...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
พบเธอที่บ้านถ้ำธง ๓

๓.
ธนาเดินถือตะเกียงเข้าไปในห้องที่หญิงสาวเจ้าของบ้านชี้บอก แสงสว่างทำให้เห็นสภาพภายในห้อง เป็นห้องขนาดกว้างประมาณ ๓.๕๐ เมตร ยาว ๔ เมตร มีเตียงขนาดนอนได้ ๒ คนวางชิดผนัง หมอนมุ้ง ผ้าห่ม สะอาดแต่ห้องมีกลิ่นอับเล็กน้อย



แปลก… ที่พอเข้ามาในห้องเขาก็รู้สึกง่วงขึ้นมาทันที ความง่วงที่เข้ามาจู่โจมทำให้เมื่อล้มตัวนอนก็พลันหลับสนิทโดยไม่ทันได้ดับตะเกียง มารู้สึกตัวตื่นอีกครั้งและยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา เวลาก็อีก ๑๐ นาทีจะ ๘ โมงเช้า ตะเกียงดับไปเองตอนไหนไม่รู้ หรือว่าเพราะหมดน้ำมันก็ไม่รู้

รีบลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำ พลันนึกถึงสบู่ ยาสีฟัน ผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าที่ยังอยู่ในรถ… ล้วงเข้าไปใต้หมอน กุญแจรถ และปืนที่สอดไว้ยังอยู่ที่เดิม

เอาปืนสอดกลับเข้าไปไว้ใต้หมอนอีก หยิบแต่กุญแจรถถือเดินออกมา มองหาเจ้าของบ้านแต่ไม่เห็น ประตูห้องที่เห็นเธอเข้าไปก็ยังปิดเงียบ เธออาจจะยังนอนหรือลุกไปแล้วก็ได้เช่นกัน ธนาเดินมาเปิดประตูบ้านประตูปิดแต่มิได้ล็อค แสดงว่าผู้เป็นเจ้าของบ้านตื่นและออกไปแล้ว ธนาเปิดประตูแล้วเดินออกมาข้างนอก

มองไปรอบ ๆ บ้าน สภาพที่เห็นเคร่าๆ เมื่อคืน มิได้แตกต่างไปจากที่เห็นตอนเช้านี้มากนัก นอกจากรายละเอียดที่เพิ่มขึ้น เช่น ตัวบ้านก่อด้วยอิฐเคลือบแผ่นใหญ่โชว์แนว

รถของเขายังจอดอยู่ในลานบ้าน ในโรงรถมีรถตัดหญ้าแบบรถเข็น เครื่องยนต์เก่ายี่ห้อยันมาร์ จอดทิ้งอยู่คันหนึ่ง มีคราบฝุ่นเกาะหนาเหมือนไม่เคยใช้มาเป็นเดือน

รอบบ้านมีหญ้าต่างๆ ขึ้นรกจรดผนัง มีทั้งเสือหมอบ กระทกรก และพรรณไม้เลื้อยที่ถือโอกาสเลื้อยพันตามเสา และขอบหน้าต่างขึ้นไปจนเกือบจะถึงหลังคา หญ้าคาหญ้าเจ้าชู้ และหญ้าอื่นๆ ขึ้นแทรกหญ้าในสนามสูงถึงเข่า

อันที่จริงบ้านหลังนี้ มีรูปทรงสวยงามแบบแปลนทันสมัย ต่างไปจากบ้านของชาวบ้านทั่วๆ ไป ทั้งยังมีความแข็งแรงและทนทาน ที่สำคัญคือ สามารถทนต่อการพัดเข้าถล่มทำลายของพายุไต้ฝุ่น“เกย์” ที่ผ่านมาได้ โดยไม่มีส่วนใดของบ้านแตกร้าวหรือชำรุด หรือหากจะมีบ้างก็คงจะเป็นพวกกระเบื้องหลังคา เพราะยังมีเศษกระเบื้องแตกปรากฏอยู่ให้เห็น
นอกนั้นก็เป็นสายไฟฟ้าที่ยังปล่อยให้ขาดห้อยกะรุ่งกะริ่งอยู่ ไม่ได้ซ่อมแซม

“เธออยู่ของเธออย่างไรนะ จึงปล่อยบ้านให้โทรมและรกรุงรังอย่างนี้” ธนารำพึงอีกครั้งก่อนเดินไปเปิดประตูรถ

