Group Blog
กันยายน 2552

 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
$$$$$ น่าแปลกใจ ทำไมคนไทยชอบเรียนภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ? แล้วจะได้ผลจริงเหรอ? $$$$$
ตั้งแต่คลุกคลีอยู่ในวงการศึกษาภาษาอังกฤษบ้านเรา ผมเจอคนไทยที่อยากเรียนภาษาอังกฤษมาหลายพันคน คำถามยอดฮิตคำถามหนึ่งที่มักจะถูกถามตลอดเวลาเขาอยากจะมาสมัครเรียนภาษาอังกฤษคือ

“สอนโดยฝรั่ง...ครูเจ้าของภาษาหรือไม่?”

ซึ่งเมื่อก่อนตอนที่ผมเป็น “ผู้เรียน” ก็คิดไม่แตกต่างจากเขาเหล่านั้นเช่นกัน อาจจะเป็น “ความเชื่อ” ที่มีมานมนานว่า ถ้าคิดจะเรียนภาษาอังกฤษควรจะเรียนกับฝรั่งชาวต่างชาติ แต่พอมาถึง ณ วันนี้ วันที่ผมพลิกผันมาเป็น “ผู้สอน” (แทน “ผู้เรียน”) ผมอยากจะเสนอข้อคิดใหม่ให้คุณได้ลองพิจารณากันดูครับ

อุปสรรคประการแรกที่คนไทยอย่างคุณจะเจอเวลาเรียนภาษาอังกฤษกับฝรั่งแท้คือ “ทักษะการฟังภาษาอังกฤษของคุณดีเพียงใด?” เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ยังฟังภาษาอังกฤษสำเนียงฝรั่งแท้ๆ ไม่ค่อยออกหรือฟังออกน้อยมาก ดังนั้น ถึงแม้คุณจะภูมิใจลึกๆ ว่าคุณได้เรียนภาษากับฝรั่งเจ้าของภาษา ด้วยความหวัง(ลึกๆ มากๆ เช่นกัน) ว่าสักวันเราน่าจะได้สำเนียงฝรั่งเหมือนครูเจ้าของภาษา แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดนะครับ เพราะถ้าการฟังของคุณไม่ดีเพียงพอ เวลาครูฝรั่งถ่ายทอดวิชาการให้คุณมาจาก 100% คุณจะได้รับความรู้นั้นได้กี่ % และหายไปในอากาศก่อนจะถึงหูเรากี่% เช่น สมมุติตอนนี้คุณฟังภาษาอังกฤษออกสัก 50% ดังนั้นเวลาครูฝรั่งพูดมา 100% คุณจะเข้าใจเพียงแค่ 50% ส่วนความรู้ที่เหลือจะหายวับไปในอากาศก่อนจะเข้าหูคุณ นั่นหมายความว่า ความรู้ที่ฝรั่งถ่ายทอดให้กับคุณหายไปแล้วครึ่งหนึ่งนะครับ โอกาสที่คุณจะประสบผลสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษก็คงน้อยลงไป 50% ด้วยเช่นกัน

บ่อยครั้งที่ผมจะได้ฟังประสบการณ์จากผู้เรียนที่มาเรียนภาษาอังกฤษกับผมว่า เคยเรียนกับครูฝรั่งมา ไม่ค่อยได้ผลเพราะฟังเขาไม่ออก มันพูดอะไรของมันก็ไม่รู้ ไม่รู้เรื่องเนื้อหาที่เขาสอน พอนานๆ เข้าผู้เรียนก็จะท้อแท้กับภาษาอังกฤษ จนทำให้ภาษาอังกฤษเป็นไม้เบื่อไม้เมากับคนไทยมาโดยตลอด

แต่ถ้าใครมีทักษะการฟังที่ดี ฟังฝรั่งออกเกือบ 100% อยากจะเรียนภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติก็ไม่ว่ากันครับ เรียนไปเถอะ ถ้าคุณสามารถตักตวงความรู้ได้เต็มที่ คือเขาถ่ายทอดให้มาเท่าไหร่ คุณก็สามารถเก็บได้หมด (แต่ส่วนใหญ่คนไทยที่ฟังออกเกือบหมด เขาคงไม่ต้องมานั่งเรียนภาษาอังกฤษกันแล้วครับ เขาสามารถไปพัฒนาตนเองได้ด้วยการดูหนัง ฟังเพลง ไปแบบชิล ชิล ไม่ต้องมานั่งเรียนในห้องเรียนอีก)

