I AM SOMEONE
 
มกราคม 2564
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
31 มกราคม 2564

17 วันที่ฉันเป็นครู : เรียนไปบ่นไป

          ในวันที่มีอากาศร้อนอบอ้าว ฉันไปสอนน้องผึ้งตามปกติ เธอยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนเคย วันนี้ฉันสอนเรื่อง “การผันวรรณยุกต์” ฉันดุแล้วมันยากพอสมควรสำหรับเด็กชั้นป.6 ฉันจำได้ว่าเรื่องการผันวรรณยุกต์นี้เรียนมาจนถึงระดับปริญญาตรีเลยทีเดียว ฉันเอาแบบฝึกหัดของโรงเรียนสาธิตแห่งหนึ่งมาสอนและให้เธอทำ ฉันว่าแบบฝึกหัดเล่มนี้มันไม่ค่อยจะสมบูรณ์เท่าไร บางทีก็พิมพ์ผิด  บางทีอธิบายผิด บางทีก็ไม่รู้เรื่อง จนฉันต้องแก้เองอยู่เป็นประจำ และเรื่องการผันวรรณยุกต์ก็เช่นกัน ยังผิดเหมือนเดิม
 
            พอน้องผึ้งทำแบบฝึกหัด (ซึ่งค่อนข้างจะน่าเบื่อสำหรับเธอ) เธอก็บ่นว่า “เมื่อไหร่จะขึ้นบทใหม่ซะทีนะ หนูไม่ค่อยชอบเรื่องนี้เลย” เธอมักจะพูดตรงๆอย่างนี้เสมอ และเมื่อพบว่าบางข้อไม่มีตัวเลือกที่ถูกต้อง เธอก็เผลอสบถออกมาว่า “ทุเรศจริงชิบเป๋งไอ้หนังสือเล่มนี้ ห่วยแตกจริงๆ” แรกๆฉันก็ตกใจ แต่หลังๆก็เริ่มชิน และฉันก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ “ทำไมดุจัง เคยมีเพื่อนบอกว่าดุบ้างมั้ย” เธอบอกว่ามี ฉันเลยถามต่อว่า “แล้วมีเพื่อนบอกว่าน้องผึ้งตลกบ้างรึเปล่า” เธอก็บอกว่ามีเช่นกัน “แต่หนูว่าไม่เห็นตลกเลย หนูว่ามันทุเรศมากกว่า ก็มันผิดนี่นา”
 
            ฉันยังถามเธออีกว่าเคยทะเลาะกับเพื่อนบ้างรึเปล่า เธอบอกว่าเคย แล้วฉันถามต่อว่าเคยลงไม้ลงมือรึเปล่า ฟังดูยั่วยุยังไงไม่รู้ เธอตอบว่ายังไม่เคย “แต่เปิดเทอมนี้ไม่แน่ อาจจะได้ตบกับเพื่อนปากร้าย” เธอพูดพลางทำท่าทางเกรี้ยวกราดใส่อารมณ์เต็มที่ ราวกับว่าศัตรูรออยู่ข้างหน้า “แล้วใครตัวโตกว่ากัน” ฉันซักต่อ
            “ชนิกานต์ แต่หนูไม่กลัวหรอก รับรองว่าเขาไม่ชนะแน่เพราะเขาขี้โกหก ไม่มีใครเชื่อเขาแน่ หนูจะบอกว่าเขาเป็นคนเริ่มก่อน หนูจะน็อกยุคเขาเลย” ออกจะโหดไปสักหน่อย คงเนื่องมาจากเธอเล่นเกมที่เรียกว่า เพลย์สเตชั่น ประเภทสู้รบบ่อยเกินไปและคำว่า “น็อกยุค” ก็เป็นศัพท์ประจำตัวของเขาล่ะ เดาว่าคงคล้ายๆกับน็อกเอ๊าท์ ทำนองนั้นนะฉันเดาเอา
 
            พอพูดถึงเรื่องเกม แล้วก็นึกอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เมื่อวันก่อนฉันให้เธอเขียนไทย (ซึ่งจะให้เขียนเป็นประจำทุกวันก่อนเข้าบทเรียน) วันนั้นเธอตั้งใจเขียนมากเป็นพิเศษ พอเขียนไปได้ประมาณ 5 คำ เธอก็บอกว่า
            “วันนี้หนูจะต้องเขียนไม่ให้ผิดเลย”
            “เพราะอะไรล่ะ” ฉันถาม เธออธิบายว่า “หนูต้องตายแน่ๆ ถ้าหนูไม่ได้เล่นเกม”
            “แล้วมันเกี่ยวกันตรงไหน” เธออธิบายต่อไป “ก็พี่หนูเขาบอกว่าถ้าหนูเขียนไทยผิด 1 คำ จะอดเล่นเกมไปหนึ่งอาทิตย์ โหดมั้ยล่ะ” โถๆๆๆนึกว่าอะไรเสียอีก หน้าตาเธอจริงจังมาก ทำให้ฉันนึกใจอ่อนขึ้นมานิดหนึ่ง กลัวเธอจะไม่ได้เล่นเกมกะจะหาคำง่ายๆมาให้เขียน แต่คิดไปคิดมา ไม่ดีกว่า เพราะฉันเองก็ไม่อยากให้เธอติดเกมจนงอมแงมขนาดนี้
 
            ฉันจึงบอกเธอว่าขาดเกมไม่เป็นไรหรอก ถ้าเราขาดน้ำขาดอากาศขาดอาหารสิ เราจะตาย เธอรีบเถียงทันที “แต่หนูว่าหนูขาดเกมหนูจะตาย ชีวิตนี้หนูขาดเกมไม่ได้”
 
            ฉันรู้สึกหมั่นไส้ไอ้เจ้าเกมคอมพิวเตอร์นี่จริงๆ มันครอบงำจิตใจของเด็กได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ มิน่าล่ะ เด็กบางคนถึงหมกหมุ่นจนไม่เป็นอันทำอะไร หรือฆ่าตัวตายไปเพราะเกมก็มี ตามที่เคยมีข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ว่าเด็กไทยคลั่งไคล้เกมของญี่ปุ่นมาก ถึงขั้นต้องการไปเกิดใหม่ในประเทศญี่ปุ่นในชาติหน้า
 
            ฉันสอนเธอว่าถ้าเขาไม่ให้เล่นเกมก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่นา เราก็ทำกิจกรรมอย่างอื่นก็ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะความคิดที่ดื้อดึงของเธอได้ “หนูว่าไม่มีกิจกรรมอะไรที่มันจะดีมีประโยชน์เท่าเกมหรอก” “ก็อ่านหนังสือหรือวาดการ์ตูนไง” ฉันเสนอ แต่เธอค้านว่า “แต่ถ้าหนูไม่เล่นเกมหนูก็คิดไม่ออกหรอกว่าจะวาดการ์ตูนแบบไหน หนูชอบวาดตามแบบเกม” ฉันจึงเสนออีกว่า “ถ้าอยากเป็นนักวาดการ์ตูน(อาชีพที่เธอใฝ่ฝัน)ก็ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ไม่ลอกแบบใคร เราต้องคิดเอง ว่างๆก็ไปซื้อสมุดวาดเขียนเล่มใหญ่ๆ มาสิ แล้วก็สมมติว่าเจ้าของเกมเขามาจ้างเราให้วาดการ์ตูนที่เป็นตัวเอกในเกมก็ได้” เธอหยุดฟังแล้วคิดตาม ฉันไม่รู้ว่ามันจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน เพราะฉันมาทีหลังเกม เธอคงเชื่อเกมมากว่าเชื่อฉัน
 
            ลองนึกดูสิ เธอเป็นเอามากขนาดที่ว่า เราเรียนเรื่องการโต้วาที ฉันให้เธอคิดญัตติขึ้นมา เธอก็คิดว่า “เกมดีกว่าพื้นบ้านพื้นเมือง” ฉันสงสัยว่า “พื้นบ้านพื้นเมืองคืออะไร” เธอบอกว่า “ก็พวกรีรีข้าวสารไง” สักพักเธอก็เปลี่ยนมาเป็น พื้นบ้านพื้นเมืองดีกว่าเกม ด้วยเหตุผลว่า ส่วนมากฝ่ายค้านจะเป็นฝ่ายชนะ เธอจึงขอเป็นฝ่ายค้าน ฉันยอมที่จะเป็นฝ่ายเสนอ ฉันเขียนข้อดีของพื้นบ้านพื้นเมือง (ตามความหมายของเธอ) พอเขียนเสร็จ ฉันก็ให้เธอเขียนเพื่อค้าน ลองอ่านดู……..
 
 
            ARHAM ! อย่าไปเชื่อไอ้ฝ่ายเสนอนะคะ มันน่ะชอบเอาแต่แต่งเรื่องน่ะค่ะ ทีจริงน่ะพื้นเมืองมันเชย ไม่ไฮเทค อย่างฝ่ายค้านไฮเทคอยู่เสมอ ชอบเล่นเกมมากเลยนะคะ ท่านผู้ชมทราบ มีแต่คนเล่นแต่เกมเยอะกว่าพื้นบ้านอีกค่ะ ส่วนไอ้พื้นบ้านนะคะ เราน่าจะพามันมาอยู่โลกอนาคตเลยค่ะ ถ้ามันไม่อยากอยู่ก็ให้มันไปอยู่ยุคหินซะ แล้วเราจะย้อนยุคมาช่วยกรุงศรีอยุธยา
 
            เธอเขียนอย่างนี้จริงๆ พูดถึงเรื่องกรุงศรีอยุธยาแล้ว ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเธอชอบพูดเสมอว่าถ้าย้อนเวลาได้หรือมีเครื่องไทม์แมชชีนของโดราเอมอน เธอจะเอาปืนไฮเทคในเกมไปช่วยต่อสู้กับพม่า กรุงศรีอยุธยาจะได้ชนะ ฟังดูเข้าที แต่มันก็ยังเป็นการ์ตูนอยู่นั่นเอง
 


Create Date : 31 มกราคม 2564
Last Update : 31 มกราคม 2564 11:50:59 น. 0 comments
Counter : 728 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]