คว้ากระเป๋าเสื้อผ้าที่วางไว้บนเบาะรถเดินกลับเข้ามาในบ้าน รื้อผ้าขนหนู สบู่ ยาสีฟัน และใบมีดโกนหนวดออกมากองบนโต๊ะหน้าห้อง เอากระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องเดิมแล้วเดินหาห้องน้ำ ซึ่งไม่ต้องหาเพราะมันอยู่ตรงข้ามกับห้องที่เขานอนนั่นเอง

ห้องครัวอยู่ติดกับห้องน้ำและห้องอาหาร พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องปูพื้นสีขาวแผ่นใหญ่ มีขนาดกว้างกว่าห้องที่เขานอน ตรงกลางห้องมีโต๊ะอาหาร เป็นโต๊ะยาว นั่งรับประทานอาหารได้ ๘ คน มีเครื่องครัวทันสมัยทั้งเตาแก๊สและเต่าถ่าน ติดตั้งอยู่บนแท่งที่ก่อขึ้นชิดติดผนัง ปิดทับด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียวอ่อน มีช่องบานตู้สำหรับเก็บของและเก็บถ้วยชามอยู่ด้านล้าง

ด้านบนเหนือแท่งที่ตั้งเตาแก๊สและเตาถ่าน มีชั้นวางของ มีอาหารกระป๋องและขวดเครื่องปรุงอาหารชนิดต่างๆ วางไว้ครบครัน มุมหนึ่งมีตู้กับข้าว สเตนเลสติดบานกระจก ผนังอีกด้านก่อเป็นแท่งปูด้วยกระเบื้องสีเดียวกัน เป็นที่สำหรับวางถ้วยชาม และมีอ่างล้างถ้วยชามอยู่ตรงกลาง จากห้องครัวมีประตูทะลุออกหลังบ้าน

ห้องน้ำซึ่งอยู่ติดกันใช้เครื่องสุขภัณฑ์อย่างดี ผนังและพื้นห้องปูด้วยกระเบื้องสีครีม มีอ่างขังน้ำอาบขนาดกว้าง ๑ x ๒ เมตร ก่อด้วยคอนกรีตบุด้วยกระเบื้องสีเดียวกับพื้นและผนัง ในอ่างขังน้ำไว้เต็ม มีฝักบัวสำหรับอาบน้ำติดผนัง แต่เมื่อชายหนุ่มเปิดดูไม่มีน้ำไหลออกมา ในอ่างจึงมีขันน้ำพลาสติก ๒ ใบลอยอยู่แทน

ห้องส้วมถูกแบ่งส่วนออกไปจากห้องน้ำเป็นอีกห้อง ใช้โถส้วมแบบนั่งห้อยเท้า สิ่งของเครื่องใช้ประจำห้องเช่นสบู่ ยาสีฟัน ผ้าเช็ดตัว อ่างล้างหน้า ผ้าเช็ดมือ และกระจกมีอยู่ครบครัน ทว่ามีคราบฝุ่นเกาะราวกับว่าไม่มีคนใช้มานานเป็นเดือนหรือสองเดือน

ชายหนุ่มเปิดก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้าและเหนืออ่างอาบน้ำ ปรากฏว่ามีน้ำไหลออกมาใสและสะอาด เมื่อเดินออกไปดูหลังบ้านที่ติดกับครัวจึงเห็นว่า น้ำไหลมาจากถังเก็บน้ำฝนขนาดใหญ่ ๒ ลูกที่สร้างไว้ติดกับชายคาบ้านด้านหลัง และรอบชายคาบ้านมีรางน้ำฝนติดไว้ต่อไปลงถัง

ธนา อารีรักษ์ มองหาเครื่องมือทำความสะอาดห้องน้ำ ก็เห็นแปรงถูพื้นด้ามยาว และ ฟองน้ำถูพื้นมีด้ามจับพิงอยู่มุมห้อง ส่วนน้ำยาล้างห้องน้ำเก็บอยู่ในถังพลาสติกสีดำ เขาเสียเวลาขัดถูทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ราวครึ่งชั่วโมงทุกอย่างจึงดูดี

เจ้าของบ้านยังหายเงียบไปไหนไม่รู้ เขาเลยถือโอกาสทำตัวเป็นเจ้าของบ้านเสียเลย…

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ธนานึกถึงการนัดหมาย เขาควรจะไปที่โรงแรมอีกครั้ง คนที่นัดไว้เมื่อวานอาจจะไปรอเขาอยู่อีกก็ได้ แต่จะไปโดยไม่ได้ร่ำลาเจ้าของบ้านก็ดูกะไรอยู่

ใจหนึ่งอยากจะออกจากบ้านนี้ไปเพื่อทำธุรกิจของตน แล้วไม่กลับเข้ามาอีกโดยจะไปพักที่โรงแรมแต่อีกใจหนึ่ง อยากจะพบเธอผู้มีความเป็นอยู่แบบลึกลับและประหลาดอีกหน

“เธอไปไหนของเธอหนอ?”

ตัดสินใจอย่างฉับพลันว่าจะยังไม่ออกไปจากบ้าน หากไม่ได้พบเธอผู้เป็นเจ้าของบ้านอีกครั้ง

หลังจากตัดสินใจว่าจะยังไม่ออกไปข้างนอก ชายหนุ่มจึงเปลี่ยนมาเป็นนุ่งกางเกงขาสั้น สวมเสื้อยืดแบบอยู่กับบ้าน แล้วจึงหันเข้าสำรวจห้องครัว บนชั้นวางของมีอาหารแห้งและเครื่องกระป๋องเก็บอยู่ ดูวันเดือนปียังไม่หมดอายุ ดูในช่องเก็บของข้างล่างมีถังพลาสติกปิดฝา เปิดออกดูมีข้าวสารอยู่เกือบเต็ม เป็นข้าวหอมมะลิที่เขาชอบเสียด้วย

เปิดดูอีกช่องมีกระแป๋งสังกะสีบรรจุถ่านเก็บอยู่ ลองหมุนแป้นบนหัวถังแก๊สเปิดแก๊ส และบิดวาวที่หัวเตาปรากฏว่ามีเปลวไฟพุ่งออกมา ทุกอย่างในครัวยังใช้งานได้ตามปรกติ

เสียเวลาทำความสะอาดห้องครัวอยู่อีกราวครึ่งชั่วโมง ทุกอย่างจึงพร้อมใช้งาน แต่...เจ้าของบ้านยังหายเงียบไม่โผล่มาให้เห็นเหมือนเดิม...

หรือเธอยังนอนอยู่ในบ้าน? ลองเดินไปเคาะประตูห้องที่เห็นเธอหายเข้าไปเมื่อคืน เผื่อเธอเจ็บป่วยเป็นอะไรไปจะได้ช่วยเหลือ เขาเคาะประตูพลางเรียก

"คุณๆ คุณครับ" เพราะยังไม่รู้จักชื่อของเธอแต่ไม่มีเสียงขานรับ จึงลองหมุนลูกบิดประตูห้อง ปรากฏว่ากุญแจลูกบิดถูกล็อคไว้

ลองเคาะประตูห้องอื่น ๆ ดูบ้าง ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน คือประตูล็อคและไม่มีเสียงตอบ จึงขึ้นบันไดไปชั้นบน ชั้นบนมีห้องอีก ๒ ห้อง หน้าห้องมีระเบียงรับลม ลองเคาะประตูและเรียกดังๆ อีก เผื่อจะมีเจ้าของอยู่ในห้องก็ไม่มีเสียงตอบและประตูถูกล็อค จึงกลับลงมาข้างล่าง

คราวนี้ชายหนุ่มหันเข้าครัวและหุงข้าว…

ธนาคุ้นเคยกับการเป็นอยู่ ที่ต้องช่วยตนเองมานาน อาหารมื้อนั้นจึงอาศัยเครื่องกระป๋อง เสร็จจากอาหารเช้า ธนาเปิดหน้าต่างทุกช่องในห้องโถงและห้องอาหาร แล้วลงมือปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาด กะว่าทำความสะอาดภายในเสร็จ แล้วจึงจะออกไปจัดการกับบริเวณภายนอก


บนผนังในห้องรับแขกมีภาพถ่ายบุคคลอยู่หลายภาพ มีทั้งภาพถ่ายที่เก่าจนกระดาษปิดกรอบเป็นสีน้ำตาล และภาพถ่ายใส่กรอบที่ยังดูใหม่ มีกรอบประกาศนียบัตร และกรอบปริญญาบัตรติดอยู่หลายใบ
บนหลังตู้เตี้ยมีภาพถ่ายใส่กรอบวิทยาศาสตร์ ที่เขาเห็นเมื่อคืน วันนี้เขามีโอกาสได้เห็นอย่างชัดเจนวางอยู่ ๓ ภาพ ภาพแรกเป็นภาพหญิงสาวในชุดครุยปริญญา อีกภาพเป็นภาพหญิงสาวกำลังเข้ารับพระราชทานปริญญา และอีกภาพเป็นหญิงสาวแต่งกายชุดไปรเวท

หันกลับไปมองที่ใบปริญญาซึ่งติดผนังห้อง ในใบปริญญาระบุชื่อ นางสาวยานี พิกุลแก้ว จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์....

ธนานึกถึงคำบอกเล่าของหญิงสาวเจ้าของบ้าน เธอบอกว่ากลางวันไม่ค่อยได้อยู่บ้านและตกค่ำถึงจะกลับมาบ้าน แสดงว่าเธอมีกิจอันใดอันหนึ่งต้องไปทำ แต่เธอทิ้งเขาซึ่งเป็นแขกไว้ให้อยู่ในบ้านโดยลำพังได้อย่างไร คิดๆ ไปดูเป็นเรื่องที่ไม่ชอบมาพากล…

แต่เขาจะรอจนกว่าเธอจะกลับมา เรื่องธุระของเขาเอาไว้ค่อยติดต่อเมื่อใดก็ได้ เขาสนใจความไม่ปกติของหญิงสาวคนนี้เสียแล้ว เธอมีอะไรแปลกๆ ที่ทำให้เขาต้องขบคิดและต้องการพิสูจน์ เขาจะอยู่บ้านหลังนี้ต่อไปเพื่อหาคำตอบให้ได้

บ้านสวยแต่ถูกทิ้งไว้ให้ฝุ่นและหยากไย่จับเกาะ ดูไม่เหมาะไม่ควร ชายหนุ่มเห็นเป็นงานแรกที่เขาจะต้องจัดการ


งานทำความสะอาดภายในบ้านเสร็จลงเมื่อบ่าย เขาหยุดนั่งพักเหนื่อยและรับลมที่ระเบียงหน้าบ้านอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง จึงลงมือจัดการกับหญ้าและเถาวัลย์ที่ขึ้นรกรอบบ้านอีกต่อ

ในห้องเก็บของมีมีดพร้า กรรไกรตัดหญ้า และมีดสองคมสำหรับถางหญ้า แต่รถตัดหญ้าจอดอยู่ในโรงรถ เขาลองสตาร์ทเครื่องอยู่สองสามครั้งเครื่องจึงติด

หญ้ารกที่อยู่ติดตัวบ้านถูกดึงถางและถอนออก เถาไม้เลื้อยที่ไต่พันขึ้นตามเสาและหน้าต่างถูกดึงลง แล้วลากไปกองสุมรวมกับใบไม้และหญ้าแห้งที่มุมสนาม แล้วจัดการเผาจนเกิดควันโขมง

เสร็จงานปรับปรุงบริเวณบ้านเอาเมื่อประมาณ ๕ โมงเย็น บ้านและบริเวณจึงดูดีน่าอยู่ขึ้นทันใด แต่เจ้าของบ้านก็ยังไม่กลับมา เขารู้สึกหงุดหงิดที่เจ้าของบ้านมาหายหน้าไป เธอเป็นคนแบบไหนกันแน่ ? ปล่อยแขกให้อยู่ในบ้านแล้วออกไปธุระ ถ้าอยู่ให้เห็นหน้าและคุยกันสักหน่อยตอนเช้า แล้วค่อยออกไปก็น่าจะได้ มันจำเป็นอะไรนักหนาที่จะต้องรีบจนทิ้งแขกแปลกหน้าไว้ให้อยู่บ้านตามลำพัง โดยไม่ได้บอกกล่าวอะไรกันเลย แล้วคืนนี้เธอจะกลับมาอีกหรือเปล่าหนอ?

เขาจะต้องพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ โดยไม่มีผู้เป็นเจ้าของบ้านอยู่ด้วยตลอดไปกระนั้นหรือ ?

เหลือเวลาอีก ๑ ชั่วโมงก่อนค่ำ นึกขึ้นได้ว่าควรจะออกไปที่ตลาดมาบอำมฤต เพื่อซื้อหาอาหารสดอาหารแห้ง และของใช้จำเป็น เช่นเทียนไข และน้ำมันก๊าดเติมตะเกียง ตะเกียงรั้วน้ำมันหมดไปตั้งแต่เมื่อคืน เพราะตื่นขึ้นมาเขาเห็นตะเกียงดับ

ธนาปิดประตูบ้านไว้เฉยๆ โดยไม่ได้ล็อกกุญแจ เพราะถ้าล็อกก็ไม่รู้ว่ากุญแจไขอยู่ตรงไหน และถ้าเธอจะกลับเข้ามาระหว่างที่เขายังไม่กลับมา เธอผู้เป็นเจ้าของบ้านจะกลับเข้าบ้านได้อย่างไร เธอมีกุญแจไขติดตัวไปด้วยหรือเปล่า เขายังไม่รู้…

ถอยรถออกจากโรงแล้วขับออกจากประตูรั้ว หยุดจอดรถลงมาปิดประตูรั้ว แล้วก็ขับรถออกไปต่อ ในใจคิดว่านี่ก็จะค่ำแล้วเจ้าของบ้านคงจะกลับมา คงไม่มีใครจ้องฉวยโอกาสเข้าไปรื้อค้นหาอะไรในบ้าน ในระหว่างที่เขาและเธอไม่อยู่

ตั้งแต่เช้ามาแดดดี ไม่มีมืดมัวฝนเหมือนเมื่อคืน ถนนเรียบพอประมาณและไม่มีน้ำขังเฉอะแฉะ ดังนั้นอีกยี่สิบนาทีต่อมา ธนา อารีรักษ์ ก็มาจอดรถอยู่ที่หน้าโรงแรมมาบอำมฤต พอลงจากรถก็เดินไปที่อาแป๊ะคนเดิมซึ่งยืนอยู่หลังเคาเตอร์ โดยไม่ทันได้สนใจว่าที่โต๊ะด้านซ้ายใกล้กับที่เดินเข้าไป มีชาย ๓ คนนั่งมองเขาอยู่ และ ๑ ในจำนวนนั้นลุกขึ้นเดินตรงมาที่เขา

"คุณธนา ใช่ไหม? คุณไปไหนมา… ผมมารอคุณอยู่ตั้งแต่เมื่อเย็นวาน"

พอดีกับอาแป๊ะก็เอ่ยต่อว่า ขึ้นว่า "คุงเทิงอีมาลอคุงตั้งแต่เช้า เมื่อคืงคุงปายหนายมา ทามมายม่ายมานองที่นี่"
ส่วนชายคนนั้นหรือ เทิน ท่าลาด เอ่ยว่า "เมื่อคืนคนของผมเที่ยวตามหาคุณทั้งคืน..." พลางชี้ไปที่ยอด ดอนไผ่ กับสง สินลา "คุณคงเข้าไปนอนที่ชุมพร"

ธนาส่ายหน้านิด ๆ แล้วยิ้มให้ ก่อนจะพูดว่า “ต้องขอโทษที่เมื่อวานผมมาไม่ตรงเวลานัด คือผมขับรถมาแล้วมีอุบัติเหตุ รถแก๊สพลิกคว่ำขวางทางอยู่ที่กุยบุรี ผมเลยมาถึงเอาเวลาทุ่มกว่า”

“แต่ผมสั่งแป๊ะเฮ้งไว้ว่า ถ้าคุณมาให้คุณไปหานายยอด นายยอดเคนของผมจะพาคุณไปหาผมอีกที” เทิน ท่าลาด ต่อว่ากลาย
ๆ “แล้ววันนี้ผมก็มารอคุณอยู่ตั้งแต่เช้า พวกนี้ก็มาคอยดูคุณอยู่ทั้งวัน แล้วคุณไปไหนมา” เทิน ท่าลาด ชี้ไปที่คนของตนสองสามคน

"ขอโทษๆ ที่ทำให้คุณเสียเวลา แต่ผมก็ได้ทำตามที่คุณสั่งอาแป๊ะไว้เมื่อคืน คือผมได้ไปหาคุณยอดที่บ้านตีนสะพานปลาตามที่คุณสั่ง ไปรอคุณยอดอยู่นานเป็นชั่วโมง คุณยอดไม่กลับบ้านผมจึงกะจะกลับมานอนที่โรงแรมอาแป๊ะ แต่พอดีผมพบเพื่อนคนหนึ่ง...” ถึงตรงนี้ธนาจำเป็นต้องโกหกเพื่อผลบางประการ และเป็นเหตุผลที่เขาแว่บคิดขึ้นมาได้แบบฉับพลัน “...เขาขับมอเตอร์ไซค์ผ่านมา ผมจอดรถเรียกถามหาบ้านคุณเทิน พอเห็นหน้ากันถนัดกลายเป็นว่าผมเจอเพื่อนเก่าเข้าโดยบังเอิญ เขาทำสวนอยู่ชายทะเลบ้านถ้ำธง เขาชวนผมไปค้างที่นั่น"

"เพื่อนของคุณ เอ๊ะ!ใครกัน?! เขาชื่ออะไรครับเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย คนที่นี่ผมรู้จักหมดทุกคนทุกบ้าน พอจะบอกชื่อให้ผมทราบได้ไหมครับ" เทิน ท่าลาด ถามพร้อมทำสีหน้าประหลาดใจ

"ได้ครับ เธอเป็นผู้หญิง ชื่อ... "

ธนาอยากจะโกหกโดยบอกชื่อส่งเดช แต่ถ้าส่งเดช นายเทิน ท่าลาด และพรรคพวกก็จะรู้ว่าเขาโกหก จึงพยายามนึกชื่อ ว่าจะบอกชื่ออย่างไรดี ก็พอดีนึกถึงชื่อที่ปรากฏอยู่ในใบปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ขึ้นมาได้ จึงตอบไปว่า

"เธอชื่อยานี พิกุลแก้ว เคยเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับผมที่กรุงเทพ ฯ แต่เธอจบรุ่นน้องผมสองปี"


ทันทีที่บอกชื่อยานี พิกุลแก้ว ทั้งเทิน ท่าลาด และลูกน้องก็พลันผงะและตกใจอย่างเห็นได้ชัด

"ยานี พิกุลแก้ว ! คุณเป็นเพื่อนกับนัง… เอ๊ย - คุณยานี ! เป็นไปได้อย่างไรกัน… คุณมั่วเอาหรือเปล่า!!"

ยอด ดอนไผ่ เผลอปล่อยคำไม่สุภาพ และเป็นถ้อยคำที่แสดงความตกใจสุดขีดออกมา

ธนา อารีรักษ์ สังเกตและรู้ได้ทันทีว่า เมื่อกล่าวคำนี้ออกไป คณะของนายเทินรวมทั้งอาแป๊ะพากันตกใจ จนหน้าซีด นายยอด ดอนไผ่ และนายสง สินลา ถึงกับหน้าซีดเหงื่อแตก !!??

"ผมไม่ได้มั่ว… มีอะไรผิดปกติอย่างงั้นหรือ ?" ธนา อารีรักษ์ พยายามระงับความไม่พอใจไว้ และเกิดความสงสัยขึ้นมาบ้าง

"ปละ- ปละ -เปล่า- คุณ-ไม่-ได้ทำอะไรผิด....เราขอโทษ" เทิน ท่าลาด พยายามแก้แทนลูกน้อง และสามารถระงับความตกใจไว้ได้ก่อนใคร รีบตบหลังของยอด ดอนไผ่ เป็นเชิงเตือนให้รู้สึกตัว ก่อนยอดจะหลุดข้อความใดออกมาอีก...

"ก็....นังยานี เอ๊ย- คุณยานี เธอไม่..." นายยอดพยายามจะกล่าวแก้ แต่เทิน ท่าลาด ชิงกล่าวขึ้นเสียก่อนว่า

"คุณยานีเธอไปอยู่ที่อื่นนานแล้ว คุณไปพบเธอได้อย่างไร?"

"ข้อนั้นผมไม่ทราบ แต่เราพบกันเมื่อคืนนี้ เธออาจจะกลับมาบ้านโดยที่พวกคุณไม่ทราบก็ได้นี่" ธนาตอบพร้อมกับพยายามสังเกตความผิดปกติของทุกคน

"ใช่ ๆ เอ้อ ๆ จริงครับ ว่าแต่... แล้วเรื่องที่เรานัดหมายมาดูที่กันล่ะ คุณจะว่าอย่างไร?"

เทิน ท่าลาด รีบเปลี่ยนเรื่องและพยายามระงับความรู้สึกบางสิ่งบางอย่างขณะที่พูด ส่วนอาแป๊ะ ธนาสังเกตเห็นแกหลบไปยืนตัวสั่น มือสั่น อยู่อีกมุมหนึ่งของเคาเตอร์ และคอยเงี่ยหูฟังคำสนทนา

"ก็ไม่ได้ว่าอะไร พรุ่งนี้คุณพาผมไปดูที่ ๆ จะขายให้ผมได้เลย ผมจะมาหาคุณที่นี่" ธนาตอบด้วยซุ่มเสียงราบเรียบ ทั้งๆ ที่เริ่มไม่ไว้ใจคณะของนายเทิน ท่าลาด ซึ่งแสดงว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล ไม่บริสุทธิ์ซ่อนอยู่

"ครับ ตก..ตกลง พรุ่งนี้เรามาพบกันที่นี่อีกทีเวลา... เวลาเท่าไหร่ดี" เทิน ท่าลาด พูดไม่ค่อยเต็มคำกับธนา อารีรักษ์

"เอาสักเก้าโมงก็แล้วกัน" ธนาตอบ แล้วหันไปกล่าวกับอาแป๊ะ
"อาแป๊ะผมยังขอเช่าห้องต่อจากที่เช่าไว้เมื่อคืนนะ"
"คักๆ โตกโลง หมายคามว่า คืนนี้คูงจ่ามานองที่นี่" อาแป๊ะทำท่าดีใจ

“เปล่า ผมคงไม่ได้มานอน แต่ผมจะเช่าไว้สำหรับเพื่อนผมคนหรือสองคน เขาจะตามผมมาไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้ ถ้าเขามาถามหาผมอาแป๊ะเปิดห้องที่ผมเช่าไว้ให้เขานอนก็แล้วกัน”

อาแป๊ะพยักหน้ารับทราบแต่ไม่วายถามว่า "แล้วคืงนี้คูงจาปายนองที่หนาย"

"ก็ ที่เดิม บ้านคุณยานีไง" ธนาตอบแล้วก็เดินออกไปจากโรงแรม ก้าวไปยังฝั่งตรงข้าม ตรงไปที่ร้านชำบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ แต่ก็ยังพอได้ยินคำอุทานที่กะจะให้เบาที่สุดของอาแป๊ะเข้าจนได้

"ชิกหายเลี้ยว อีไปลู้จักกับคงที่ตายไปเลี้ยวได้ยางงาย"





Create Date : 11 สิงหาคม 2554
Last Update : 11 สิงหาคม 2554 20:27:25 น. 7 comments
Counter : 2422 Pageviews.

 
มาลงชื่อไว้ก่อน พรุ่งนี้ว่างมาอ่านแน่นอนครับลุง ตอนนี้ขอดูละครเรื่องคนเถื่อนช่อง 5 ก่อน บู๊..กุ๊กกิ๊ก ท่าจะมันส์ดีครับ

ธรรมดาก็ไม่ค่อยดูละครหรอกครับ ลองดูตอนแรก เข้าท่าดี เลยติดใจ ฮิ ฮิ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 11 สิงหาคม 2554 เวลา:22:33:13 น.  

 
วันนี้ผมมีเวลาว่างแต่เช้าครับคุณลุงบูลย์

จึงค่อยๆอ่านจนจบ เห็นสภาพบ้านของยานีได้ชัดเจนราวกับคำบอกเล่าของสถาปนิกเลยครับ

อีกทั้งภาพของนักเลงแถวชุมพร ที่มีท่าที่ลับลมคมใน ทำให้อยากรู้อยากติดตามตอนต่อไปครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:8:35:59 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คิดถึงแม่อย่างมีความสุข สุขสันต์วันแม่ครับคุณลุงบูลย์


โดย: panwat วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:10:44:46 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: หญิงแก่น วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:18:18:15 น.  

 
เข้ามาอ่านต่อจนจบสนุกเชียวค่ะคุณลุง ตอนใหม่มาเร็วๆนะคะ


โดย: หญิงแก่น วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:20:27:16 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านครับ แม่ผมถ้าอยู่ตอนนี้อายุท่านน่าจะ ๙๐ กว่า

แต่ผมก็ได้ทำประโยชน์ในวันแม่โดยได้รับเชิญให้อ่านกลอินเทิดพระเกียรติวันแม่ ทางสถานีวิทยุกองทัพภาค ๔ เวลา ๕โมงเย็นวันนี้ไปแล้วครับ


โดย: pantamuang วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:20:28:04 น.  

 
บ้านเราอยู่มาบอำมฤตแหละ คุณลุงคนเขียนเป็นคนมาบอำมฤตเหรอค่ะ


โดย: once~up~on~a~time IP: 110.33.130.36 วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:21:34:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pantamuang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.