Group Blog
ตุลาคม 2551

 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
*****เมื่อไม่สบาย จะสาธยายเป็นภาษาอังกฤษว่ายังไงดี?*****
สืบเนื่องจากตอนที่แล้ว เราว่ากันด้วยโรคภัยไข้เจ็บไปพอสมควร แต่ยังมีชื่อโรคหรืออาการเจ็บป่วยอีกมากมายเลยครับที่ยังไม่ได้กล่าวถึง จึงอยากจะมาว่ากันต่อเลยดีกว่า

เริ่มจาก “เป็นลม” ในภาษาอังกฤษใช้ว่าอะไรดี?

คุณอย่าไปแปลจากไทยเป็นอังกฤษตรงตัวว่า “I’m the wind.” นะ ฝรั่งคงงง เพราะฝรั่งเค้าใช้คำกิริยาว่า “faint (เฟ้นท์)” เช่น

It was hot and crowded, and several people fainted.
มันทั้งร้อนและมีคนเบียดเสียดกันเยอะมาก เลยมีหลายคนเป็นลม

แต่ถ้าใช้วลีที่ว่า “I nearly/almost fainted” อาจจะไม่ได้แปลตรงๆ ว่า ฉันเกือบจะเป็นลมจริงๆ หรอกครับ แต่เป็นภาษาพูดที่แสดงถึงความประหลาดใจมากกว่า ต้องดูความหมายที่เข้ากับสถานการณ์เป็นหลัก เช่น

I nearly fainted when they told me the price.
ฉันประหลาดใจมากเมื่อเค้าบอกราคากับฉัน (แพงอย่างเหลือเชื่อ)

ซึ่งในภาษาไทยเองเรายังมีการพูดกันเล่นๆ เลยว่า รู้ราคาแล้วอยากจะเป็นลม (แพงหูฉี่) ไม่รู้ว่าคนไทยหรือฝรั่งคิดสำนวนนี้ก่อนกันนะครับ

นอกจากคำว่า faint ที่ใช้เป็นกิริยาแล้ว ยังสามารถใช้เป็นคำคุณศัพท์ได้เช่นกัน อาทิเช่น

The heat made him feel quite faint.
ความร้อนทำให้เขาเกือบจะเป็นลม,

I was faint with hunger.
ฉันเป็นลมเพราะหิวจัด

แถมให้อีกคำที่แปลว่าเป็นลมเช่นกัน อาจจะใช้คำว่า “pass out” ก็ได้ เช่น

I nearly passed out when I saw all the blood.
ฉันเกือบจะเป็นลมเมื่อเห็นเลือดทั้งหมด

แต่ขอเตือนว่าอย่าจำสับสนไปใช้คำว่า “pass away” นะครับ เพราะมันแปลว่า “ตาย” เดี๋ยวจะสื่อความหมายผิดไปจากเป็นลมเฉยๆ กลับเป็นตายไปได้ซะนี่

เมื่อกล่าวถึงการเป็นลม ก่อนเราจะเป็นลม อาจจะมีอาการวิงเวียน ซึ่งในภาษาอังกฤษคือ “dizzy (ดิซซี่)” เป็นคำคุณศัพท์ มักจะวางไว้หลังคำว่า feel เช่น

If you feel dizzy or short of breath, stop exercising immediately.
ถ้าคุณรู้สึกวินเวียนและหายใจไม่ทัน(เหนื่อยหอบ) ให้หยุดออกกำลังกายทันที

แต่ถ้ามีอาการคลื่นเหียนอยากจะอาเจียน เราจะใช้คำคุณศัพท์ที่ว่า “nauseous (นอซีอัส)” ส่วนอาเจียน เป็นคำกิริยาใช้ว่า “vomit (วอมิท)” หรือ “throw up (โธร-อัพ)” ก็ได้ ตัวอย่างเช่น

I felt slightly nauseous.
ฉันเริ่มจะรู้สึกคลื่นเหียนอยากจะอาเจียน,

He had swallowed so much sea water so he wanted to vomit/throw up.
เขากลืนน้ำทะเลเข้าไปเยอะจนอยากจะอ้วกออกมา

