ไวน์แอนด์เดอะแก๊งค์@นครนายก(2)
หลังจากที่ จขบ.โดนเพื่อนๆ ถามว่า เมื่อไหร่จะไปนครนายกเสียที ผลัดมาเรื่อยนานแล้ว บางช่วงก็ฝนตกชุก คงจะเที่ยวไม่สะดวก กลัวน้ำป่าไหลหลาก แล้วจะพัดพาสาวๆ เอวบางร่างน้อย ไปกับสายน้ำ (โห... เข้าคอนเซปชื่อพี่ไวน์เลย) ก่อนหน้านั้นก็ร้อนไป น้ำตกไม่มีให้ดู ต้นไม้ดอกไม้ก็แห้งเหี่ยว พอได้ฤกษ์ จขบ.ก็ย้ายที่ทำงานซะอีก แต่ไม่อยากให้เลื่อนทริปนี้อีกแล้ว โดยเฉพาะพี่ไวน์ เจอกันในบล๊อกทีไร ก็ถามทุกที อิอิ ส่วนสองสาวนั่น จัดกระเป๋าเรียบร้อยตั้งแต่เตรียมโปรแกรมแล้วล่ะค่ะ รวมทั้ง จขบ.ด้วย เตรียมข้าวของเครื่องใช้ในการปิคนิคไว้เหมือนกัน (ไม่ค่อยเห่อนิ เพราะว่าเพื่อนจะมาเยือนถึงถิ่นแล้ว)
จขบ.นัดพี่ไวน์ให้มารับที่บ้าน เพราะบ้านเราใกล้ๆ กัน ความจริงรถคันนี้ ควรจะมีเพื่อนนั่งร่วมมาด้วยอีกคนหนึ่งนะ เสียดายจัง...พี่ไวน์บอกว่า จะมารับวันเสาร์แต่เช้ามืด เลยรีบโทรไปบอกว่า ไม่ต้องเช้าขนาดนั้นก็ได้ น้องโอ เค้ายิ่งแซวๆ อยู่ว่า จะรีบไปกวาดบ้านพักรอรึยังไง จขบ.เตรียมของสำหรับปิคนิคใส่ตระกร้าใบใหญ่ไป พี่ไวน์มารับประมาณ 7 โมงกว่าๆ นิดๆ ขนของต่างๆ ขึ้นรถ เราสองคนก็ออกเดินทางไปนครนายก ไปทางด่วนมอเตอร์เวย์ ไปออกตรงคลอง 5 ปทุมธานี เราไปถึงนครนายกเกือบๆ 9 โมง แวะกินข้าวเช้า แล้วก็ไปเข้าที่พัก ที่ "บ้านต้นไม้รีสอร์ท"
ครั้งแรกที่นัดกัน ก็คิดว่าจะมีสมาชิกไปกันหลายคน เลยจองบ้านหลังใหญ่ไว้ ไปๆ มาๆ เหลือแค่สี่หน่อ เลยเปลี่ยนเป็นหลังเล็ก นอนสี่คน แต่จริงๆ แล้ว หลังนี้นอนได้เป็น 10 คน เพราะกว้างพอดู แม้จะไม่ใช่รีสอร์ท สวยหรู แต่ก็โอเคค่ะ
เราพักกันหลังนี้ค่ะ มีเตียงสี่เตียง ชั้นล่างสองเตียงและเป็นห้องโถงกว้าง ชั้นบน(ห้องใต้หลังคา)มีสองเตียงใหญ่ๆ มีระเบียงหน้าบ้านไว้นั่งเล่นด้วย เรียกว่าเป็นการย่อบ้านหลังใหญ่ที่เราจองไว้แต่แรกมาเลย
ระเบียงนั่งเล่นหน้าบ้าน บนโต๊ะน่ะ โน๊ตบุ๊คพี่ไวน์ค่ะ มาถึงก็เช็คเรตติ้งเลย เพราะสงสัยว่า ทำไมมีคนเข้าบล๊อกพี่เค้าน้อยจัง เพราะมันมีมัลแวร์นี่เอง พอมาถึง ก็บอกน้องโอว่า จะนั่งรออยู่ตรงระเบียงหน้าบ้านนี่ แต่คุณน้อง ก็ไม่เห็นเราซะอีก วิ่งเลยบ้านไปค่ะ...
ห้องชั้นล่าง กว้างมากๆ นอนได้เป็น 10 คนเลยค่ะ พี่ไวน์นอนชั้นล่างนี้ค่ะ เสียดาย อ.เต๊ะไม่ได้มา จะได้นอนเป็นเพื่อนพี่เค้า
ชั้นบน ห้องใต้หลังคา ตอนแรกจะให้พี่ไวน์นอนข้างบนค่ะ แต่พี่เค้าขึ้นไปสำรวจ ได้ยินเสียงหัวโขกชนเพดานดังโป๊ก เลยให้พี่เค้านอนชั้นล่างดีกว่า ขืนให้นอนชั้นบน เดินขึ้นเดินลง หัวโน กลับไปบ้าน พี่ก้อนจะถามว่าไปทำอะไรมา หัวถึงได้โนขนาดนี้...555
มีที่อาบน้ำแบบธรรมชาติ เปิดโล่ง โชคดีไม่มีสัตว์(ที่ไม่ได้)เลี้ยง..(ตุ๊กแก) ไม่งั้นคงไม่มีใครอาบน้ำกันหรอกค่ะ แต่ว่า น้ำอุ่นก็มีนะคะ อยู่ด้านใน แต่ไม่มีใครอาบค่ะ
ดอกไม้รอบๆ บ้านพัก มีอยู่ไม่กี่ดอก ไม่กี่ต้น สามกล้อง ก็เล็งถ่ายกันอยู่นั่นแหล่ะ ... ถ้าเค้าปลูกดอกไม้ให้เยอะๆ กว่านี้ จะน่าอยู่ น่าพักกว่านี้นะ
กล้วยไม้นามพระราชทาน "ชมพูนครินทร์" ที่ทราบเพราะว่า จ.นครนายก นำมาปลูกที่ น้ำตกนางรอง เยอะมาก ตัวเองยังซื้อไปผูกไว้ใต้ต้นไม้ 2 ต้น ที่น้ำตกนางรองด้วยเลยค่ะ ไม่รู้ว่าป่านนี้ ยังอยู่รึป่าว
ดอกเล็บมือนาง
เพื่อนบี๊ พอมาถึง ก็ลงมือเตรียมเมี่ยงคำชาววัง (เวง) เลยค่ะ อร่อยมากจริงๆ ไม่ได้เอารูปน้องโอมาลงค่ะ เพราะถ่ายออกมาหน้าดำหมองคล้ำเล็กน้อย เดี๋ยวเธอจะต้องสะเดาะเตราะห์อีก..อิอิ
ส่วนพี่ไวน์นั่งรอ ให้กำลังใจน้องๆ อยู่ห่างๆ เหมือนท่านเจ้าคุณเนอะ...
เมี่ยงคำชาววัง พร้อมเสริฟสำหรับพี่ไวน์ น้องโอ แอบใส่พริกลูกโดดไปด้วย แต่พี่ไวน์ตาดีกว่า ก่อนจะหยิบใส่เข้าปาก ก็เอาพริกออกก่อน(เมินซะเถอะ อย่าแกล้ง สว.ซะให้ยากเลยน้องเอ้ย...)
หน้าตาดีเชียวเนอะ เหมือนคนทำเลย สักคำมั๊ยคะ... โฮๆๆๆ....กินแล้วคิดถึงแม่ เพราะแม่ก็ชอบทำค่ะ...
กินไป ก็คุยกันไป ตราบใดที่ของบนโต๊ะยังไม่หมด หุหุ...
แต่พอบอกว่าจะถ่ายรูปล่ะน๊า... วิญญาณนางแบบโดยกำเนิดก็เข้าสิงสองสาวทันที
ระหว่างนั้น จขบ. ก็วิ่งไปเก็บภาพปูนึ่ง ที่กำลังเดือดปุดๆ ข้างนอก
พอจะเริ่มอิ่ม ก็ลุกออกไปเดินดูรอบ ๆ นอกบ้านกัน เดินย่อยซะบ้าง จะได้กลับมากินต่อ..อิอิ
พี่ไวน์ภาพนี้ ลงทุนจริง ๆ ไม่รู้ว่ากำลังถ่ายรูปอะไรอยู่ เห็นบอกว่า ชอบถ่ายรูปมดเล็กๆ โห...
นั่งคุยกันไป กินกันไป ปากไม่ได้ว่างกันเลย สักพักก็ชวนกันออกไปเที่ยวข้างนอก ไปรถเพื่อนบี๊คันเดียว เพราะถ้าเข้าวังตะไคร้ เสียค่าเข้า คันละ 150 บาท แต่ถ้าเดินเข้าไป คนละ 10 บาท แต่ สว.อย่างเรา คงไม่เดินเข้าไปหรอกค่ะ
เขื่อนขุนด่านปราการชลฯ ยามแดดร้อนเปรี้ยง ๆ แต่พวกเราก็บ่หยั่น น้องโอบอกว่า มากับพี่ไวน์ ได้เที่ยวเขื่อนกันสองครั้งแล้ว ครั้งแรกก็เขื่อนวชิราลงกรณ์
แล้วก็ไปวังตะไคร้ เพราะอยากย้อนรำลึกถึงอดีตกันหน่อย ไม่ได้มาที่นี่กันเป็นสิบๆ ปีแล้ว
น้ำเยอะดีจัง ช่วงวันหยุด มีคนมาเที่ยวกันเยอะเลยค่ะ มีป้ายปักเตือนนักท่องเที่ยวเป็นระยะ ๆ แต่ไม่ได้ถ่ายภาพมาว่า ถ้าน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดงขุ่น ให้รีบขึ้นจากน้ำทันที หรือได้ยินเสียงไซเรนดัง และห้ามอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
ตอนเด็ก ๆ จขบ.ก็มาเล่นน้ำตกแบบนี้เหมือนกันค่ะ
ที่นี่ เราไปเจอใบชะพลู ก็เลยเก็บมากินกับเมี่ยงคำที่บ้านอีก จขบ.กินก่อน โอเค..ไม่เป็นไร คนอื่นก็กินได้ อิอิ นี่เราเสียเงินค่าเข้า 150 บาท มาเก็บใบชะพลูกันเหรอเนี่ยะ 555 คนอื่นเค้ามาเล่นน้ำกันน๊า...
จากนั้นก็ไป ยุทธศักดิ์ไฮโดรฟาร์ม ที่นี่เค้าปลูกผักปลอดสารพิษ(ผักไฮโดรโปนิกส์) ค่ะ แล้วก็เอามาประกอบอาหารที่ร้านด้วย เราไม่ได้ทานอาหารที่นี่นะคะ ไปซื้อผักสดกัน กลับไปกินอาหารที่เตรียมไว้ที่บ้านดีกว่าค่ะ...อิอิ
อ้าว...ท่านผู้ว่าฯ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
จากนั้น พวกเราก็กลับมาเตรียมอาหารมื้อเย็นกันต่อค่ะ พี่ไวน์ ลูกเสือรุ่นลายคราม ทำหน้าที่ปิ้งย่างจนดำเกรียม (อาหารนะคะ ไม่ใช่พี่ไวน์) สองเนตรนารี รุ่นเดอะ ก็ไปเตรียมอาหาร ส่วนเรา ยุวกาชาดรุ่น (ตัว) เล็ก ไปหุงข้าว แอนด์ล้างจาน เป็นงานหลักค่ะ
เย็นตาโฟหม้อไฟที่เพื่อนบี๊เตรียมมา
กะกินสักสิบคน ใช่ว่าจะไม่หมดนะ แต่หมดอีกวันหนึ่ง...
ปูนึ่ง ฝีมือการแกะของน้องโอศรี น่ากินซะไม่มี ประดับด้วยแจกันผักสลัดโอโดรโปนิกส์ของเราเอง ตั้งไว้สวยๆ บนโต๊ะก็ได้ จะเด็ดกินก็ดี...
ไข่ปูเต็มๆ
ปลาทับทิมเผา ทาด้วยเนยผสมผงกะหรี่ หอมมากๆ
กุ้งเผา ทาด้วยเนย ผสมผงกะหรี่เช่นกัน
ปลาหมึกย่าง...งานนี้ คลอเรสตรอรัล พุ่งปรี๊ดกันเลยทีเดียว...
เป็นอาหารมื้อเย็นที่อิ่มมากๆ ตอนที่เตรียมตั้งโต๊ะ ข้างนอก ได้ยินสองสาว ชวนคนที่พักบ้านอื่นๆ มากินด้วย เออ...ถ้าเค้าเกิดตกลงมากินล่ะ...
วันรุ่งขึ้น ตื่นกันแต่มืด ไม่ใช่แต่เช้านะคะ ไปเดินดูเก็บบรรยากาศรอบๆ บ้านพัก พี่ไวน์ไปตามหาสายน้ำ ตามล๊อกอินชื่อพี่เค้า เพราะฟังเสียงน้ำไหลมาตลอดคืน
จากนั้น เราก็มากินปาท่องโก๋ที่ซื้อมาเป็นอาหารเช้า ตอนแรกถามพี่ไวน์ว่า จะกินคนละกี่ตัวดี พี่ไวน์บอกว่า 3 ตัว เลยบอกพี่เค้าว่า จะไหวเหรอ ตัวเบ่อเริ่มเลย แต่แค่ตัวละ 2 บาทเอง เลยซื้อมา 10 ตัวค่ะ อิ่มแล้ว แดดยังไม่ร้อน เราก็ไปอุทยานพระพิฆเนศ ไปบ้านเพื่อนของบี๊ ที่เจ้าของเค้าไม่อยู่ แต่แอบเปิดไปดูรอบๆ บ้านเค้าเฉยเลย
แล้วก็ไปศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่ง จขบ.ก็ไม่เคยไปเลย ทั้งๆ ที่ อยู่นครนายกมา 4 ปี เพิ่งจะได้ไปเนี่ยะล่ะค่ะ 555
หลังจากนั้น ก็แวะซื้อขนมกุยช่ายที่ อ.บ้านนา ก่อนแยกย้ายกันกลับ กรุงเทพฯ
ขอบคุณเพื่อนๆ ร่วมทางทุกคน ที่ทำให้เราได้มีวันนี้อีกครั้งนะคะ การพบกัน ทำให้เราสนิทสนมกันมากขึ้น เพราะเราต่างเปิดใจ ไม่มีความลับต่อกัน มีอะไรเราก็คุยและปรึกษาหารือกันเสมอ...นี่แหล่ะเพื่อน แม้จะต่างวัยกันก็ตาม
ทริป ต่อไป เราจะขึ้นเหนือกันค่ะ เป็นโปรแกรมนำเสนอโดยพี่ไวน์ค่ะ...จะจัดกระเป๋าไว้รอเลยค่ะพี่
<
สัญจรนครนายก ที่บล๊อกน้องโอ (เนินน้ำ) ค่ะ
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2555 |
|
58 comments |
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2555 17:15:50 น. |
Counter : 4065 Pageviews. |
|
|
|
ย่างเข้าฤดูหนาวแล้ว แต่อากาศยังร้อนอยู่เลยนะครับ ร้อนๆ แบบนี้ได้ไปเล่นน้ำเย็นๆ ที่วังตะไคร้ก็น่าจะดีเหมือนกัน .....
เห็นภาพอาหารที่เตรียมไปทานกันแล้ว รู้สึกว่าจัดเต็มมากๆ น่าทานจริงๆ โดยเฉพาะปูนึ่ง .....
ยุทธศักดิ์ไฮโดรฟาร์ม เคยได้ยินชื่อ แต่ยังไม่เคยไปลองทานเลย ไม่รู้อร่อยหรือเปล่า แต่เพื่อนผมที่้เคยไปทานเมื่อหลายปีก่อน บอกว่ารสชาติธรรมดานะครับ .....