Group Blog
All Blog
|
***ตัวอย่าง 10 บทจากหนังสือ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" โดยครูเฟียต (ตอน1)*** วันนี้ผมนำตัวอย่าง 10 บทจากหนังสือของผมที่ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มาฝากกันครับ หนังสือมีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศแล้ว (ร้านซีเอ็ด ร้านนายอินทร์ ร้าน B2Sร้าน Kinokuniya ฯลฯ) ในหมวดภาษา หากหาไม่เจอ ให้นำรูปถามคนขายได้เลยครับ นอกจากท่านจะได้ทั้งความสนุกจากการอ่านจนแทบวางไม่ลงแล้วท่านจะได้รับทั้งความรู้ เทคนิคเจ๋งๆ แรงบันดาลใจ ไฟลุกโชนหลังจากการอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างแน่นอนครับ รับประกันคุณภาพทุกตัวอักษรครับ บทที่ 2 เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้คุณเก่งเหมือนคนจบนอก จากข้อสงสัยที่ผมมีมาโดยตลอดว่า... ทำไมคนที่ไปเรียนนอกส่วนใหญ่จึงมีทักษะภาษาอังกฤษดีกว่าคนไทยที่อยู่ในเมืองไทย? แล้วคนไทยอย่างเราจะทำอย่างนั้นบ้างได้มั้ย? ทำได้สิครับ ...ผมทำได้มาแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน คุณก็ต้องทำได้เช่นกัน และข่าวดีคือ...ยิ่งสมัยนี้ทำได้ง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะ วิธีการนี้เราเรียกว่า immersion คือการที่เราอยู่ในสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เราต้องใช้ภาษาอังกฤษ คุณสามารถเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณจากไทยๆ ให้กลายเป็นฝรั่งได้เช่น - เปลี่ยนจากดูละครไทยไปดูซีรี่ส์ฝรั่งแทนดูหนังฝรั่ง คลิปของฝรั่งใน YouTube - ฟังเพลงฝรั่งแทนเพลงไทย - ฟังวิทยุคลื่นที่ฝรั่งจัดรายการ - คุยกับเพื่อนสนิทหรือคุยกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ - อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ฯลฯ ถ้าคุณปรับนิสัยใหม่ให้ตัวเองได้คลุกคลีอยู่กับภาษาอังกฤษบ่อยๆ
รับรองว่าทักษะภาษาอังกฤษของคุณพัฒนาดีขึ้นได้อย่างแน่นอนครับ บทที่ 5 ใจ กับ วิธีการ อันไหนสำคัญกว่ากัน? บทนี้สำคัญมากๆและเกิดจากข้อสงสัยของผมมาโดยตลอดของการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษมากว่า 13 ปี สิ่งที่ผมสงสัยคือ ผมสอนภาษาอังกฤษมาเป็นร้อยเป็นพันคน แต่ทำไมลูกศิษย์ผมแต่ละคนจึงประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน? บางคนไม่สำเร็จ ในขณะที่บางคนก็สำเร็จอย่างน่าทึ่ง เช่น เปลี่ยนสำเนียงเป็นฝรั่งได้ภายใน 6 สัปดาห์ ทั้งๆ ที่ ผู้เรียนก็เรียนอยู่ใน class เดียวกันได้ยินผมสอนด้วยประโยคเดียวกันเลยนะ สุดท้าย...ผมขอสรุปแบบรวบรัดเลยว่า...อยู่ที่ ใจผู้เรียนเป็นหลักเลยครับ คนสำเร็จ คือ คนที่มี ใจ พร้อมที่จะสำเร็จ ต่อให้ผมมีวิธีการขั้นเทพที่จะทำให้คนไทยทุกคนเก่งภาษาอังกฤษได้จริงก็ตาม แต่หาก ใจ ของผู้เรียนยังไม่พร้อมที่จะ สำเร็จต่อให้เค้ารู้วิธีการก็ยากที่จะสำเร็จได้อยู่ดีครับ เหมือนการลดความอ้วนเลยนะ ใครๆ ก็รู้วิธีการลดความอ้วนคือต้องควบคุมอาหารกับออกกำลังกาย แต่มีน้อยคนที่จะลดความอ้วนได้สำเร็จอยู่ดี เพราะ ใจของแต่ละคนมีความพร้อมที่จะสำเร็จในระดับที่แตกต่างกันนั่นเอง ในบทนี้ ผมอยากเน้นให้เห็นความสำคัญของ ใจ ผู้เรียนภาษาอังกฤษ ถ้าใจคุณพร้อม เดี๋ยววิธีการตามมาเองครับ
แต่ถ้าใจคุณยังไม่พร้อม ต่อให้มีวิธีการขั้นเทพคุณก็จะยังไม่สำเร็จอยู่ดี บทที่ 7 ภาษาอังกฤษ ยิ่งผิด ยิ่งเก่ง คนไทยเรามักโดนปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กในเรื่องผิด ถูก จากการทำข้อสอบ ไม่เว้นแม้แต่ภาษาอังกฤษ แต่ในเรื่องของภาษาพูดที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน มันไม่ได้ซีเรียสมากขนาดว่า ห้ามผิด เด็ดขาดนะครับ ก็ขนาดภาษาไทยที่เราใช้มาตั้งแต่เกิด ทุกวันนี้เรายังพูดผิดอยู่เลย แล้วนับประสาอะไรกับภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ภาษาพ่อ ภาษาแม่เราด้วยซ้ำ โอกาสผิดยิ่งมีสูงกว่าภาษาไทยอยู่แล้ว ถ้าคุณสามารถปรับทัศนคติต่อภาษาอังกฤษที่คุณพูดในชีวิตประจำวันว่า... การพูดผิดบ้าง มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่คอขาดบาดตายโดนหักคะแนนเหมือนการทำข้อสอบผิดสักหน่อย เพียงเท่านี้ คุณก็จะปลดล็อคไปได้อีกไกลเลยนะ พอเรากล้าที่จะพูด ต่อให้พูดผิดไป บางทีฝรั่งแก้ให้พร้อมกับพูดประโยคที่ถูกต้องให้เราฟัง เราก็ได้เรียนรู้เพิ่ม ดีซะอีกดีกว่าการคิดอยู่แต่ในใจและไม่กล้าพูดเพราะกลัวผิด จะไม่เกิดการเรียนรู้ใดๆ
ดังนั้น พูดไปเถอะครับ ผิดบ้างก็ไม่เห็นเป็นไร ได้เรียนรู้มากขึ้นดีซะอีกนะ บทที่ 8 อยากเก่งภาษาอังกฤษ อย่าคิดแคร์คำพูดคนอื่น เรื่องคนไทยล้อเลียนสำเนียงของคนไทยด้วยกันเอง....นี่ผมอยากยกให้เป็นวาระระดับชาติเลยนะ เพราะสิ่งนี้แหละที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่กล้าทำเสียงกระแดะเวลาพูดภาษาอังกฤษ ในขณะที่ฝรั่งเค้าไม่ได้คิดอย่างคนไทยสักหน่อยยิ่งเราทำเสียงให้เหมือนฝรั่ง เค้ายิ่งชอบ เพราะมันฟังออกง่ายกว่าการพูดออกเสียงแบบไทยๆ เยอะ คนไทยทุกคนที่เปลี่ยนจากสำเนียงไทยๆ ไปเป็นฝรั่งล้วนแต่ผ่านจุดนี้มาแล้วทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ผมและลูกศิษย์ผมที่ฝึกจนสำเร็จ แต่พวกเราคิดเหมือนกันว่า...ช่างมันอย่ายอมแพ้เพียงเพราะแค่ลมปากคนอื่น ที่สำคัญ...พวกนั้นที่ล้อเราเค้าไม่ได้มามีส่วนได้ส่วนเสียกับอนาคตเราสักหน่อย เราจะล้มเลิกความตั้งใจฝึกทักษะภาษาของเราให้ดีเทียบเท่าฝรั่งเพราะคนพวกนั้นทำไม? คนสำเร็จล้วนแต่ผ่าน ช่วงวัดใจ นี้ไปได้ทั้งนั้น ดังนั้น ใครที่เพิ่งเริ่มฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษเพื่อเปลี่ยนสำเนียงและการออกเสียงให้ดีแบบฝรั่ง พึงรู้ไว้ว่า...สักวันคุณจะเจอสิ่งเหล่านี้ทัศนคติของคุณต้องดีและแข็งแรงพอที่จะผ่านมันไปได้ครับ เอาใจช่วยทุกคนให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ บทที่ 10 วิธีเพิ่มแรงบันดาลใจให้กับตนเองด้วย WHY+และ WHY- ในบทนี้ผมเล่าให้ผู้อ่านทราบถึงจุดเปลี่ยน (turning point) ในชีวิตผม ที่เปลี่ยนจากคนไทยธรรมดาๆ ที่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษแต่อย่างใด ทำข้อสอบการฟังก็เกือบตกมาโดยตลอด แต่มีเหตุการณ์นึงเข้ามาในชีวิตที่ทำให้ผมตระหนักถึงความสำคัญของภาษาอังกฤษ จนฮึดสู้ ไม่ท้อถอย ขยันฝึกฝนจริงจัง จนสำเร็จได้ในที่สุด ทำให้ผมได้รับทุนเรียนป.โท ภาคภาษาอังกฤษ ฟรีๆ มูลค่าครึ่งล้านบาท และทำให้ผมได้รับการตอบรับเข้าทำงานในบริษัทชั้นนำของประเทศตั้งแต่ยังเรียนไม่จบดี คุณจะประสบความสำเร็จได้อย่างไม่ยากนัก ถ้าคุณมีความต้องการไปให้ถึงเป้าหมายอย่างไม่มีอะไรมาฉุดรั้งคุณได้เลย นั่นคือ คุณต้องมี WHY รู้ว่าทำไมคุณถึงต้องการมัน? คุณอยากสำเร็จไปเพื่ออะไร?
ยิ่ง WHY ของคุณแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ โอกาสประสบความสำเร็จยิ่งมากขึ้นเท่านั้น! โปรดติดตามอีก 5 บทที่ผมจะนำมาแชร์ให้อ่านกันเร็วๆ นี้นะครับ ขอบคุณครับ Kru Fiat ********************************************* ติดตามข้อมูลดีๆ ได้ที่ //www.facebook.com/krufiat.fanpage Line ID = @krufiat (อย่าลืมใส่ @ ข้างหน้าด้วยนะครับ) ********************************************** |
KruFiat
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ครูเฟียต ธีรเจต บุญพยุง "หากคุณพูดภาษาไทยได้ คุณก็ควรจะพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการเรียนรู้ภาษาด้วยวิธีธรรมชาติเหมือนกัน" Friends Blog Link |
--------------------------------------------------------
บาคาร่าออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง สมัครวันนี้ ฟรี โบนัส 10%