยเสียงแหบๆ "มาเถิด คาร์เมน เราไปเสียจากที่นีกัน แล้วตั้งต้นชีวิตใหม่" "ไม่มีประโยชน์หรอก ที่เธอจะมาพูดซ้ำๆซากๆว่ารักฉัน ดิฉันไม่ต้องการรักของเธออีกต่อไป" คาร์เมนตอบอย่างรำคาญ
มีเสียงตะโกนเอาใจช่วยนักสู้วัวกระทิง ดังมาจากข้างในสนาม เมื่อได้ยินเสียงมีชัย คาร์เมนรีบจะวิ่งเข้าไปข้างในประตู แต่ โฮเซ่กั้นไว้ "หลีกทางฉันนะ" คาร์เมนร้อง "ด้วยหัวใจ เธอจะผ่านเข้าไปไม่ได้ คาร์เมน ไปกับฉันเถอะ"
"หลีกทางให้ฉัน ดอน โฮเซ่" "เธอกำลังจะไปพบเขา เธอรักเขารึ ?"
"แน่ละซิ ฉันรักเขา! แม้ก่อนตายฉันก็จะรักเขาคนเดียว" "อย่างนั้น ฉันก็ขายวิญญาณของฉัน เพื่อเธอจะได้ไปเข้าวงแขนของเอสคามิลโย แล้วมาหัวเราะฉันนะซิ"
คาเมน ถอดแหวนของโฮเซ่ ขว้างทิ้งลงไปบนพื้นดิน แล้วผละจะเข้าประตูทันที ความหวังทั้งหมดทั้งสิ้นไม่มีเหลือแล้ว สมองแห่งความยั้งคิดทั้งหลายสิ้นสุดลง การทำลายหัวใจและพูดว่าให้เจ็บแสบเช่นนี้มันทารุณยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก เขาชักมีดออกแทงสะกัดทันที.............แทงตรงหัวใจอันกลับกลอก............ คาเมน ล้มลงสิ้นชีพอยู่แทบเท้า
ขณะที่วิญญาณของคาเมนหลุดลอยออกจากร่าง เสียงสรรเสริญนักสู้วัวดังลั่น เอสคามิลโย เดินออกมาพร้อมด้วยฝูงชน ด้วยความภาคภูมิใจในชัยชนะเมื่อสักครู่นี้ อันหมายถึงชัยชนะในความรักที่เขามีต่อคาร์เมนด้วย
เอสคามิลโย ต้องหยุดชะงักตะลึงงันทันที เมื่อแลเห็นคาร์เมนนอนจมกองเลือดอยู่ที่ประตู ที่นั้น ดอน โฮเซ่ ยังคงยืนอยู่ ความหวังทั้งหลายสิ้นสุดลง ไม่มีคำสรรเสริญคำใดหลุดมาจากปากคนรักได้
โฮเซ่ สำนึกผิดเศร้าโศกอย่างยิ่งนัก เขาคุกเข่าลงข้างๆคาร์เมน ท่ามกลางฝูงชน แสดงว่าเขาเองเป็นผู้ทำร้ายเธอ และ คาเมนก็สิ้นชีพแล้ว
---------------------------------------------------------------------------------- จาก //www.bookcyber.com
อุปรากรแห่งความรักและความตาย
เมื่อถูกหญิงสลัดรักแล้ว ฝ่ายชายตามงอนง้อขอรักคืนไม่สำเร็จ โกรธจัดจนฆ่าผู้หญิงซะ หรือไม่ก็ฆ่าชายคนใหม่ ยังคงเป็นข่าวพาดหัวให้อ่านบนหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เรื่อย ราวกับเป็นของทันสมัย ทั้งที่มีเป็นละครให้ดูตั้งแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว ของไทยก็มีเยอะ ของเทศก็มีแยะ เปลี่ยนหน้าเพียงแต่ตัวแสดง ส่วนทฤษฎีความรักระหว่างหนึ่งหญิงสองชายยังคงไม่เปลี่ยนแปร
กระนั้น ยังมีชายอาภัพคนหนึ่งโด่งดังเป็นอมตะจากพล็อตเรื่องแบบนี้ จอร์จ บิเซต์ คีตกวีชาวฝรั่งเศส ผู้ซึ่งไม่เคยรู้จักกับความสำเร็จในการเขียนเพลงซิมโฟนี ครั้นหันมาเขียนอุปรากร ก็มีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ประสพความสำเร็จอย่างล้นหลาม มีผู้ชมต่อเนื่องกันยาวนานมา เกือบ 130 ปี