ส่วนผู้หญิงที่อาเจียนเพราะแพ้ท้อง เราจะเรียกอาการดังกล่าวว่า “to have morning sickness” เช่น

She has morning sickness.
เธอมีอาการแพ้ท้อง

ส่วนอาการอื่นๆ ที่อยากนำมาเสนอ ก็มีเช่น เวลาคุณไปกินบุฟเฟ่ต์แล้วสวาปามมากเกิน (กลัวไม่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป) ทำให้เกิดอาการแน่น เราจะใช้คำคุณศัพท์ว่า “bloated (โบรธ-ทิด)”

I feel really bloated. I wish I hadn't eaten so much.
ฉันรู้สึกแน่นจริงๆ ไม่น่าจะกินมากขนาดนั้นเลย (เรามักจะเพิ่งนึกได้ตอนสายไปซะแล้ว คือกินไปหมดแล้ว)

บางอาการมักจะใช้เป็นกิริยาเติม ing มีดังต่อไปนี้

- I’m coughing. (คอฟ-ฟิ่ง) ฉันกำลังไอ
- I’m sneezing. (สนีซ-ซิ่ง) ฉันกำลังจาม
- I’m wheezing. (วีซ-ซิ่ง) ฉันกำลังหายใจลำบาก
- I’m burping. (เบิร์พ-พิ่ง) ฉันกำลังเรอ
- I’m bleeding. (บลีด-ดิ้ง) เลือดกำลังไหลอยู่

บางอาการมักจะใช้เป็นกิริยาช่อง 2 เพราะเป็นเหตุการณ์ในอดีต โดยเวลาจะใช้ ให้ใช้รูปประโยคคือ

ประธาน + กิริยาช่อง 2 + คำแสดงความเป็นเจ้าของ เช่น my, his, her ฯลฯ + อวัยวะที่บาดเจ็บ เช่น

- cut cut (คัท) ทำมีดบาดหรือของมีคมบาด เช่น I cut my finger quite badly. It’s bleeding. ฉันโดนมีดบาดค่อนข้างรุนแรง ยังเลือดไหลอยู่เลย

- hurt hurt (เฮิร์ท) ทำให้บาดเจ็บ เช่น He hurt his knee playing football. เข่าของเขาได้รับบาดเจ็บระหว่างการเล่นฟุตบอล

- break broke (โบรค) ทำให้หัก, แตก เช่น She fell downstairs and broke her hip. เธอตกลงมาชั้นล่างทำให้สะโพกเธอหัก

- burn burnt/burned (เบิร์นท์หรือเบิร์นด์) ทำให้ลวก, ไหม้ เช่น I burned my hand on the oven door. มือของฉันลวกเพราะไปโดนที่เปิดเตาอบ(ขณะร้อน)

- bruise bruised (บรูซท์) ทำให้เป็นแผลถลอก เช่น She fell off her bike and bruised her knee. เธอตกลงมาจากจักรยานและเข่าของเธอถลอก

- scrape scraped (สเคร้พท์) ทำให้เป็นรอยด้วยการถู เช่น I scraped my knee painfully on the concrete. เข่าของฉันไปครูดกับคอนกรีต

- scratch scratched (สแคร้ชท์) ทำให้เป็นรอยข่วน เช่น John scratched his leg. ขาของจอห์นเป็นรอยข่วน

- sprain sprained (สเปรนด์) ทำให้เคล็ด เช่น I fell down the steps and sprained my ankle. ฉันตกลงมาจากขั้นบันไดทำให้ตาตุ่มของฉันเคล็ด

- dislocate dislocated (ดิสโลเคททิด) ทำให้เคลื่อน เช่น I dislocated my shoulder playing football. ไหล่ฉันเคลื่อนตอนที่เล่นฟุตบอล

- twist twisted (ทวิซทิด) ทำให้บิด เช่น Stefan slipped on the stairs and twisted her ankle. สเตฟานลื่นไถลลงมาจากบันไดทำให้ตาตุ่มบิดไป

