Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
20 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 

The Innocent Man - John Grisham

The Innocent Man: Murder and Injustice in a Small Town



ผลงานอันดับที่ 19 ของ John Grisham นักเขียนคนสุดโปรด เป็น non-fiction เรื่องแรกของเขา ที่จริงมีเล่มนี้อยู่ตั้งแต่เมื่อครั้งที่วางแผงใหม่ๆ คือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่มัวแต่อ่านนิยายไทย ก็เลยลืมไปเลย พอไปเห็นยังวางใหม่เอี่ยมอยู่บนชั้นหนังสือก็เอามาอ่าน และก็อ่านรวดเดียวจบแบบไม่วางเหมือนทุกเล่มของนักเขียนสุดเลิฟคนนี้

สนุกมากตามสไตล์ Grisham ซึ่งไม่เคยผิดหวังเลย แม้จะเปลี่ยนแนวเป็นเรื่องจริง เขียนในลักษณะ true crime ก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ชอบเกี่ยวกับนิยายทั้งหมดของ Grisham คือใช้สถานที่ที่คุ้นเคยค่ะ คือส่วนใหญ่จะเป็นเมืองในรัฐ Tennessee ที่ Grisham อาศัยอยู่ และตัวเองก็ไปบ่อย ก็เลยอ่านแล้วมองเห็นภาพ เล่มนี้เหตุการณ์เกิดที่เมือง Ada อ๊ะ! คุ้นอีกเพราะอยู่ใกล้เมือง Norman ในรัฐ Oklahoma สมัยเรียนหนังสืออยู่รัฐติดกันไปแถวนั้นบ่อย เวลาอ่านก็เลยมองเห็นภาพไปด้วย ยิ่งเมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดสมัยปี 1980 กว่าๆ ช่วงนั้นอยู่แถวนั้นพอดี

เล่มนี้เป็นคดีฆาตกรรมซึ่งตำรวจพุ่งความสนใจไปที่คนๆเดียวทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานมัดตัวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แถมก่อนเหยื่อถูกฆ่าตายก็มีคนเห็นว่าอยู่กับผู้ชายอีกคน แต่ในที่สุดตำรวจก็ยัดเยียดข้อหาให้คนที่ตำรวจสงสัยมาตลอด ถูกเอาตัวขึ้นศาลและตัดสินประหารชีวิต ติดคุกในฐานะนักโทษคอยประหารอยู่ 12 ปี มาพบเอาภายหลังว่าตำรวจเอาโทษผิดคน

Ron Williamson คือผู้โชคร้ายคนนั้น



ก่อนหน้าจะตกต่ำถึงขีดสุดและกลายเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย Williamson เป็นนักเบสบอลในทีมระดับชาติ แต่อุบัติเหตุและการใช้ชีวิตเสเพลทำให้ต้องเลิกเล่นเบสบอลและกลับบ้านที่ Ada กลายเป็นคนที่มีอาการซึมเศร้าและติดยา ต่อมาหมอวินิจฉัยว่ามีอาการของ bipolar disorder

คนตายคือ Debbie Carter



เรื่องเล่าตั้งแต่คืนวันที่มีคนเห็น Debbie Carter ไปเที่ยวบาร์ในคืนที่ถูกข่มขืนและฆ่าตาย แม้จะมีพยานรู้เห็นว่าในบาร์ Debbie อยู่กับผู้ชายอีกคนชื่อ Glen Gore และทั้งคู่มีปากเสียงกันเมื่อ Debbie กำลังจะกลับ แต่ตำรวจก็ไม่ได้เอาตัว Gore มาสอบปากคำ

ตามสไตล์ Grisham ซึ่งเป็นทนายความ พูดถึงการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ อธิบายสภาพที่เกิดเหตุละเอียดยิบ แสดงขั้นตอนการสืบสวน เรื่อยไปจนถึงการรวบรวมหลักฐานเพื่อเอาผิดกับ Ron Williamson

