นโยบายการศึกษา

ช่วงนี้เป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้ง และพ้องกับช่วงเปิดเทอม จึงขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนโยบายการศึกษาเสียหน่อย ในฐานะที่เป็นคนที่อยู่ในกระบวนการนี้ โดยอยากให้คนที่คิดนโยบายการศึกษาได้ลงมาดูถึงปัญหาและความเป็นจริงก่อน แล้วจึงค่อยไปจัดการปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม

ปัจจุบันกระทรงศึกษาธิการเข้ามาดูแลควบคุมมาตรฐานการศึกษาและคุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัย โดยอาศัยเอกสารเป็นหลัก แต่ละเทอมบรรดาอาจารย์ นักวิชาการจะต้องมากรอกเอกสารว่าจะทำอะไรบ้างเรียกว่า TOR และหลังจากนั้นก็จะต้องกรอกภาระงานเพื่อบอกว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง จะได้เอาไปประเมิน เหมือนกับบริษัทเอกชน ซึ่งต้องทำแบบนี้ปีละสองครั้ง มากกว่านั้นคือหากจะทำโครงการอะไรให้กรอกไปด้วยว่าตรงกับกพร.ข้อไหน ซึ่งมันคือการสร้างภาพลวงตาให้คนอื่นเข้าใจว่ามันเป็นอย่างที่เขียนจริงๆ

หากลงไปดูกันจริงๆ แล้วการกรอกเอกสารพวกนี้คือการหลอกตัวเอง และหลอกผู้บริหาร เพื่อให้ตัวเองผ่านเกณฑ์เท่านั้น นับเป็นความเสียเวลาเป็นอย่างยิ่งที่จะมาสร้างเอกสารเท็จเหล่านี้เพื่อประกันคุณภาพการศึกษา

ที่แย่กว่านั้นคือ การกรอกมคอ. ผู้สอนต้องมากรอกว่าวิชาที่ตัวเองสอนแต่ละเทอมนั้นมีคุณธรรมจริยธรรมอย่างไร ฯลฯ (จำไม่ได้มันเยอะ) ประมาณวิชาละหกหน้า ไร้สาระเป็นอย่างยิ่ง อยากรู้เหมือนกันว่า พวกวิชาจัดดอกไม้ วิชาฟันดาบ จะกรอกว่าอย่างไร ถามว่าเอาไปทำไร---เอาไปประกอบการประกันคุณภาพจอมปลอม!!

อีกประเด็นหนึ่งที่อยากให้รับรู้ก็คือ เวลานี้คุณภาพของมหาวิทยาลัยมันด้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องพูดถึงหรอกว่ามหาวิทยาลัยในไทยจะติดอันดับหนึ่งในร้อย หรือหนึ่งในสี่ร้อยของมหาวิทยาลัยทั่วโลก ดูง่ายๆ ม.อีสานเป็นไงล่ะ ชัดเจนที่สุด แต่ม.ของรัฐก็ไม่แพ้กัน

ไม่ใช่เรื่องการซื้อขายปริญญา แต่เป็นเรื่องของการที่ต้องหารายได้เอง (ออกนอกระบบ) ปัญหาก็คือ งบประมาณไม่พอใช่ จึงจำเป็นต้องรับเด็กระบบพิเศษเพิ่มขึ้น ระบบพิเศษในที่นี้ก็คือ การรับนอกเหนือจากเด็กแอดมิชชั่น ม.ของรัฐแห่งหนึ่งเปิดรับเด็กเข้าเรียนระบบพิเศษถึงสี่รอบ เหตุผลเพราะจำนวนไม่ถึงเกณฑ์ (เกณฑ์ที่ไม่ขาดทุนกำไร) โดยรอบที่สี่นั้น เป็นการรับเด็กที่ถูกรีไทร์ในเทอมที่ผ่านมาเข้าเรียนโดยไม่จำเป็นต้องผ่านการสอบใดๆ แม้แต่การสอบสัมภาษณ์ แล้วอย่างนี้เราจะมีเกณฑ์การให้คะแนนพ้นสภาพเพื่ออะไร ในเมื่อออกไปแล้วก็กลับมาใหม่ วนเวียนในคณะเดิม สาขาเดิม อาจารย์ผู้สอนก็ต้องสอนคนเดิมๆ นิสัยเดิมๆ

กำลังใจของผู้สอนก็ไม่ได้มีเพิ่มขึ้น แทนที่จะได้สอนเด็กที่มีความตั้งใจจะเรียน ไม่ใช่เด็กที่ตั้งจะจ่าย (แต่ไม่ยอมเรียน) มีแต่บั่นทอนกำลังใจ บั่นทอนคุณภาพการสอน เพราะอาจารย์ต้องสอนตามสมองของผู้เรียน ผู้สอนก็มีแต่โง่ลง เพราะไม่ต้องเตรียมอะไรใหม่ๆ มาให้เด็ก เตรียมแต่เรื่องง่ายๆ มาสอน ไม่งั้นเด็กไม่ผ่านอีก ก็ต้องสอนซ้ำอีก เจริญทั้งผู้เรียนและผู้สอนจริงๆ

หนักกว่านั้นผู้สอนบางคน กลัวเรตติ้งตัวเองจะตก วิญญาณนางฟ้าเข้าสิง เด็กท้องมาขอเรียน แทนที่จะแนะนำให้ไปพักการเรียนแล้วไปคลอดลูกให้เสร็จเสียก่อน ดันบอกว่าให้ลงทะเบียน แล้วฝากชื่อไว้ไม่ต้องเข้าเรียน ทำงานส่งแทน เหตุผลเพราะเป็นเด็กระบบพิเศษ ถ้าลงทะเบียนแล้วก็จะได้ค่าสอนต่อหัว นี่คือคุณภาพที่กระทรวงต้องการ

ดูเอาแล้วกัน...ที่เป็นอยู่ก็ช่วยๆดูหน่อยเหอะ ก่อนที่จะทนไม่ไหวไปกว่านี้ ไม่ต้องหวังจะแจกไอแพด แทบเล็ตอยู่หรอก เอาที่มีอยู่ให้รอดเสียก่อนดีกว่า

Create Date : 02 มิถุนายน 2554		0 comments
Last Update : 2 มิถุนายน 2554 21:03:34 น.
Counter : 1087 Pageviews.
Share Tweet