พูดถึงเรื่องนี้ ผมอยากเล่าเรื่องที่ครูเคทเคยเล่าให้ผมฟังคือ เนื่องจากครูเคทเป็นอาจารย์พิเศษสอนวิชาทางด้านการตลาดที่มหาวิทยาลัยชื่อดังต่างๆ ทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แกเคยเล่าให้ฟังว่า เนื้อหาของวิชาที่เหมือนกันเป๊ะ แต่สอนด้วยภาษาที่แตกต่างกัน (ขอบอกก่อนว่าภาษาอังกฤษของครูเคทเทียบเท่ากับชาวอเมริกันคนหนึ่งเลยนะครับ เอาเป็นว่าถ้าคุณหลับตา คุณจะนึกว่าคุณคุยอยู่กับฝรั่งหัวทองแน่นอน) ข้อน่าสังเกตคือเวลาตรวจข้อสอบจะสังเกตเห็นว่า คนไทยที่เรียนภาคภาษาไทยจะเข้าใจในเนื้อหาความรู้ที่แกถ่ายทอดได้ดีกว่าคนไทยที่เรียนภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าวิเคราะห์ถึงสาเหตุก็น่าจะมาจากทักษะการฟังของผู้เรียนนั่นแหละครับ ที่ฟังภาษาอังกฤษไม่ออก 100% ทำให้มีความรู้บางส่วนที่สูญหายไประหว่างเรียน ประสิทธิภาพในการเรียนก็ย่อมน้อยลงไปด้วยเช่นกัน

กลับมาที่ความเชื่อเรื่องสำเนียงบ้างครับ

ความเชื่อที่ว่าเรียนภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติแล้วจะได้สำเนียงเหมือนฝรั่งเนี่ย ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็เชื่อกันอย่างนี้ และที่ไม่อยากเรียนกับครูคนไทยก็เพราะไม่อยากได้สำเนียงไทยๆ นั่นเอง

ผมอยากให้คุณลองคิดใหม่อย่างนี้นะครับ ลองพิจารณาดูว่า

"วันๆ หนึ่ง หรืออาทิตย์หนึ่งคุณได้เจอครูฝรั่งคนนั้นกี่ชั่วโมงครับ?"

ส่วนใหญ่จะเรียนภาษาอังกฤษสัปดาห์ละ 2-4 ชั่วโมง
ใน 1 สัปดาห์มีทั้งหมด 168 ชั่วโมง
ถ้าหักลบเวลานอนออกไปวันละ 8 ชั่วโมง
จะเหลือ 112 ชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่เราก็จะใช้ภาษาไทยตลอดเวลา
ถ้าคุณใช้ภาษาอังกฤษแค่ตอนเรียน 4 ชั่วโมง
คิดเป็น 4% ของเวลาทั้งหมด
ส่วนเวลาอีก 96% คุณก็ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารตลอด
คุณลองคิดดูแล้วกันว่าการที่คุณแบ่งเวลาเพียง 4% ของชีวิตคุณให้กับภาษาอังกฤษที่คุณอยากจะเก่ง มันไม่น้อยเกินไปหรือครับ?

คนไทยส่วนใหญ่อยากเก่งภาษาอังกฤษด้วยกันทุกคน ที่สำคัญอยากเก่งเร็วๆ ด้วย ยิ่งที่ไหนโฆษณาว่า คุณจะเก่งภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็ว เราพร้อมจะวิ่งเข้าหาทันที แต่ผมบอกได้เลยนะครับว่าการที่คุณได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษเพียงแค่ 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์หรือคิดได้เป็น 4% ของเวลาที่คุณใช้ภาษาในการพูดคุยทั้งหมดในชีวิตคุณ คุณไม่สามารถเก่งภาษาอังกฤษได้อย่างรวดเร็วหรอกครับ ผมว่าคุณต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปีแน่ๆ!

เอ๊ะ....แล้วการที่ได้เจอฝรั่งเจ้าของภาษาเพียง 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มันจะทำให้คุณซึมซับสำเนียงของครูฝรั่งของคุณเข้าไปในสายเลือด จนทำให้คนไทยอย่างคุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นสำเนียงฝรั่งอย่างคุณครูที่เราเรียนด้วยเหรอครับ?

ผมกล้าตอบอย่างมั่นใจว่า “ไม่(มีทาง)”

ใครเคยเจอคนไทยที่เรียนภาษาอังกฤษกับฝรั่งเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์และไม่เคยไปฝึกฝนต่อด้วยตนเองที่บ้าน แล้วสามารถเปลี่ยนสำเนียงเป็นฝรั่งได้ ช่วยเขียนมาเล่าให้ผมฟังหน่อยนะครับ ผมว่าคนคนนั้นต้องเป็น “อัจฉริยะ” โดยแน่แท้

จากประสบการณ์ของผมมากกว่า 10 ปี ยังไม่เคยเจอคนอย่างว่านี้เลยครับ เจอแต่คนที่ขยันฝึกฝนด้วยตนเองมากๆ (มากกว่า 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แน่นอน)แล้วสามารถเปลี่ยนสำเนียงเป็นฝรั่งได้จริง โดยที่ไม่ต้องเรียนกับครูฝรั่งเจ้าของภาษาด้วยซ้ำ