เมื่อเร็วๆ นี้ มีน้องคนหนึ่งถามผมว่า “เหน็บชา” ในภาษาอังกฤษเค้าเรียกว่าอย่างไร? ผมเห็นว่าน่าสนใจดี เลยอยากเอามาเล่าให้อ่านกัน คำตอบที่ง่ายสุดที่คุณอาจจะคาดไม่ถึงทั้งๆ ที่รู้คำศัพท์นี้อยู่แล้วคือคำว่า “asleep (แอส-สลีพ)” เป็นคำคุณศัพท์ ที่เราแปลว่า หลับไป นั่นแหละครับ ซึ่งเวลาเรานั่งนานๆ โดยไม่ได้เปลี่ยนอิริยาบถ ก็มักจะเป็นเหน็บชา เพราะขาดวิตามินบี ต้องกินข้าวกล้องบ่อยๆ ลองดูตัวอย่างประโยค เช่น

My left leg is asleep.
ขาข้างซ้ายของฉันเป็นเหน็บ

แต่ถ้าอยากจะใช้คำศัพท์ที่ยากขึ้นไป ก็มีสำนวนหนึ่งมาเสนอครับ คือใช้ว่า “to get pins and needles” เช่น

I'll have to move because I'm starting to get pins and needles in my foot.
ฉันจะต้องขยับแล้วหล่ะเพราะเท้าของฉันเริ่มจะเป็นเหน็บแล้ว

พูดถึงอาการชา บางทีเราชาเพราะความหนาวเหน็บหรือเพราะฤทธิ์ของยาชา อาการชาแบบนี้เราจะใช้คำว่า “numb (เป็นคำคุณศัพท์ อ่านว่า นัม ไม่ต้องออกเสียงตัว b นะครับ)” เช่น

My fingers were so numb. I could hardly write.
นิ้วของฉันชาจนฉันเขียนไม่ได้เลย,

The anaesthetic (อ่านว่า แอนเนอเธติค) made his whole face go numb.
หน้าของเขาชาเพราะฤทธิ์ของยาชา (ไม่ได้โดนตบแต่อย่างใด)

แล้วเจอกันใหม่ในตอนหน้านะครับ



Create Date : 03 ตุลาคม 2551
Last Update : 3 ตุลาคม 2551 21:55:55 น.
Counter : 87312 Pageviews.

14 comments
  
แวะมาอ่านดูทบทวนความรู้ค่ะ

เจอคำที่ไม่ค่อยได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ที่เกือบ ลืมๆ ไปแล้วหลายคำเลยค่ะ
โดย: Chini วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:1:35:33 น.
  
ขอบคุณมากๆค่ะ ครูเฟียต
ได้ความรู้มากมายจากบล๊อคของครูค่ะ โดยเฉพาะอาการต่างๆที่เราเป็นเมื่อเราไม่สบาย บางครั้งหาจากดิกฯแล้ว ก็ยังไม่ทราบว่าใช้ถูกต้องหรือเปล่า เพื่อที่จะอธิบายให้หมอเข้าใจอาการที่เราเป็น ดีและมีประโยชน์มากๆเลยค่ะ ที่ได้เข้ามาอ่านในบล๊อคของครูแล้วสามารถนำไปใช้ได้เลยค่ะ

ขอรบขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ตอนนี้ได้ลงเรียนภาษาอังกฤษสำหรับคนต่างชาติที่นี่(สก๊อตแลนด์) ได้ซื้อหนังสือประกอบการเรียนมาเล่มหนึ่ง คือ A-Z of English Grammar ของ Longman แต่อยากจะได้เป็นภาษาไทยด้วยค่ะ ที่ขายในเมืองไทย เพราะคิดว่าจะทำให้เราเข้าใจดีขึ้น (จะกลับเมืองไทยธันวานี้ค่ะ)ไม่ทราบว่าครูจะแนะนำเล่มไหน และของใครดีค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
โดย: ไอริน (กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน ) วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:14:11:18 น.
  