บิเซ่ต์ ไม่ใช่คนไม่มีน้ำยา เขาเล่นเปียโนก็ดี เล่นไวโอลินก็ได้ แต่งเพลงก็เก่ง เรียกว่า มีทั้งน้ำยา มีทั้งน้ำพริก แต่ อุปรากรเรื่องแรกที่เขาแต่ง กลับมีคนชมน้อยเต็มที ทำให้บิเซ่ต์รู้สึกท้อใจ ต่อมาเขาจึงคิดนำนิยายของ Prosper Merimee อันเกี่ยวกับสาวยิปซีในโรงงานยาสูบมาทำเป็นอุปรากร แต่แรก โรงละครโอเปร่าไม่ค่อยชอบใจแนวคิดนี้เท่าไรนัก แต่แล้วก็ยินยอมสนับสนุน ในปี ค.ศ.1875 จึงมีเปิดการแสดงอุปรากร "คาร์เมน" แค่รอบแรกที่เปิดแสดง ก็ถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์เสียๆหายๆ มีบันทึกว่า แม้ตัวบิเซ่ต์เองก็ไม่ชอบผลงานชิ้นนี้ เขาล้มป่วยและถึงแก่ความตายเพียง 3 เดือนหลังจากเปิดการแสดง "คาร์เมน"
คาร์เมนเปิดการแสดงอยู่นาน 5 เดือน แต่จำนวนคนดูลดน้อยลงทุกที น่าเวทนาที่ บิเซ่ต์ผู้ท้อแท้ต้องตายไปโดยไม่ได้รับรู้ว่า อีกหนึ่งปีให้หลังมีผู้นำอุปรากรเรื่องนี้ไปแสดงที่เวียนนา และแพร่หลายไปทั่วยุโรป จนโด่งดังเป็นอุปรากรอมตะอันยิ่งใหญ่ ขนาดคุณ ว๊ากเนอร์ อภิมหาคีตกวีของเยอรมันในยุคนั้น ติดอกติดใจจนต้องเวียนไปดูอุปรากร คาร์เมนถึง 23 รอบ!!
ตั้งแต่ริอ่านฟังเพลงคลาสสิคมา ผมยอมรับว่า ยังไม่มีอัลบั้มเพลงชุดใดทำให้ติดตราตรึงใจ หลงรักมากเท่ากับเพลงชุดจากอุปรากร "คาร์เมน" ของ จอร์จ บิเซ่ต์ ความรู้สึกคุ้นเคยจากทำนองเพลงของสถาบันอาจมีส่วนด้วย ( คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ นำเอาเพลง โทเลโด จากอุปรากรคาร์เมนมาใส่เนื้อร้องเป็นเพลงประจำคณะ ) แต่ส่วนดึงดูดใจที่ทำให้ผมหลงใหลเพลงทั้งหมดในชุดนี้ คือความไพเราะล้นเหลือของเพลงประกอบเรื่อง แถมยังฟังติดหูง่าย มีทั้งหวาน ทั้งเศร้า บางช่วงคึกคักเร้าใจสุดจะบรรยาย โดยเฉพาะเพลงในฉากระบำสเปนฟังแล้ว อดไม่ได้ต้องขยับแข้งขยับขาตามจังหวะที่เร่าร้อนรุนแรง
เดือนนี้ เป็นเดือนที่จะมีการแสดงอุปรากรและซิมโฟนีดีๆหลายรายการที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ คาร์เมน เป็นอุปรากรเรื่องหนึ่งที่เขาจัดแสดงด้วย เป็นคณะผู้แสดงจากรัสเซีย นับว่าเป็นรายการที่หาดูได้ยากเย็น ราคาค่าตั๋วแพงหูดับตับเกรียม ตั้งแต่ 1 พันจนถึง 4 พันบาท ผมมีแผ่น DVD บันทึกการแสดงอุปรากรเรื่องนี้อยู่ ตัวเอกคือ ดอน โฮเซ่ แสดงโดย โฮเซ่ คาร์เรร่า นักร้องเสียงเทเนอร์ที่เรารู้จักมักคุ้น ส่วน คาร์เมน รับบทโดย แอกเนส บัลท์ซ่า ซึ่งถึงหน้าตาจะดูเหี่ยวๆไปหน่อย แต่เสียง Mezzo-soprano ของเธอเฉียบขาดมาก ใครอยากดูขอให้แจ้ง เดอะ ต๊ะ ของเรา ผมจะได้ไปขอ คุณปราย ฉายให้ดูกันที่ สรรพรส ดีไหมครับ ?
--------------------------------------------------------------------------------
จาก //bkkonline.com/novel/30-apr-44.shtml
Carmen ๓๐ เม.ย. ๔๔ อัธยา โกมลกาญจน
ผู้แต่งเรื่องคือ Prosper Me'rime'e (ค.ศ.1803- ค.ศ.1870) นักแต่งนวนิยาย และนักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส เขาเกิดที่ปารีส ได้มีโอกาสเป็นพระสหายของพระจักรพรรดินีอูเชนี (Empress Euge'nie) ทำให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นซีเนเตอร์ และเป็นพระสหายของพระจักรพรรดินโปเลียนที่สามด้วย งานเขียนเชิงประวัติศาสตร์ของเมริเมมีอาทิ เช่น The Chronicles of the Reign of Charles IX (1829), La Ve'nus d'ille (The Venus of Ille, 1837) Carmen (1846), Colomba (1852), Letter to an Unknown (1873) เรื่องคาร์เมนจัดเป็น Picaresque romance วางพล็อตเรื่องไว้ตอนเริ่มคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในประเทศสเปน พิมพ์ ค.ศ.1947 ความสำคัญของนิยายสั้นๆ นี้เป็นเรื่องที่ไม่ควรประเมินค่าต่ำเพราะ 1.เป็นเรื่องโรแมนติก และได้รับความนิยมชื่นชมค่อนข้างมาก จนกระทั่งมีผลให้เมริเมมีจุดยืนโดยเฉพาะในแวดวงวรรณกรรม 2.Bizet (มีชื่อจริงว่า Alexandre Ce'sar Le'opold Bizet (1838-75) มีชื่อเสียงจากการจัดละครเรื่องต่างๆ เช่น The Pearl Fishers: 1863, La Jolie fille de Perth: 1867, Djamileh: 1872 แต่เรื่องที่ทำให้บิเซทมีชื่อเสียงมาก คือเรื่องคาร์เมนซึ่งเป็นละครโอเปราเรื่องแรกของเขาด้วย บิเซทเปลี่ยนพล็อต และสร้างตัวละครบางตัวเพื่อให้เป็นโอเปราที่สมบูรณ์ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่การลดความสำคัญของเมริเมลง เพราะถ้าเมริเมไม่แต่งเรื่องนี้ขึ้นก็จะไม่มีละครโอเปรา เราจึงเป็นหนี้เมริเมสองอย่าง คือ 1.เนื้อเรื่องที่ผู้แต่งแต่งไว้ดี 2.เพราะเรื่องนี้ทำให้เกิดมีละครโอเปรา
Don Jose เป็นนายทหารม้ารูปหล่อจากนาวาร์ เป็นบุตรชายในตระกูลชาว Basque เขาได้รับโอกาสดีในชีวิตจากการที่ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนยศเป็นนายทหารอย่างรวดเร็ว จนถึงระหว่างช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ย้ายมาประจำการที่ Seville เขาก็เกิดไปหลงรักสาวน้อยยิปซีแสนสวยคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า Carmen จากความสวยงามบาดตาบาดใจของเธอทำให้ ดอน โฮเซหลงรักเธอแบบรักแรกพบ แม้จะเห็นเธอกำลังจะใช้มีดแทงคนงานในร้านบุหรี่ เขาก็ไม่ได้เข้าไปห้าม และไม่ได้คิดว่าเธอเป็นหญิงไม่ดีใจร้ายเสียอีก
