หนุ่มสอดกระเถิบตัวเองเข้าใกล้ท่านทั้งสอง ใช้มือป้องปากกระซิบกระซาบ ท่านเจ้าคุณและคุณหญิงตาโต อ้าปากหวอ พยักหน้า ตาโต อ้าปากหวอ พยักหน้า ตาโต อ้าปากหวอ พยักหน้า วนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เล่นเอาแม่นางสือหงุดหงิดเหลือแสน ครั้นจะเขยิบเข้าไปฟังใกล้ๆก็กลัวเสียฟอร์ม เลยได้แต่นั่งกางหูกระพือพัดโบกอยู่อย่างนั้นพอนายสอดกระซิบกระซาบเสร็จ ก็ขอตัวลาไปทำธุระ ท่านเจ้าคุณและคุณหญิงก็นั่งดูโทรทัศน์กันต่อโดยไม่พูดอะไรเลย งานนี้คุณหนูจอมแอ๊คอ๊าทปวดแก่นเป็นหนักหนา นึกอยากจะโยนฟอร์มทิ้งแล้วชิ่งเข้าประกบข่าว ก็ให้ละอายใจและเสียดายมาดเข้มของตัวเอง ที่อุตส่าห์ฟูมฟักจนเติบโตได้ระดับ อยู่ๆจะจับมาดเขวี้ยงทิ้ง มันก็ยิ่งเสียดายอย่ากระนั้นเลย แม่นางสือผู้ทรนงก็ปลงใจว่า จะไปหาข่าวเองที่นอกคฤหาสถ์ "อู๊ยยยย .... แค่คิดก็มันแย๊ววววว....." สือรตีหัวร่อก๊ากๆในใจตีสามยามปล่อยผี บรรยากาศในชุมชนบ้านดอนช่างเงียบสงัด สงัดขนาดสุนัขประจำชุมชน ยังนอนขดตัวขนลุกซู่ชูตั้งชัน ในความมืด ยังมีสิ่งเคลื่อนไหวที่มืดกว่า ขยับวิ่งจี๋จากต้นตะขบโบราณต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่ง วิ่งกลับไปกลับมาระหว่างสองต้นนี่แหละ ผู้เขียนก็ไม่รู้ว่ามันจะวิ่งหาอะไร เรามาตามดูกันต่อ...สิ่งดำลึกลับวิ่งเร็วแบบนินจา กลับไปกลับมาระหว่างต้นตะขบสองต้นร่วมยี่สิบรอบก็หอบหืดถามหา ทรุดฮวบลงนอนแผ่สี่สลึง "โอย... เฮือกๆๆๆ เหนื่อยอิ๊บอ๋าย โอย... เฮือกๆๆๆ""ก็เหนื่อยอ่ะดิ ฉันเห็นแล้วยังเหนื่อยแทน" เสียงลึกลับสาดแทรกฝ่าความมืด สิ่งดำตกใจเลิกลัก หันซ้าย หันขวา ควับ ๆ ๆ ๆ แล้วถอยกรูดจนกางเกงตูดขาด "ใครอ่ะ... ใคร... ถามว่า ใคร๊....." สิ่งดำถามเสียงหลงแหลมเปี๊ยบขอโทษทีท่านผู้อ่าน ผู้เขียนดันเผลอพูดกับตัวละคร เล่นเอาบทเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ดีแกล้งมัน เรามาแอบดูกันต่อดีกว่า "โฮ๊ะ คืนนี้โชคไม่ดี ไม่มีใครผ่านมาเลย ไว้พรุ่งนี้ดีกว่า" สิ่งดำเดินหิ้วสภาพดำๆ กลับนอนตีแปลงที่ห้องเช่าหนึ่งคูหาของเขา ด้วยอาการจิตตกเศร้าหมองนองน้ำตา "ไก่ กา อาราเร่ ไก่ กา และอาเราเร่" มาอีกแล้วเสียงนี้ ตะวันรุ่งพุ่งขึ้นฟ้า พราวนภาทอประกายแสด สลับคั่นกั้นแพเมฆ บุหลันเขกกะโหลกโบกมือลาท่ามกลางผู้คนขวักไขว่ ก็มีหนุ่มคนหนึ่งควักไข่ออกมา ! เขาควักไข่ออกมาตั้งโชว์เรียงขายในตลาดสดประจำชุมชน "ไข่สดๆจ้า ฉกมาหมาดๆจากท้องแม่ไก่เลย ไข่โซ๊ดดดดดด สด จ้า...." พ่อค้าไข่ตะโกนขายไข่เสียงก้องกังวาล บรรยากาศตลาดสดยามเช้านี่น่านิยมยิ่ง ผู้คนมากหน้าหลายตาต่าง ทักทายกันด้วยไมตรีกระดี๊กระด๊า "กูดหม้อนิ่ง กูดไน้ท์ กูดอาฟเตอร์ช๊อก !?!"ชุมชนบ้านดอนมีเสน่ห์เป็นของตัวเอง ชาวชุมชนนี้รักใคร่กลมเกลียวกัน ดั่งเป็นญาติมิตรชิดใกล้กันมาหลายภพหลายชาติ เพลงประจำชุมชน ที่ต้องเปิดปลุกใจในทุกเช้าหลังเพลงชาติก็คือเพลง "เธอเจ็บ ฉันเจ็บด้วยคน" ว่าแล้วเพลงดังกล่าวก็เปิดลั่นชุมชน ทำนองเพลงมาร์ชปนป๊อบ ผสมอาร์แอนด์บี ผนวกทำนองแร๊บโยว่ โดยเนื้อเพลงพอสังเขปมีดังนี้....."เมื่อป้าแต๋นออกลูก โอ๊ยยยยยยยยยยยย ก็แสนเจ็บ คราลุงแซมถูกชก โอ๊ยยยยยยย ก็แสนเจ็บ ครั้งพี่มากโดนตืบ โอ๊ยยยยยยยยยยย ก็แสนเจ็บ เจ็บๆๆๆ เสียวๆ ความรู้สึกลดเลี้ยวเข้ากลางใจชุมชน *คนทั้งสามเจ็บ ชุมชนขอเจ็บด้วยคน (ซ้ำ *) ขอเป็นคนร่วมแจม ร่วมเจ็บ เฮ่ ! (เสียงชาวชมชนตะโกนเฮ่ ! ขึ้นพร้อมกัน) ช่วยกันเหน็บยาขม เฮ่ ช่วยกันดมกลิ่นเต่า ช่วยกันเม้าท์คุณหนูสือ ช่วยกันลือกระจาย ช่วยกัน....." เอาว่าเพลงพอสังเขปก็แล้วกันในขณะที่ชาวชุมชน กำลังพร้อมเพรียงร้องเพลงปลุกใจกันอยู่นั้น คุณหนูสือรตีก็โผล่มาในสภาพหลุกหลิก วอกแวก มีพิรุธยิ่งแล้ว เธอพลางตัวไม่ให้คนสังเกตโดยการใส่แว่นดำ แต่งหน้าทาปากอย่างกับลิเกหลุดออกมาจากสถานบำบัดจิต เสื้อลายดอกชบาแดงแช๊ด ตัดกับกางแกงลายกระดานหมากรุกสีเขียวตอง ยิ่งมองยิ่งน่าสมเพช ซ้ำร้ายหล่อนยังล่อรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วครึ่งเดินขาสั่นดิ๊กๆๆ จะก้าวขาทีต้องเล็งก้านกิ่งไม้เอาไว้เหนี่ยวแล้วโผ สภาพคุณหนูสือในยามนี้ ไม่ต่างไปจากกระรอกสีรุ้งบินได้ แล้วไหนจะวิกผมย้อนยุคตั้งกระบังสูงเป็นเมตร ลมพัดทีกระบังก็แทบจะกลายเป็นใบเรือของเรือใบหล่อนกึ่งเดินกึ่งโผเข้าชุมชน โดยมั่นอกมั่นใจหนักหนาว่าไม่มีใครสังเกตเห็นหล่อน
สือรตี..รู้ได้ไงเนี่ยว่าไม่มีใ่ครสังเกตุเห็น เขาเห็นกันทั้งบล๊อคแล้ว..
++..ขอบคุณนะครับ ที่แวะไปทักทาย..แล้วอย่าลืมกลับไปเยี่ยมอีกน๊า....++
สวัสดีตอนสาย ๆ ค่ะ