|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
เธอมาเพื่อช่วยพ่อ ๔
๔

พ่อจะตียายเยาว์ไม่ได้ ยายเยาว์ไม่ผิด ประทีปลูกชายคนโตของนายเทียบกล่าวขึ้น ขณะเดินขึ้นมาบนเรือน เข้าไปยืนกึ่งกลางระหว่างนายเทียบกับนงเยาว์
แก
แกรู้ได้ยังไงที่ว่านงเยาว์มันไม่ผิด มยุรีหันขวับมาทางพี่ชายอายุห่างกันไม่ถึง 2 ปี
แกไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วยแกอย่ามา
ดีกว่า มยุรีว่าพี่ชายอย่างไม่เกรงใจ เพราะถือว่าอยู่ต่อหน้าพ่อ
ฉันได้ยินเรื่องราวของแกกับยายเยาว์ตลอด เพียงแต่ฉันขี้เกียจโผล่เข้ามาขัดจังหวะ ยายเยาว์มันพูดของมันถูกทุกอย่าง แต่แกพยายามที่จะหาเรื่องมัน หาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มาด่าว่ามัน กะอีแค่นงเยาว์มันซื้อไข่ไก่มาทอดกิน ก็หาว่ามันดัดจริต แกบังคับให้มันกินแต่น้ำพริก แกงเลียง แกงไตปลา ใครมันจะกินเข้าไปได้ทุกมื้อ ประทีปเถียงเข้าข้างน้องสาว

ชะ...ชะ...นี่แกก็คงจะเห็นดีเห็นงามไปกับการดัดจริตของนังเยาว์ด้วยนะซี แหม...จะเป็นผู้ดีกันทั้งคู่ อยากเป็นผู้ดีต้องไปเป็นที่อื่น ไม่ใช่ในบ้านนี้ บ้านนี้เป็นบ้านชาวไร่ชาวนา ไม่ใช่บ้านพักข้าราชการ บ้านนายอำเภอ บ้านผู้ว่า มยุรีได้โอกาสเล่นงานพี่ชายอีกต่อ เพราะคิดว่าพ่อจะต้องเข้าข้างตน
เห็นไหม แกพาลดะไปหมดแม้แต่ฉัน นิสัยอยากเอาชนะของแกนี่แก้ไม่หายเลยนะมยุรี แค่คนเราจะกินไข่ กินเนื้อ กินอาหารที่มันมีคุณค่า มีประโยชน์ต่อร่างกาย ให้ร่างกายมันแข็งแรง มีสุขภาพอนามัยดี เรียนหนังสือมันสมองจะได้ฉลาดทันคน มันต้องสิ้นเปลืองมากนักหรือ
"เรื่องแค่กินไข่ฟองเดียว ทำไมจะต้องเป็นพวกข้าราชการ เป็นลูกหลานผู้ว่า ฉันเองคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับนงเยาว์ อยากจะเปลี่ยนระบบในบ้านของเราเสียที ฉันทำงานหนัก ฉันป่วยปีนมะพร้าวขึ้นไปปาดตาล กินอาหารเลว ๆ ถ้าร่างกายขี้โรคอ่อนแอตกลงมาตายใครจะรับผิดชอบ... เด็กหนุ่มหาโอกาสมานานที่จะพูดคำนี้ มองหน้าหลาย ๆ คน ทั้งพ่อและแม่ เมื่อไม่มีใครเถียง จึงสาธยายต่อ
คนบ้านเราหลายคนยอมทนกินอยู่อด ๆ อยาก ๆ จะเก็บแต่เงินจะได้เอาตัวเลขในธนาคารไปอวดไปข่มกัน แต่พอเจ็บป่วยเป็นโรคขาดอาหารต้องเข้าโรงพยาบาล ต้องเสียเวลา เสียค่าหยูกยา ค่าหมอรักษาไปเท่าไหร่ ใครเคยคิดบ้าง
แล้วที่นงเยาว์มันเป็นมาลาเรียขึ้นสมองจนเกือบตายคราวนี้ ก็ไม่เพราะในบ้านมัวแต่กลัวจะเสียเงิน มีไข้มาก็ให้กินแต่ยาแก้ปวดแก้ไข้ ไม่ยอมพาไปหาหมอแต่เนิ่น ๆ ใช่ไหม ดีที่เยาว์มันรอดมาได้เป็นปกติ คนเป็นไข้มาลาเรียขึ้นสมอง มีใครที่ไหนรอดบ้าง
ปกติประทีปเป็นคนไม่ค่อยพูด เขามีแต่ความขมขื่นใจในพ่อและแม่อยู่หลายอย่าง เมื่อมีโอกาสจะระบายจึงตั้งใจว่าเป็นอย่างไรเป็นกัน ความจริงผมอยากเรียนให้จบ ป.6 แล้วไปต่อชั้นมัธยม อยากเรียนต่อไปให้สูง ๆ แต่ผมกลับได้เรียนหนังสือแบบกะพล่องกะแพล่ง ใครล่ะที่ทำให้ฉันได้เรียนน้อย ใครล่ะที่ให้ฉันออกจากโรงเรียน
"ตอนเรียนยังไม่จบ ป.5 ให้ออกมาปาดตาลหาเงินเลี้ยงน้อง ๆ ถึงฉันจะได้เรียนหนังสือน้อย แต่ฉันก็ไม่ถึงกับโง่ ฉันพอจะรู้ว่าอะไรมันเป็นอะไร ฉันไม่อยากหยุดชีวิตอยู่แค่การเป็นชาวบ้านเต็มขั้น ที่ชาชินอยู่กับระบบความคิดเก่า ๆ เรียนน้อย ๆ ทุ่มแรงงานเข้าแลกอย่างวัวอย่างควาย เราเป็นคนเราต้องมีหัวคิดบ้าง ไม่ใช่ใช้แต่แรงงาน
"ฉันต้องการยกระดับของฉันเหมือนกัน ถ้าฉันมีโอกาส การไม่พัฒนา ไม่พยายามยกระดับชีวิตของตน เราจึงต้องกลายเป็นกรรมกร เป็นผู้ใช้แรงงาน เป็นเบี้ยล่างของสังคม แล้วใครล่ะที่ทำให้เป็น
"การไม่ยอมสนใจรับการศึกษาใช่ไหม เสร็จแล้วเราก็ไปโทษสังคมชั้นเหนือกว่า ว่าเขาหยามเหยียดกดขี่ ก็เรามันไม่ยอมพัฒนา ไม่ยอมยกระดับตัวเองต่างหากเล่า...
ประทีปมองหน้ามยุรี ที่นั่งทำตาขึงเหมือนไม่ยอมรับ
เชอะ ! จบมัธยม จบปริญญา เรียนมหาลัย...เดี๋ยวนี้เห็นออกมาไถนา ออกมาเป็นเด็กท้ายรถมีถมไป อย่าใฝ่สูงให้มันเกินศักดิ์เลยว้า มยุรีขัดขึ้น
ถ้าแกมีการศึกษา จบชั้นมัธยม หรือจบปริญญา แกจะไม่พูดอย่างนี้ แต่มันน่าอายตรงที่แกไม่จบอะไรสักอย่างแล้วมาพูด ประทีปย้อนให้
แล้วพี่จบปริญญากับเขาหรือ ? มยุรีทำเสียงและใบหน้าเยาะหยัน ฉันจะเรียนอีกเมื่อมีโอกาส แกคอยดู ตอนนี้ใคร ๆ เขาไปเรียนศึกษาผู้ใหญ่ที่โรงเรียนกวดวิชาวันจันทร์กันเยอะ แกไม่เห็นหรือเด็กท้ายรถสองแถวก็ยังไปเรียนกวดวิชา
ประทีป โต้ตอบด้วยกิริยาอาการสงบ มิได้มีโกรธตอบ ครั้นเห็นมยุรีเงียบก็ว่าต่อไป การเรียนจบปริญญา เรียนจบมหาวิทยาลัย ไม่จำเป็นจะต้องมารับราชการเป็นเจ้าเป็นนายคน เพราะเดี๋ยวนี้มันหมดยุคสมัยเจ้านายไปนานแล้ว ทุกคนมีความสามารถ มีความคิด เราวัดค่าของคนกันที่ความรู้ความสามารถ
"คนจบปริญญาจะทำงานอะไรก็ได้ แม้แต่กุลีแบกของ แต่การศึกษามันจะทำให้คนองอาจ ไม่ใช่มัวย่อท้อต่ออุปสรรค เราสามารถเลือกวิถีชีวิต เลือกงานของเราได้โดยที่ไม่ต้องมีใครมาคอยบงการ
"ตรงกันข้ามกับคนที่จบปริญญาโท ปริญญาเอก แต่ไม่มีความคิด คอยแต่จะเข้าไปเป็นขุนพลอยพยัก รับใช้คนชั่วคนคดโกง ต้องตกอยู่ในระบบที่กดขี่ลงมาเป็นชั้น ๆ คิดอะไรเองจะตัดสินใจทำอะไรเองก็ไม่ได้ ต้องคอยทำตามเจ้านายเงิน กลายเป็นทาสรับใช้นายเงิน นั่นต่างหากที่น่าเสียดายศักดิ์ศรี...
ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่มัวแต่คิดว่า การปลูกบ้านราคาแพง ๆ การมีเงินทองเก็บมาก ๆ คือคุณค่าของคน แต่บางคนก็ไม่ยอมพัฒนาตนเอง มีชีวิต มีลมหายใจไปวัน ๆ
"บางคนไม่สามารถจะบรรลุจุดหมายแห่งชีวิตได้ จึงหันไปหาความสุข หลอกตัวเองโดยการผูกพันกับอบายมุข กินเหล้าเมายา ทำตัวสกปรก อยู่บ้านช่องสกปรก ไม่ยอมเปิดหูเปิดตา ไม่ศึกษาหาความรู้ ไม่อ่านหนังสือ
"อาหารดี ๆ มีประโยชน์ไม่กิน ไปกินแต่อาหารขยะ สุดท้ายร่างกายก็เจ็บป่วยทรุดโทรม ต้องเสียค่าหยูกยารักษาไปมากมาย เงินทองที่เก็บไว้ สุดท้ายก็ต้องนำออกมาจับจ่ายรักษาตัว ทั้ง ๆ ที่ถ้าเขารู้จักจัดระบบความเป็นอยู่ตนเองสักหน่อย เขาก็จะไม่เจ็บป่วย ไม่ต้องเสียเงิน สุขภาพอนามัยก็จะดี สติปัญญาหรือสมองก็จะดีตาม
แกนี่เองที่คอยหนุนให้นังเยาว์มันเสียคน มยุรีว่า ส่วนนายเทียบนิ่งเงียบเหมือนได้ข้อคิดจากลูกชาย
ใครกันแน่ที่เสียคน แก ฉัน นังยุภา และไอ้ทัดอีกคนต่างหากที่กำลังจะเสียคน เสียคนเพราะความโง่งมและดักดาน ขาดการศึกษาการพัฒนา ไม่ใช่นงเยาว์ ประทีปว่าขึ้นอย่างไม่เกรงใจใครอีกต่อไป เสียคนเพราะอะไรแกรู้ไหม เสียคนเพราะเรียน ป.5 ป.6 ก็ไม่จบ นอกจากเรียนไม่จบแล้ว แกเคยอ่านหนังสือจบสักเล่มหนึ่งไหม... ประทีปชี้หน้ามยุรีที่นั่งเอามือกุมหน้าผาก
เรื่องอะไรฉันจะต้องอ่านหนังสือ อ่านแล้วมีประโยชน์อะไร ฉันเห็นหนังสือที่แกยืมมาอ่านมีแต่นวนิยายอ่านเล่น มยุรีทำเสียงเยาะ เรื่องอ่านเล่นก็มีประโยชน์ ถ้ารู้จักอ่าน ฉันอ่านหนังสือคล่องก็เพราะอ่านหนังสืออ่านเล่น ถ้าแกอ่านหนังสืออ่านเล่นไม่ออก แกก็อ่านหนังสือตำรับตำราไม่ออกเหมือนกัน
"ที่แกนั่งฟังนิยายวิทยุติดตามทุกตอน จนไม่ต้องทำอะไรกันในแต่ละวันนั่นก็มีอยู่ในหนังสือ ถ้าแกอ่านหนังสือออก นิยายที่แกคอยติดตามนั่นจะสนุกกว่าที่ฟังหลายเท่า ซ้ำแกยังสามารถที่จะเลือกอ่านเวลาที่ว่าง หรือต้องการพักผ่อนได้ด้วย
"ฉันซื้อพวกนิตยสารมาอ่าน จึงทำให้รู้ข่าวสาร ความก้าวหน้าของบ้านเมือง ฉันจึงไม่โง่งมโข่งอย่างแก
ข่าวสารบ้านเมือง ฉันฟังจากวิทยุก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องอ่าน มยุรีพยายามหาข้อโต้แย้ง
ฉันไม่ปฏิเสธว่าในวิทยุก็มีข่าว แต่ฉันอยากจะถามว่า ระหว่างข่าวในวิทยุกับข่าวในหนังสือ อย่างไหนเราจะได้รายละเอียดมากกว่ากัน อ่านข่าวในหนังสือ เราจะจด คัดลอก หรือทบทวนกี่ครั้งก็ได้ แต่ข่าวในวิทยุแกทำได้ไหม ?
มยุรีเงียบไป คล้ายยอมรับว่าหมดข้อโต้แย้ง ประทีปจึงกล่าวต่อไป

(ภาพประกอบโดยคุณภาณุมาศ ศรีหะรัญ บ้านปลายฟ้า พังงา)
ที่พวกเราต้องยากจน ถูกพวกพ่อค้าเอารัดเอาเปรียบอยู่ทุกวัน ส่วนใหญ่ก็มาจากการที่เราไม่พัฒนาตนเอง ไม่ศึกษาหาความรู้ ไม่อ่านหนังสือ
"เวลาเขาประชุมกัน เรื่องบางเรื่องเราได้แต่ฟัง ไม่กล้าโต้เถียง ไม่กล้าโต้แย้ง ไปติดต่อกับข้าราชการก็พูดไม่ถูก ทำเงอะ ๆ งะ ๆ ให้เขาดูถูกดูหมิ่นเรา
"ถ้าเรามีความรู้ สิ่งใดที่ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกระเบียบ เราสามารถโต้แย้งกับเขาได้ บางคนขึ้นไปบนที่ว่าการอำเภอเขาให้เขียนคำร้อง เขาให้กรอกแบบฟอร์ม ก็กรอกไม่ถูก เรามัวเป็นกันอย่างนี้ทั้งบ้านเมือง เขาจึงดูถูก ถ้อยคำของลูกชายคนหัวปี ทำให้นายเทียบได้คิดใคร่ครวญ ยกเลิกลงโทษนงเยาว์ และบอกให้เลิกแล้วต่อกันนับแต่บัดนั้น
นายเทียบหันกลับมานั่งทบทวนชีวิตครอบครัว ครุ่นคิดใคร่ครวญอยู่หลายวัน วันหนึ่ง ขณะที่นายเทียบช่วยลูกชาย ลวกกระบอกรองน้ำตาลสดกันบูดอยู่ในโรงเตา นายเทียบก็ถามลูกชายขึ้นว่า
แกเอาข้อคิดที่พูดเมื่อวันที่ทะเลาะกับมยุรีมาจากใคร?
นงเยาว์ยืมหนังสือมาจากห้องสมุดมาให้ผมอ่าน พ่อถามทำไม?
นงเยาว์น้องของแกเป็นใครก็ไม่รู้ มันไม่ใช่นงเยาว์คนเก่าที่เป็นลูกฉัน นายเทียบกล่าวกับลูกชาย
พ่อหมายความว่าอย่างไร ผมไม่เข้าใจ
นงเยาว์มันไม่เคยมีนิสัยอย่างนี้ มันเรียนหนังสือไม่เก่ง ตอนนี้ครูที่โรงเรียนเขาบอกว่ามันเรียนเก่งกว่าใคร ๆ ทุกคน มันสอบประจำภาคได้ที่หนึ่ง เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ การพูดจาก็เห็นไหม มันใช้ภาษากลาง มันพูดอย่างเราไม่ได้
แล้วนงเยาว์คนเก่ามันไปไหน ? ประทีปถามอย่างงง ๆ ตอนอยู่โรงพยาบาล นงเยาว์มันตายไปแล้ว แต่แล้วก็ฟื้นขึ้นมา พอฟื้นขึ้นมาก็ไม่เหมือนเดิม
นายเทียบตัดสินใจเล่าความที่ยังไม่เคยเล่าให้ลูก ๆ หรือใครฟังนอกจากครูที่โรงเรียน
พ่อหมายความว่านงเยาว์ที่แท้จริงมันตายไปแล้ว ที่ฟื้นขึ้นมาใหม่เป็นวิญญาณดวงอื่น
พ่อแค่สันนิษฐาน เพราะนงเยาว์คนนี้มันเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว ความเป็นผู้ดีของมัน ทำให้พ่อคิดว่ามันอยู่กับเราไม่ได้
ทำไม่จึงอยู่ไม่ได้ ? เรามันคนจนนะธีป แกจะคอยให้ท้ายมันไม่ได้ เห็น ไหม...ตอนนี้มันกินข้าวปลา อาหารพื้น ๆ อย่างเราไม่ได้ เราจะหาเงินที่ไหนมาซื้ออาหารดี ๆ ให้มันกินได้ทุกมื้อ รายได้ของเราแต่ละวันก็แทบไม่มี อาทิตย์หนึ่งขายน้ำตาล 2 ปิ๊บ ได้ 100 บาท ซื้อข้าวสารได้ 2 ถัง ก็หมดแล้ว ไหนยังจะต้องขยักไว้เป็นค่ากับข้าว และให้มันกับน้องไว้ไปกินขนมที่โรงเรียนอีก นายเทียบปรารภ
แล้วพ่อถึงกับคิดว่านงเยาว์ไม่ใช่ลูกพ่อเชียวหรือ ในเมื่อก็เห็น ๆ อยู่ว่ารูปร่างมันก็นงเยาว์ที่เป็นลูกสาวของพ่อ น้องสาวของผม แม้ว่าหน้าตาของมันจะดูสดใสสวยขึ้น และแม้ทุกอย่าง เช่นนิสัยใจคอจะเปลี่ยนไป
"แต่มันก็เปลี่ยนไปในทางที่ดี สะอาดสะอ้าน พูดจาฉลาด เรียนหนังสือก็เก่ง ผมได้ฉลาดขึ้นก็เพราะมัน นี่มันยังแนะนำให้ผมหาโอกาสไปเรียนใหม่ในโรงเรียนกวดวิชา มันว่าอย่างน้อย ๆ คนเราควรจะจบปริญญา คนในสังคมยุคใหม่จะถูกสังคมกดขี่และดูหมิ่น ถ้าไม่มีความรู้ นี่ถึงขนาดจะให้แกไปเข้าโรงเรียนเป็นนักเรียนอีกเชียวหรือ แล้วใครจะเป็นคนปาดตาล จะเอาเงินจากไหนไปเรียน แกถูกมันล้างสมองไปถึงขนาดนี้แล้วหรือ นายเทียบยังไม่ค่อยเห็นด้วย หมายถึงถ้ามีโอกาสนะพ่อ โรงเรียนที่ว่านี่เขาสอนกันเฉพาะตอนค่ำ ๆ กับวันเสาร์ วันอาทิตย์ เป็นโรงเรียนกวดวิชา สอนให้ไปสอบเทียบความรู้ ไม่ได้ไปเรียนทุกวันอย่างนักเรียน ประทีปชี้แจง
00000 ทำไมมันถึงเก่งเกินคนขนาดนี้ ก่อนนี้มันขี้เกียจยังกะอะไรดี หนังสือสักตัวก็อ่านไม่ออก มันเป็นไข้มาลาเรีย สมองน่าจะถูกทำลาย แต่ทำไมกลับฉลาด พ่อเห็นวัน ๆ มันหมกมุ่นอยู่แต่กับหนังสือมันขนหนังสือต่าง ๆ มาจากไหนมากมาย มันยืมจากห้องสมุดที่โรงเรียนมาพ่อ เห็นว่าครูที่โรงเรียนตอนนี้ทุกคนชอบมัน มันเป็นนักเรียนเพียงคนเดียวในชั้น ที่ครูสอนอธิบายอะไรครั้งเดียวก็รู้และเข้าใจได้หมด
"แต่แปลกอยู่อย่างหนึ่งพ่อ...เยาว์มันว่าบางครั้งพอมันนั่งนิ่ง ๆ ทำตัวแข็ง ๆ อ้อ ! มันเรียกว่านั่งสมาธิ มันกลับเห็นอะไรแปลก ๆ มันเห็นตัวมันเองด้วย มันว่าชาติหนึ่งมันเคย มันเคยเป็น...เป็นเอ้อ ประทีปหยุดไตร่ตรองว่าจะเล่าดีหรือไม่ดี มันเคยเป็นอะไร ? นายเทียบซักทันที
มันเล่าว่ามันมองเห็นอดีตของมัน มันเคยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ มีสนามหญ้ากว้างขวาง มีไม้ดอกไม้ประดับ มีรถยนต์นั่ง มีคนรับใช้แต่มันก็บอกไม่ได้ว่าเคยอยู่ที่ไหน ตำบลหนแห่งอะไร มันว่ามันเบลอ ๆ บ้านกว้างใหญ่ มีคนรับใช้ มีสนามหญ้า มีไม้ดอกไม้ประดับมิน่า...มันจึงคิดจะให้พ่อหาหญ้ามาปลูก หาไม้ดอกไม้ประดับมาปลูกให้จัดบ้านใหม่ มันบอกไหมว่าพ่อแม่เดิมของมันเป็นใคร ทำอะไร ? นายเทียบถาม ถามแล้ว มันว่ายังเบลอ ๆ มองไม่เห็น มันเห็นเป็นบางครั้ง แต่มันเล่าตอนหนึ่งว่า มันเคยเรียนถึงชั้น ม.5 หรือ ม.6 มันไปล่องแพกับเพื่อน ๆ แล้วเกิดอุบัติเหตุแพชนหิน มันตกน้ำ หลังจากนั้น มันก็จำอะไรไม่ได้
"แต่บางครั้งอีกเหมือนกัน มันว่ามันเห็นตัวมันเป็นนางกำนัลของเทพธิดาองค์หนึ่งบนสวรรค์ มีปราสาทสวยงาม มีสนามหญ้ากว้างใหญ่ มีดอกไม้ มีน้ำตก มีผลไม้รสอร่อยที่กินแล้วอิ่มไปหลายวัน
เทพธิดาส่งให้มันลงมาช่วยผู้ชายคนหนึ่ง พอหมดภาระหน้าที่มันก็จะกลับขึ้นไปอยู่บนสวรรค์กับนางฟ้าและเทพธิดาองค์นั้นต่อไป มันว่ามันเห็นภาพต่าง ๆ เป็นคราว ๆ เป็นภาพไม่ปะติดปะต่อกัน มันไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง ถ้าไม่ใช่ผม
"แต่จะอย่างไรผมว่ารูปร่างของมันก็ยังเป็นลูกสาวของพ่อ เป็นน้องสาวของผม พ่ออย่าไปขัดความต้องการของมันเลย ถ้ามันคิดจะทำในสิ่งที่ดี ๆ ที่ไม่หนักหนาเกินไป ผมว่าถ้าเราสามารถส่งให้มันเล่าเรียนชั้นสูง ๆ ได้ มันจะช่วยยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของเราขึ้นมา ไม่ให้ใครมาดูหมิ่นได้
เราจะเอาเงินเอาทองที่ไหนมาส่งเสียมัน รายได้เราเดือนหนึ่งขายน้ำตาลพร้าวได้เพียง 3-4 ปีบ เสียค่าเทอม เทอมเดียวก็แทบไม่พอแล้ว นายเทียบพูดไปตามเหตุผลที่เป็นจริง

ตลอดย่านบ้านศาลาบางปู (ตำบลปากพูน อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช) ผู้คนมีอาชีพหลักคือทำน้ำตาลมะพร้าวขายเป็นปี๊บ ๆ มีพ่อค้ามารับซื้อทุกนัดวันอาทิตย์ ที่ตลาดท่าแพ รองลงมาคือทำนาบ้างเล็กน้อย บ้านของนายเทียบจึงทำทั้งน้ำตาลมะพร้าวและทำนา โดยนายประทีปกับนายเทียบเป็นคนขึ้นปาดตาล แล้วลูก ๆ ที่พอใช้งานได้ช่วยกันเคี่ยวน้ำตาลสดให้เป็นน้ำตาลแข็ง ๆ ส่วนนางลำยองกับมยุรีช่วยกันทำนา
มันบอกผมว่ามันจะหารายได้ด้วยตัวเอง โดยให้ผมช่วยบ้าง มันให้ผมหาลูกไก่มาเลี้ยงไว้กินไข่ ถ้ามีมากเกินกินก็ขาย มันจะปลูกผัก ปลูกถั่ว ปลูกพืชสวนครัวทุกชนิดที่ขายได้
มันจะได้มาเดือนละสักกี่ตังค์ คนบ้านเราก็ปลูกผักกินกันอยู่ทุกบ้าน ไก่ถ้าเลี้ยงมาก ก็ต้องหาอาหารมาให้มันกิน เลี้ยงแบบปล่อยก็ไม่ได้ มันไปรบกวนชาวบ้านอื่นเขา นายเทียบให้ความเห็น

(ภาพประกอบโดยคุณภาณุมาศ ศรีหะรัญ บ้านปลายฟ้า พังงา)
มันว่ามันจะพยายามปลูกพืชที่ไม่มีใครปลูก หรือปลูกพืชที่คนปลูกน้อย แต่ตลาดต้องการมาก เห็นว่าวันอาทิตย์นี้มันจะขอไปตลาดท่าแพกับผมด้วย มันจะไปดูตลาด
งั้นพ่อมอบหน้าที่ดูแลช่วยเหลือมันให้แกก็แล้วกัน สำหรับมยุรีกับแม่มันนั่น เห็นทีจะไปกันไม่ได้ เขาหาว่ามันบ้าวิกลจริต สติฟั่นเฟือน บางทีก็หาว่ามันถูกผีเข้า จะไปหาหมอมาไล่ผีอะไรมิอะไรไปโน่น
นายเทียบลวกกระบอกน้ำตาลเสร็จ แล้วก็มอบภาระการเคี่ยวน้ำตาลในกระทะให้ลูกชายดูแลต่อ ส่วนตนเองแยกไปทำอย่างอื่น
000000 สุคนธ์ เธอดูนังดัดจริตเป็นผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเดินนั่นซี น่าตบชะมัดเลย เดี๋ยวนี้มันถือว่ามันเก่ง สอบได้ที่ 1 ทุกวิชา มันไม่สนใจทักทายพวกเราเลย มันทำราวกับในโรงเรียนนี้มีแต่พวกมัน 3-4 คน ไม่มีเราอย่างนั้นแหละ กานดาเอ่ยขึ้น
ไหนเขาว่ามันถูกผีเข้า ทำไมนังป้อม นังแหวว นังเอียด จึงยังไปเป็นพวกเดินตามหลังมันได้ คอยดูเถอะ เผลอ ๆ นังเยาว์ฉีกอกกินตับ ไต ไส้ พุง หมดหรอก มะลิวัลย์เสริมขึ้นมาอีกคน เห็นเขาพูดกันว่า นังนงเยาว์นี่นะ ความจริงมันไม่ใช่นังนงเยาว์หรอก นังนงเยาว์มันตายไปแล้ว แต่มีคนอื่นมาเข้าร่าง มันถึงได้พูดแต่ภาษากลาง ไม่พูดภาษาใต้ รสสุคนธ์กล่าวขึ้นบ้าง
งั้นตอนนี้มันก็เป็นผีนะซี ทำไมไม่มีใครหาหมอผีมาไล่ไป เราเรียนหนังสือร่วมกับผี ฟังดูแล้วน่ากลัวพิลึก ฉันว่ามันคงอาศัยร่างนังนงเยาว์เพื่อกัดกินไส้พุงมากกว่า พอกินหมดมันก็ไป กานดาว่า เคยมีนะดา ฉันเคยอ่านพบในหนังสือ มีอยู่เรื่องหนึ่งเขาเขียนว่า หญิงสาวคนหนึ่งอยู่กับยายในกรุงเทพฯ ยายแก่มากแล้ว อยู่ ๆ มายายก็เกิดป่วยนอนซม หลานที่เป็นหญิงสาวก็คอยพยาบาลดูแลแต่หลานต้องออกจากบ้านไปทำงานทุกวัน ก่อนไปหลานก็นำข้าว น้ำและยามาวางให้ยาย เย็นกลับมาก็มาถามอาการยายทุกวัน
แรก ๆ ยายก็กินข้าว กินน้ำ กินยาที่วางไว้ให้ แต่ต่อมาข้าวก็ไม่กิน น้ำก็ไม่กิน กินแต่พวกปลา พวกเนื้อ หมู ไก่สด ๆ ที่แช่ตู้เย็นไว้ขโมยกินหมด หลานสงสัยว่าใครขโมย วันหนึ่งจึงทำทีเป็นออกจากบ้าน แล้วกลับมาแอบดูทางฝาแตก ก็เห็นยายลุกขึ้นเดินได้อย่างกระปรี้กระเปร่า
ยายเดินไปเปิดตู้เย็นคว้าไก่ดิบ ๆ ทั้งตัว หมูดิบ ๆ ทั้งชิ้น ปลาสดเป็นตัว ๆ กินจนเกลี้ยงตู้ หลานสาวจึงสงสัยว่ายายไม่ใช่คนตามปกติ... มะลิวัลย์หยุดเล่า
แล้วไง ?... ทั้งกานดา รสสุคนธ์ และนงลักษณ์ถามขึ้นพร้อมกัน
หญิงสาวดัดนิสัยยาย ด้วยการไม่ซื้ออาหารสดมาแช่ตู้เย็นไว้อีก แต่ไปซื้ออาหารที่เขาทำเสร็จแล้วมาวางไว้ข้างที่นอนให้ยายกิน ปรากฏว่ายายไม่แตะต้องอาหารที่ซื้อมา แต่พอตกค่ำยายก็มีกิริยาอาการลุกลี้ลุกลน ลุกขึ้นเดินไปเดินมาจนเรือนไหว
เล่าต่อเร็ว ๆ ซี ขยักไว้ทำไม กานดาเร่ง
คืนนั้นหญิงสาวปิดประตูห้องนอน แล้วลงกลอนแน่นหนา ขณะกำลังจะหลับ ก็มีคนมาผลักประตู แต่ประตูแข็งแรงมาก ไม่ยอมพังง่าย ๆ คนที่ผลักจึงย้ายที่ไปฉีกฝาห้องแทน
ใคร ? ยายนั่นใช่ไหมที่มาผลัก รสสุคนธ์
ใช่ ! พอฝาขาดออกเป็นช่อง หญิงสาวเปิดไฟในห้อง จึงเห็นหน้ายายโผล่หน้าเข้ามาทางฝาแตก เขาว่าเป็นเรื่องจริงด้วยนะเธอ นี่ขนาดฉันเล่ายังขนลุก
แล้วไง ? ทั้งสามเสียงถามพร้อมกัน
ศีรษะยายติดอยู่ในช่องฝาแตก หญิงสาวจึงรีบเผ่นออกทางประตู กระโดดลงจากบ้านไปขออาศัยบ้านคนข้างบ้าน ต้องจัดเวรยามเฝ้ากันตลอดคืน เพราะกลัวยายผีดิบจะบุกเข้ามาตามหลาน
แล้วยายตามมาไหม ? รสสุคนธ์ถาม
ไม่ตาม คงกลัวคนเหมือนกัน ถ้าอยู่กันมาก ๆ รุ่งเช้าหญิงสาวจึงชวนชาวบ้าน 40-50 คน ไปดูยาย ปรากฏว่ายายนอนเหมือนคนนอนหลับ
แล้วเขาไม่ได้ทำอะไรต่อจากนั้นหรือ ? กานดาถาม
ทำซี ชาวบ้านคนหนึ่งไปหาหมอผีมาทำพิธีไล่ผีให้ ปรากฏว่ามีวิญญาณร้ายมาสิงร่างของยาย เพื่อกินของสดของคาว พอหมอผีทำพิธีไล่วิญญาณออก ศพของยายก็เน่าเหม็นหึ่งทันที ต้องไปจ้างสัปเหร่อมาเอาไปเผา
แหม...น่ากลัวจังนะเธอ งั้นนังเยาว์นี่ก็คงเหมือนยายแก่คนนั้นแน่ เราต้องไปบอกผู้ใหญ่หรือกำนันให้รู้ ให้หาหมอผีมาไล่ผีออกจากร่างกายของนังนงเยาว์ ก่อนที่มันจะเที่ยวแอบกินใครต่อใคร ไม่แน่เผลอ ๆ มันเกลียดเราที่ว่ามัน มันอาจจะกินเราเข้าสักวันก็ได้
กานดาสรุปเรื่อง เพื่อนทั้งสามคนก็เห็นด้วย
(โปรดอ่านต่ออีก ๔ วันข้างหน้า)
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2554 |
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2554 9:35:22 น. |
|
15 comments
|
Counter : 13620 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: หญิงแก่น วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:11:26:15 น. |
|
|
|
โดย: คุณแอน (seton ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:17:55 น. |
|
|
|
โดย: หญิงแก่น วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:20:16 น. |
|
|
|
โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:51:06 น. |
|
|
|
โดย: แนวเนี๊ยะ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:22:29 น. |
|
|
|
โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:29:50 น. |
|
|
|
โดย: แอน (seton ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:24:46 น. |
|
|
|
โดย: แนวเนี๊ยะ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:15:53 น. |
|
|
|
โดย: แนวเนี๊ยะ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:17:09 น. |
|
|
|
โดย: นักล่าน้ำตก IP: 110.168.198.29 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:33:28 น. |
|
|
|
โดย: แนวเนี๊ยะ วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:20:12:02 น. |
|
|
|
โดย: หญิงแก่น วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:46:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|
“ นงเยาว์ยืมหนังสือมาจากห้องสมุดมาให้ผมอ่าน พ่อถามทำไม? ”
คำพูดที่ประทีปพูดเป็นเรื่องจริงที่ถูกต้องที่สุดและเห็นด้วยที่สุดเลยค่ะถ้าปชช.ในประเทศมีความคิดแบบประทีปป่านนี้ประเทศไทยคงมีบุคคลากรที่มีคุณภาพมากกว่านี้ ต้องรออีก 4 วัน แน่ะ คุณลุง