ผมจะไม่ปฏิเสธนะครับว่าการเรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษามีข้อดีคือ คุณจะได้ฟังสำเนียงที่ถูกต้องจากเจ้าของภาษาซึ่งเป็นการดี ความคิดนี้ถูกต้องแน่นอนครับ แต่การเรียนการสอนภาษาอังกฤษไม่ได้มีเพียงเท่านี้ มันอยู่ที่ว่าฝรั่งคนนั้นเขารู้วิธีที่จะเปลี่ยนคนไทยอย่างคุณที่พูดภาษาไทยมาตลอดชีวิตให้เปลี่ยนมาพูดภาษาอังกฤษให้เหมือนฝรั่งอย่างที่เขาพูดกันได้อย่างไรต่างหาก!

ผมอยากยกตัวอย่างอย่างนี้ สมมุติผมมีเพื่อนฝรั่งแท้อยู่คนหนึ่งที่เกิดและเติบโตที่อเมริกา ไม่เคยมาเมืองไทยเลย กำลังจะมาเยี่ยมผมที่เมืองไทย แล้วผมอยากวานให้คุณซึ่งเป็นคนไทยเจ้าของภาษาไทยมาสอนให้ฝรั่งเพื่อนผมพูดภาษาไทยให้ได้เหมือนเจ้าของภาษาอย่างคุณ คุณจะเริ่มสอนภาษาไทยยังไงให้กับฝรั่งคนนี้ครับ?

ลองคิดดูสิครับ...

คิด...

คิด...

คิด...

คิดก่อนแล้วค่อยอ่านต่อ....



จะเริ่มสอนจากให้เขาพูดตามคุณเหรอครับ?
เขาพูดได้ไม่เหมือนคุณหรอก เพราะฝรั่งเริ่มพูดภาษาไทยวรรณยุกต์จะมั่วไปหมด เช่น “ชั้น ยาก ซวม เสื่อ ตัว นัน” แทนที่จะพูดว่า “ฉันอยากสวนเสื้อตัวนั้น” เป็นต้น

จะสอนหลักภาษาเลยดีไหม?
ให้หัดผันวรรณยุกต์ จะได้ออกเสียงวรรณยุกต์ถูกต้อง
เอ้า... “กา ก่า ก้า ก๊า ก๋า”
แต่เวลาฝรั่งพูดตามคุณ เขาจะเปล่งว่า “กา กา กา กา และ กา” ไม่มีความแตกต่าง เพราะเขาผันวรรณยุกต์ไม่เป็น

เห็นความยากแล้วหรือยังครับ?... การที่คุณเป็นเจ้าของภาษาไทย ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถสอนฝรั่งให้พูดภาษาไทยได้อย่างดี มันอยู่ที่คุณต่างหากว่ารู้หรือไม่ว่า ธรรมชาติของฝรั่งเขาพูดภาษาดั้งเดิมเขาอย่างไร แล้วคุณจะใช้วิธีการไหนเพื่อเปลี่ยนความคุ้นเคยในภาษาดั้งเดิมของเขาให้มาพูดภาษาไทยเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยากนะครับ ยากมากด้วย

ดังนั้นกลับมาที่ครูสอนภาษาอังกฤษ ตามความคิดผม ครูที่จะสอนภาษาอังกฤษได้ดี ไม่ได้อยู่ที่ว่าเป็นคนไทยหรือฝรั่งหรอกครับ แต่อยู่ที่ครูคนนั้นควรจะรู้ธรรมชาติของการออกเสียงของทั้ง 2 ภาษาคือภาษาแม่ของผู้เรียนนั่นคือภาษาไทย และภาษาที่สอนคือภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี รู้ว่าธรรมชาติของคนไทยเวลาเปล่งเสียงเป็นอย่างไร?
ธรรมชาติของฝรั่งเวลาเปล่งเสียงเป็นอย่างไร?
มีความแตกต่างกันอย่างไร?
และที่สำคัญ จะใช้วิธีการฝึกฝนอย่างไร จึงจะเปลี่ยนความเคยชินจากภาษาแม่ของผู้เรียนให้คุ้นเคยกับภาษาที่กำลังเรียนอยู่ เช่น เปลี่ยนให้คนไทยที่พูดภาษาไทยคล่องมาพูดภาษาอังกฤษให้ได้เหมือนฝรั่ง จะทำอย่างไรดี?

จะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะครับ ในการสอนภาษาอังกฤษให้คนไทยสักคนสามารถพูดและฟังภาษาอังกฤษได้ ไม่ใช่ว่าเพียงแค่มีครูเป็นฝรั่ง เราก็จะพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนกับฝรั่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ป่านนี้เราคงเห็นคนไทยพูดภาษาอังกฤษกันได้ค่อนประเทศแล้วไม่ใช่เหรอครับ เพราะผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่เคยมีครูสอนภาษาอังกฤษเป็นฝรั่งกันทั้งนั้น

ไปก่อนละครับ วันหลังจะมาเล่าให้อ่านกันอีกครับ

Bye Bye,
Take Care



Create Date : 01 กันยายน 2552
Last Update : 1 กันยายน 2552 1:33:22 น.
Counter : 5661 Pageviews.

17 comments
  
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีจัง ขอให้ความเห็นอย่างคนที่ไม่เคยเสียเงินเรียนภาษาอังกฤษเลยแม้แต่บาทเดียว แต่ว่าสอบโทอิค( ไม่ได้สอบโทเฟิลหรือว่าไอเอล เพราะว่าเป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และโทอิคได้ใช้มากกว่า เนื่องจากไม่ได้ไปเรียนปริญญาโทหรือว่าบริษัทบังคับให้เรียน จึงเลือกสอบที่ได้ประโยชน์มากกว่า )ได้มากกว่าที่สถาบันรับรองว่าไม่ได้เท่าน้ีให้เงินคืนนะคะ แอนว่าปัญหาของคนไทยคือ ไม่กล้าถาม ไม่กล้าใช้ค่ะ แล้วยังไม่ได้เข้าใจลึกซึ้ง ยังไม่ทันได้คุ้นแม้กระทั่งว่าคำนั้นออกเสียงอย่างไง แปลว่าอะไรด้วยซ้ำไป แล้วจะไปฟังฝรั่งที่เค้้าพูดแบบลิ้นคับอยู่ในปากหรือว่าพูดเร็วๆเอาหลายๆเสียงมารวมกันได้อย่างไง และความเชื่ออีกอย่างของคนไทยที่ว่าเรียนภาษาต้องเรียนกับฝรั่ง แอนขอเถียงนิดหนึ่งว่าน่าจะมีคนไทยที่สอนได้ดีกว่าฝรั่งเยอะแยะ รวมทั้งพี่เจ้าของบล๊อคด้วยนะ มั่นใจมาก เพราะว่าไม่รู้ว่าเค้าเคยรู้กันหรือเปล่าว่าฝรั่งสอนภาษาบางคนไม่ได้มีการศึกษาอะไรมากมายอาศัยว่าพูดภาษาอังกฤษได้เพราะว่าเกิดมาก็ใช้ภาษานี้แล้ว บางคนไม่มีงานดีๆทำที่บ้านเกิดเมืองนอนด้วยซ้ำไป บางคนเหมือนกับว่าเป็นการท่องเที่ยว เบื่อประเทศนี้ก็ไปต่อประเทศนู้น น่าจะคิดดูให้ดีก่อนที่จะไปเสียเงินตั้งกลายหมื่นเรียนเนอะ หรือว่าเค้าไม่มีประวัติ์การศึกษาของครูให้ดูก็ไม่รู้พอดีว่าไม่เคยเรียนอ่ะ ถ้าเป็นอย่างงั๊นนะสู้เรียนกับคนไทยดีกว่าเยอะเลย จุดเด่นของคนไทยอยู่ที่แกรมมาร์ เลิศมากด้านนี้จริงๆ ฝรั่งบางคนยังไม่ได้รู้ขนาดนั้นเลยค่ะ เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ใช้ เรียนแบบท่องจำเอามันก็เลยแป็ก เอ...เร่ิมพูดเยอะไป ขอแอ็ดพี่คุณครูไว้เป็นเพื่อนวีไอพีไว้อ่านข้อคิดของพี่ชายต่อไปนะคะ
โดย: ขาหมูเอาแต่หนัง (annasugars9000 ) วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:2:49:39 น.
  
เข้ามาอ่าน bloggang ในหมวดภาษาต่างประเทศและได้ติดตามคำแนะนำในการเรียนภาษาอังกฤษจาก blog นี้ตลอดคะ

เป็นคนนึงที่ภาษาอังกฤษไม่ค่อยดีในด้านการพูด และฟัง ส่วนเรื่องเขียนนิสามารถเขียนก็โอเค แต่ไม่ได้ perfect 100% หรอกคะ ได้ย้ายมาอยู่กับคุณแฟน และได้มีโอกาสเจอเพื่อน ๆ ของแฟนมากมายหลายประเทศ ยังจำได้ว่ามาใหม่ ๆ เจอเพื่อนเขาเกือบ 10 pook นิฟังแล้วอึ้งไปเลยคะ เพราะไม่เข้าใจว่าเขาพูดเรื่องอะไรกัน เลยเกิดความกดดัน หูเราชินกับสำเนียงแฟน (แฟนเป็นคนอังกฤษมาจากทางใต้นะคะ) แล้วเพื่อนบางคนของเขามาจากทางเหนือ ปุ๊กฟังไม่รู้เรื่องเลยคะยิ้มกับเพื่อน ๆ เขาอย่างเดียว

ภายหลังเกิดความกดดัน เปลี่ยนระบบตัวเองคะ พยายามดูหนัง หรือว่าโหลดพวกบทความมาลงไอพอต แล้วเวลาล้างจาน รีดผ้า ก็ฟังไปด้วยนะคะ ทำได้เกือบ 7 เดือนมีความรู้สึกดีขึ้นมาบ้างนะคะ ก็ยังคงฝึกต่อไปนะคะ

เมื่อ 2 เดือนก่อนเพื่อนเขามาจากอังกฤษ เพื่อนเขาถามแฟนว่าเรามีปัญหาอะไรเรื่องสำเนียง pook นิอึ้งไปเลยนะคะ พอได้อ่านข้อความวันนี้ที่ครูเฟียตเขียน เลยเกิดความสงสัยว่า เวลาเราคุยกับฝรั่ง ทำไมเขาไม่เข้าใจคะหรือว่าเป็นกับเฉพาะฝรั่งบางคน เพราะบางคน pook คุยด้วยเขาก็เข้าใจนะคะ แต่เพื่อนเขามาผู้หญิงคนนี้ปุ๊กสนทนากับเขา เขาไม่เข้าใจว่าปุ๊กพูดอะไรแล้วก็บอกว่าสำเนียง pook มีปัญหา ก็เลยเกิดความกดดันเหมือนกัน เลยมีความรู้สึกว่าการออกสำเนียงให้เมหือนเจ้าของภาษานิจำเป็นมากไหมคะ คือเหมือนเป๊ะ ๆ เลยนะคะ

pook ก็พยายามฝึกฟังโดยผ่าน BBC News นะคะ สำเนียงเขาค่อนข้างเคลียร์ pook ว่าผู้หญิงอังกฤษเวลาพูดนิฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเลยนะคะ เขาจะขยับปากน้อยมาก แล้วพูดในลำคอ ซึ่งฟังยากมาก ๆ ต้องตั้งใจฟังดี ๆ เลยนะคะ

อยากขอคำแนะนำด้วยนะคะว่าวิธีที่ฝึกอยู่ใช้ได้ไหมคะ คือการโหลดบทสนทนา หรือข่าวจาก bbc news มาฟัง และดูหนัง เป็นวิธีที่ถูกต้องใหม่คะ

แต่ชีวิตประจำวันใช้ภาษาอังกฤษทุกวันคะ

ขอบคุณคะ
โดย: pook IP: 58.153.6.10 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:10:08:04 น.
  
ครูเฟียตค่ะ
หญิงเคยเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ตอนเรียนโทอ่ะค่ะ
หนึ่งในการเรียนภาษาให้ได้ผลดีที่สุดคือ
ผู้สอนมีความรู้ทั้งสองภาษา คือ ภาษาแม่ของนักเรียน(เช่น ไทย) และภาษาที่ต้องการจะสอน
(เช่น อังกฤษ)
เหตุผลก็เหมือนกันที่ครูเฟียตบอกเลยค่ะ ก็เพื่อที่ครูจะได้รู้ถึงความเหมือนและแตกต่างของทั้งสองภาษา ในขณะที่ชาวต่างชาติ หรือเจ้าของภาษาอังกฤษไม่มีแน่นอน

และนอกจากนี้ครูที่รู้สองภาษายังจะเข้าใจ"ควาามผิดพลาด"ที่นักเรียนมักจะสร้างขึ้นจากการเรียนภาษา เช่น การถ่ายโอน (transfer) โครงสร้างภาษาแม่ ไปใช้ในภาษาที่สอง ถ้ากรณีแบบนี้เกิดขึ้น ครูต่างชาติโดยส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจเลยว่ามันคืออะไร ในขณะที่ครูที่รู้สองภาษาจะเข้าใจได้เป็นอย่างดี


และยังมีวิธีที่ดีไม่แพ้กัน ก็คือ team teaching ที่ใช้ครูสองคนขึ้นไป หนึ่งคือรู้ภาษาไทยและอังกฤษ และอีกคนคือเจ้าของภาษาที่สอง
แต่เราไม่ค่อยเจอห้องเรียนแบบนี้หรอกค่ะ เพราะว่าต้นทุนจ้างครูแพงมาก


ขอโทษทีนะคะ ถ้าคอมเมนท์จะยาวไปนิดนึง
โดย: onsutee วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:11:50:02 น.
  