เหตุการณ์ในศาลเป็นอีกช่วงที่อ่านสนุกเหมือนนิยาย แต่ลึกๆแล้วน่าเศร้าเพราะเป็นเรื่องจริง เหมือนนั่งมองชีวิตของคนๆหนึ่งที่มีปัญหาทางจิตถูกยัดเยียดความผิดให้ แต่ทำอะไรไม่ได้ ประกอบกับสภาพทางประสาททำให้ควบคุมตัวเองไม่ได้ในบางครั้ง ผู้คนก็เลยคิดว่านายนี่ต้องผิดจริงแน่ๆ กว่าจะรู้ว่าผิดตัวก็ปาเข้าไป 12 ปี เกือบจะถูกประหารชีวิตไปก็ครั้งหนึ่ง ในปี 1994 อีก 5 วันถึงวันประหาร ทนายความกลุ่มหนึ่งรับช่วยเหลือ Williamson เพราะเชื่อแน่ว่าเขาบริสุทธิ์ วันที่ 24 กันยา 1994 ผู้พิพากษาสั่งระงับการประหารไว้ก่อน Williamson ถึงได้รอดมาได้ ปี 1998 Williamson ผ่านการทดสอบ DNA และผลออกมาว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีนั้นเลย วันที่ 15 เมษายน 1999 ถึงพ้นผิดออกมาได้อย่างสมบูรณ์

ในการสัมภาษณ์คราวหนึ่ง Grisham บอกว่า "One thing this book taught me is that there are a lot of innocent people in prison. I would hope that young lawyers want to help them."

เป็นหนังสืออีกเล่มของ John Grisham ที่พอเริ่มอ่านแล้ววางไม่ลงค่ะ ถึงแม้เล่มนี้จะเปลี่ยนแนวก็ตามนะคะ




 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2551
13 comments
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2551 8:26:57 น.
Counter : 2642 Pageviews.

 

อ่านแล้วน่าอ่านอย่างแรง

ชอบงานของ Grisham เหมือนกันค่ะ

อ่านแล้วก็..นะ

บางทีการตัดสินใคร หรืออะไรด้วยฉันทคติหรืออคตินี่มัน..เฮ้อ..จริงๆ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 20 พฤศจิกายน 2551 8:53:04 น.  

 

ดีใจจังค่ะ ที่ได้เจอแฟนของ Grisham อยากได้คำแนะนำน่ะค่ะ เคยอ่านของ Grisham ไป 2-3 เรื่องมีทั้งที่ชอบและไม่ชอบค่ะ (ชอบ The Brethern มากๆ ค่อนข้างชอบ The Firm และไม่ชอบ The Street Lawyer ค่ะ) จขบ.มีเรื่องแนะนำมั้ยคะ ถ้ามีเล่มที่แปลเป็นไทยแล้วจะดีมากเลยค่ะ

 

โดย: azzurrini 20 พฤศจิกายน 2551 21:03:40 น.  

 

non-fiction ของ Grisham น่าอ่านที่สุดเลยค่ะ

ช่วงดำเนินคดีในศาลคงลุ้นกันวางไม่ลงสไตล์Grishamแน่ๆ

อ่านบทสัมภาษณ์แล้วคิดว่าเขาน่าจะเขียนเรื่องช่วยผู้บริสุทธิ์ที่ติดคุกบ้างคงจะสนุก...เอ๊ะ รู้สึกจะเขียนแล้วใน A time to kill นี่

 

โดย: แอปเปิ้ลอบเชย (apple_cinnamon ) 21 พฤศจิกายน 2551 0:16:23 น.  

 

แนะนำให้อ่านอย่างแรงเลยค่ะคุณสาวไกด์ใจซื่อ ไม่ผิดหวังแน่ๆค่ะ

คุณ azzurrini คะ ชอบทุกเรื่องของ Grisham เลยค่ะ อาจมีชอบมากชอบน้อยนะคะ ที่ชอบมากที่สุด ตามลำดับ 3 เรื่องนะคะ คือ The Rainmaker, A Time to Kill แล้วก็ The Last Juror มีคนพูดถึงหนังสือของ Grisham ที่แปลเป็นไทยแล้วค่ะ ลองค้นดูเมื่อกี้ที่บล็อกนี้ค่ะ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=zhivago&month=04-2008&date=27&group=13&gblog=1

1 A Time to Kill (1989) ยุติธรรมอำมหิต (แดง ชารี สนพ. มีเดียโฟกัสบุคส์ - คู่แข่ง)
2 The Firm (1991) องค์กรซ่อนเงื่อน (ศ.เจริญ วรรธนะสิน สนพ. คู่แข่ง)
3 The Pelican Brief (1992) แฟ้มเขย่าทำเนียบขาว (สันติ อิศโรวุธกุล สนพ. คู่แข่ง)
4 The Client (1993) พยานตัวแสบ (สมพล สังขะเวส สนพ. คู่แข่ง)
5 The Chamber (1994) นาทีประหาร (ไตรภพ สนพ. คู่แข่ง)
6 The Rainmaker (1995) หักเขี้ยวเสือ (แดง ชารี สนพ. คู่แข่ง)
7 The Partner (1997) เงาล่ามรณะ (วลีพร หวังซื่อกุล สนพ. นานมีบุคส์)
8 The Street Lawyer (1998) ทนายข้างถนน (วิมล กมลตระกูล สนพ. นานมีบุคส์)
9 The Testament (1999) ทายาทพินัยกรรม (ธันวารินทร์ สนพ. นานมีบุคส์)
10 The Brethren (2000) แผนซ้อนกล ปิยดา (ปิยะมาลย์มาศ สนพ. นานมีบุคส์)
11 The Summons (2002) หมายเรียก (นิติกร สนพ. นานมีบุคส์)
12 The Last Juror (2004) ลูกขุนคนสุดท้าย (ผจงจินต์ สันตพงศ์ สนพ. นานมีบุคส์)
13 The Broker (2005) ถล่มแผนสังหาร (สุดจิต ภิญโญยิ่ง สนพ. นานมีบุคส์)

จากที่คุณเจ้าของบล็อกนั้นบอกไว้ ทั้ง 3 เรื่องนั้นแปลเป็นไทยแล้วค่ะ

ช่วงในศาลสไตล์ Grisham เลยค่ะคุณแอปเปิ้ล แถมเขาเป็นทนายความเองด้วย ก็เลยใส่รายละเอียดอะไรต่ออะไรได้เยอะ ช่วยให้อ่านแล้วยิ่งสนุกค่ะ

 

โดย: กุลธิดา IP: 206.74.241.93 21 พฤศจิกายน 2551 6:38:48 น.  

 

ตามลิสต์ 13 เล่มข้างบนนั่น แม่ไก่อ่านไป 8 เล่มค่ะ ทั้ง ๆ ที่บอกว่าไม่ค่อยชอบ Grisham เท่าไหร่นะเนี่ย (เมื่อเทียบกับนักเขียนแนว ๆ เดียวกันคนอื่น ๆ แหะ ๆ )

แต่เล่มที่เป็น non fiction แบบนี้น่าสนมาก ๆ เพราะระยะหลังเริ่มเบื่อมุขซ้ำ ๆ ของ Grisham ใน fiction บ้างแล้วอ่ะค่ะ

แฟน ๆ Grisham อย่าถล่มอิฉันนะคะ

 

โดย: แม่ไก่ 26 พฤศจิกายน 2551 10:55:01 น.  

 

แวะมาเยี่ยมค่ะ สำหรับ John Grisham คนนี้เพื่อนโณชอบค่ะ ไม่รู้ว่าเขาเคยอ่านเรื่องนี้รึยังนะคะ ไว้จะลองถามๆ ดูค่ะ

 

โดย: ไกลนั้น 28 พฤศจิกายน 2551 17:49:43 น.  

 

จะเรียกว่าตัวเองเป็นนักอ่านได้มั๊ย ถ้าไม่เคยอ่านงานของGrisham เหอะๆ..

ส่วนตัวไม่ค่อยถูกกับหนังสือแนวที่เท่าไหร่..ชอบดูเป็นภาพยนตร์มากกว่า มันเห็นบุคลิก ท่าทาง สีหน้า การแสดงออก ได้ชัดเจนกว่า(รึป่าว?) อิอิ


ปล. ไม่ต้องไปมองไกล เมืองไทยก็มีเยอะครับ เรื่องยัดเยียดข้อหาแบบนี้ ตำรวจอย่างเร่งปิดคดี..เมื่อวานฟังงานเสวนา สิทธิพลเมืองเน็ต ก็มีhost บางคนถูกจับเข้าซังเต แบบไม่เป็นธรรมเหมือนกัน..

 

โดย: Tentty 3 ธันวาคม 2551 9:04:28 น.  

 

ชอบแนวนี้เหมือนกันค่ะ แต่ละเล่มกว่าจะอ่านจบ ใช้เวลาหลายวันค่ะ เพราะภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงค่ะ อิอิ

 

โดย: teansri 5 ธันวาคม 2551 3:25:55 น.  

 

ชอบหนังสือของ John Grisham เหมือนกันค่ะ ติดตามสะสมซื้อและอ่านแทบทุกเรื่อง แต่จะชอบเรื่องที่เขาเขียนเล่มแรกๆสมัยที่เขาเป็นนักเขียนใหม่ในวงการน่ะค่ะ Top 5 ที่ดิฉันชอบคือ A Time to Kill, The Pelican Brief, Runaway Jury, The Client, The Firm หนังสือที่ออกมาช่วงสี่ห้าปีหลังๆนี้ อ่านแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยเจ๋งเหมือนแต่ก่อนเลย แต่ก็ยังชอบอ่านของเขาอยู่ดี :p

ส่วนที่บอกว่า Grisham นั้นอาศัยอยู่ที่ Tennessee ก็เลยใช้สถานที่ในรัฐ Tennesse เป็นเซ็ทติ้งของนิยายนั้น คิดว่าน่าจะเป็นรัฐ Mississippi มากกว่านะคะ เพราะถ้าจำไม่ผิด Grisham อาศัยอยู่ที่ Mississippi เซ็ทติ้งของนิยายของเขาส่วนใหญ่ก็เลยใช้สถานที่ในรัฐ Mississippi เสียส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าสถานที่เช่น ชื่อเมือง หรือ ชื่อเขต county นั้นจะเป็นชื่อสมมุติขึ้นมาก็ตาม แต่ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากสถานที่จริงที่เขารู้จัก แถมเขาเองก็เป็นศิษย์เก่าของ Mississippi State U. ด้วย

มีนิยายของเขาไม่กี่เรื่องที่มีเซ็ทติ้งที่ไม่ใช่รัฐ Mississippi ค่ะ เท่าที่จำได้ก็เช่น Pelican Brief (New Orleans, Louisiana), The Firm (Memphis, Tennessee), The Client (Tennessee & Louisiana)

ส่วนงานเขียน Non-Fiction ของเขานั้น ดิฉันเองยังไม่เคยได้มีโอกาสอ่านค่ะ แต่ก็อยากจะลองอ่านดูเหมือนกัน ขอบคุณนะคะที่แนะนำเรื่อง The Innocent Man มาให้ลองอ่านดูค่ะ :)

 

โดย: fishbud IP: 66.169.119.158 7 ธันวาคม 2551 16:18:25 น.  

 

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=blueteardrop

มาส่งความสุขค่ะ รบกวนไปรับพรปีใหม่แต่เนิ่นๆนะคะ

 

โดย: teansri 8 ธันวาคม 2551 6:10:40 น.  

 

ขอบคุณค่ะคุณfishbud ที่ทักเรื่องรัฐ พิมพ์ไปว่า Tennesse จริงๆด้วยค่ะ ชักจะก๋งก๊งแล้ว จริงๆควรเป็น Mississippi นะคะ

ยังเป็นแฟน Grisham เหนียวแน่นอยู่ค่ะคุณแม่ไก่ ถึงเรื่องหลังๆของเขาจะเริ่มซ้ำๆแล้วนะคะ

แนะนำให้เพื่อนอ่านนะคะน้องโณ เล่มนี้สนุกค่ะ แหวกแนว Grisham ไปเลย

แนวนี้ที่เป็นนิยายหรือที่เขียนในลักษณะนี้มีการบรรยายบุคลิก การแสดงออกทางสีหน้าท่าทางด้วยนะคะคุณ Tentty มีความรู้สึกว่าจินตนาการตามไปได้ด้วย ที่เป็น non-fiction ลักษณะนี้ก็มีรูปประกอบด้วยค่ะ

ขอบคุณน้องเทียนสีสำหรับคำอวยพรปีใหม่ค่ะ

 

โดย: กุลธิดา IP: 206.74.241.33 11 ธันวาคม 2551 4:01:03 น.  

 

พี่ไก่ค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ที่แวะไปอวยพรวันเกิดย้อนหลังค่ะ ยีนส์ก็ขออวยพรวันครบรอบแต่งงานย้อนหลังให้พี่และแฟนด้วยนะคะ ขอให้พี่และแฟนมีความสุขมาก ๆ ค่ะ

บริษัทยีนส์แจ้งข่าวให้ทราบก่อนวันขอบคุณพระเจ้าค่ะ สรุปแล้วบริษัทจะปิดปลายเดือนนี้ หรืออย่างช้าก็กลางมกราคมปีหน้าค่ะ ตอนนี้ยีนส์และเพื่อน ๆ ได้เป็นหนึ่งในจำนวนคนเป็นล้านที่ตกงานในอเมริกาค่ะ

สองสามอาทิตย์นี้บริษัทน้ำสินค้ามาลดเยอะเลยคะ ยีนส์รบกวนขอไซต์กางเกงยีนพี่ใหม่ได้ไหมคะ เอาแบบขนาดเอวและยาวนะคะ เช่น 28 x32 ประมาณนี้นะคะ เพราะจะได้เลือกถูกค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

พี่ไก่รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ไว้ว่าง ๆ จะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ

หนังสือข้างบนของ Grisham เคยอ่านเล่มเดียวค่ะ กว่าจะจบก็ปาไปหลายเดือนเลยค่ะ อิอิ ช่วงนี้ปั่นนิยายเรื่องเดียวเท่านั้นค่ะ คิดถึงเสมอนะคะ

 

โดย: roslita 12 ธันวาคม 2551 11:28:34 น.  

 

สวัสดีค่า เป็นแนวสืบสวนหรอคะ...
จะอ่านภาษาอังกฤษออกมั้ยหว่า ท่าทางศัพท์สำนวนจะยาก^^"

ไว้ไปE-book หรือ ภาษาไทยมาอ่านก่อน

ขอบคุณที่แนะนำค่ะ ^^

 

โดย: Lavinia 15 ธันวาคม 2551 20:25:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kdunagin
Location :
South Carolina United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




จำหลักไว้ในสายลม
กุลธิดา
www.mebmarket.com
แม้เป็นรักที่แอบเร้น หากก็ขออย่าเลือนไปกับสายลม
บาเคอร์
กุลธิดา
www.mebmarket.com
ราณียิ้มขมขื่น คำนั้นมีความหมายอย่างที่สุด บาเคอร์…วันพรุ่งนี้…ตามการออกเสียงของคนอิรัก เป็นสิ่งที่เธออยากเก็บไว้กับตัวแต่เพียงผู้เดียวตลอดไป…หรือจนกว่าจะได้พบเขาอีก เพราะนั่นคือคำสุดท้ายที่เขาบอกก่อนจะจากกันในเช้าวันนั้น ที่บ้านย่าของเขา และเธอกำลังร้องไห้แทบขาดใจ ‘มีวันพรุ่งนี้เสมอนะราณี’ และเธอก็ยึดถือคำพูดนั้นของเขาเป็นสรณะนับแต่นั้นมา เป็นความหวังเดียวที่มี ว่าวันหนึ่งเธอและเขาจะได้พบกันอีก แม้อาจไม่ใช่ในโลกนี้ก็ตาม
Friends' blogs
[Add kdunagin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.