สารวัตรหนุ่มได้รับแจ้งเหตุว่า มีเด็กสาววัยรุ่นหลายคนหายตัวไปในช่วงสามสี่วันมานี้ และวันนี้รายล่าสุดคือ มีนา เด็กสาววัย17ปี ได้หายตัวไปจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ผู้ปกครองของเด็กต่างเร่งให้เขาซึ่งดูแลท้องที่นี้รีบตามหาช่วยเหลือบุตรสาวของพวกเขาโดยเร็วที่สุด หนึ่งทุ่มตรงหลังเสร็จภารกิจที่ค้างอยู่ เขาและลูกน้องรุดไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ

         " กล้องวงจรปิดตรงลานจอดรถก็ดันเสียไปหลายตัวเลยนะนี่ " สารวัตรหนุ่มพูดกับลูกน้อง หลังจากเดินเช็คกล้องวงจรปิดตรงลานจอดรถอยู่หลายรอบ เขาหยุดยืนนึ่งใช้ความคิด ตรงบริเวณที่มีผู้พบเห็นมีนาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนหายตัวไป ก่อนจะเดินนำหน้าลูกน้องกลับเข้าไปในห้างอีกครั้ง

         ภายในห้องประชุมของห้างซึ่งสารวัตรหนุ่มขอสอบสวนผู้ต้องสงสัยรวมทั้งหมดสามคน นั่นคือ ผู้ที่ทำงานอยู่ในห้องควบคุมระบบกล้องวงจรปิดของห้าง 2คน และเจ้าหน้าที่ รปภ อีกหนึ่งคน จนเมื่อผ่านไปชั่วโมงเศษการสอบสวนก็จบสิ้นลง เขาปล่อยให้ทั้งสามคนกลับออกไป สี่ทุ่มเศษสารวัตรหนุ่มและลูกน้องได้แอบซุ่มดูที่หน้าแมนชั่นของพนักงานห้างหนุ่ม ซึ่งเป็นหนึ่งในสองคน ที่ทำงานอยู่ในห้องควบคุมระบบกล้องวงจรปิดของห้าง สาเหตุที่ต้องมาคอยจับตาดูชายคนนี้ เพราะจากที่สอบสวนทั้งสามคน ชายคนนี้มีภาษากายที่ดูน่าสงสัยมากที่สุด

         " คนที่พยายามจ้องตามากเกินไปเวลาที่ถูกถามให้สงสัยคนนั้นไว้ก่อน โดยทั่วไปแล้วคนจะคิดว่า ถ้าโกหกต้องหลบตาเวลาคุยด้วย แต่คนที่วางแผนมาดีย่อมไม่ทำอย่างนั้นแน่ แต่จะเผลอแสดงออกทางภาษากายแทน เช่น บางคนอาจจะเผลอกำมือแบบเกร็งๆ หรือแม้แต่ใช้มือข้างใดข้างหนึ่งบีบมืออีกข้างไว้แน่น เวลาที่คนเราโกหก ร่างกายจะหลั่งสารที่ทำให้รู้สึกระคายเคืองที่บริเวณปีกจมูก จนต้องใช้มือจับหรือเกาที่ปีกจมูกโดยไม่รู้ตัว รวมถึงบริเวณต้นคอด้วย จะทำให้มีเหงื่อออกมาที่บริเวณต้นคอมากผิดปกติ หรือรู้สึกแปลกๆที่ต้นคอ เลยต้องใช้มือลูบต้นคอโดยไม่รู้ตัว"
         (อ้างอิง : งานวิจัยคนพูดโกหกจากภาษากาย Smell and Taste Treatment and Research Foundation)"

         ตำรวจยศน้อยกว่านึกถึงคำพูดของสารวัตรหนุ่ม ที่บอกกับตนหลังจากสอบสวนผู้ต้องสงสัยเหล่านั้น และชายคนนี้น่าสงสัยมากที่สุด ในขณะที่อีกสองคนตอบคำถามไปตามปกติ ไม่แสดงท่าทีมีพิรุธแต่อย่างใด จึงต้องมาคอยซุ่มจับตาดูชายคนนี้ไว้ไม่ให้คลาดสายตา นับตั้งแต่ที่เขาเลิกงานมาจนถึงตอนนี้ .. เวลาสี่ทุ่มห้าสิบนาที ในที่สุดพนักงานห้างหนุ่มก็ออกมาจากห้องพัก สองตำรวจรีบหลบไม่ให้เห็น เขาเดินมองซ้ายแลขวาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะลงมายืนรอตรงข้างถนน ไม่นานได้มีรถตู้มาจอดรับเขาไป สารวัตรหนุ่มรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆทำตามแผนที่วางไว้ทันที

         มีนาถูกพาตัวไปที่บ้านหลังหนึ่งย่านชานเมือง ระหว่างเดินทางเด็กสาวถูกบังคับให้ดื่มน้ำผสมยานอนหลับ เมื่อผ่านไปนานหลายชั่วโมง ที่สุดเด็กสาวงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมา กวาดสายตามองไปรอบๆตัวด้วยความตกใจและตื่นกลัวกับสถานที่แปลกตา และก็ต้องตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อพบว่า ตอนนี้ที่ข้อเท้าขวาของตัวเอง มีโซ่ล่ามอยู่กับเสาไม้กลางบ้านไม้เก่าๆที่เต็มไปด้วยฝุ่นหนาเตอะ มีข้าวของเก่าๆพังๆวางระเกะระกะเกลื่อนกลาดไปทั่วบ้าน เด็กสาวส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือตามสัญชาตญาณ แต่ก็ต้องชะงักหยุดร้องเมื่อประตูบ้านถูกเปิดเข้ามาแรงเร็วจนเกิดเสียงดัง

         " ตื่นซะทีนะเบบี๋ของพี่ ฮ่าๆๆ " เจ้าของเสียงพูดพร้อมกับเดินตรงเข้ามายืนใกล้ๆกับมีนา ชายที่หลอกให้เด็กสาวหลงเชื่อผ่านแอพพลิเคชั่นยอดฮิตในโซเชียลจนโดนจับตัวมาที่นี่ ตอนนี้ภาษากายของเขาตรงข้ามกับก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง เขาใช้มือข้างหนึ่งจับตรึงหน้าเด็กสาวไว้ไม่ให้หันหนี และพูดจาเยาะเย้ยและหยาบคายใส่หน้าอีกหลายประโยค จนเมื่อเด็กสาวสุดจะทนฟัง จึงดิ้นรนจนหลุดจากเขาไปได้ มีนาได้แต่พยายามถอยหนีให้ห่างจากเขา แต่ก็ไปไกลได้แค่สุดความยาวหนึ่งเมตรของโซ่เท่านั้น

         " เฮ้ยๆ อย่าไปทำให้น้องเค้ากลัวสิวะไอ้นี่ เย็นชากับน้องคนสวยเกินไปแล้ว ฮ่าๆ " คนขับรถตู้เดินตามเข้ามาในบ้านพูดขึ้นพร้อมกับเดินตรงไปยืนใกล้ๆกับเด็กสาวเช่นกัน

         " สวยขนาดนี้ได้ราคาดีแน่เลยว่ะ เด็กสาวๆสวยๆแบบนี้ กูชักอยากลิ้มลองซะแล้วสิ55 "

         คนขับรถตู้ในคราบโจรไม่พูดเปล่า ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนเกือบชิดหน้าเด็กสาว ที่ตอนนี้กำลังพยายามสุดกำลังที่จะหันหน้าหนี หาทางหลบหลีกจนพลั้งล้มลงไปนั่งกองกับพื้น เจ้าโจรรถตู้ก็ยังนั่งลงตามไปจ้องหน้าเด็กสาวอีกอย่างไม่ลดละ และพยายามจะลวนลามอีกด้วย ในจังหวะหนึ่งที่เด็กสาวคิดหาทางเอาตัวรอด พลันมือข้างหนึ่งควานไปเจอขวดเปล่าที่วางอยู่ใกล้ๆ ในเสี้ยววินาที ขวดเปล่าฟาดลงบนหัวคนขับรถตู้เต็มเเรงจนขวดแตก ส่งผลให้เขาผงะหงายหลัง ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด มือกุมหัวเลือดไหลซึมติดมือมา ความโกรธเข้าครอบงำในทันที

         " อีเด็กนี่!มึงวอนตายซะแล้ว อย่าอยู่เลยมึง " คนขับรถตู้ชี้หน้าเด็กสาวและส่งเสียงด่าทออย่างเกรี้ยวกราด ลุกขึ้นปรี่เข้าหาหมายจะทำร้ายให้หายแค้น แต่ต้องหยุดชะงักเพราะปลายกระบอกปืนที่จ่อหัวอยู่เวลานี้

         " มึงลองทำสินค้ากูให้มีตำหนิสิมึงได้ตายก่อนแน่ " ชายผู้มาใหม่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงด้วยอำนาจ จนอีกฝ่ายหน้าซีดเผือดรีบยกมือขึ้นไหว้ขอโทษ

         " มาเอาตัวนังนี่ไปขึ้นรถ คราวนี้ได้ของดีนี่หว่าต้องได้ราคาดีมากแน่ๆ " ชายผู้มาใหม่พูดจบ ก็เดินนำหน้าออกไปยังรถตู้ที่จอดรออยู่หน้าบ้าน

         บริเวณรอบๆบ้าน เต็มไปด้วยป่ารกทึบ บริเวณโดยรอบมืดและเงียบ มีเพียงแสงสว่างจากไฟหน้ารถ ส่องไปตามทางเล็กแคบที่ทอดยาวออกมาจากถนนใหญ่ เด็กสาวถูกพาตัวมาขึ้นรถตู้อีกครั้ง ก่อนที่สติของมีนาจะค่อยๆดับวูบไปเพราะยานอนหลับ ได้ทันหันไปเห็นว่า ที่เบาะกลางฝั่งตรงข้ามกัน มีเด็กสาววัยใกล้กันนอนสลบอยู่คนหนึ่ง จังหวะที่เหลือบไปมองที่เบาะหลังก็พบอีกสามคนนอนหลับอยู่เช่นกันจากนั้นภาพก็ตัดไป

         " กว่าจะหาได้ครบห้าคนก็เล่นซะมืดค่ำยันดึกเลยครับนาย หลบกล้องวงจรปิดว่ายากแล้ว หลบมือถือของพวกชาวบ้านยากยิ่งกว่าอีก " ชายที่หลอกมีนามาได้พูดกับผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงภูมิใจในที

         " เออเอ็งเก่งเดี๋ยวจะมีรางวัลให้ว่ะ นังเด็กที่มึงหามานี่ถูกใจกูมาก รับรองว่ากูจะคิวซีอย่างดีเพื่อเป็นการรับประกันให้กับลูกค้า 555 "

         " ดีนะว่าเรือขนส่งมันเลื่อนเวลาให้เราถึงตีหนึ่ง นี่พึ่งห้าทุ่มกว่าเองถ้ายังพอมีเวลา ยังไงผมขอคิวซีช่วยได้มั้ยครับเจ้านาย "

         " เออๆแล้วกูจะคิดดูอีกที มึงขับรถไปดีๆแล้วกัน " คนขับรถตู้พูดสิ่งที่คิดอย่างไม่รีรอเมื่อสบโอกาส และยิ้มอย่างมีหวังเมื่อได้ยินคำตอบ เพราะยังนึกแค้นใจเรื่องที่โดนตีหัวแตก เขาขับรถมองทางอย่างระมัดระวัง เพราะเป็นเส้นทางเล็กแคบและขรุขระ

         " ว่าไงนะ ! หามาได้อีกสองคนเหรอ เออดีๆดีมาก รวยแล้วกูงานนี้ 555 พาไปที่ท่าเรือก่อนได้เลยเดี๋ยวรีบตามไป " ผู้เป็นเจ้านายวางสายจากลูกน้องอีกคน แล้วหัวเราะร่าไม่หยุดเมื่อนึกถึงเงินก้อนโตที่จะได้รับ แถมยังได้สนุกกับเด็กสาววัยรุ่นที่เขาชื่นชอบอีกด้วย

         คนขับรถตู้ได้ยินดังนั้น ก็เร่งความเร็วมากขึ้นไปอีกจนถึงจุดหมาย นั่นก็คือท่าเรือที่พวกกลุ่มโจรลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายรวมถึงหญิงสาวไปขาย เมื่อรถตู้จอดสนิทผู้เป็นเจ้านายเดินลงมาก่อน และเดินไปเคาะรถตู้คันที่จอดอยู่ก่อนหน้า ไม่นานชายหนุ่มซึ่งเป็นพนักงานรับผิดชอบกล้องวงจรปิดของห้าง ลงมาจากรถตู้ด้านคนขับ พร้อมกันนั้นประตูรถตู้ด้านผู้โดยสารก็ถูกเปิดออกแรงเร็ว !! เร็วพอๆกับเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือนับสิบนาย กรูเข้าจับกุมกลุ่มโจรไว้ได้ แน่นอนว่าจะมีการสืบสวนขยายผลช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกไปก่อนหน้านี้ด้วย และไล่ล่าจับกุมผู้สมรู้ร่วมคิดมารับโทษให้ได้ ...

         ตีสามเศษมีนาตื่นขึ้นมา และพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล เด็กสาวร้องไห้โฮออกมาเสียงดังเหมือนเด็กเล็กๆเมื่อเห็นหน้าพ่อกับแม่

         " หนูคิดว่าจะไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่แล้ว " มีนาพูดปนสะอื้นในอ้อมกอดแม่

         " ไม่เป็นไรนะลูก ไม่เป็นไร แค่ลูกกลับมาอย่างปลอดภัยแม่ก็ดีใจมากแล้ว มันผ่านไปแล้วนะลูก " ผู้เป็นแม่พูดกับลูกสาวพร้อมกับกระชับแขนข้างที่กอดลูกให้แน่นขึ้น มืออีกข้างก็ลูบหลังขึ้นลงเบาๆเพื่อปลอบโยน ผู้เป็นพ่อมองดูลูกสาวที่กอดแม่ไว้แน่นเหมือนตอนเด็กๆก็นึกเอ็นดู ต่อให้ลูกจะโตแค่ไหน ก็ยังดูเป็นเด็กในสายตาพ่อแม่ล่ะนะ พ่อกับแม่ของเด็กสาวถอนใจอย่างคลายกังวล ต่างคิดว่าต่อไปนี้จะเอาใจใส่ดูแลลูกให้มากกว่านี้ เพราะชีวิตต่อจากนี้ของลูกสาวคนเดียวของพวกเขาก็เปรียบเหมือนฟ้าหลังฝนที่มีรุ้งสวยๆปรากฏให้เห็น และคงต้องพาไปรักษาเยียวยาจิตใจกันต่อไป