การเดินทางในครั้งนี้เริ่มต้นจากสะสมหาข้อมูลมานานนับปีค่ะ รวมรวมข้อมูล ความรู้จากอินเตอร์เน็ทและจากรีวิวของผู้มีประสบการณ์ ศึกษาไปเรื่อยๆ แล้วก็นั่งเพ้อฝันว่าสักวันเราคงจะได้ไปกะเขามั้ง
อิอิ
3 ปีให้หลัง...ผ่านไปผ่านมาไวเหมือนโกหก และเหมือนต้องมนต์สะกดอะไรบางอย่างให้หลงจองแพ๊คเก็จทัวร์ นั่นก็คือ...ปลาฉลามครีบดำ / ปะการังน้ำตื้น / หาดทรายสวยๆ กะน้ำทะเลใสๆ นั่นเอง หุหุ
การเดินทางของเราจึงเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 23 ก.พ. 2556 และสิ้นสุดลงในวันที่ 2 มี.ค. 2556 ค่ะ โดยจะขอแยกรีวิวออกเป็น 4 ส่วน คือ
1. อ.คุระบุรี - อ.ตะกั่วป่า - เขาหลัก จ.พังงา
2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
3. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
4. เกาะตาชัย
5. แผนการเดินทางและค่าใช้จ่ายทั้งหมด
หลังจากจองโน่นนี่นั่นเรียบร้อยเราก็พร้อมเดินทางค่ะ จากบ้านแถวถนนรามอินทรา เราต้องไปให้ทันรถทัวร์เที่ยวเย็นก่อนเวลา 19.00 น. ค่ะ เราเรียกแท๊กซี่ให้มารับที่หน้าบ้าน เพื่อไปลงที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอยค่ะ แล้วก็ต่อรถตู้ไปลงที่อนุสาวรีย์ชัยฯ (ขึ้น 3 ด่านเลย กลัวไม่ทัน) รถตู้วนไปจอดข้าง รพ.ราชวีถีค่ะ จากนั้นเราก็ต่อรถเมล์สาย 515 เพื่อไปลงสายใต้ใหม่ (สบายมากๆ เพราะรถเมล์มาจ่อตูดรออยู่เลยค่ะ เพราะตรงนั้นเป็นท่ารถเมล์พอดี ใช้เวลาเดินทางเร็วมากค่ะ เกือบชั่วโมงได้ (ฮา ไม่ต้องนั่งแท๊กซี่จากบ้านไปให้เปลืองตังค์ แถมรถติดอีกต่างหาก)
เราจองตั๋วของลิกไนท์ทัวร์ค่ะ และแวะค้างคืนที่คุระบุรี 1 คืน เพราะกลัวเหนื่อย + นอนไม่หลับจากการนั่งรถทัวร์ค่ะ (ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ไหนจะเสียงคนคุยกัน เสียงกรน เสียงเดินดูแลความเรียบร้อยของ พนง. เป็นต้น) >
ตอนแรกเรากะว่าจะไปเที่ยวแค่ อช.หมู่เกาะสุรินทร์เท่านั้น แต่คิดไปคิดมาเห็นว่าไหนๆ ก็เดินทางไปแล้ว เลยอยากเที่ยวให้ครบทั้งจังหวัดพังงา วางแผนไปมาเลยได้แค่แถวๆ อ.คุระบุรี - อ.ตะกั่วป่า - เขาหลัก เนื่องจากว่าใกล้ที่พักและท่าเรือค่ะ
และที่พักของเราก็คือ.....แตน...แต๊น...แต๋น " ธารารินทร์ รีสอร์ท" ค่ะ ไม่หรูหรา แต่สะดวก สบาย พอเพียง และที่สำคัญทุกเช้าจะมีเสียงนกร้องให้ฟังตรงหัวนอน ไม่ซ้ำเสียงนกกันเลยที่เดียว เหมือนแบ่งเวลาร้อง กันเรียบร้อยชอบมากค่ะ ^^
หลังจากที่นอนพักเอาแรงก็ตื่นมาประมาณสิบโมงกว่าๆ ท้องเริ่มร้องเลยออกไปหาของทานเยื้องๆ ที่พักค่ะ (เป็นตลาดสดเล็กๆ ของชาวคุระบุรีเขา) เราไปตลาดก็วายแล้วละ พอดียังมีข้าวมันไก่เหลือจึงเสร็จเรา วันนี้เราตั้งใจจะเข้าเมืองเพื่อไปเที่ยวแถวตะกั่วป่าเมืองเก่าค่ะ เดินไปเช่ามอไซต์ที่ "บุญปิยะรีสอร์ท" ในราคา 200 บาท/วัน (ค่าน้ำมันต่างหากเด้อ) ลัดเลาะดที่ยวทำตัวเป็นเด็กแว๊น แวะไปเรื่อยๆ แดดร้อน สลับกับฝนตกปรอยๆ เป็นช่วงๆ
สถานที่แรกที่เราไปก็คือ "อุทยานแห่งชาติน้ำตกศรีพังงา" เข้าไปเพื่อเอาตราประทับของอุทยานโดยเฉพาะ ^^ ต่อมาก็แว๊นมาถึง "สะพานเหล็ก" ทางข้ามไปเหมืองแร่เก่าของจังหวัดพังงา

และนี่คือพาหนะคู่ใจเราค่ะ

ขับวนไปวนมาเริ่มเหนื่อย ฝนก็ตก แดดก็ร้อน (หิวด้วย) เราเลจนมาเจอร้าน "ยิ้ม ยิ้ม" เห็นคนเยอะดี แถมข้อมูลร้านนี้ก็เคนอ่านผ่านตามาบางแล้ว เลยตัดสินใจไม่ไปต่อค่ะ บ่ายโมงแล้วเลยวกกลับไปหาของทานก่อนดีกว่า
ค่าอาหารมื้อนี้หมดไปประมาณ 460 บาทค่ะ จากนั้นเราก็ตกลงกันว่าจะขับเลาะไปเที่ยวแถวเขาหลักกัน (อีก 30 กว่าโล ไหนๆ ก็ขับมาตั้ง 30 โลแล้วเพิ่มอีกหน่อยจะเป็นไร อิอิ) สถานที่ต่อไปคือนี้เลย "อุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่"
ทางเดินขึ้นลงไปชมทะเลชันเหมือนกันค่ะ เล่นเอาเหนื่อยหอบเลยทีเดียว เราย้อนกลับออกมากราบ "ศาลเจ้าพ่อเขาหลัก" เพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ ก่อนจะเดินทางต่อไปที่บ้านบางเนียง....
ระหว่างทางเราจะเห็นป้ายเตือนเส้นทางหนีภัยคลื่นยักษ์สึนามิตลอดค่ะ

มาต่อกันที่ "เรือ 813" สุดฮิตในครั้งนั้น

และสถานที่สุดท้ายที่เราแวะในวันนี้ก่อนที่จะขี่มอไซต์กลับคุระบุรีก็คือ.... "หมู่บ้านน้ำเค็ม"
(หมู่บ้านตำนานสึนามิ) เราเดินทางถึงคุระบุรีเวลาประมาณเกือบหกโมงเย็น (เหนื่อยมากๆ ถ้ากลับค่ำกว่านี้ระหว่างทางเปลี่ยวน่าดู ไม่รู้ว่าบ้าระห่ำขับมอไซต์ไปกันได้ไงเกือบร้อยกว่าโล !) พอคืนรถมอไซต์เสร็จก็ต้องรีบไปเตรียมด้วยเก็บเสื้่อผ้า รีบนอนแต่หัวค่ำกันค่ะ เพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปหมู่เกาะสุรินทร์กันแล้ว....เย้ๆ
ตอนต่อไป : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ 3 วัน 2 คืนค่ะ................