เรื่องราวของชีวิตที่ผ่านมา และผ่านไป เพียงแค่อยากบันทึกไว้ ให้ลูกอ่านตอนโต
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
18 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
++ บุญล้น ++



เดี๋ยวนี้ เริ่มหาพล๊อตเรื่องอัพบล็อกจากบล็อกชาวบ้าน.. หากินง่ายดี.. แหะๆๆ เช้านี้ แวะไปอ่านบล็อกของเจ้าสาบ แมลงสาบพเนจร ก็เลยคิดเรื่องนี้ออก




คนโบราณน่ะ เค้าก็มีความเชื่อเรื่องบุญล้น แต่หม่าม๊าว่ามันก็น่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ โดยเฉพาะเรื่องที่จะเล่านี่ เป็นเรื่องที่อาม่าต้องใช้เวลาตั้งนานกว่าที่จะทำใจได้ ..

อาม่าเป็นคนชอบทำบุญ ทำเป็นประจำ ทั้งใส่บาตรตอนเช้าทุกๆวัน, ไปทำบุญที่วัด, รวมถึงทัวร์ไหว้พระ อันนี้ชอบมาก ใครมาชวน บอกจะจัดทัวร์ไหว้พระ อาม่าไปหมดทุกรอบ ซื้อตั๋ว 3 ที่ แต่นั่ง 2 คนกับอากง.. ไปมาเกือบหมดแล้ว เหนือ ใต้ อีสาน.. หม่าม๊าซะอีก ยังไม่เคยไปเที่ยวเยอะเท่าอาม่าเลย..

มีอยู่ปีนึง อาม่าไปแวะที่ชุมแสง เค้าไปดูหมอดูมา..หมอดูชื่อ หมอจ๊อด.. ดูแม่นๆ หม่าม๊ายังเคยฝากถามเรื่องงานบ่อยๆ (อันนี้เป็นเรื่องความเชื่อนะลูก แต่หม่าม๊าชอบดู..อิอิ) อาม่าไปดูทุกปีอยู่แล้วล่ะ แต่ปีนั้นหมอจ๊อดทักอาม่าว่า อาม่าน่ะ บุญเยอะ.. ปีนี้ใครมาชวนทอดกฐิน ก็ทำได้นะ แต่ห้ามรับเป็นเจ้าภาพ เพราะไม่งั้นบุญจะล้นเกินไป.. อาม่าก็รับปาก.. เออ.. ไม่เป็นหรอกประธาน.. ยุ่ง..วุ่นวาย..

ทีนี้ หลังจากนั้นไม่นาน หลวงพ่อที่วัดใกล้ๆบ้าน ท่านก็เอ่ยปากกับอาม่าวันนึงว่า มีญาติโยมเค้าอยากทอดกฐิน แต่เค้าหาคนเป็นประธานไม่ได้ หลวงพ่อก็เลยอยากขอให้อาม่าเป็นประธานให้ อาม่าเลยต้องรับด้วยความเกรงใจ เพราะหลวงพ่อเอ่ยปากมาเอง..

ทุกอย่างก็ปรกติดี จนถึงวันก่อนที่จะทอดกฐิน 1 วัน พี่ชายคนโตของหม่าม๊า ..กู๋นพ..(ชื่อจริงว่า นพดล) เค้าไปทำงานที่เชียงใหม่ ขับรถไปกับเจ้านายเค้า ตอนสัก 4 โมงเย็น เค้าก็แวะไปหาอาม่าที่ลำปางแป้บนึง.... แป้บจริงๆ คือจอดรถ แล้ววิ่งไปกอดอาม่า.. บอกว่าคิดถึง แวะมาขอกอดหน่อย อาม่าก็บอกว่า ทำไมรีบจังเลย อยู่ค้างสักคืนสิ พรุ่งนี้ทอดกฐินด้วยกันก่อน แล้วค่อยไป.. แต่กู๋นพก็บอกว่า ค้างไม่ได้ เพราะว่า พรุ่งนี้เช้ามีงาน ต้องขึ้นศาลฟ้องลูกค้าบริษัท.. เลยต้องรีบกลับคืนนั้น

เมื่อรั้งไม่ได้ อาม่าก็เลยให้ศีลให้พรเหมือนที่เคยให้พรลูกทุกคน ยามที่ต้องเดินทาง.. เอาขี้ตีนแปะหน้าให้.. (ทุกวันนี้ เวลาอากงอาม่ามา.. หม่าม๊าก็ขอขี้ตีนแปะหน้าทุกทีแหละ.. ยังชอบแซวเลยว่า เอาทั้งตีนแปะน่าจะขลังกว่านะ.. อิอิ ) แล้วกู๋นพก็ขับรถกลับกรุงเทพ....

