รีวิวยอดบุรุษพลิกคดี - สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์ 5 เล่มจบ
ยอดบุรุษพลิกคดีเล่ม 5 เล่มจบ - ต้าเฟิงกวากั้วสนพ.สยามอินเตอร์ แนวหนังสือ : สืบสวนไร้ความรัก คดีซ้อนคดีวังหลวง (ปกเหมือนงานวายแต่ไม่ใช่หนังสือวาย)
[] พระเอกของเรื่องชื่อ "จางผิง"ชายหนุ่มยากไร้จากเมืองซีชวน เดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อสอบเคอจวี่หวังรับใช้ราชสำนักในภายภาคหน้า แต่กลับพกดวงชะตาตามคำเกริ่นหลังปก(ดาวไม้กวาดมากดาวเคราะห์)ไปทางไหนก็มีแต่เรื่องราวดึงเขาเข้าไปเกี่ยวพันกับคดีความต่าง ๆซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเกี่ยวข้องกับขุนนาง บ้างก็เป็นคดีแปลกพิสดารในเมืองหลวง [] จางผิงเป็นตัวละครหลากคาแร็คเตอร์ ฉลาดแต่ไม่แสดงตัวติดทึ่มซื่อ ๆ บางมุมกวนฝ่าเท้าแบบไม่ตั้งใจ แต่อย่าดูแคลนเขาเป็นอันขาดอารมณ์เหมือนเด็กหมอเรียนเก่ง ๆ ในบ้านเรา พิสูจน์ได้จากคดีที่จางผิงดำเนินการมีทั้งคดีฆาตกรรมเกี่ยวข้องกับคนมีอำนาจ หรือจะเป็นคดีที่ก่ำกึ่งวัดใจคนอ่านให้เดาไปพลางๆ ระหว่าง ผีทำ หรือ คนทำ มันก็จะมีความเชื่อของชาวบ้านในเมืองนั้น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเช่น คดีตระกูลกู หมู่บ้านที่หายสาบสูญไปจากบันทึกทะเบียนราษฎร์ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในเมืองที่จางผิงย้ายเข้าไปอยู่ในฐานะผู้ช่วยนายอำเภอคนใหม่ พอคลี่คลายคดีได้ชีวิตก็ผกผันไม่หยุด...เพราะความสามารถเขามีมากเกินกว่าผู้ช่วยนายอำเภอต่างเมืองจึงถูกย้ายไปพร้อมเลื่อนตำแหน่งอีกขั้น ลักษณะการเดินจะออกแนวจบคดีที่ 1 แล้วต่อด้วยคดีที่ 2 คล้าย ๆ กับเราดูการ์ตูนเรื่องโคนันคุงหลายคนน่าจะรู้จัก ซึ่งจุดเด่นของเรื่องนี้อยู่ที่คดีใหญ่ในเล่ม 3 ยิงยาวถึงเล่ม5(จบ) กับคดีสุดท้ายของเรื่อง ศพในโลงศิลาซ่อนปม เป็นคดีฆาตกรรมที่มีทั้งความสนุก ความลุ้นระทึกเพราะมันเกี่ยวพันกับหลายฝ่ายในอดีต ศพในโลงเป็นใคร แฝงความเชื่อทางหลักฮวงจุ้ยหลักเต๋าการวางสุสานเข้ามาเกี่ยวข้อง สมกับเป็นไฮไลท์ปิดตอนของเรื่อง
รีวิวเชิงวิเคราะห์ - สิ่งที่น่าสนใจสำหรับเรื่องนี้
ยอดบุรุษพลิกคดีอยู่ในหมวดหนังสือแนวสืบสวนน้ำดีเรื่องหนึ่ง(ไม่ใช่หนังสือรัก) นอกจากบันทึกปิ่นก็ต้องยกให้เรื่องนี้ ความรู้สึกแรกที่อ่านง่วงสุด ๆ ใน 120 หน้าแรก อ่านไปบ่นไปเหมือนกับเราเดินเข้าไปอยู่ในดงขุนนางต่างแคว้น มองหน้าคนนี้มีชื่อหันมาอีกด้านเต็มไปด้วยชื่อและตำแหน่ง พอบวกเข้ากับสำนวนสลวย บรรยายดีงานเรียบเรียงเด่น และอยู่ในหมวดภาษาสำนวนโบราณหน่อย อ่านแล้วต้องวนบรรทัดแต่มากด้วยอรรถรส เพราะฉะนั้น...การเริ่มต้นเป็นสิ่งที่ยากที่สุดแต่....มันจะวางไม่ลงหลังจากจบคดีแรกเข้าสู่การโชว์ไทม์ของตัวละครหลัก จางผิง แบ่งออกเป็นเล่ม ๆ ตามเกริ่นด้านบน ความพิเศษของเรื่องนี้เลยต้องยกให้ผู้เขียน ต้าเฟิงกวากั้ว คดีของเขาไม่ใช่แบบติงโม่ หรือ..เช่อเช่อชิงหานแต่จะเขียนในแนวคดีซ้อนคดีมาแบบลูกโซ่ มันจะเปลืองพลังในการจำแต่เราจดสนุกมือมากบางทีเฉลยแล้วต้องย้อนกลับไปอ่านบทเก่าให้ตัวเองเข้าใจ ส่วนตัวชอบนะ..มันท้าทายดี และตัวละครของเขาค่อนข้างเยอะพ่วงกับการเรียกชื่อสามแบบ ชื่อตำแหน่ง ชื่อเรียก ชื่อรองอรรถรสในยุคจีนโบราณมีให้เก็บ ข้อต่อมาคือ...ความเป็นตัวละครจากผิงความฉลาดไม่ต้องพูดถึง แต่ติดเกรียนเล็ก ๆ ซื่อหน่อย ๆพ่วงความฮาเป็นระยะเพราะพี่เป็นคนขี้งก มีคาแร็คเตอร์หลากหลายมุมให้ติดตามบ้างก็เหมือนขุนนางตงฉิน แต่ปฏิภาณไหวพริบเป็นเลิศ(อยู่เป็น) ความพิเศษอยู่ที่...พออ่านไปเรื่อยๆ จุดหมายปลายทางของจางผิงอยู่ที่ใด เราเดาไม่ออก อย่างนิยายบางเรื่องจะวางเป้าไว้เลยว่าอยากเป็นเสนาบดีแต่เรื่องนี้...ลุ้นตลอดเขาจะไปไกลสุดที่ตำแหน่งไหน เพราะไม่เอาอำนาจ อีกทั้งยังสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาทานบะหมี่น้ำชามโต มีวิธีขอบคุณ และการแสดงความรู้สึกที่แปลกกว่าใครอ่านแล้วฮาตลอดเวลาจางผิงต้องไปขอบคุณใคร หรือเดินทางไปพบใครที่มีตำแหน่งใหญ่กว่า แต่อย่าให้วิญญาณนักสืบเข้าร่างนะ...พี่แกวิเคราะห์คดีได้สนุกมากเช่นกันเป็นที่มาของคำว่า...จางผิงสองร่าง(เหมือนโคนัน) ฉะนั้นถ้าใครชอบแนวสืบสวนมีลูกเล่นซับซ้อนให้เราเดาผิดเดาถูก คดีพลิกแพลงห้อยกันเป็นลูกโซ่ แทบไม่มีการเมืองมาแทรกเพราะบทเดินเรื่องอยู่นอกเมืองเป็นหลัก ใช้ขุนนางระดับศาลยุติธรรม กรมบังคับคดีอะไรจำพวกนี้เข้าร่วมบท (ขุนนางท้องที่) ตัวเอกอีกคนหนึ่งคือ"หลันเจวี๋ย" รองเสนาบดีกรมพิธีการลูกติด (ภรรยาเสียชีวิตแล้ว)เป็นชายหนุ่มอนาคตไกล ซึ่งมีเหตุให้พัวพันกับจางผิงในระยะเริ่ม แม้จะเป็นแค่ที่พักชั่วคราวแต่ก็แอบเสียดายที่ไม่ได้คว้าไม้กวาดมากดาวเคราะห์อย่างจางผิงไว้ฝึกสอนได้นอกนั้นไม่ค่อยมีตัวละครเด่น ๆ แค่ใส่มาเข้าร่วมบทสืบคดีแล้วผลักออก
[] ข้อเสียมีเพียงข้อเดียวสำหรับเรื่องนี้ : ตรงกับแนวที่เราชอบอ่านใหม่ เพราะข้อดีมันมีเยอะ โดยเฉพาะสำนวนแปลของคุณหลินหยางเขาเป็นคนใช้คำเล่นคำสวยมาก ยกตัวอย่างเช่น... ใบไม้ของต้นไม้ริมทางร่วงหล่นพอประมาณแล้วนกกาหลายตัวเกาะบนกิ่งก้านโก่งคอแผดร้องก้องดัง เครือเถาแห้งเหี่ยวแผ่ลามหญ้าฤดูสารทเหลืองเฉา
[] สำหรับคนที่ชอบงานภาษาแบบคนรีวิว จะรู้สึกว่าเหมือนอ่านคำกวีมันจะมีคำสัมผัสคล้อง ได้อรรถรส ทั้ง ๆที่มันเป็นบทพรรณนาธรรมดาไม่ใช่เกริ่นโคลงกลอนเพราะฉะนั้น...ในแง่ภาษาการบรรยายแทบไม่มีคำซ้ำ และ..เป็นคำสวย คนแปลแบบนี้มีน้อยจึงขอชมเป็นพิเศษ
Create Date : 16 มกราคม 2562 |
Last Update : 16 มกราคม 2562 17:56:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 6773 Pageviews. |
|
|
|