ไม่ทราบว่าคุณไอรินอยากจะฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษทางด้านไหน? พูด ฟัง อ่านหรือเขียน จากหนังสือ A-Z of English Grammar ของ Longman ที่คุณซื้อมา แสดงว่าอยากจะฝึกแกรมม่าร์ใช่ไหมครับ เล่มที่คุณซื้อมาก็ดีมากเล่มหนึ่งนะครับ ปกติหนังสือของ Longman จะมีคุณภาพดี ศึกษาง่าย ถ้าให้แนะนำหนังสือ grammar ทีเป็นภาษาไทย ผมขอแนะนำ

1) Chartbook สรุปหลักไวยากรณ์อังกฤษ 1 Fundamentals of English Grammar
โดย Betty Schrampfer Azar
บุญฤทธิ์ ตังคะกาญจน์ แปลและเรียบเรียง

2) Chartbook สรุปหลักไวยากรณ์อังกฤษ 2 Understanding and Using English Grammar
โดย Betty Schrampfer Azar
บุญฤทธิ์ ตังคะกาญจน์ แปลและเรียบเรียง

ทั้งสองเล่มเป็นของ Longman ที่อธิบายเป็นภาษาไทย เข้าใจง่าย ชัดเจน แถมยังราคาถูกกว่า original version ที่เป็นภาษาอังกฤษอีก ราคาประมาณ 135 บาท ผมซื้อที่ศูนย์หนังสือจุฬาครับ ลองหาดูนะครับ
โดย: Kru FIAT (KruFiat ) วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:21:48:46 น.
  
ขอพระคุณมากค่ะ ครูเฟียต สำหรับหนังสือที่คุณแนะนำ เอาไว้กลับเมืองไทยแล้วจะไปซื้อค่ะ
ราคาถูกกว่ามากเลยค่ะ ดิฉันเองก็คิดเอาไว้แล้วว่าหนังสือคู่มือที่แปลแล้วที่เมืองไทยราคาถูกกว่ามากๆ ที่นี่เล่มละ 1428 บาท ลดเหลือ สำหรับสมาชิก 1088 บาท
แต่ติวเตอร์แนะนำให้ซื้อเล่มที่มีแบบฝึกหัดให้ทำพร้อมทั้งคำเฉลยค่ะ
แต่หนังสือที่ใช้ประกอบการดรียนก็มีแบบฝึกหัดให้ทำพร้อมทั้งคำเฉลยท้ายเล่มอยู่แล้ว เลยไม่สนใจที่จะซื้อ สู้ซื้อ A-Z ฯไม่ได้ค่ะ

ถูกต้องแล้วค่ะ ตอนนี้เรียนเกี่ยวกับการใช้แกรมม่า เหมือนกับที่เคยเรียนสมัยมัธยมค่ะ แต่เรียนที่นี่ เราต้องใช้สมาธิในการฟังอย่างมาก เพราะมันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เหมือนกับการทบทวนสิ่งที่เราเคยเรียนมาแล้ว แล้วเรียนแค่สัปดาห์ละ 2 วันๆละ 2 ชั่วโมง อ่ะค่ะ รู้สึกเวลาเรียนน้อยเกินไป เลยทำให้เราต้องกลับมาทำการบ้านอย่างหนัก ค้นคว้าด้วยตัวเองมากขึ้น แต่ก็ดีค่ะ ที่เราเคยเรียนผ่านมาแล้ว ไม่งั้นคงแย่และเกิดอาการท้อ ไม่อยากเรียน คิดว่าจบคร์อสนี้แล้วก็จะเรียนต่อขั้นต่อไปค่ะ
โดย: ไอริน (กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน ) วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:20:22:13 น.
  
เพื่อนๆคะเราอยากได้ตัวอย่างการทำโครงงานภาษาอังกฤษ อาจจะเป็นเกี่ยวกับการเขียนจดหมายถึงเพื่อน หรือการใช้ Tense อะไรประมาณนี้ ใครมีคำแนะนำแะไรดีๆบ้างคะ
โดย: พริกไทย IP: 217.87.43.231 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:18:16:31 น.
  