เรียนที่ไหนก็ไม่ได้ผล ถ้าไม่ได้ฝึกฝน การเรียนกับชาวต่างชาติช่วยได้หลายอย่าง
1. เป็นการทะลายกำแพงความกลัว เวลาต้องพูดคุยกับฝรั่งตัวจริงในสถานการณ์จริง
2. เรียนรู้แบบครูพักลักจำ(Copy)ได้เลย
3. โอกาสผิดพลาด เช่นการใช้คำผิด การใช้ประโยคในสถานการณ์ที่ควรใช้ผิด เหล่านี้น้อยมาก เพราะการเรียนภาษาที่ดี ควรจะเน้นเรื่องของไวยกรณ์ และสถานการณ์ คือ ถูกไวยกรณ์และถูกสถานการณ์

ส่วนเรื่องครูผู้สอนต้องรู้ทั้ง 2 ภาษาผมว่าไม่จำเป็น เพราะ ถ้าคุณไม่พยายามที่จะแปล Hello หรือ Good morning เป็นสวัสดีตอนเช้าทุกอย่างก็จบ
แต่เข้าให้เข้าใจมันว่าใช้ยังไงใช้ทำไมเวลาไหนก็เพียงพอ การปั้นหรือ Form sentence ขึ้นเพื่อจะใช้งานโดยเริ่มจากภาษาไทยมันมักจะทำให้ได้ประโยคแปลกๆที่ฝรั่งงงน่ะครับ ความเห็นผมก็คืออย่าเอามาปนกัน และเมื่อไม่ปนกันก็ไม่จำเป็นต้องรู้ภาษาของเรา
และครูฝรั่งในเมืองไทยบางคนก็อธิบายเปรียบเทียบกับภาษาไทยได้ดีในระดับนึง เพราะส่วนตัวที่เคยเจอมา ก็เป็นชาวต่างชาติที่มาอยู่ในเมืองไทยระยะนึงแล้ว 3 เดือน 6 เดือน เป็นอย่างน้อย บางคน 5 ปี กินข้าวกินก๋วยเตี๋ยว บะหมี่เกี๊ยวแห้งหมูแดง (Dry noodles with dumblings and porks.) มีเมียเป็นคนไทย ดูละครหลังข่าว (Thai Soap opera) คือว่างง่ายๆว่ามีข้อมูลที่คนไทยมีในชีวิตประจำวัน และสามารถนำเอาข้อมูลเหล่านั้นที่คนไทยไม่เคยรู้ในภาษาอังกฤษมาถ่ายทอดได้

แต่โดยส่วนตัวผมไม่เคยถามคำถามประเภทว่าถ้าจะพูดประโยคนี้ในภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษยังไงเพราะฝรั่งบางคนคงไม่เข้าใจตั้งแต่ที่ผมพยายามจะอธิบายแล้วล่ะ แต่จะเปลี่ยนเป็นถามว่าในสถานการณ์อย่างนี้น่ะ ควรจะพูดยังไง ในอารมณ์โกรธ ควรจะพูดยังไง เวลาสัมภาษณ์งานควรจะพูดยังไง พูดอย่างงี้ถูกไม๊ และสำคัญคือต้องไม่เอามาแปลเทียบกับภาษาไทยให้จำแยกกันไป

โดยส่วนตัวผมชอบโรงเรียนสอนภาษาที่บรรยากาศเป็นกันเอง ครูกับนักเรียนมีการพบปะกันไม่ใช่แค่ในห้องเรียน แต่อาจจะได้นั่งดูทีวีด้วยกัน chitchat สุมหัวคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ ไปนั่งกินข้าวด้วยกัน และมีเครือข่าย Online Internet ด้วยก็ยิ่งดี เพราะเหล่านี้มันเป็นเรื่องของการฝึกฝนทั้งสิ้น ถ้าหยุดฝึกเมื่อไหร่จงระลึกไว้เลยว่า คุณกำลังผลาญเงินที่คุณเสียไปในอดีตโดยเปล่าประโยชน์ ในทางกลับกันคุณอาจต้องเสียเงินเป็นลักษณะผ่อนส่งยาวนานต่อไปในอนาคตเพื่อซื้อโอกาสให้ตัวคุณเองได้ฝึกฝนตลอดเวลา เพราะโอกาสที่จะได้ใช้ภาษาอังกฤษในประเทศที่ไม่ได้มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ มันน้อย
โดย: Anglo วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:13:51:11 น.
  
ชอบมากเลยคะ ส่วนตัวแล้วพยายามฟัง อ่าน และพูดอยู่ตลอดเวลา อาจโชคดีได้เดินทางไปอยู่กับพี่สาวที่ต่างประเทศ พ่่ีสาวเปิดร้านอาหาร เราต้องช่วยเค้าทำงาน ต้องรับออเดอร์ ปิดบัญชี ทำทุกอย่างรวมทั้งต้องสือสารกับฝรั่ง ตอนนี้ไม่กลัวการพูดแล้ว
ขอเพียงเข้าใจที่เค้าพูด ว่าต้องการอะไร อยากสื่อสารอะไรกับเรา ตอนนี้สบายมาก
ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนกลัว ตอนนี้ทำทุกอย่างเพื่อเพิ่มพูนทักษะของตัวเอง ขยัน หมั่นฝึกฝน
และกล้า รับรองได้ผล
โดย: นุช IP: 125.24.227.5 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:20:44:58 น.
  
แอบเข้ามาอ่านครับ..ได้แนวคิดดีๆหลายอย่างครับ..กำลังเรียนกับคุณเฟียตอยู่..จะพยายามต่อไปครับ
โดย: choo IP: 114.128.162.100 วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:16:57:28 น.
  
อืม.....เท่าที่เคยเป็นครูสอนภาษาอังกฤษมาก่อน....น่าคิดมาก....

"ผมอยากยกตัวอย่างอย่างนี้ สมมุติผมมีเพื่อนฝรั่งแท้อยู่คนหนึ่งที่เกิดและเติบโตที่อเมริกา ไม่เคยมาเมืองไทยเลย กำลังจะมาเยี่ยมผมที่เมืองไทย แล้วผมอยากวานให้คุณซึ่งเป็นคนไทยเจ้าของภาษาไทยมาสอนให้ฝรั่งเพื่อนผมพูดภาษาไทยให้ได้เหมือนเจ้าของภาษาอย่างคุณ คุณจะเริ่มสอนภาษาไทยยังไงให้กับฝรั่งคนนี้ครับ?"

ต้องคิดแล้วหล่ะ....ค่ะ....ขอบคุณครูเฟียส...

โดย: ไหมพรมสีสวย วันที่: 5 กันยายน 2552 เวลา:7:16:58 น.
  
เพิ่งเคยอ่านบล๊อกนี้เป็นครั้งแรก
ต้องบอกก่อนเรยค่ะว่า อ่านแล้วมันตรงกะตัวเองมากๆ
เป็นคนหนึ่งเรยที่อยากพูดภาษาอังกฤษ แบบเจ้าของภาษา เคยเรียนกับชาวต่างชาติ ภาษาเราก็งูๆ ปลาๆ
ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง เวลาเรียนแล้วฟังไม่รู้เรื่องนี่ท้อมากค่ะ ถึงขนาดไม่กล้าสนทนากับอาจารย์ต่างชาติเรย

พออ่านบทความแล้ว ทำให้อยากจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษอีกซักครั้ง
ตอนนี้อยู่ชลบุรีค่ะ อยากจะลองเรียนภาษาที่สาขาศรีราชาบ้าง แล้วเจอกันค่ะ

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ นะค่ะ
โดย: เอ๋ IP: 119.42.93.90 วันที่: 8 กันยายน 2552 เวลา:9:19:19 น.
  

1. จากบทความของคุณ Anglo

บะหมี่เกี๊ยวแห้งหมูแดง (Dry noodles with dumblings and porks.)

เกี๊ยว ที่อเมริกาเขาเรียกว่า wonton ครับ เกี๊ยวน้ำก็ wonton soup เพื่อนบางคนสั่ง wonton with water ก็ขำกลิ้งกันครับ

2.ถ้าเพื่อนต่างชาติมาอยู่เมืองไทย เราสอนให้พูดไทยได้แน่นอนครับ และถ้าเราอยู่อเมริกา แล้วมีฝรั่งให้เราสอนภาษาไทยให้ ก็ได้แน่นอนครับ แต่ถ้าเราอยู่อเมริกาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ทลึ่งไปสอนภาษาไทยให้ฝรั่ง ผมว่าคงบ้าทั้งคู่ล่ะครับ
โดย: สมัชชา IP: 125.27.116.29 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:19:44:15 น.
  
สนใจอยากเรียนภาษาอังกฤษค่ะ ตั้งใจว่าจะลงเรียน วันที่ 15 ที่จะถึงนี้ แต่ ไม่ค่อยมั่นใจค่ะ เพราะว่าภาษาอังกฤษอ่อนมาก แต่ยังงัยก็จะเรียนค่ะ
โดย: หน่อง IP: 58.147.121.222 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:38:04 น.
  
ดีใจที่เจอบล๊อคนี้ค่ะ

เคยเรียนกับครูเฟียตเมื่อหลายปีก่อน
ตอนนี้ทักษะการพูด/ฟังภาษาอังกฤษดีขึ้นเยอะ

แต่เขียนเป็นเรื่องเป็นราวยังต้องฝึกอีกเยอะ

ครูเฟียตสอนดีมากค่ะ แต่พูดไวมากกกก
โดย: rossa IP: 113.53.60.19 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:51:55 น.
  
ก็คุณเป็นคยสอนภาษาอังกฤษไม่ใช่เหรอ!!

คุณก็ต้องพูดเเบบบนี้
โดย: 78 IP: 118.172.56.185 วันที่: 14 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:47:07 น.
  
ก็แล้วแต่จะคิดครับ คุณมีสิทธิคิด

ผมก็มีสิทธิเผยแพร่ความคิดของผมเช่นกัน ถ้าคุณไม่เห็นด้วยก็แสดงเหตุผลมาสิครับ กรุณาติเพื่อก่อ อย่าติอย่างเดียวมันไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมา
โดย: KruFiat วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:37:02 น.
  
I think students put too much emphasis on the accent. I can guarantee you that you will communicate better if you get these two things right:

(a) clear pronunciation: [th], [r], [l], [s], [z], [v], [f], [k], [g] and stress on the right syllable such as sTRAtegy vs straTEgic; and

(b) the correct use of "s" for noun plural or verb of a singular subject.

It doesn't matter how thick your Thai accent is, if you get these two things right, you WILL be understood. I think the ability to speak English with สำเนียงฝรั่ง is overrated.
โดย: Joey IP: 61.9.201.101 วันที่: 28 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:48:38 น.
  
ขอเอาความเห็นของครูเฟียตไปบอกต่อนะคะ พอดีกำลังจะมีโต้วาทีที่มหาวิทยาลัย หัวข้อตรงกับความเห็นเลยค่ะ กำลังสับสนกับความคิดของตัวเองอยู่ พอมาอ่านก็จัดระบบความคิดได้เลยค่ะ ว่าต้องเรียงลำดับข้อมูลยังไงให้คนฟังรู้สึกว่าข้อมูลของเรามีน้ำหนักน่าเชื่อถือ
ขอบคุณนะคะที่เอาความเห็นดี ๆ มาลงให้อ่าน
โดย: pt. IP: 58.8.51.230 วันที่: 4 สิงหาคม 2553 เวลา:0:30:15 น.
  
อยู่ที่คนเรียนคะ!!
ไม่เกี่ยวกับอย่างอื่นเลย
ถ้าคนอยากได้ความรู้อยากได้สำเนียง อย่างน้อยก้ต้องได้บ้างหรือไม่ก้ได้อย่างอื่นแทน
ก้ยังดีกว่าคนที่ไม่ได้เรียนอะไรเลย
มันได้เปรียบกว่านะคะ
โดย: หนึ่งคน IP: 27.130.79.12 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:57:58 น.
  
เรียนภาษาอังกฤษกับฝรั่งดีอย่างไร?
ปัจจุบันนี้เกิดการถกเถียงขึ้นมาเยอะเหมือนกันค่ะว่า ถ้าจะเรียนภาษาอังกฤษควรเรียนกับอาจารย์ชาวต่างชาติหรืออาจารย์ชาวไทยดี? โดยส่วนตัวแล้วพี่ชอบเรียนกับชาวต่างชาติมากกว่าค่ะ แต่ข้อจำกัดมีอยู่ว่า ครูชาวต่างชาตินั้นต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. มีใบประกาศนียบัตรการสอน การสอนทุกอย่างแหละค่ะ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษหรือเลข หรือวิชาอะไรก็ตาม ถ้าเราไม่ได้เรียนกับผู้ที่มีความรู้จริงๆแล้วล่ะก็ ความรู้ที่เราจะได้ก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยและไม่สมบูรณ์อย่างที่มันควรจะเป็นค่ะ
2. ต้องมีประสบการณ์การสอนมาจริงๆ การที่ฝรั่งบางคนเข้ามาสอนและเราก็เลือกที่จะเรียนภาษาอังกฤษกับเค้า โดยที่เค้าไม่ได้มีความรู้อะไรเลยนอกจากว่าเป็นเจ้าของภาษา ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะอธิบายให้เราเข้าใจได้หมดนะค่ะ บางครั้งอาจจะอธิบายผิดด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น เอาง่ายๆ ถ้าอยากได้อาจารย์สอนภาษาอังกฤษชาวต่างชาติที่ดี และสอนเข้าใจ เราได้ความรู้จริงๆ ก็ควรจะเลือกอาจารย์ที่มีทั้งความรู้และประสบการณ์การสอนค่ะ
โดย: คนสวยแนะนำค่ะ IP: 101.109.73.65 วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:0:40:00 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

KruFiat
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 304 คน [?]



ครูเฟียต ธีรเจต บุญพยุง
"หากคุณพูดภาษาไทยได้ คุณก็ควรจะพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการเรียนรู้ภาษาด้วยวิธีธรรมชาติเหมือนกัน"
ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook 4| | | ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook | | |3