I AM SOMEONE
<<
มีนาคม 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
12 มีนาคม 2564

“ลาออก” เพื่อโบยบินสู่อิสรภาพในดินแดนแห่งเสรีภาพ

         “นทิตา ไวยหงส์” อดีตข้าราชการอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตัดสินใจลาออกจากราชการและยอมใช้ทุนที่ติดค้างมหาวิทยาลัยอยู่ไม่น้อย เพื่อเลือกเดินตามความฝันอย่างไม่ลังเล แล้วมุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งเสรีภาพอย่างสหรัฐอเมริกา แม้ว่าเพื่อนร่วมงานหลายคนจะเสียดายในอาชีพและอายุราชการที่ทำมา 19 ปี แต่สำหรับเธอแล้ว ขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีอิสรภาพ...
 
          นับเป็นโชคดีที่เธอได้งานที่มั่นคงตรงตามความสามารถที่แท้จริงของตัวเอง นทิตาเล่าถึงประสบการณ์การได้เข้าไปทำงานในอเมริกาอย่างถูกกฎหมายว่า  “จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย ที่ว่ายากเพราะอเมริกาไม่มีมาตรฐานทักษะวิชาชีพ หรือกฎเกณฑ์การอพยพด้วยการเป็นแรงงานมีฝีมือ (skilled migrant)ที่ชัดเจนเหมือนกับในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์หรือแคนาดา ภาษาอังกฤษก็เป็นปัจจัยหนึ่ง เพราะส่วนมากคนอินเดียจะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ มีครั้งหนึ่งที่บริษัทเพื่อนอยากจะจ้างโปรแกรมเมอร์คนไทยมาก เคยช่วยเพื่อนหาคนมาช่วยเขียนโปรแกรมด่วนงานพาร์ทไทม์ แต่ตอนนั้นช่วยเป็นล่ามให้เขา ก็ทำได้ดี จนอยากจะเอามาทำงานด้วย แต่เขาไม่สามารถสื่อสารโดยตรงกับนายจ้างได้ ก็ต้องปล่อยไปแม้จะเก่งแค่ไหน เพราะเขาคงจะไม่เสียเงินจ้างล่ามเพิ่มอีกคน แต่ที่ว่าง่ายเพราะถ้ามี connection ที่ดี หรือรู้จักใครที่จะออก job offer (ใบที่นางจ้างออกให้)ให้ก็ไม่ยาก กฎเกณฑ์ต่างๆยืดหยุ่น ถ้ามีคนออก job offer ให้ เขาจะมีกฎรับรองอยู่แล้วว่าจะสามารถดูแลลูกจ้างได้ไหม สวัสดิการ มาตรฐานเงินเดือน ก็จะไม่มีปัญหาตรงนั้น แต่ถ้าจะไปแบบเปิดธุรกิจเอง ก็จะต้องมีความพร้อมของเงินทุนมากพอสมควร”
 
          ภายหลังจากการลาออกจากอาจารย์เธอก็ไม่ได้แตะต้องงานวิชาการอีกเลย โดยงานทุกวันนี้ทำหน้าที่ออกแบบและพัฒนาระบบอัลกอริทึม อยู่ที่หุบเขาไอทีในรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือที่รู้จักกันว่า ซิลิคอนวัลเลย์ 

          “บรรยากาศที่นี่ก็ไม่มีอะไรพิเศษ ต่างคนต่างทำงานตามวัฒนธรรมองค์กรตัวเอง บริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆอย่าง google, apple, facebook, oracle เขาก็มีอาณาจักรของเขา เหมือนเป็น campus มีทุกสิ่งทุกอย่างในนั้น ยิม ศูนย์อาหารมีทุกอย่าง ทุกชาติ คนที่นี่ที่บุคลิกต่างจากคนชุมชนอื่นๆก็คือ จะชอบพูดโปรเจคต่างๆ เทคโนโลยีนั่นนี่กัน ไอเดียไม่มีที่สิ้นสุด อย่างตัวฉันเองชอบทำกับข้าว จะชวนเพื่อนๆมาทานข้าวที่บ้านประจำ ก็จะมีโปรแกรมเมอร์คนหนึ่งเป็นคนรัสเซีย ที่จะบ้าเรื่อง AI ปัญญาประดิษฐ์มาก พูดขึ้นมาว่า อยากจะขอจำลองสมอง ตรรกะฝีมือการทำกับข้าว ไปผลิตหุ่นยนต์ที่ทำกับข้าวรสชาติแบบนี้”