วันนั้น หม่าม๊าก็ทำงานที่ออฟฟิศจนดึก คืนนั้นกว่าจะได้นอนก็เกือบ ตี 1 เพราะว่าหม่าม๊าเอง รุ่งเช้าก็มีนัดกับทนายบริษัทเหมือนกัน.. ช่วงนั้นเศรษฐกิจแย่ ค่าเงินบาทลอยตัวจาก 25 บาท เป็น 50 บาท ลูกค้าก็ไม่มีเงินจ่าย เลยมีเรื่องฟ้องร้องกันวุ่นวาย..

จำได้ว่า เพิ่งจะนอนไปสักชั่วโมง.. ตีสองกว่าๆ.. เสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น... กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง.... เสียงมันเสียดเข้าไปในหู จนหม่าม๊าต้องตื่นขึ้นมารับ.. แล้วก็เป็นเสียงอากงที่ดังขึ้นมา..
อากง... ไก่เหรอลูก..
หม่าม๊า.. จ้ะเตี่ย.. มีไรเหรอ โทรมาตอนนี้..
อากง.. ทำใจดีๆนะลูก....................... เฮียนพไม่อยู่กับเราแล้วนะ..
หม่าม๊า... หา... อะไรนะเตี่ย.. (ตอนนี้ ป่ะป๊าก็ลุกขึ้นมานั่งฟัง.. ว่าเกิดอะไรขึ้น.. )
อากง... เฮียนพเขาไปแล้วลูก เล็กเพิ่งจะโทรมาบอกเมื่อตะกี้นี้เอง.. แม่เขายังร้องไห้อยู่ เตี่ยเลยโทรมาบอกลูกก่อน.. แค่นี้นะลูก..
หม่าม๊า.. จ๊ะ จ๊ะ...

หลังจากวางสาย.. หม่าม๊าก็ยังนั่งงง อยู่บนเตียง.. เงียบ.. จนป่ะป๊าถามว่า.. มีอะไร.. (ป่ะป๊าบอกว่า ถามหม่าม๊าตั้ง 3 ครั้งแน่ะ กว่าหม่าม๊าจะได้ยิน) หม่าม๊าเลยหันมาบอกว่า เฮียนพตายแล้ว.. คราวนี้ เป็นฝ่ายป่ะป๊าที่ร้องว่า.. “หา”..

โอย.. ขณะที่นั่งพิมพ์เรื่องนี้ หม่าม๊าก็ยังน้ำตาท่วมอยู่เลยลูก.. คิดถึงความรู้สึกนั้นแล้ว.. มันเศร้าอ่ะ.. กว่าจะพิมพ์จบนี้ จะหมดน้ำตาอีกกี่รอบนะเนี่ย..

ตั้งแต่โตมา หม่าม๊าไม่เคยมีญาติสนิทใกล้ชิด แบบคนในครอบครัว ที่ต้องมาจากไปแบบกะทันหันอย่างนี้เลย.. อาการแบบนี้ละมัง ที่เขาเรียกว่าช๊อก.. หรือป่าว.. หม่าม๊าก็ไม่แน่ใจ.. แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังอีกหน.. คราวนี้ เป็นกู๋สนที่โทรมา.. หม่าม๊าเลยบอกว่า รู้แล้ว เตี่ยโทรมาบอก.. กู๋สนเลยบอกว่า เค้ากำลังจะไปที่บ้านกู๋นพ ไปดูพี่เล็กกับเด็กๆหน่อย จะไปไหม.. หม่าม๊าเลยบอกเค้าว่า.. ไม่ไป พรุ่งนี้มีงาน.. ไปไม่ได้.. แล้วเราก็วางโทรศัพท์

ป่ะป๊า.. ได้ยินหม่าม๊าพูดงั้น เค้าก็เลยลงนอน.. แต่หม่าม๊ายังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง.. จนป่ะป๊าถามว่า..เป็นไร.. ตอนนั้น..ในหัวมันตื้อไปหมด แต่หม่าม๊าก็เริ่มคิดได้.. แล้วก็บอกป่ะป๊าว่า.. เออ.. พี่ชั้นตายนี่หว่า.. หม่าม๊าเลยโทรกลับไปหากู๋สน. บอกว่าเดี๋ยวหม่าม๊าไปที่บ้านกู๋นพเหมือนกัน..ไปเจอกันที่นู่นละกันนะ.. พอวางสาย. หม่าม๊าก็ยั่งนั่งอยู่อย่างนั้น.. จนป่ะป๊าต้องเป็นคนเรียก ให้ลุกมาเปลี่ยนเสื้อผ้า หม่าม๊าถึงลุกมาแต่งตัว.. หยิบๆมาใส่ แล้วก็ออกมา..

ป่ะป๊าเห็นหม่าม๊าเป็นอย่างนั้น เลยอาสาขับรถเอง.. (เมื่อก่อนไปไหน หม่าม๊าเป็นคนขับรถตลอด..) พอไปถึงที่ปากเกร็ด.. ทุกคน มานั่งอยู่ที่โซฟารับแขก.. ตาแดงๆ อยู่ในอาการเศร้าซึม ไม่มีใครพูดอะไรกันเท่าไหร่.. พอกู๋สนมาถึง ก็เลยถาม.. สรุปว่า เรารอให้สว่างอีกนิด แล้วขับรถไปอยุธยากัน เพราะกู๋นพไปเกิดอุบัติเหตุที่อยุธยา.. ตอนนั้นเราก็ยังไม่รู้อะไรมากนัก..

นอกเรื่องนิดนึง.. ตอนที่อยู่บ้านกู๋นพรอให้เช้า.. หม่าม๊าเข้าห้องน้ำ ถึงเพิ่งจะเห็นว่า ตัวเองใส่กางเกงกลับด้านมา เออ..หนอ.. ความที่มันไม่มีสติอ่ะนะ.

พอสักตี 5 เราก็ออกเดินทาง.. ขับรถไป 2 คัน.. หม่าม๊ากับป่ะป๊าก็สลับกันขับรถ เราขับไปทางสายเก่า ออกไปทางปทุมธานี ไปถึงสถานีตำรวจที่อยุธยาก็เกือบ 6 โมงเช้าพอดี ระหว่างที่รอร้อยเวรเจ้าของคดีมา ตำรวจที่อยู่เวร ก็ชี้ให้พวกเราดูว่า รถที่เกิดเหตุลากมาจอดอยู่ตรงลานด้านหน้า...หม่าม๊าก็เลยเดินออกไปดู

เห็นสภาพรถทางด้านซ้าย ไม่เสียหายมากนัก แต่พอเดินอ้อมไปด้านที่นั่งคนขับ มันเป็นรอยยุบเข้าไปเหลือที่ไม่ถึงครึ่ง.. ตำรวจบอกว่า คนขับคงจะหลับใน เลยลงข้างทาง.. แล้วพยายามจะเลี้ยวกลับขึ้นมาบนถนน แต่บังเอิญ ตรงนั้นมีจอมปลวกขนาดใหญ่... รถเลยฟาดจอมปลวกตรงนั้นจนพังราบไม่เหลือ..

หม่าม๊ามองสภาพรถ แล้วก็คิดถึงสภาพที่กู๋นพ คงจะโดนอัดกระแทกอย่างแรง. แล้วหม่าม๊าก็เริ่มคิดว่า พี่ชายเราตายแล้วจริงๆ เหรอ.. น้องนุ่น..ลูกสาวกู๋นพ ก็ยืนดูข้างๆหม่าม๊า เราต่างจับมือกันแน่น.. ไม่มีคำพูดใดๆ ...

สักพัก.. ร้อยเวรก็มา.. กู๋สนกับพี่เล็กก็ไปทำเอกสารอะไรที่ตำรวจให้ทำ.. แล้วเราก็ไปที่โรงพยาบาลกัน.. ร้อยเวรพาพวกเราไปดูศพ เพื่อยืนยัน.. หม่าม๊าไม่อยากเชื่อว่า.. ร่างที่นอนอยู่ตรงนั้น คือกู๋นพ.. พี่ชายที่รักน้องเสมอ.. พ่อที่รักของลูกๆ ... นอนอยู่บนเตียง ด้วยร่างที่เย็นเฉียบ ไร้ลมหายใจอีกต่อไป..

หม่าม๊าน้ำตาไหลริน.. คนโบราณบอกว่า อย่าให้น้ำตารดศพ เดี๋ยวเค้าจะเป็นห่วง.. น้องนุ่นก็ร้องไห้.. แต่น้องนุ่นเข้มแข็งมาก.. น้องนุ่นขอเจ้าหน้าที่ว่า นุ่นอยากช่วยแต่งตัวให้พ่อ.. นุ่นหวีผมให้พ่อ.. พลางพูดกับพ่อว่า.. ทำไมป๊าบอกนุ่นว่า จะกลับมาหอมนุ่นก่อนนอน นุ่นรอป๊าตั้งนาน.. แต่ป๊าก็ไม่กลับมา ... ป๊าไม่ต้องห่วงนะ.. นุ่นอยู่กับแม่ได้.. ป๊านอนให้สบายเถอะ..

หม่าม๊าฟังแล้ว ก็ต้องแอบออกไปร้องไห้อีกรอบ.. แล้วหม่าม๊าก็เลยเดินออกมาด้านนอก.. พอดีเห็นมีร้าน 7-11 หม่าม๊าเลยคิดว่า ซื้ออะไรไปให้ทุกคนหน่อยดีกว่า.. เลยซื้อนม ซื้อขนม ส่วนของหม่าม๊าเอง ต้องซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่ดื่มสักหน่อย เพราะเพลียมาก.. นอนไปแค่ ชั่วโมงเดียว..

หลังจากนั้น เราก็ต้องไปหาซื้อโลงศพ.. หม่าม๊าเพิ่งรู้นะว่า เวลาซื้อโลงศพ เค้าไม่ให้ต่อราคา ไม่งั้นจะมีเหตุให้ต้องซื้อใช้อีก.. คนขายเค้าเห็นหม่าม๊าตั้งท่าจะต่อล่ะมัง เค้าเลยรีบพูด แล้วเค้าก็บอกว่า เค้าทำอาชีพนี้ เค้าก็ไม่กล้าขายแพงหรอก เพราะว่ามันจะเข้าตัว.. อันนี้หม่าม๊าก็ไม่รู้หรอกนะ.. แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร..

ตอนที่ขับรถ พากู๋นพกลับกรุงเทพ..เราต้องจ้างรถกระบะให้ขนโลงใส่มา แล้วเราก็ขับรถตาม.. พวกเราเลยบอกคนขับกระบะว่า ให้ไปทางที่เกิดเหตุ เราขอจุดธูปเรียกกู๋นพกลับบ้านก่อน.. ตอนช่วงที่เราจุดธูปไหว้กันอยู่ ป้าคนที่บ้านอยู่ตรงข้ามที่เกิดเหตุ.. (คือฝั่งที่เกิดเหตุเป็นท้องนาไง.. ) เค้าก็เดินข้ามถนนมา เอาดอกไม้มาให้เราไหว้... แล้วแกก็เล่าให้ฟังว่า.. ที่ตรงเนี้ย.. เกิดอุบัติเหตุบ่อย จอมปลวกตรงนี้ คนก็มาไหว้กันเยอะ.. สงสัยพี่เราคงเห็นอะไรมากกว่าละมัง.

น่าแปลกที่เจ้านายของกู๋นพ ที่นั่งมาด้วยกัน ไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว.. ตอนเจอเค้าที่โรงพยาบาล.. เค้าก็เล่าให้ฟังว่า.. เค้าผลัดกันขับ เพิ่งจะเปลี่ยนกับกู๋นพที่นครสวรรค์ แล้วตัวเค้าก็หลับต่อ.. แต่ช่วงที่เกิดเหตุน่ะ เหมือนกับเค้าได้ยินกู๋นพร้องว่า.. เฮ้ย..คน.. แล้วรถก็ส่ายไปมา แล้วก็โครม.. พอทุกอย่างหยุดนิ่ง คุณผู้จัดการเค้าเห็นว่ากู๋นพ ยังรู้สึกตัว ยังคุยได้ บอกอาการได้.. แต่โดนพวงมาลัยมันอัดเข้าที่หน้าอก.. ตอนที่กู้ภัยมาถึง.. คุณผู้จัดการเล่าว่า.. เครื่องไม้เครื่องมืออะไรก็ไม่มี.. การช่วยของเค้าคือ พวกนึง พยายามดึงตัวคนออกจากรถ อีกพวกนึงก็ดึงรถเอาไว้.. นึกสภาพแล้ว.. หม่าม๊าว่า ที่กู๋นพต้องตายคงเพราะวิธีการช่วยชีวิตที่ไม่ถูกต้องของหน่วยกู้ภัยซะมากกว่า.. เพราะแพทย์ลงความเห็นว่า ปอดฉีกขาดและทนพิษบาดแผลไม่ไหว เลยเสียชีวิต.. นี่ถ้าเป็นเมืองนอก.. แบบที่เราเคยเห็นในทีวี หน่วยกู้ภัยคงเอาอุปกรณ์มาตัด-ถ่างรถ เพื่อช่วยผู้บาดเจ็บ แทนที่จะดึงยื้อยุดออกจากรถอย่างนั้น.. ก็ไม่รู้ว่าผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน จะต้องเสียชีวิตอีกมากน้อยแค่ไหน จากความไม่รู้ในความหวังดีของหน่วยกู้ภัย...

ในยามที่เราสูญเสีย.. เราจะได้เห็นเพื่อนก็ตอนนี้แหละ.. โชคดีที่เพื่อนของกู๋นพและพี่เล็ก หลังจากที่รู้ข่าว. ก็รีบช่วยประสานงาน หาวัดได้ในวันนั้นเลย.. พอมาถึงที่วัด.. หม่าม๊าก็ควักสมุดโทรศัพท์ขึ้นมา..ค้นหาเบอร์ญาติๆ แล้วก็โทรไปแจ้งข่าว.. เพราะตอนนั้น ก็นึกอะไรไม่ค่อยออกเหมือนกัน ระหว่างที่โทร.. หม่าม๊าเห็นน้องนน.. ลูกชายคนเล็กของกู๋นพ.. มานั่งเงียบๆอยู่ข้างนอกศาลาวัด.. ก็ตั้งแต่ที่รู้ข่าว.. พวกเราก็วุ่นวายหลายอย่าง เลยไม่มีใครได้สนใจใครสักเท่าไหร่

หม่าม๊าเลยเดินเข้าไปหาน้องนน.. ถามน้องนนว่าเป็นไงบ้าง.. น้องนนหน้าเศร้า.. หม่าม๊าเข้าใจว่า ด้วยความที่เป็นผู้ชาย.. น้องนนเลยไม่กล้าร้องไห้ละมัง.. หม่าม๊าเลยคุยกับน้องนน.. บอกน้องนนว่าถ้าจะร้องก็ร้องเถอะ.. ครั้งสุดท้ายแล้ว ที่เราจะได้เห็นพ่อ.. แต่อย่าร้องบ่อย ต้องเข้มแข็ง เพราะเรายังต้องดูแลแม่แทนพ่อนะ.. แล้วหม่าม๊าก็กอดน้องนน.. เท่านั้นแหละ.. น้องนนก็ร้องไห้ออกมา.. โถ.. น่าสงสารจริงๆ เพียงคืนเดียว ชีวิตที่ขาดหัวหน้าครอบครัว จะเปลี่ยนไปยังไงก็ไม่รู้..

ส่วนอากงอาม่าก็ขึ้นเครื่องบินมาจากลำปาง.. มาถึงในบ่ายวันนั้น.. หม่าม๊าต้องคอยประกบอาม่าเอาไว้ตลอด เพราะอาม่าก็เป็นโรคหัวใจอยู่ด้วย.. กลัวอาม่าจะเสียใจจนเป็นอะไรไปอีกคน..

ตกลงว่ากฐินวันนั้น อาม่าก็ไม่ได้ไป ยกให้คนอื่นไปทำหน้าที่แทน แล้วอาม่าก็มานั่งร้องไห้เสียใจ ว่าที่กู๋นพตาย เป็นเพราะอาม่าไม่เชื่อที่หมอจ๊อดทักเอาไว้ เพราะบุญมันล้น กู๋นพเลยต้องไปรับบุญแทนอาม่า.. นี่ถ้าอาม่าไม่รับเป็นประธาน กู๋นพก็คงไม่ต้องตาย..

หม่าม๊าต้องคอยปลอบอาม่าว่า อย่าคิดอย่างนั้น.. มันไม่ใช่ความผิดของอาม่า.. กู๋นพคงไม่มีความสุข ถ้ารู้ว่าอาม่าคิดอย่างนี้.. ปากหม่าม๊าพูดอย่างนั้น แต่หม่าม๊าก็สงสารอาม่านะ รู้ว่าความรู้สึกอาม่าเป็นยังไง...และมันคงจะหลอนใจอาม่าไปอีกนาน..

เฮ้อ.. จริงๆ เรื่องยังมีอีกยาว.. แต่หม่าม๊าเขียนไม่ไหวแล้วล่ะ..มันเศร้าเหลือเกิน.. ไว้วันหลังจะมาเล่าเรื่องที่ฝันเห็นกู๋นพให้ฟังนะ.. (บล๊อกนี้ ..น้ำตาท่วมจอจริงๆเลย.. )

หม่าม๊ารักสมาร์ทสุดหัวใจ..

ป.ล. เมื่อวานนี้ที่สมาร์ทบอกว่า สมาร์ทอยู่ที่โรงเรียน สมาร์ทคิดถึงหม่าม๊าจังเลย รักหม่าม๊าที่สุดเลย.. แหม.. ปากหวานจริง.. หม่าม๊าฟังแล้วเคลิ้มเลยลูก.. แต่หลังจากนั้น 2 วินาที.. ..หม่าม๊า .. เราไปซื้อไอติมกันนะ.. สมาร์ทอยากกิน..







Create Date : 18 ธันวาคม 2551
Last Update : 19 ธันวาคม 2551 10:21:32 น. 11 comments
Counter : 1666 Pageviews.

 
พยายาม สอดแทรกอารมณ์ขัน..จะได้เบรกอารมณ์เศร้า.. แต่หลังๆ ขันไม่ไหวแล้ว(ว่ะ)..


โดย: ป้าแก่ (elastigirl ) วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:13:08:38 น.  

 
แวะมาทักทายครับผม

ยังไงก็ขอให้มีกำลังใจยิ้มต่อไปนะครับผม


โดย: หมื่นทิพ (เทพบุตรตบะแตก!! ) วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:13:18:20 น.  

 
เข้ามากอดป้าแก่ ซับน้ำตาให้ทีนึงด้วย


โดย: Oops! a daisy วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:14:26:42 น.  

 



พาน้องยู่ยี่เป็นตัวแทนลูกหมาหาบ้าน
มาขอบคุณที่มีเมตตาต่อพวกเขาเสมอมา






โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:14:46:45 น.  

 
โอ้ว ยาวมาก ไว้กลับขึ้นไปอ่าน เม้นท์ก่อน อิอิ

ตกลงวันเสาร์นี้มาหาพี่ทิมมั้ยจ้ะ

สงสัยสมาร์ทจะปากหวานพอๆ กับพี่ทิม อิอิ


โดย: nada (NoNoTan ) วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:19:33:11 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

เรื่องเล่านี้ยาวดีจริง ๆ เลยครับ

อิอิ

ปล. เห็นบอกว่านัดกันกับป้าเดซี่ไปมิตติ้งกันวันคริตมาสนี้เหรอครับ? ตกลงว่าเป็นร้าน That's it ใช่ไหมครับ?

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:23:03:54 น.  

 


โดย: UnderSunShine* วันที่: 18 ธันวาคม 2551 เวลา:23:24:28 น.  

 
อ่านแล้วก็ต้องปลงครับ

เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

ทุกวันนี้ผมเองยังทำใจรอเลยครับป้า ทุกคนครับ ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอง

อยู่ที่ว่าตายไปแล้วชื่อที่เราทิ้งไว้นี่ จะมีคนคอยด่าตามหลัง หรือ เค้าเค้าจะพูดถึงแต่เรื่องดีๆเท่านั้นเอง นี่แหละครับ สิ่งเดียวที่ตายไป แล้วเราเอาไปได้


โดย: แมลงสาบพเนจร (pongporc007 ) วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:0:11:35 น.  

 
เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนค่ะป้า


โดย: มารน้อยไร้สังกัด วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:0:44:18 น.  

 
น่ากลัวจังเลยนะคะ

เรื่องอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวเลย


โดย: มาดามอุ้ย วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:2:02:48 น.  

 
อย่า พยายามเดาอายุ ปู่เลย งักงัก
คิดเหมือนน้องสาบ


โดย: naydin วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:13:50:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

elastigirl
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สาวเหนือ ที่บังเอิญสอบเอ็นสะท้านติด ไปเรียนที่ปักษ์ใต้ แล้วไปเจอหนุ่ม กทม. จับพลัดจับผลู เลยต้องอยู่ที่ กทม. ตอนนี้ เป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง และสุดท้าย..หม่าม๊า รักสมาร์ทที่สุดเลย...
ลิงจอมทะเล้น
หัวหอมจอมซ่า
กระต่ายจอมกวน
X
X
X
Friends' blogs
[Add elastigirl's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.