เช้าวันจันทร์ ไปเยี่ยมเมือง Alicante
วันนี้นาดีนปล่อยให้เราสามคนไปเที่ยวกันเองมิเชลเป็นสารถี เมืองที่จะไปเป็นเมืองใหญ่ชายทะเลชื่อ Alicante ใหญ่จริงสมชื่อที่ท่าเรือ
เจ้าประคุณเอ้ยยยยย
เรือยอชท์มากมายจอดเรียงเป็นตับ ลำเลิศ ๆ หรู ๆทั้งนั้น ที่ปิดป้ายขายก็มี นี่ถ้าถูกล็อตโต้
ว่าจะถอยสักลำเอาไว้ไปตกปลามาทำอาหารเลี้ยงแขก ท่าจะสดดี..
เดินมองกันให้พอน้ำลายหกถ่ายภาพไว้ดู..แล้วก็ไปเดินแถบเมืองเก่าบอกแล้วไง
สามเฒ่า
อายุรวมกันเกือบสองร้อยปี นิยมของเก่า ความหลังครั้งเก่า..ว่าแล้วก้เดินตามกันไปดูเมืองเก่า ที่ยังไม่เก่ามากนัก ด้วยบ้านเรือนออกจะน่ารักมากกว่าบ้านสีขาว ฟ้า เหมือนที่กรีซ
แต่ไม่สวยเท่าแค่นั้นเอง
เดินกันจนเมื่อยหัวเข่า..เพราะเป็นทางชันขึ้นเขา ต้องขึ้น ๆลง ๆ ดีที่ทั้งมิเชล และแม่บุญออกเดินกันบ่อย ไม่งั้นคงลงจับ สามเฒ่า
มาจบการเดินชมเมืองหน้าร้านอาหาร
ว่าแล้วก็ดูรายการ Tapas 4อย่างของโปรด..กับ Sangri โถใหญ่ แค่ 10 euros มีปลาหมึกย่างด้วยตกลงนั่งหน้าร้านใต้แสงแดดยามเที่ยงกันเลย
พอข้าวของทุกอย่างมาครบ เราลงมือกันหนุบหนับลืมคุยกันชั่วคราว ก็มันอร่อยนี่นา...ฟรองซัวส์...ผู้ที่ออกตัวเสมอว่าไม่กิน ๆงานนี้ฟาดไปเยอะเหมือนกัน เธอบอกว่าเห็นแม่บุญกินแล้ว...เกิดอาการ..เป็นงั้นไป
จากนั้นก็เดินชมเมืองไปเรื่อยเปื่อยเข้าร้านค้าแบรด์เนม...ราวกับนักช้อปชาวไทย จีน ญี่ปุ่นแต่เดินออกทุกร้านด้วยมือเปล่า...นี่ไงแม่บุญ...ช้อปปิ้งโดยไม่เสียเงินสักยูโร...มิเชลยิ้มเชียว..ถูกใจในความเหนียวของภรรยา...เราจบวันอันรื่นรมณ์ด้วยไอศรีมคนละอัน นั่งกินใต้ร่มไม้ริมชายทะเล ดูผู้คนที่ผ่านไปมาพร้อมเลียไอศรีมไปด้วย...อากาศมันร้อนไอศครีมมันละลายเร็ว...จากนั้นก็ขับรถกลับบ้าน สี่โมงเย็นพอดี
มื้อค่ำ...จบลงที่ร้านชาวสเปนนิชอาหารในเมนูหน้าตาไม่น่ากินเลย โป๊ะ ..ราวกับให้กินสักสิบคนรสชาติพอกินได้เท่านั้น ชาวสเปน...เขาคุยว่า เป็นเมืองหลวงแห่งการอาหารกิน...อันนี้ขอค้านหัวชนฝาบ้านมุงแฝก...ไม่เจ็บมากเหมือนอิฐ...ว่าไม่จริง ???ที่เลิศล้ำเกินบรรยายในการกิน มีเพียงที่ฝรั่งเศส และอิตาลี่ เท่านั้นจ้าไม่นับไทยนะ อันนั้นยกไว้เหนือหัว...เหนือกระเพาะ
ไปถามเถอะ...นักท่องเที่ยวไม่ว่ามาจากที่ไหนในยุโรปถามว่ากินอาหารที่ไหนอร่อยสุด ตอบเหมือนกันหมด เพราะมันเป็นแบบนั้นจริง ๆรากเหง้า...ของอาหารฝรั่งเศสอันเลอเลิศ การจัดจานอย่างวิจิตรอลังการณ์น้อย..แทบจะไม่อิ่ม แต่มันอิ่มตาเพราะความสวยด้วย เชฟ..มากมายในโรงแรมใหญ่ ๆมาจากฝรั่งเศสกันแทบทั้งนั้น ส่วนอาหารอิตาเลี่ยน...ผู้ชอบกินเส้นทั้งหลายรู้ดี ???
วันอังคาร...วันสุดท้าย
นาดีน...เธอเครียดมาก เพราะต้องไปพบทนายพร้อมสามีเก่าเพื่อตกลงกันเรื่องแยกทางกัน พอเธอกลับมาบ้าน เธอพูด ๆ ๆ ๆ จนเราต้องหาเรื่องออกจากบ้านไปเที่ยวชายทะเลไปช้อปปิ้งกัน เพื่อให้เธอลืมเรื่องราวต่าง ๆ น่ากลัวมากเพราะเธอคุมตัวเองแทบไม่อยู่ ขับรถไปมือสั่นไป มิเชลต้องคอยเหลือบตามองอยู่เรื่อยๆ มีอยู่ครั้งเธอเกือบขับรถชนเสาไฟกลางถนน...ดีที่กลับรถทัน
แม่บุญนั่งใจหาย ๆ ใจไม่ทั่วท้องอยู่ตลอดทางบ่ายสองเราไปจบกันที่ร้านอาหารริมทะเล สั่ง paella sea foods มาสำหรับสองที่มิเชลกินไก่ครึ่งตัว นาดีนกินปลาหมึกยักษ์ย่าง แบ่งมาให้แม่บูญด้วยเพราะรู้ว่าชอบตบท้ายด้วยของหวาน กาแฟ แล้วก็ไปเดินศูนย์การค้าใหญ่ใจกลางเมืองที่ห่างออกไป
มื้อค่ำ...สลัดล้างตู้เย็น ไวน์..คนละกรึบ คุยกันจนดึกแยกย้ายกันไปนอน พรุ่งนี้ต้องกลับบ้านแล้ว
พุธเช้า...หลังอาหารเช้า
นาดีนกับฟรองซัวส์..มาส่งเราทั้งคู้ที่สนามบิน ร่ำรา กอดหอมแก้มกันแล้วก็บ๊ายบาย...พบกันใหม่
ก่อนขึ้นเครื่องตอนเที่ยง...แม่บุญเดินเข้าร้านอาหารสั่งบาบีคิวไก่หนึ่งไม้ยักษ์ ผักรวมย่างราดด้วยน้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทยพร้อมมันฝรั่งทอดให้มิเชล แล้วมาแบ่งกันกินเพราะเยอะมากอิ่มกันแบบอร่อยเป็นการอำลา ...แล้วก็ขึ้นเครื่องกลับบ้าน...
จบแล้วจ้า....
เรื่องราวและภาพ
ร้อยเรียงออกมาเป็นอย่างดี
อ่านเพลินมากเลยคัรบพี่