ทั้งดอน และคาร์เมนได้สนิทสนมกันมากขึ้นตามลำดับ จนวันหนึ่งนางได้ชวนดอน ไปเที่ยวเล่นในเขตทะเลทราย เมื่อดอนกลับมาที่กรมทหาร เขาต้องถูกลงโทษในฐานะทิ้งเวรยาม แต่ครั้งเดียวนั้นนางก็ยังไม่รับรู้ว่า ดอนอาจจะถูกลงโทษหากชวนเขาออกไปเที่ยวเล่นในระหว่างงานอีก เมื่อดอนปฎิเสธ ทั้งสองคนก็ต้องทะเลาะกันนานนับชั่วโมง ซึ่งเรื่องนี้ถ้าเป็นคนปกติไม่ได้หลงรักผู้หญิงอย่างหัวปักหัวปำอย่างดอนแล้ว เขาก็น่าจะมีสติรู้ผิดรู้ถูก แต่ดอนกลับทำอะไรไม่ได้ ดอนไม่อาจทนเห็นหญิงที่เขารักมีอาการโกรธเกรี้ยวได้ ดังนั้น แม้บางครั้งดอนจะยังคงมีสติรู้การควร และไม่ควร เขาก็ทนมารยาหญิงอย่างคาร์เมนไม่ได้ เจ้าหล่อนรู้จักการประเล้าประโลมให้เขาใจอ่อน และในขณะเดียวกันก็รู้จักใช้ความไม่พอใจเป็นเครื่องมือให้เขาเกรง จนไม่อาจขัดใจเธอได้ คาร์เมนเองก็รู้ว่าดอนรัก และหลงเธอมาก แต่เธอก็เป็นหญิงรักอิสระ ชอบท้าทายต่อต้าน และมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงไม่คงที่ ที่สำคัญก็คือ การที่หญิงสาวชอบการบริหารเสน่ห์ให้ชายหนุ่มทั้งหลายมาหลงรัก ซึ่งก็ยิ่งทำให้ดอนกลับยิ่งหลงเธอจนบ้าคลั่งมากเสียกว่าชายหนุ่ม ที่คาร์เมนมุ่งจะยั่วยวนเสียอีก ทั้งสองนัดพบกันที่ที่อยู่ของฝ่ายหญิงในวันหนึ่ง ขณะที่ทั้งสองกำลังพลอดรักกันอยู่ นายทหารหนุ่มคู่รักของคาร์เมนอีกคนก็ปรากฎตัวขึ้น เรื่องจึงบานปลายเป็นการต่อสู้กันระหว่างนายทหารทั้งสอง ในที่สุดปรากฎว่าดอน โฮเซใช้ดาบแทงชู้รักอีกคนของคาร์เมนตาย ส่วนตัวเองก็มีบาดแผลที่ศีรษะเพราะอาวุธของนายทหารคนนั้น ระหว่างการต่อสู้กัน คาร์เมนเก็บตัวอยู่ในห้องตลอดเวลา แต่เมื่อเห็นนายทหารล้มลงกับพื้นเธอก็ประนามดอนว่าโง่ และหลบออกจากห้องไป สักพักหนึ่งก็กลับมาพร้อมเสื้อคลุมตัวใหญ่ให้ดอนใส่ และหนีไปเสีย ดอนเองก็หมดอนาคตเพียงนั้น ทันทีที่เขาต้องหันหลังออกจากห้องนั้นไป เขากลายเป็นคนนอกกฎหมาย ที่ต่อมากลับได้แต่งงานกับหญิงนักล้วง และเป็นขโมย คาร์เมนมีเพื่อนเป็นพวกนอกกฎหมายหลายคน ดอนไม่มีทางเลือกจึงต้องตามเธอไปเป็นพวกนอกกฎหมายด้วย พอดีขณะนั้นมีประกาศรางวัลนำจับดอน โฮเซ ยิ่งทำให้ดอนถลำลึก และมองไม่เห็นหนทางที่จะกลับมาประพฤติดีได้อีก เขากลายเป็นพวกนอกกฎหมายเต็มตัว มีชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ เพราะโดยปกตินิสัยที่เขาเป็นคนดี และไม่คุ้นเคยกับการปล้น หรือคุกคามผู้ใด เมื่อต้องมาเป็นโจร เขาจึงไม่ชอบการดำเนินชีวิตแบบนั้นเลย ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับรู้ในเวลาต่อมาว่าคาร์เมนไม่ซื่อสัตย์ เธอมีชู้รักคนอื่นอีก เรื่องนี้ทำให้ดอนมีความทุกข์ และกลายเป็นคนเงียบขรึมไปมาก ความโกรธ และความริษยาของดอนคุกคามอารมณ์ของดอนมากขึ้น เมื่อได้ทราบว่าบุรุษตาเดียวผู้เป็นหัวหน้าโจรชื่อ Garcia เป็นสามีอีกคนหนึ่งของคาร์เมน พอดีเป็นเวลาที่พวกลูกน้องโจรออกไปปฏิบัติการในวันหนึ่ง ส่วนคาร์เมนก็ออกจากซ่องไปเพราะทะเลาะกับดอน ดอนจึงถือโอกาสฆ่ากราเซียเสีย เพราะคิดว่าเขาคงจะได้เป็นเจ้าของคาร์เมนเพียงผู้เดียว แต่ในเรื่องนี้ ลูกน้องของการ์เซียบอกดอนว่าที่จริงเขาไม่น่าจะต้องฆ่ากราเซียเลย เพราะถ้าอยากได้คาร์เมนแล้ว เขาสามารถซื้อเธอด้วยราคาเพียงสองสามดอลลาร์เท่านั้น ดังนั้นเมื่อคาร์เมนกลับมาถึง ดอนจึงบอกเธอว่าบัดนี้เธอกลายเป็นแม่หม้ายแล้ว และเหลือโจรอยู่เพียงสองคนที่จะต้องทำการปล้นตามแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ คือ ดอน และ Dancaire ทั้งสองจะทำการปล้นตามแผนเดิม ขอให้คาร์เมนช่วยด้วย ทั้งสองคนคิดผิด เพราะคาร์เมนกลับเตรียมตัวเดินทางไป เกรนาดาเพื่อพบหนุ่มนักสู้วัวกระทิงชื่อ Lucas เมื่อดอนรู้ เขาโกรธ และหึงเธอมาก เขาตามไปหาเธอ และชวนเดินทางไปอยู่อเมริกาด้วยกันคาร์เมนปฏิเสธ เธอบอกกับเขาว่าไม่เคยมีใครบังคับเธอให้ทำสิ่งใดที่เธอไม่สมัครใจได้ และเพราะเธอเป็นชาวยิปซีที่สามารถอ่านดวงได้ เธอบอกเขาว่าชะตาของเธอกับเขานั้นเป็นชะตาของคนที่จะต้องตายพร้อมกัน คำบอกเล่านี้ก็เพื่อเป็นการย้ำไม่ให้ดอนกังวลมากไปนั่นเอง
หลังจากนั้น คาร์เมนก็เตรียมออกเดินทางไป Cordova เพื่อดูลูคัสแข่งขันสู้วัวกระทิง ดอนตามเธอไปอีก เขาเฝ้าจับตามองเธอตลอดเวลา พอดีลูคัสถูกวัวขวิด ดอนจึงตามหาคาร์เมนจนพบ และขอร้องให้เธออยู่กับเขาตลอดไปคือให้เดินทางไปอเมริกา เธอหัวเราะเยาะ และปฏิเสธคำขอนั้น ดอนไปหาพระเพื่อขอให้ทำพิธีสวดให้คนที่กำลังมีอันตรายถึงตาย และย้อนกลับมาหาคาร์เมนอีก ขอร้องให้เธอไปกับเขา คาร์เมนสัญญาว่าจะไปด้วยแม้ว่าจะต้องไปตายก็ตาม เธอสังหรณ์ว่าดอนกำลังจะฆ่าเธอแต่เธอก็ยอมรับชะตากรรมนั้น เธอไม่รักดอนอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าลูคัสจะไม่รักเธอ เธอก็จะไม่รักดอนอีกเพราะความรักระหว่างคนสองคนได้สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อได้ฟังดังนั้นทำให้ดอนโกรธมาก เขาควักมีดออกมา และฆ่าเธอ แล้วจึงใช้มีดนั้นขุดหลุมฝังเธอไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่จะไปมอบตัวกับตำรวจ และนิมนต์พระมาทำพิธีสวดให้แก่วิญญาน ของคาร์เมน
------------------------------------------------------------------------------
จาก //www.bloggang.com/viewblog.php?id=historyandphilosophy&date=10-12-2005&group=9&gblog=26
Carmen หญิงเริงเมืองของ George Bizet
แน่นอนว่าอุปรากรที่ ชาวสยามผู้รักอุปรากร ทั้งหลายรู้จักกันดีไม่แพ้ Madama Butterfly ก็คือ Carmen ซึ่ง เป็นอุปรากรฝรั่งเศสที่แต่งโดยคตีกวีที่เราไม่เคยคุ้นเคยนักคือ George Bizet แต่พฤติกรรมของตัวเอกของ Carmen ทำให้อุปรากรเรื่องนี้กลายเป็นอุปรากรที่แสนอื้อฉาวที่สุดในศตวรรษที่ 19 แต่ก็เป็นอุปรากรฝรั่งเศสที่ดังที่สุดในโลกและมีคนนำไปเล่นมากที่สุด ยิ่งกว่า Samson and Dalida ของ Camille Saint-Saens
George Bizet นำอุปรากรเรื่องนี้ออกแสดงในปี เดือนมีนาคม ปี 1875 ที่โรงอุปรากร Opera Comique กรุงปารีส โดยมีคนเขียนบทร้องคือ Meihec และ Halevy อิงอยู่กับนิยาย Prosper Mérimée พบกับความล้มเหลวเพราะว่าถูกคนโจมตีว่าเป็นอุปรากรที่ไร้ศีลธรรม และอุจาดเกินไป โปรดอย่างลืมว่าฝรั่งในยุโรปเมื่อศตวรรษที่แล้วจะเคร่งศีลธรรมโดยเฉพาะการแสดงออกทางเพศมาก (แต่พฤติกรรมก็เป็นอีกอย่าง นัยว่า Double Standard อย่างแท้จริง) และถ้าเป็นหนังก็คงได้รับ Rate X (NC-17 ในปัจจุบัน) เช่นเดียวกับ Don Giovanni ของMozart ,Salome ของ Richard Strauss หรือ Lady Macbeth of mtsensk ของ Dmitri Shostakovich
(ภาพของ George Bizet)
แต่ก็ถือว่า คาร์เมนยังแหกรูปแบบของอุปรากรฝรั่งเศสในยุคก่อน ซึ่งเน้นความเป็น Comique หรือตลกแบบ "หลวงพี่เท่ง" (ในสมัยนั้นก็คงเป็น Jacques Offenbach) นั่นคือให้ความลึกซึ้งในมิติของตัวละคร และยังเน้นความยิ่งใหญ่ของดนตรีมากกว่าเสียงร้องเช่นเดียวกับอุปรากรของ Richard Wagner
เรื่องย่อ
Prelude (หรือเพลงโหมโรง ซึ่งดังมาก ชาวไทยแลนด์จะรู้จักดีจากเสียงมือถือ)
องค์แรก
Camaela สาวน้อยได้เดินทางมายังป้อมทหารประจำเมือง Serville เพื่อตามหา Don Jose คู่หมั้นของหล่อน แต่ก็ถูกทหารยามกลุ่มหนึ่งล้อมหน้าล้อมหลังจนต้องหนีไป ทหารกลุ่มนั้นก็ยุติความสนุกสนานเมื่อได้เวลาเปลี่ยนผลัดเป็นทหารยามอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งนำโดยโฮเซ่ นั่นเอง พร้อมๆ กับกลุ่มเด็กที่มาล้อเลียนทหารจนน่ารำคาญ (avec la garde montante - เด็กร้องประสานเสียง) ข้างๆ ป้อมทหารเป็นโรงงานทำบุหรี่ที่มีสาวสวยจำนวนมากทำงานอยู่ เมื่อได้เวลาว่าง สาวๆ ก็ออกมาพักผ่อน ทำให้พวกชายหื่น รวมถึงทหารตาลุกมาออกันอยู่ข้างรั้วโรงงาน
แต่เสน่ห์ของสาวเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะเจือจางเมื่อสาวงามยิปซีที่คนรู้จักกันดีคือ Carmen ได้ปรากฏตัว สร้างความฮือฮา ยกเว้นโฮเซ่ซึ่งนั่งเก๊กเพราะคิดถึงมารดาและคาเมลล่า คาร์เมนได้ร้องเพลงยั่วทหารโดยเฉพาะร้อยเอก Zuniga นายทหารระดับสูงสุดของที่นั่นด้วยเพลงสุดจะโด่งดังนั่นคือ Habanera หรือ L'amour est un oiseau rebelle (ความรักเปรียบได้ดังนกที่ขบถ) และตัดสินใจประกาศความรักโดยการโยนดอกกุหลาบไปยังโฮเซ่ ซึ่งหาได้สนใจคาร์เมนไม่ แต่แล้วเขาก็ได้พบคู่หมั้นและได้ทราบเรื่องราวถึงแม่ของตัวเอง
จุดเปลี่ยนของเรื่องก็มาถึงเมื่อเกิดการต่อสู้ระหว่างคาร์เมนและสาวโรงงานคนอื่นอย่างดุเดือด ผลก็คือคาร์เมน ได้ใช้มีดเชือดคู่กรณีอย่างทารุณ ซูนิก้าจึงสั่งให้โฮเซ่จับกุมและควบคุมตัวเธอไว้ แต่คาร์เมนก็ใช้เสน่ห์มารยาหลอกให้โฮเซ่แก้มัดหล่อนและปล่อยเธอไป (Pres des remparts de seville)
(รูปประกอบ พระเอกคือ Jose Carreras)
องค์ที่ 2
คาร์แมนและเพื่อน ๆ ไปเต้นรำที่ผับแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่มั่วสุ่มของพวกประกอบอาชีพผิดกฏหมาย เช่นพวกขายของเถื่อน และได้พบซูนิก้าซึ่งพยายามเกี้ยวพาราสีเธอ แต่ได้รับการปฏิเสธ (แสดงว่าก็ชั่วเหมือนกันแทนที่จะมาตามจับ) แต่คาร์เมนก็ประทับใจ Escamillo มาร์ธาดอร์ซึ่งปรากฏตัวอย่างสง่างามในผับ( เขาร้องเพลง Votre toast, je peux vous le rendre ) มีพ่อค้าของเถื่อนสองคนมาขอให้เธอช่วยขนของเถื่อนเหมือนทุกครั้ง แต่เธอก็ไม่เอา เพราะว่าคิดถึงแต่โฮเซ่ และแล้วโฮเซ่ซึ่งถูกปล่อยตัวจากการถูกคุมขังข้อหาปล่อยนักโทษหนี ก็เข้ามาในผับ ทั้งคู่จึงได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง โฮเซ่ได้ระลึกถึงครั้งหนึ่งที่คาร์เมนเคยโยนดอกไม้มาให้ ( La fleur que tu m'avais jetéte -ดอกไม้นี้ที่เธอโยนให้ฉัน) แต่แล้วร้อยเอกซูนิก้าโผล่มาอีกครั้งเพื่อตามหาคาร์เมน โฮเซ่จึงเข้าเล่นงานซูนิก้าด้วยความอิจฉา ในที่สุดเขาก็ต้องหนีตามคาร์เมนและพวกค้าของเถื่อนไป
องค์ที่ 3
ในค่ายพวกค้าของเถื่อน ความรักระหว่างโฮเซ่และคาร์เมนก็จืดจางไปกลายเป็นความหึงหวงของฝ่ายชายที่รู้ว่าฝ่ายหญิงมีใจให้กับชายคนอื่น คาร์เมนลองดูไพ่ยิปซีปรากฏว่าพลิกเจอไพ่แห่งความตาย แต่ก็ฝืนใจไม่กลัว คาเมล่ามาตามหาโฮเซ่ถึงที่แต่พบว่าโฮเซ่กำลังเอาปืนไล่ยิงเอสคามิลโล่ด้วยความหึงหวง และพร้อมจะสู้กันแต่คาร์เมนมาขวางไว้ คาเมล่ายังเข้าแทรกและบอกโฮเซ่ว่าแม่เขาใกล้จะเสียชีวิต และขอเห็นหน้าเขาก่อนตาย โฮเซ่ได้สติจึงรีบตามคาเมลล่าไป
องค์ที่ 4
เปิดฉากที่สนามสู้วัวกระทิง ที่มีผู้ชมมาเข้าดู ร่วมส่งเสียงเชียร์เป็นจำนวนมาก ( Les voici la quadrille !) คาร์เมนเยื่องย่างมากับชู้รักคนใหม่คือเอสคาเมโล่ โดยไม่ใส่ใจคำเตือนของเพื่อนสาวว่าโฮเซ่กำลังมาด้อมๆ มองๆ อยู่แถวนี้ และแล้วโฮเซ่ก็ปรากฏตัวและร้องขอให้คาร์เมนกลับมาอยู่กับเขา แต่ได้รับการปฏิเสธอย่างเย็นชา ด้วยความโกรธจนสุดจะทนทาน โฮเซ่จึงใช้มีดแทงไปที่หัวใจของหล่อน แต่แล้วก็โผเข้าไปกอดศพของคนรักเก่า พร้อมกับร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนา
(หน้าปกซีดีของอุปรากรเรื่องนี้)
ตามความจริงบทความนี้น่าจะเรียกว่าหญิงก็ร้าย ชายก็เลวมากกว่า ความจริงคาร์เมนก็ไม่ต่างอะไรกับนกที่แสนจะเสรี เธอเพียงรู้สึกว่าโฮเซ่ไม่ได้แค่จะครอบครองร่างของเธอเท่านั้นหากยังรวมถึงวิญญาณของเธอซึ่งสิ่งนี้เธอยอมรับไม่ได้ อนิจจาความรักของคนที่หัวใจเต้นในจังหวะไม่ประสานกันยอมทำให้ความหวานชื่นเปลี่ยนเป็นขมขื่นอย่างสุดจะประมาณได้
-----------------------------------------------------------------------------------
จาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ชอร์ช บีเซ (Georges Bizet) เป็นคีตกวีชาวฝรั่้งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 19
ประวัติ ชอร์ช บีเซ เกิดที่กรุงปารีส ในปี พ.ศ. 2381 (ค.ศ. 1838) มีบิดาเป็นอาจารย์สอนขับร้อง และมารดาเป็นนักเปียโนสมัครเล่น เสียชีวิตที่บูจิวาล ในปี พ.ศ. 2418 (ค.ศ. 1875)