           “เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมสุดยอดคนไอทีเลยก็ได้ เหมือนคนจบบริหารธุรกิจก็ต้องอยู่ที่วอลสตรีท  มันก็เป็นความใฝ่ฝันของคนหนุ่มสาว เด็กจบใหม่ คนเก่งจากประเทศต่างๆ ที่อยากจะมีประสบการณ์ที่นี่ เรียนรู้การทำงาน โชว์พลังความคิด พิสูจน์ตัวตน แล้วเรซูเม่ก็สวยงามขึ้นด้วย แต่ขึ้นอยู่กับว่าเป็นคนชอบความท้าท้าย ชอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือเปล่า เป็นเจ้าความคิดเจ้าโปรเจคมั้ย ถ้าชอบแบบรูทีน เป็นโปรแกรมเมอร์ทำงานตามคำสั่ง ก็ทำที่ไหนก็ได้ ไม่ทำเป็นต้องทำที่นี่”



             “ในซิลิคอนวัลเลย์มีคนไทยเยอะพอสมควร ส่วนมากจะเป็นคนที่จบที่นี่ จะอยู่ตามบริษัทดังๆ พวก Facebook, Yahoo, Twitter แต่ startup เล็กๆ ก็น้อยอยู่ เพราะเขาจะจ้างคนยากกว่า ระวังมากกว่า ไม่ได้มีเงินทุนเยอะเหมือนยักษ์ใหญ่ ที่จะทดลองจ้างคนได้ พลาดจ้างคนหนึ่งคนคือเจ๊ง อย่างเพื่อนที่พูดถึงก่อนหน้านี้สรุปแล้วก็จ้างคนสิงคโปร์ที่มีประสบการณ์ทำงานสูง ภาษาอังกฤษดี แต่คนอินเดียน่าจะมากที่สุด”
 
            “ฉันมองว่าประเทศไทยควรจะมีชุมชนแบบซิลิคอนวัลเลย์ เพราะคนไทยชอบการเป็นชุมชนอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นเรื่องสร้างสรรค์ควรจะสนับสนุน จะได้มีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น เขามี Uber เราควรคิดค้นหรือปรับปรุงอะไรที่เข้ากับสถานการณ์และกฎหมายบ้านเรา ดีกว่าไปรับของที่เขาคิดมาเลย องค์ประกอบก็ต้องมี infrastructure (โครงสร้างพื้นฐาน)ก่อน กฎหมาย คนที่มีทักษะความรู้ องค์กรที่สนับสนุน อย่างมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพและชื่อเสียง เช่น สแตนฟอร์ด แคลิฟอเนียร์ เบิร์กลีย์ หรือคาเนกี เมลลอน เขาจะเต็มที่ในการผลิตบัณทิต การวิจัย และโต้โผในการช่วย startup ต่างๆ”



            “ถ้าจะให้แนะนำเรื่องการมาทำงานที่นี่ ฉันคิดว่าควรเตรียมความพร้อมทั้งทางภาษา วัฒนธรรมการทำงาน และทักษะ ความรู้ และเตรียมทุนทรัพย์ในระยะแรก เพราะค่าครองชีพแม้บางอย่างถูกกว่าไทย เช่นอาหาร แต่ค่าที่พักอาศัยโดยเฉพาะในซิลิคอนวัลเล่ย์แพงมาก โดยเฉลี่ยน่าจะแพงที่สุดในอเมริกาแล้วตอนนี้สตูดิโอ อาจจะต้องจ่ายประมาณหนึ่งแสนบาทต่อเดือน เงินสามหมื่นบาทก็อาจจะต้องแชร์ห้องนอนกับคนอื่นอีก 2-3 คน มีวิศวกรของกูเกิลนอนในรถตู้ที่จอดที่ไว้ทำงานเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย อาบน้ำแต่งตัวที่ยิม  ตัวคนเดียวอาจจะไม่ลำบากนัก แต่ถ้ามีครอบครัวก็ต้องเตรียมตัวพบกับความสยองขวัญได้”
 