The emotion of fear set off many change in crisis circumstance .When you become to frightened, you breath more deeply , avoid to the the way of shooting , your heart beat more powerfully so that your blood circulates faster when you are campange in PAD protest...lol

your face become pale because the tiny blood vessels shrink under the skin so that less blodd would be less bleeding from wound .The pupils of your eyes enlarge and be aware to bomb , you might perfomr great feast of strength in this condition, so you nkow the emotion of fear has a very strong effect on the body and that why im stay at home and not go out to co -operate with the protest cause of im much fear and massive of fear... lol ( ha ha ha)

Lastly , you now knowing how to discribe when you are ไม่สบาย...

โดย: . IP: 124.120.7.217 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:21:14:20 น.
  
ขอบคุณน้าคร้า


ที่ให้ความรู้เพิ่มเติม


จัยจิงๆน้า


ปายแระบายคร้าาาาาาาา

โดย: ปุยฝ้าย IP: 124.121.125.231 วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:23:33:46 น.
  
แวะมาเรียนค้า...

ขอบคุณนะคะ
โดย: HoMMePs วันที่: 23 ตุลาคม 2551 เวลา:2:08:44 น.
  
รครีร
โดย: ครี่ IP: 117.47.164.133 วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:10:07:51 น.
  
Kru FIAT อธิบายเข้าใจง่ายนะค่ะ อยากเรียนภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่ายๆ เน้นการสื่อสารพูดแล้วเข้าใจ ต้องทำอย่างไร เรียนที่ไหนดีค่ะ โดยพื้นฐานพอได้แบบเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ไม่ดีนัก รบกวนแนะนำได้ไหมค่ะ
e-mail: nestum1122@yahoo.com
โดย: tum IP: 222.123.164.27 วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:12:07:57 น.
  
ขอบคุณสำหรับ English Grammar ดีๆครับ
โดย: คุณ โตน วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:15:16:09 น.
  
ดีมากๆ ขออนุญาติแชร์นะค่ะ
โดย: Natty IP: 27.55.145.123 วันที่: 27 มิถุนายน 2557 เวลา:10:04:45 น.
  
ดีมากๆเลยค่ะได้รู้ภาษาอีกเยอะเลย

โดย: ปวีณ์นุช IP: 37.59.6.32 วันที่: 2 มกราคม 2559 เวลา:4:42:51 น.
  
สวัสดี,

เราอยู่ที่นี่อีกครั้งเพื่อซื้อไตสำหรับผู้ป่วยของเราและพวกเขาได้ตกลงที่จะจ่ายเงินที่ดีของเงินให้กับทุกคนที่ต้องการบริจาคไตเพื่อบันทึกพวกเขาและดังนั้นหากคุณสนใจที่จะเป็นผู้บริจาคหรือคุณต้องการที่จะช่วยชีวิต, คุณจะกรุณาเขียนเราทางอีเมลด้านล่าง

นี่เป็นโอกาสสำหรับคุณที่จะร่ำรวยได้เรารับประกันและรับประกันการทำธุรกรรมกับเราได้ 100% ทุกอย่างจะทำตามกฎหมายที่กำหนดให้ผู้บริจาคไต
เสียเวลามากขึ้นกรุณาเขียนเราเกี่ยวกับ irruaspecialisthospital20@gmail.com

โรงพยาบาลสอนพิเศษ Irrua
โดย: Rex Kelvin IP: 113.53.228.78 วันที่: 28 กรกฎาคม 2560 เวลา:13:41:54 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

KruFiat
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 304 คน [?]



ครูเฟียต ธีรเจต บุญพยุง
"หากคุณพูดภาษาไทยได้ คุณก็ควรจะพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการเรียนรู้ภาษาด้วยวิธีธรรมชาติเหมือนกัน"
ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook 4| | | ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook | | |3