Group Blog
All Blog
|
Rayong Trip 4-8 May 2011 (2554) เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า...เราดันไปลงเรียนอบรมการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่ กศน. ภาคตะวันออก ก่อนจบคอรส์จะต้องมีการสัมมนาวิชาชีพแล้วก็สอบวัดผลว่าที่เรียนไปนั้นจะ "ตก" หรือว่า "ผ่าน" แหะๆ และด้วยความงกของเดี๊ยนเอง ไหนๆ จะเสียเงินไปทั้งที่ก็ต้อง...อ่านะ จัดเต็ม..คุ้มค่ากะตังค์ที่เสียไปเลยเป็นเรื่องราวของทริปนี้นั่นเอง... ได้ฤกษ์เดินทางออกจากบ้าน 7.00 น.(ออกจากปั๊มน้ำมันมากกว่า)แล้วก็ขึ้นทางด่วนหลังบ้านไป...>>>>>> ถึงจุดหมายปลายทางเวลา 8.30 น. แอบงงเล็กน้อยว่าทำไมถึงเร็วจังฟะ เพิ่งขับมาระยองครั้งแรกระเนี่ยกลัวหลงอะ แต่คุณแฟนบอกว่าถึงแล้วจริงๆ (ช่วยดูทางไม่ยอมหลับเลยอะ คงจะกลัว คริๆ) พอเช็คอินที่พักเรียบร้อยเราก็เอ่ยปากชวนคุณแฟนเลยค่า ว่า..อยากไปเกาะเสม็ดไหม..(ความจริงเราต่างหากที่อยากไป) เลยทำเนียน แหะๆ เค้าก็หลงกลบอกไปก็ได้ ตามใจ เลยตกลงกันว่าจะไม่เอารถไปจอดที่ท่าเรือ (คุณแฟนกลัวรถหายค่า) คู่เลิฟตะลอนทัวร์เลยเดินออกจากที่พักไปที่ท่ารถ บขส. ท่ามกลางแดดร้อนระอุ ค่ารถ 25 บาท นั่งซะเมื่อยก้นเลย แถมร้อนด้วย เพื่อนร่วมทางบนรถก็อะนะ คนในพื้นที่ทั้งนั้น มีต่างด้าวอยู่สองหน่อ นั่งไปจนถึงท่าเรือนวลทิพย์ แล้วก็นั่งเรือข้ามไปเกาะเสม็ด ค่าเรือคนละ 50 บาทจ้า ไป-กลับก็คนละ 100 บาท ไปเช่ามอไซต์ที่หน้าด่านร้านที่ดูแล้วถูกชะตา ได้มาในราคา 200 บาท 3 ชั่วโมง (ตอนนั้นคิดว่าแพงเหมือนกันแต่เอาก็เอาฟะ เพราะเริ่มหิวข้าวเที่ยงแล้ว หาดแรกที่ประเดิมความงามก็คือ แต่น แตน แต๊น... แล้วก็ไปต่อกันที่..... และระหว่างทางที่ทัวร์ตามหาดต่างๆ เราสองคนก็เริ่มเข้าใจว่าทำไมมอไซต์ที่เช่ามาล้อมันถึงได้ใหญ่ยังกะจะไปแข่งขับมอไซต์วิบาก (ตอนไปหาอ่านกระทู้คนอื่นก็พอทราบข่าวมาบ้างแต่ ไม่คิดว่าทางจะอุบาทว์ขนาดนี้) นั่งไปแบบเด้งดึ้ง..เด้งดึ้ง กระดกขึ้นกระดกลงก้นระบม ข้าวเที่ยงที่กินไปย่อยหมดพอดีกว่าจะถึงอ่าววงเดือนที่เค้าว่ากันว่าสวยนักหนา ขอบอกว่าตามทางบนเกาะเสม็ดนี่แบบว่า นอกจากทางจะวิบาก อุบาทว์ขนาดหนักแล้ว ข้างทางขยะยังเกลื่อน แถมเหม็นเน่าด้วย แล้วไอ้น้ำโคลนที่ขังตามแอ่งน้ำนี่มองไปเห็นต้นตอแล้วอยากจะอ้วกอะค่ะ มาจากขยะล้วนๆ (คุณนายระเบียบมาเอง แหะๆ ยังบ่นกะแฟนเลยว่าทางเกาะเข้าน่าจะจัดสุขาภิบาล เก็บขยะ กะการคมนาคมให้ดีกว่านี้หน่อยนะเนี่ย บ่นไปบ่นมาแฟนเราบอกว่า เออ...มันอาจจะเป็นจุดขายของเกาะนี่ก็ได้ไม่งั้นคนไม่สนใจมา พี่แกว่าไปโน้น) พอเดินไปชมความงามของหาดวงเดือน แอบผิดหวังเล็กน้อยค่ะ น้ำใส ...แต่ ไม่มากแบบที่เราวาดฝันไว้ เศร้าใจจัง แถมวันนั้นที่ไปคนไม่เยอะมาก แต่เรือเพียบ เลยไม่ปลื้มค่ะ เลยขับชมวิวตามหาดอื่นๆ ต่อเรื่อยๆ ค่ะ อันนี้วิวหน้าปากทางเข้าอ่าวลุงดำค่ะ ไปต่อกันที่อ่าวหวายค่ะ ตรงซุ้มกอไผ่เป็นมุมโค้งสวยดีค่ะเลยถ่ายรูปเก็บไว้ ไม่รู้ว่าทางรีสอรท์เขาอนุญาตให้เข้าไปรึเปล่า แต่เห็นมีมอไซต์จอดอยู่เพียบเลย เลยเข้าไปมั้ง ปรากฏว่าเข้าไปเงียบมากยังกะป่าช้าไม่มีคนไทยเลยค่ะ มีแต่ฝรั่งทั้งนั้น พนักงานประจำรีสอรท์ก็ไม่เห็นมีเลย เราเลยทำเนียนเล่นน้ำที่อ่าวหวายนี่ซะเลย เพราะน้ำใสสวยงามมาก (สวรรค์สุดๆ) ชุดก็เปลี่ยนกันง่ายๆ แค่ตรงนั้นละค่ะ เราเปลี่ยนแต่กางเกงนะไม่กล้าถอดหมดไม่มีห้องเปลี่ยน พกแต่ผ้าปาเต๊ะบางๆ มาแค่ผืนเดียวเอง เล่นน้ำสะใจหายอยากเลยค่ะ สวยงามมากๆ พอเล่นน้ำทะเลจากอ่าวหวายเสร็จก็ปึ่งกลับไปที่หน้าด่านค่ะ เพราะเหนื่อยแล้ว และกว่าจะขึ้นเรือกลับไปฝั่งบ้านเพก็ประมาณเกือบ 16.00 น. แล้วค่ะ พอถึงฝั่งบ้านเพก็ตกลงกันว่าจะขึ้นสองแถวกลับไปเอารถมาทานข้าวที่หาดแม่รำพึงค่ะ ตกลงปลงใจกันที่ร้านป้ายาค่ะ อาหารแพงขึ้นเยอะเลย แต่ความสดคงเดิม ที่สำคัญปราศจากฟอร์มาลีนค่ะ ทานแล้วไม่แพ้ ผื่นลมพิษไม่ขึ้นค่ะ ผ่าน (แรกๆ แอบเสียวอาการแพ้อาหารทะเลเหมือนกัน) วันถัดมาหลังจากเรียนและสัมมนาเสร็จประมาณบ่ายๆ ก็พากันไปเที่ยวบ้านเพต่อค่ะ ไปซื้อของฝากเตรียมไว้เลย และแวะชมวิวกันที่หาดแม่รำพึง (คุณแฟนอยากนั่งเต๊นท์ชมวิวค่ะ) ปรากฏว่าหาดแม่รำพึงนั่น....พระเจ้าจอร์จ...ขยะเยอะมากพอๆ กับคนที่มาเล่นน้ำ เห็นแล้วเศร้าใจมากค่ะ มนุษย์เราน่าจะช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกันหน่อยนะเนี่ย น้ำก็แบบว่าขุ่นมั่ว ไม่น่าเล่นเลยอะ (เดียวละคายผิว อิอิ) เปล่าค่ะเห็นน้ำแล้วคันแทน และพอดีกะที่อยู่ๆ หลังจากที่ทานข้าวกลางวันจากตลาดบ้านเพ และมานั่งโซ๊ยปลาหมึกไข่นึ่งกับกั้งกระดานนึ่งที่ชายหาดแม่รำพึง ประมาณไม่ถึง 30 นาที รู้สึกเริ่มคันตามหน้า ตามตัว ตอนแรกนึกว่าเห็นขยะเกลื่อนกลาดชายหาดแล้วโรคกำเริบ (โรคคุณนายระเบียบค่ะ) ปรากฎว่าไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่..ผื่นคันขึ้นเต็มหน้าและเต็มตัวเลย เกาเป็นลิงเลยค่ะ เพราะคาดว่าน่าจะแพ้อาหารทะเลที่ซื้อจากตลาดบ้านเพ เพราะมันไม่สดแบบเป็นๆ มันขายแบบแช่น้ำแข็งอะค่ะ ไม่รู้ว่าแช่ฟอร์มาลีนมาด้วยรึเปล่า แต่คาดว่าน่าจะแช่ค่ะ เพราะอาการประจำตัวกำเริบ แงๆ บวมเห่อไปทั้งตัว แต่ก็ยังไม่วายห่วงเที่ยวค่ะ จัดต่อไปที่ลานหินขาวค่ะ ไหนๆ ก็ขับมาแล้วต้องแวะเที่ยวให้คุ้ม แล้วก็นึกขึ้นมาได้ค่ะว่าตั้งแต่มานี้ยังไม่ได้ถ่ายรูปคู่กันเลย เลยขอสักหน่อย อิอิ พอเช้าวันเดินทางกลับบ้านเราแวะเที่ยวกันที่สวนสุภัทราค่ะ ไม่ไกลมากค่ะแค่ เกือบ 20 กิโล ไหนๆก็หลงกลมาแล้วอะนะข้าวเช้าก็ยังไม่ได้ทานเลยอะ เริ่มหน้ามืด ตามัวเพราะท้องร้อง ค่าเข้าชมสวนแอบแพงอยู่เหมือนกันค่ะ 250 บาท/คนค่ะ แต่คิดว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไม่รู้ว่าได้มาเที่ยวอีกเมื่อไรก็เลยยอมจ่ายค่ะ จัดไป 2 คน 500 บาท เริ่มทัวร์กันที่สวนเงาะค่ะ ทานฟรีเต็มที่ไม่อั้นค่ะ ไม่มีกำหนดเวลานะค่ะ เราจะอยู่ตรงจุดไหนนานเท่าไรก็ได้ค่ะ รถรางจะปล่อยเราลงแล้ววนไปรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ค่ะ รถจะวิ่งวนทั้งวันค่ะ คุ้มค่ะคุ้ม 250 ให้เขาไปเหอะค่ะ ค่าเหยียบย่ำสวนเขากระจุยกระจาย แถมบริการดีเยี่ยมมีไกด์ส่วนตัวด้วย 555 และเค้าให้เราเก็บเงาะเองได้ด้วยค่ะ (ถ้าเอื้อมถึง ต้นเงาะบางต้นสูงมาก....ก) ไปต่อกันค่ะที่จุดต่อไป ซุ้มรวมผลไม้ต่างๆ ค่ะ เราเน้นกินแต่หมอนทองอะค่ะ คิดว่าคุ้มสุด 555 แล้วไปต่อกันที่ ซุ้มสลัด กะ ซุ้มส้มตำ ทานกันแบบว่าท้องจะแตกค่ะ เลยไปเดินย่อยถ่ายรูปตรงซุ้มองุ่นค่ะ แล้วขึ้นรถรางไปกันต่อที่จุดฟาร์มเลี้ยงผึ้งค่ะ มีการสาธิตสะบัดน้ำผึ้งวิธีการสังเกตน้ำผึ้งแท้ ค่ะ อื้มมม เห็นภาพแล้วคิดถึงเกาะเสม็ดจังเลย
โดย: มิลเม วันที่: 17 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:56:29 น.
แวะมาเยี่ยมชมครับขอฝากเว็บแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวขอบคุณครับ
โดย: travelplace (loveyoupantip ) วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:14:24:00 น.
|
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?] จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey. Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว https://www.facebook.com/EmmyJourney Blog : https://emilia0412.bloggang.com ** ขอสงวนสิทธิ์ *** ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก |