|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ไร้แรงบิน - ม. มธุการี
เรื่องย่อ (อย่างไม่ค่อยย่อเท่าไหร่) แนนเป็นเด็กสาววัยย่าง 18 ปี อาศัยอยู่กับนรา ผู้เป็นแม่ และแวน พี่ชาย ภายในบ้านของจิม ผู้เป็นพ่อเลี้ยง จิมเป็นตำรวจซึ่งมีปัญหาทางจิต ชอบทำตัวเป็นใหญ่ในบ้าน และตบตีทำร้ายเมีย เหตุก็เพราะเมียคนก่อนไม่ค่อยจะยอมลงให้ พอเลิกกันแล้วมาได้เมียคนไทย ก็เลยข่มเอาๆ จนนรามีอาการทางจิตตามไปด้วย
แนนได้งานขายของหน้าร้านในโชว์รูมของรตี ผู้หญิงไทยซึ่งแต่งงานกับทนายชาวอเมริกัน เรื่องเริ่มเมื่อศิลา น้องชายของรตีซึ่งอาศัยอยู่ที่ Palm Springs มาเวเคชั่นที่ L.A. ซึ่งพี่สาวอาศัยอยู่ พี่ให้ไปพักที่อพาร์ตเม้นท์ซึ่งตัวซื้อไว้ที่ Santa Monica โดยคิดจะขายให้น้องชาย แต่ศิลาลังเลเพราะชอบอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลทรายอย่างที่ Palm Springs มากกว่า
ศิลาไปเยี่ยมพี่สาวที่โชว์รูม ก็ได้ไปรู้จักกับแนน พอเห็นก็เอ็นดูว่าเป็นเด็กน่ารักและรักดี แนนเพิ่งเรียนจบไฮสกูล แต่ยังไม่มีโอกาสได้เรียนต่อในทันทีเพราะฐานะยากจน กำลังอยู่ในช่วงคอยผลที่ขอทุนไปที่ UCLA ส่วนแวน พี่ชายก็ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อหลังจบไฮสกูลแล้วเช่นกันเพราะไม่มีเงิน แวนทำงานในปั๊มน้ำมัน แต่มีความฝันอยากเป็นนักหนังสือพิมพ์ ซึ่งต่อมาศิลาฝากให้ไปทำงานกับเพื่อนนักหนังสือพิมพ์ของตัว ต่อมาแวนเห็นจิมตบตีแม่ ก็เข้าขวาง จิมชักปืนออกมาขู่จะยิง แวนจึงหนีออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนชื่อดีเจ ดีเจเป็นเม๊กซิกัน อยู่ในย่านคนจน ดีเจอยากเรียน แต่ก็ไม่มีเงินจะเรียนเหมือนกัน ทำงานอยู่ที่ปั๊มกับแวนจนสนิทกัน แต่ต่อมาก็ถูกไล่ออก โดยถูกเจ้าของปั๊มซึ่งเป็นคนอิหร่านกล่าวหาว่าขโมยเงิน ดีเจจึงหันไปค้ายาเสพติดเพราะนั่นเป็นทางเดียวที่มีที่จะหาเงินมารักษาแม่ซึ่งนอนป่วยอยู่โรงพยาบาลได้
พอแวนไม่อยู่บ้านอีกแล้ว วันหนึ่งนราถูกจิมตบตีและมีอาการโรคหัวใจด้วย ต้องเข้าโรงพยาบาล จิมก็เลยพยายามข่มขืนแนน แนนหนีออกจากบ้าน นั่งรถเมล์ไปจนสุดสายเพราะไม่รู้จะไปไหนดี ปรากฏว่ารถเมล์สายนั้นไปสุดสายที่ Santa Monica พอดี เวลานั้นดึกมากแล้วด้วย แนนตัดสินใจไม่ได้ว่าควรทำอย่างไรดี มีเบอร์โทรศัพท์ของศิลาที่อพาร์ตเม้นท์ของรตี จึงโทรไปขอความช่วยเหลือ ศิลาไปรับให้มาหลบอยู่ชั่วคราว กลายเป็นปัญหาในเวลาต่อมาว่าแนนยังไม่บรรลุนิติภาวะ
จิมออกตามหาแนนจนพบ แล้วพาไปไว้ที่สถานกักกันเด็กที่พ่อแม่เอาไว้ไม่อยู่แล้ว โดยตั้งข้อหาว่าขโมยเงินแล้วหนีออกจากบ้าน ลืมไปนิด จิมค้ายาเสพติดด้วยค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นยาเสพติดที่ยึดได้จากคนร้าย ตามเรื่องว่าตำรวจของเมืองใหญ่อย่างแอลเอ ทำแบบนั้นกันมาก (คงจะจริง) นราไปรู้เข้าว่าสามีของตัวทำอะไร จิมก็เลยระแวงว่านราและลูกอาจเอาเรื่องนั้นไปเปิดเผย
พอนราออกมาจากโรงพยาบาล ก็ไปรับแนนกลับมา และพยายามทุกวิถีทางที่จะให้ความเป็นไปภายในบ้านกลับไปเป็นปกติที่สุด แม้คนที่โรงพยาบาลจะพยายามถามว่าถูกสามีทำร้ายหรือเปล่า เพราะตอนที่เข้าโรงพยาบาล หน้าตามีร่องรอยถูกซ้อม แต่นราก็พยายามปกป้องสามีทุกทาง อายด้วยว่าถ้าสังคมคนรอบข้างรู้ จะเป็นเรื่องไม่ดี ก็เลยปฏิเสธไป โดยบอกว่าล้ม
รตีไปได้งานขายของทางโทรทัศน์ซึ่งรายได้ดีกว่า ขายของง่ายกว่า มีคนสนับสนุนให้รตีส่งแนนเข้าประกวดนางงามด้วย รตีเอาแนนไปเป็นนางแบบโฆษณาสินค้าในรายการนั้น เฮนรี่ซึ่งเป็นเจ้าของรายการเห็นแนนเข้าก็ถูกใจ ต่อรองกับรตีว่าจะยกรายการให้ถ้าได้ตัวแนนไปเวเคชั่นที่นิวยอร์คด้วย รตีก็เลยส่งแนนให้ไปเจรจากับเฮนรี่เอาเอง คืนนั้นแนนกลับบ้านก็ถูกจิมจะข่มขืนอีก พอดีกับนรากลับจากงานมาทัน วันรุ่งขึ้นแนนก็เลยหนีออกจากบ้าน ยิ่งเมื่อรู้ด้วยว่ารตีซึ่งตัวคิดว่าหวังดีกับตัวมาตลอด กลับจะเอาตัวเข้าแลกเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ก็ยิ่งผิดหวัง
แนนหนีไปเช่าโรงแรมแบบรายอาทิตย์อยู่ใน Chinatown จนเงินที่เก็บไว้เกือบหมด เมื่อไม่มีที่ไปก็คิดจะฆ่าตัวตาย แต่คิดถึงศิลาขึ้นมาได้ แนนมีความรู้สึกว่าในโลกที่โหดเหี้ยมนี้ มีศิลาคนเดียวที่แสดงความจริงใจกับตัวอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
แนนไปหลบอยู่ที่บ้านศิลา และในที่สุดรตีก็บอกจิมว่าแนนไปอยู่ที่ไหน เหตุก็เพราะโกรธที่แนนหนีไป ทำให้ตัวเสียรายการโทรทัศน์ที่ควรจะได้ และระแวงด้วยว่าแนนกำลังพยายามจับน้องชายของตัว ศิลานั้นใครๆก็รู้ว่าเป็นคนดี ยังโสด แถมเป็นทนายด้วย (ทนายที่นี่มีแต่รวยๆกันทั้งนั้นค่ะ คนที่มีลูกสาวก็อยากให้ได้กับ doctor หรือไม่ก็ lawyer )
จิมโกรธศิลามาก กลัวว่าความลับของตัวจะถูกเปิดเผยด้วย ก็เลยใช้ความเป็นตำรวจจับตัวศิลาไปทิ้งไว้กลางทะเลทราย ตั้งใจจะปล่อยให้ตายไปเอง ในเวลานั้นจิตใจของศิลาแทบไม่ห่วงตัวเองแล้ว ห่วงอยู่ก็แต่แนน เป็นความรักที่เริ่มต้นโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว
เทรซี่ซึ่งเรียนจบมาพร้อมกับศิลา เคยเป็นคนรักของศิลา และศิลาเคยทำงานให้พ่อ เข้ามาช่วยแนน และแจ้งเรื่องที่ศิลาหายตัวไป เมื่อจิมกลับบ้านก็จะทำร้ายนราอีก แต่ถูกนรายิงตาย คดีฆาตกรรมตำรวจมักมีโทษถึงประหาร เมื่อนราไม่มีใคร และไม่มีเงินด้วย เทรซี่จึงเข้าเป็นทนายให้ แนนไปอาศัยอยู่กับฤดี เจ้าของร้านอาหารไทยซึ่งนราทำงานอยู่
หลังจากไปติดอยู่กลางทะเลทราย 7 วัน เจ้าหน้าที่ก็พบตัวศิลาในสภาพใกล้ตาย ศิลาเข้าช่วยเทรซี่ว่าความให้นรา แต่เมื่อไม่มีหลักฐานอะไรว่าจิมเคยทำร้ายนรา และเคยพยายามข่มขืนแนน ก็จำต้องหาทางเอาเมียเก่าของจิมซึ่งควรรู้จักจิมดีกว่าใครมาช่วยยืนยันอาการทางจิตของจิม แม้เมียเก่าของจิมจะเรียกร้องเงินเพื่อแลกกับการให้ปากคำของตัว ศิลาก็ยอม
และเพราะเห็นว่าเทรซี่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยเหลือตัว ทั้งๆที่เทรซี่เองก็เข้าใจว่าศิลารู้สึกอย่างไรกับแนน ครั้งหนึ่งศิลาคิดว่าตัวรักเทรซี่ แต่ไม่ใช่ความรักที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน เป็นความรักอย่างเพื่อน เมื่อเทรซี่สารภาพว่าทำทุกอย่างนั้นก็เพื่อศิลา เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ๆศิลาอีก ศิลาก็เลยใจอ่อน ทั้งคู่มีอะไรกันอีก และกลับมาเป็นคนรักกันอีก เมื่อแนนกับรตีมาติดต่อสั่งเครื่องประดับจากอินเดียนแดงที่อาศัยอยู่ใกล้บ้านศิลา แนนเห็นท่าทีสนิทสนมระหว่างศิลาและเทรซี่ก็อกหักเพราะตัวเองก็หลงรักศิลาอยู่เงียบๆนานแล้ว เป็นความรักที่มีให้กับคนๆเดียวที่แนนรู้ว่าเอาเป็นที่พึ่งพิงได้เสมอมา
เรื่องนี้มีความรู้สึกขัดๆอยู่ 2 จุด อย่างแรกคือตอนที่นราถูกเอาตัวขึ้นศาล ในเรื่องพูดถึงฝ่ายโจทก์ว่าเป็นทนายของจิม (ผู้ตาย) ทำไมอย่างนั้นก็ไม่ทราบ ในคดีฆาตกรรม ซึ่งเป็นคดีอาญาขั้นร้ายแรง ฝ่ายโจทก์จะเป็นรัฐ คดีลักษณะนี้จะขึ้นหัว docket ว่า state vs. เสมอ อย่างในกรณีนี้เกิดเรื่องที่รัฐคาลิฟอร์เนีย ก็จะเป็น State of California vs. นรา .... ฝ่ายโจทก์จะเป็น DA - District Attorney (บางรัฐเรียก Solicitor) ซึ่งคงตรงกับของไทยว่าอัยการมั้งคะ แต่ทำไมในเรื่องใช้ว่าทนายของจิม หรือทนายฝ่ายโจทก์ ทำไม่ไม่ใช้อัยการไปเลย
อย่างที่ 2 คืออาการของนรามันเข้าข่าย battered woman syndrome ระดับ textbook เลยทีเดียว แต่ทำไมตอนที่ศิลาว่าความให้ถึงไม่เอานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์มาให้การ แล้วอธิบายให้คณะลูกขุนเห็นว่าที่นราโกหกใครต่อใครมาตลอดว่าสามีไม่เคยทำอะไรตัว หรือตอนที่ยิงจิมก็เพราะความกลัวจนถึงที่สุด ทำไมถึงได้เหมือนจะมีปัญหาเรื่องพยานมากนัก กลัวว่าลูกขุนจะไม่เชื่อว่านราถูกทำร้ายจริง แม้แต่ตอนคดีนี้ขึ้นอุทธรณ์ ทนายคนใหม่ซึ่งเป็นสามีของรตีก็มีปัญหาเรื่องพยาน แต่ไม่มีใครคิดจะเอาจิตแพทย์มาเป็นพยานเลย เป็นไปได้ไง ทั้งๆที่ในคดีลักษณะนี้ จิตแพทย์จะอยู่ในกลุ่มพยานระดับต้นๆเลยค่ะ เพราะแค่เอาจิตแพทย์มาชี้ให้ลูกขุนเห็น มันช่วยสนับสนุนเหตุผลว่าทำไมจำเลยทำอย่างที่ได้ทำมาตลอด แล้วมีใครว่าฝ่ายจำเลยโกหก ตั้งใจฆ่าสามีได้อีก ตอนนี้อ่านไปก็สงสัยไป
ความรู้สึกส่วนตัว
ถ้าให้จัดอันดับความชอบของนักเขียนไทย นักเขียนท่านนี้แหละค่ะ มาเป็นอันดับ 1 เลย สมัยเรียนวรรณกรรมอเมริกันเมื่อนานมาแล้ว มีอาจารย์ผู้สอนซึ่งเป็นชาวอเมริกันคนหนึ่งบอกว่านิยายที่อยู่ในระดับคลาสิกจริงๆจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือเมื่อผู้อ่านอ่านจบจะไม่ใช่จบเลย แต่จะทิ้งความรู้สึกบางอย่างให้ค้างคาอยู่ในใจเป็นวัน เป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือนเลยทีเดียว นิยายทุกเรื่องของ ม. มุธการี หรือในอีกนามปากกว่า เพชรน้ำค้าง ทำได้อย่างนั้นจริงๆค่ะ ไม่เคยมีเรื่องไหนของนักเขียนท่านนี้ที่อ่านจบแล้วก็จบเลย ความรู้สึกร่วมที่มีมันติดอยู่ในใจมาอีกนานมากกว่าจะเลือนหาย และส่วนมากก็เลือนหายไปได้เมื่อเอาเรื่องอื่นของนักเขียนท่านเดียวกันนี้มาอ่าน เพื่อที่ว่าความรู้สึกค้างคาของเรื่องนั้นจะเข้ามาแทนที่
ไร้แรงบิน นี่คิดว่าเป็นนิยายเรื่องที่ดีที่สุดอีกเรื่องของนักเขียนท่านนี้ ในเรื่องนี้ ม มธุการี ใช้เวลามากในการบรรยายบรรยากาศรอบบ้านใน Palm Springs ที่ศิลาอาศัยอยู่ บรรยายทั้งความงดงาม ความร้อน ความเงียบสงบ ความน่ากลัวในบางขณะ ความแล้ง บรรยายถึงสิงสาราสัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคืนรอบๆบ้าน จนมีความรู้สึกเหมือนเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่นั้นด้วยเลย เป็นการสร้างบรรยากาศแวดล้อมของตัวละครเอกอย่างศิลาได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยแทบจะไม่ต้องมีอะไรอื่นมาประกอบอีก เป็นตัวสะท้อนถึงบุคลิกของศิลา ว่าเป็นคนอย่างไร และชอบอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นเพราะอะไร เป็นการสร้างบุคลิกที่มีเสน่ห์ชวนหลงใหลของศิลาได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ
สรุปว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องในหลายๆเรื่องของ ม. มธุการี ที่เป็นนิยายในดวงใจ และจะอยู่ในดวงใจอีกนานเท่านาน เพราะคงยากที่จะหาเรื่องอื่นมาเทียบได้ (ในความรู้สึกส่วนตัวนะคะ)
Create Date : 18 กันยายน 2551 |
|
32 comments |
Last Update : 18 กันยายน 2551 7:53:48 น. |
Counter : 6085 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: จูนิตา IP: 202.149.24.161 18 กันยายน 2551 8:43:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ไก่ 18 กันยายน 2551 11:07:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: กุลธิดา (kdunagin ) 18 กันยายน 2551 23:40:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: กุลธิดา IP: 71.28.113.205 20 กันยายน 2551 3:10:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: พุดน้ำบุศย์ IP: 117.121.208.2 20 กันยายน 2551 7:44:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: teansri 24 กันยายน 2551 0:41:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: PenKa 25 กันยายน 2551 13:08:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: lala IP: 58.9.137.35 5 พฤศจิกายน 2551 5:55:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: lala IP: 58.9.137.35 5 พฤศจิกายน 2551 5:56:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: snt249 IP: 203.170.144.1 27 พฤศจิกายน 2551 17:41:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: แพน IP: 58.8.237.53 18 กรกฎาคม 2552 19:16:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: แพน IP: 58.8.237.53 18 กรกฎาคม 2552 19:27:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: น.นุ่น IP: 125.25.125.164 22 กรกฎาคม 2552 9:47:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: รอรอ IP: 125.26.109.177 2 กันยายน 2552 18:32:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: รอรอ IP: 58.147.27.166 18 ธันวาคม 2552 13:57:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: P IP: 124.121.152.238 2 มกราคม 2553 7:57:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชม IP: 203.185.131.233 1 กุมภาพันธ์ 2553 17:49:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: แสงเทียน IP: 180.180.34.164 6 มิถุนายน 2553 17:19:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: พพ IP: 113.53.102.50 4 ตุลาคม 2553 19:13:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: กุ๊ก IP: 110.49.205.58 14 ตุลาคม 2553 17:48:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: กุลธิดา IP: 205.186.32.2 19 ตุลาคม 2553 5:31:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: นิตยา IP: 110.49.205.185 12 กุมภาพันธ์ 2554 21:11:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: มดแดง IP: 110.168.185.113 16 มิถุนายน 2554 22:36:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: ssangtian@yahoo.co.th IP: 223.206.120.174 19 มิถุนายน 2554 14:31:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: เดือนจิรกาล IP: 58.181.145.2 2 กันยายน 2554 16:39:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: แฟนนิยาย IP: 101.51.23.77 10 มกราคม 2555 0:48:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: กิ่งนุ่นก้านเขียว IP: 101.109.182.23 29 กุมภาพันธ์ 2555 20:05:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: กอนาง IP: 1.4.177.161 24 มกราคม 2556 17:57:17 น. |
|
|
|
|
|
|
| บาเคอร์ | กุลธิดา | www.mebmarket.com | ราณียิ้มขมขื่น คำนั้นมีความหมายอย่างที่สุด บาเคอร์
วันพรุ่งนี้
ตามการออกเสียงของคนอิรัก เป็นสิ่งที่เธออยากเก็บไว้กับตัวแต่เพียงผู้เดียวตลอดไป
หรือจนกว่าจะได้พบเขาอีก เพราะนั่นคือคำสุดท้ายที่เขาบอกก่อนจะจากกันในเช้าวันนั้น ที่บ้านย่าของเขา และเธอกำลังร้องไห้แทบขาดใจ มีวันพรุ่งนี้เสมอนะราณี และเธอก็ยึดถือคำพูดนั้นของเขาเป็นสรณะนับแต่นั้นมา เป็นความหวังเดียวที่มี ว่าวันหนึ่งเธอและเขาจะได้พบกันอีก แม้อาจไม่ใช่ในโลกนี้ก็ตาม | |
|
|
|
|
|
|
|
|
เนื้อหาทำนองนี้เหมือนกันค่ะ เรื่องนี้นางเอกเป็นเด็กมีปัญหาแต่มีพ่อรวย พ่อส่งให้มาอยู่กับพี่ชายลูกครึ่ง(ลูกของเมียใหม่)ในอาฟริกา น่าสนใจเชียวค่ะมีเรื่องเกี่ยวกับสงครามกลางเมือง
นิยายของม.มธุการีอ่านได้เรื่อยๆไม่โดดเด่นล้ำเส้น แต่เมื่ออ่านแล้วมันฝังลึกมักจะนึกถึงเสมอ
ขอบคุณที่ย่อเรื่องให้อ่านค่ะพี่ไก่
อ้อ เพิ่งรู้นี่ละค่ะว่าเพชรน้ำค้างกับม.มธุการีเป็นคนเดี่ยวกัน