บีเซเมีความสามารถทางดนตรีตั้งแต่วัยเด็ก และได้เข้ารับการศึกษาที่วิทยาลัยดนตรีและนาฏศิลป์ชั้นสูงแห่งชาติ ณ กรุงปารีส เมื่อมีอายุได้ 19 ปี เขายังได้รับรางวัลทางดนตรีมากมาย ทั้งการแข่งขัน โซลเฟจ เปียโน ฟูเก้ และ ออร์แกน
แม้กระทั่งวันนี้ ผลงานประพันธ์เพลงโอเปร่าของบีเซเรื่อง คาร์เมน ก็ยังเป็นหนึ่งในโอเปราที่มีการเปิดการแสดงมากที่สุดเรื่องหนึ่งในโลก
ผู้รับบทเป็นคาร์เมนผู้โด่งดัง
เทเรซา่ เบอร์แกนซา มารีอา คาลาส วิคตอเรีย เดอ ลอส แองเจลลีส เกรซ บัมบรี แอกเนส บัลต์ซา เรจีน เครสปิน
ดนตรีสำหรับโอเปร่าและการแสดงบนเวที La Prêtresse, opérette (1854) Le Docteur miracle, opéra bouffe (1857) Don Procopio, opéra bouffe (1859) Les Pêcheurs de perles, opéra (1863) La Jolie fille de Perth, opéra (1867) L'Arlésienne, musique de scène (1872) Carmen, opéra (1875) Djamileh, opéra en un acte (1878)
[แก้] ดนตรีสำหรับวงออเคสตร้า เปียโน และทำนองเพลง Symphonie en ut majeur (1855) Six Chants du Rhin (1865) Variations chromatiques (1868) Souvenirs de Rome (« Roma ») (1869) Jeux d'enfants, suite pour piano à quatre mains (1871) Patrie, ouverture symphonique (1874)
-----------------------------------------------------------------------------------
Create Date : 10 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 27 สิงหาคม 2553 23:24:08 น. |
|
9 comments
|
Counter : 9055 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เด๊กศิลป์ IP: 10.0.3.28, 119.42.82.133 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:16:41:48 น. |
|
|
|
โดย: ชายชอบคาเมน IP: 110.49.66.212 วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:22:02:04 น. |
|
|
|
โดย: 1.ฟังเพลง Carmen (moonfleet ) วันที่: 27 สิงหาคม 2553 เวลา:23:25:36 น. |
|
|
|
โดย: www.louisoslo.com/Monogram-Denim IP: 36.250.244.96 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:0:38:29 น. |
|
|
|
โดย: wholesale bags IP: 192.99.14.36 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:18:50:56 น. |
|
|
|
โดย: replica hermes jige clutch IP: 192.99.14.34 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:16:42:01 น. |
|
|
|
โดย: Cheap Oakley Sunglasses IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 สิงหาคม 2557 เวลา:13:31:22 น. |
|
|
|
โดย: Cheap Authentic Hockey Jersey IP: 157.7.205.214 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2557 เวลา:18:47:02 น. |
|
|
|
โดย: north face borealis backpack silver IP: 192.99.14.36 วันที่: 2 ธันวาคม 2557 เวลา:21:05:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|