             “ถ้าอยากได้งาน ก็ต้องเตรียมประวัติส่วนตัวกับพวกสื่อทั้งหลายที่ให้แปะ resume หาเครือข่ายวิชาชีพและกลุ่มความสนใจเดียวกัน อย่าง LinkedIn ถ้าอยู่เงียบๆเฉยๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่าทำอะไรได้ มีความสามารถอะไร พวก headhunter ที่รับจ้างหาคนมาป้อนให้บริษัทต่างๆ ก็จะสิงตาม LinkedIn เหมือนกัน อีกแหล่งหนึ่งที่เป็นเวทีแสดงฝีมือคือ เว็บ freelance ต่างๆ เช่น Upwork เกิดฝีมือถูกใจขึ้นมา เข้าตานายจ้างก็อาจจะ sponsor มาทำงานด้วย สนนราคาค่าจ้างก็อาจจะถูกหน่อยถ้าเป็น freelance online เพราะมีคู่แข่งประมูลงานจากชาติอื่น ๆ เยอะโดยเฉพาะอินเดียมาหั่นราคา ก็ต้องอดทน คนไทยจะเสียเปรียบชาติอื่นในเรื่องค่าตัว เราจะค่อนข้างหยิ่ง เรทแพง เพราะเราถือว่าการพูดภาษาอังกฤษได้เป็นความสามารถพิเศษ อินเดียกับฟิลิปปินส์จะไม่เกี่ยง ไม่หยิ่ง เพราะเขาพูดภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ไม่มีเรทพิเศษ คือไม่ต่ำกว่าเรทประเทศเขาเป็นใช้ได้ บางคนยอมทำงานให้ฟรี ถ้าเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมาจ้าง หรือเป็นโปรเจคที่น่าสนใจ เขาจะได้ประสบการณ์ เพื่อที่เขาจะได้เอาไปอัพเกรดประวัติการทำงาน หรือได้เป็นโอกาสโชว์ความสามารถให้ได้ job offer ซึ่งในซิลิคอน วัลเลย์เป็นเรื่องธรรมดามากที่จะมีคนเสนอตัวทำงานฟรี แลกกับการมีโอกาสในการได้การเสนองานประจำ หรือเป็นหุ้นส่วน อาจารย์มหาวิทยาลัยดังๆ ระดับ Top ในอเมริกาก็มีบ่อย มาเสนอโปรเจคกับ startup ต่างๆ”
 
            นทิตาสรุปว่าการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตด้วยการลาออกจากงานที่มั่นคงในสายตาคนอื่นเป็นสิ่งที่คุ้มค่าอย่างมาก เพราะเธอได้ทำสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทาย มีอิสรภาพทางความคิด ได้ใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย  มีคุณภาพชีวิตที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดี ได้ประสบการณ์ การรู้จักผู้คน connection ที่หลากหลาย ไม่ใช่เฉพาะในแวดวงวิชาการ ได้เรียนรู้การปรับตัวและการทำงานที่ต่างวัฒนธรรม เข้าใจความเป็นไปของโลกมากขึ้น ปรับปรุงวิสัยทัศน์ และค่านิยมทางลบด้วย
           
           “ฉันไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจลาออกในวันนั้น”
เธอกล่าวทิ้งท้ายการสนทนา



สัมภาษณ์และเรียบเรียง ปี 2560




 

Create Date : 12 มีนาคม 2564
0 comments
Last Update : 12 มีนาคม 2564 15:42:38 น.
Counter : 732 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]