deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 
ดีใจที่ได้ไปอุดรธานีในช่วงนี้



ขอน้อมกราบองค์พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน สิ่งใดที่ลูกหลานได้เคยล่วงเกินด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ลูกหลานขอกราบขอขมา ขอองค์พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน ได้โปรดงดโทษล่วงเกินอันนั้น ตั้งแต่บัดนี้ตราบเท่าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ ธรรมใดที่ท่านได้รู้ก็ดีเห็นก็ดีแล้ว ขอให้ธรรมนั้นลูกหลานได้ประจักษ์แจ้งเห็นเช่นองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน ด้วยเทอญ

ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเข้าบล๊อกได้ก็แค่แว๊บๆ ทางมือถือได้แค่อ่านทำอะไรไม่ได้อาจเพราะไม่เคยชิน FB MSN เช่นกันจะคอมเมนท์ จะตอบก็ไม่มีเวลาและลำบาก...วันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมามีคนชวนไปทานอาหารทะเลแถวป่าชายเลนบางขุนเทียนถนนพระราม 2 ไปทานที่ร้านอะไร จขบ.ก็จำไม่ได้เพราะตามเค้าไปเลยลืมดูชื่อร้าน....55555...เหมือนโลกจะกลมเจอคนที่เหมือนจะรู้จักสำหรับตัวเองและเป็นที่รู้จักของคนร่วมทาง รู้จักกันต่างกรรมต่างวาระ สำหรับตัวเองการรู้จัก การพบเจอทำให้รู้สึกปวดจิ๊ดๆ ที่ใจ แค่เห็นก็รู้ว่างานกร่อย สิ่งที่คิดว่าจะทานกันให้เอร็ดอร่อยสนุกสนานกลายเป็นการทานแบบครุ่นคิดต่างคนต่างคิด..ต่างวาระกรรมกัน..อาหารวันนี้แพงไปสักนิดในความรู้สึกตัวเอง แค่ไม่กี่อย่างหมดไป 1500 กว่าบาทนิดหน่อยไปทั้งหมด 6 คนเป็นเด็กซะ 2 คนคือเจ้าตัวน้อยหลานเลิฟ กับคู่ซึ้ของเธอเป็นหญิงสาวน่ารักน่าหยิก อาหารที่สั่งวันนี้มีปูทะเลตัวเบิ้มๆ 2 ตัวแกะมามีแต่เนื้ออวบๆ ปลาหมึกนึ่งมะนาวที่หั่นมาเป็นชิ้นเล็กไม่กี่ชิ้นเองรสชาติเหรอเปรี้ยวจิ๊ดได้ใจซดทีรัยหยีตาเมื่อนั้น ปลากระพงราดน้ำปลา (น่าจะเรียกว่าปลากระพงราดน้ำตาลน้ำปลาตามมากกว่าอะไรจะหวานได้ปานนั้น) ทอดมันกุ้งประมาณ 5 ชิ้นมั๊งจานนี้คู่ซี้เจ้าตัวน้อยซัดคนเดียวเรียบแบบว่าชอบมาก ข้าวผัดอะไรจำไม่ได้เหมือนกันทานแบบ งงๆ น่ะ ยำถั่วพลูเผ็ดจัดจ้านจนทานกันไม่ลงไม่กล้าห่อกลับบ้านด้วยล่ะเพราะขืนเอากลับมาคงเอามาทิ้งแน่นอน วันนี้ จขบ.เป็นคนจ่ายค่าเสียหาย

วันจันทร์ที่ผ่านมาไปทำงานตามปกติ วันนี้ยุ่งพอสมควรเพราะต้องช่วยเตรียมงานจัดประชุมในวันจันทร์อังคารที่จะถึงนี้ และมีงานของตัวเองคั่งค้างที่ต้องรีบทำให้เสร็จก่อนเดินทางไปอุดรธานีในวันอังคารและพุธที่ผ่านมา วันอังคารนัดเจอกันที่ทำงานเจ็ดนาฬิกาตรงเป๊ะแต่ออกจากที่ทำงานเวลาโมงครึ่งได้ เดินทางไปตามถนนมิตรภาพ การเดินทางครั้งนี้เพื่อไปดูงานที่จังหวัดอุดรธานีและประจวบเหมาะกับเป็นเวลาที่มีงานศพหลวงตามหาบัวที่ท่านละสังขารเมื่อ 30 มกราคม 2554 ด้วย ตอนแรกคิดว่าคงจะไม่ได้ไปซะแล้ว ดีใจมากที่หัวหน้ามาถามว่าใครจะไปดูงานที่อุดรธานีบ้างตอนแรกจะไปกันเยอะ แต่บางคนติดการจัดประชุมที่จะมาถึงในวันจันทร์อังคารนี้ต้องเตรียมงานหลายอย่างเลยอดไป เที่ยวนี้เลยไปทั้งหมด 8 คนรวมทั้งคนขับ ไปด้วยรถตู้ทั้งไปและกลับ

แวะทานข้าวกลางวันประมาณบ่ายโมงกว่าที่ร้านไก่ย่างท่าพระ จ.ขอนแก่น โชคดีที่ยังพอมีอาหารให้ทานกันถึงจะเป็นตัวสุดท้ายก็ตาม...555555...เจ้าของร้านบอกเป็นอานิสงค์ของหลวงตามหาบัวที่แผ่บารมีให้ลูกหลานเลยขายดิบขายดี ไก่ย่าง กับปลาเผาเป็นตัวสุดท้ายที่เมื่อทานอร่อยแล้วสั่งเพิ่มไม่ได้ ส้มตำสั่งได้ตลอด หมูแดดเดียวสำหรับตัวเองไม่ได้ทาน ไส้กรอกอีสานร้านนี้อร่อยมากไม่เปรี้ยวเพราะ จขบ. ไม่ชอบทานเปรี้ยว ลาบเป็ดก็อร่อยทานแล้วไม่รู้ว่ากำลังทานเป็ดอยู่ ตำแตงปลาร้าเผ็ดมากทานไม่กี่คำต้องวางแต่คนอื่นซัดเรียบ ค่าเสียหายพันกว่าบาทหัวหน้าจ่าย..5555..

ไปถึงอุดรธานีก็เกือบบ่ายสามโมงแล้ว ต้องผ่านวัดป่าบ้านตาดก่อน เลยแวะไปไหว้สรีระของหลวงตามหาบัว







โดยจอดรถที่ลานจอดรถบอลลูนหมายเลข 2 แล้วนั่งรถรางรับส่งเข้าวัดที่วิ่งวนอยู่ในบริเวณวัด ผู้คนมากมายนั่งบ้างยืนบ้างเป็นที่สนุกสนาน ไม่มีใครมีสีหน้าเคร่งเครียดเพราะความแออัด ระหว่างทางจะมีโรงทานตลอด บางโรงทานจะนำน้ำขนมของทานมาแจกคนบนรถราง ตัวเองยังได้รับแจกน้ำสมุนไพร แจ่วบอง น้ำพริกปลาร้าผัด คนละกล่องเมื่อเอามาลองทานดูแล้วอร่อยมาก หน้ากล่องเขียนว่าจ่าวิรัชเป็นผู้ผลิตและมีเบอร์โทร.ด้วยอร่อยขนาดนี้ต้องตามไปนครสวรรค์ซะแล้วสิคะเนี่ย...555555....เรื่องอาหารต้องขอพูดสักนิดว่าในวัดจะมีโรงทานมากมาย และบอกได้เลยว่าทุกโรงทานอาหารอร่อยทั้งนั้น ถึงแม้ จขบ.เองจะไม่ได้แวะทุกโรงทานแต่ทุกโรงทานที่แวะทานก็ไม่มีอะไรไม่อร่อย คนในคณะที่ไปก็บอกว่าอร่อยเหมือนกัน ที่ทำงาน จขบ.ก็ช่วยกันสมทบกันตั้งโรงทานด้วยวันนี้มีขนมครก เท่าที่จำได้ว่าได้แวะทานโอวัลตินกับปาท่องโก๋ ก๋วยเตี๋ยวเรือ ข้าวโพดต้ม ก๋วยจั๊บญวน น้ำสมุนไพร ข้าวจี่ (ขนมปังฝรั่งเศสใส่ไส้และราดซอสพริก) และข้าวจี่ที่ปั้นมาเป็นไม้ๆ ดูไกลๆ นึกว่าไอติม เครป อันหลังนี่แค่จิกมาชิมรสชาติ มีข้าวเกรียบว่าวที่ปิ้งมาใหม่ๆ กรอบอร่อยมาก ไอติมกะทิที่มันอร่อยและรสชาติดี เต้าฮวยน้ำขิง อ่านดูรายการอาหารอย่าคิดว่า จขบ.เป็นชูชกนะคะ...55555...ทานสองวันค่ะ คือตอนค่ำวันอังคาร กับตอนเข้าวันพุธ








ออกจากวัดประมาณห้าโมงเย็นแวะไปโครงการในเมือง แล้วแวะไปวัดโพธิสมภรณ์ ซึ่งมีพระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป) เป็นเจ้าอาวาส วัดโพธิสมภรณ์ (อยู่ทางทิศตะวันตกของหนองประจักษ์) ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ท่านเป็นพระมหาเถระสายพระป่ากรรมฐานศิษย์ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตฺตมหาเถระ แม่ทัพธรรมแห่งอีสานฝ่ายวิปัสสนาธุระ เป็นพระที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวอีสานมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันหลวงปู่จันทร์ศรี สิริอายุ 99 พรรษา 79 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานีท่านเป็นประธานนำหน้าฝ่ายสงฆ์ในพิธีเผาศพหลวงตามหาบัว





หลวงปู่จันทร์ศรีเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง "พระบรมธาตุธรรมเจดีย์" เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงพระเมตตาประทานให้กับวัดโพธิสมภรณ์ บรรจุอัฐิธาตุของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พระบูรพาจารย์แห่งพระธุดงคกรรมฐาน และบรรจุอัฐิธาตุของพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสมงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ในปี พ.ศ. 2550





"พระบรมธาตุธรรมเจดีย์" มีลักษณะเป็นเจดีย์พิพิธภัณฑ์รูปทรง 8 เหลี่ยม มีห้องโถง 3 ชั้น ฐานกว้าง 12x12 เมตร ความสูง 38 เมตร มีลักษณะผสมผสานสัญลักษณ์ของอีสานตอนบนและอารยธรรมลุ่มแม่น้ำโขง ห้องโถง ชั้นที่ 1 เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือน อัฐบริขาร และชีวประวัติ คติธรรมของพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) และพระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี) ประวัติวัดโพธิสมภรณ์ ประวัติการสร้างพระเจดีย์ รายนามผู้บริจาค




ชั้นที่ 2 เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนและชีวประวัติ คติธรรม บูรพาจารย์พระธุดงคกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต จำนวน 9 รูป คือ
1.หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
2.หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม
3.หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
4.หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
5.หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร
6.หลวงปู่ขาว อนาลโย
7.หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
8.หลวงปู่มหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
9.หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต

ชั้นที่ 3 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ในพระเจดีย์แก้วจำลอง ประวัติสังเวชนียสถานทั้ง 4 และภาพทศบารมี





ท่านน่ารักมากได้กราบท่านและขออนุญาตถ่ายรูปท่านก็ยินดีให้ถ่าย ท่านใจดีมอบพระให้คณะเราและคณะอื่นที่อยู่ด้วยตอนนั้นคนละองค์ก่อนเข้าพบท่านแวะไปกราบไว้พระบรมสารีริกธาตุที่ "พระบรมธาตุธรรมเจดีย์" ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับประทานจากสมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช และได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช

ออกจากวัดโพธิสมภรณ์ แวะไปร้านอาหารวีที ที่มีแหนมเนืองขึ้นชื่อเป็นร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารญวน เมื่อสองสามปีที่แล้วเคยมาทานที่ร้านนี้ แต่ดูวันนี้ร้านขยายใหญ่โตขึ้น สั่งอาหารมาเยอะแยะแต่ถ่ายรูปได้แค่แหนมเนือง อาหารหลังจากนั้นถ่ายไม่ทันค่ะ...555555...

หลังจากทานอาหารเสร็จ กลับไปที่วัดอีกครั้งเพื่อฟังสวดและฟังเทศน์เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นผู้คนมากหน้าหลายตามีอัธยาศัยช่วยเหลือเกื้อกูลและแบ่งปันกันนั่นเพราะเป็นบารมีของหลวงตามหาบัวที่ทำให้ทุกคนมาด้วยใจและรู้สึกดีๆ ให้กันไปไหว้และถ่ายรูปที่ไว้สรีระของหลวงตา เกิดมหัศจรรย์กับภาพของแต่ละคน ซึ่งคนถ่ายก่อนจะถ่ายได้กราบไหว้ขออนุญาตท่านก่อน ภาพที่ได้จึงมีสิ่งที่พวกเรารู้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น เช่นเดียวกับตอนกลางวันแดดเปรี้ยงมาก แต่เมื่อแหงนดูท้องฟ้า กลับเห็นพระอาทิตย์ทรงกลด มีเงาบดบังแสงแดดที่แสดแสงแรงกล้า วัดวันนี้จึงมีแต่ความร่มรื่นและร่มเย็นเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์มาก











ได้ถ่ายภาพที่เมรุสำหรับใช้เผาศพหลวงตา และได้ถ่ายจิตกาธาน พร้อมกลดขนาดใหญ่ยักษ์ที่ยังตกแต่งไม่เสร็จดีก็เลยได้รูปมาแค่นี้ค่ะ








ปรึกษากันว่าจะนอนที่วัดเลยดีมั๊ยแบ่งเป็นสองพวก ในที่สุดก็กลับไปนอนที่โครงการห้วยหลวงที่ผู้ประสานงานที่นี่ได้เตรียมไว้ให้แล้ว ไปถึงห้วยหลวงประมาณ 3 ทุ่มอาบน้ำนอนกันเลยเพราะเพลียกันมาทั้งวันแล้ว





ตื่นกันตีสี่กว่าเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปวัดไปให้ทันใส่บาตร ได้ซื้อของแห้งเตรียมไว้แล้วไปซื้ออาหารปรุงตรงปากทางเข้าวัด ชุดละ 20 บาทส่วนมากซื้อกันคนละ 5 ชุด เที่ยวนี้จอดรถที่ลานจอดรถแล้วเดินไปตามถนนรอพระมาบิณฑบาตร ผู้คนเข้าแถวรอ พระก็เช่นกันเข้าแถวเพื่อรับบิณฑบาตรกันเป็นแถวยาวเหยียด ตอนแรกมีฝั่งเดียวแต่ไม่พอผู้คนที่ยืนรอคิวใส่บาตรต้องแบ่งเป็นสองฝั่งโดยปริยาย ทุกคนมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทั้งที่ต้องตื่นเช้ากันทุกคน หลังใส่บาตรเสร็จก็แวะไปตามโรงทานเป็นมื้อเช้าที่อร่อยมากมื้อหนึ่ง อิ่มแล้วยังไม่พอมีเหน็บไปทานบนรถได้ส้มตำ ข้าวเหนียว น้ำพริก แกงอ่อม แกงลาว ขนม ผลไม้เพียบ ที่ตามโรงทานหยิบยื่นมาให้








แวะไปดูงานที่โครงการ ที่เคยมาเมื่อสองสามปีที่แล้วโครงการยังสร้างไม่เสร็จดี มาวันนี้เป็นสำนักงานโครงการใหม่เอี่ยมอ่องน่าทำงานมาก สีชมพูครีมหวานแหววซะไม่มี ได้เห็นปัญหาของคนทำงานที่ไม่เข้าใจกัน สื่อภาษากันอย่างแย่ที่ไม่น่าให้อภัย ไม่นึกว่าคนระดับนี้จะเป็นกันได้ขนาดนี้เห็นใจคนทำงานด้วยกันที่เจอคนแบบนี้ เป็นสำนักที่น่าอยู่มาก





ออกจากสำนักโครงการใกล้เที่ยง ไม่แวะทานอะไรเพราะยังอิ่มตื้อกันอยู่อีกอย่างมีเสบียงที่โรงทานมอบให้มา บ่ายคล้อยหน่อยเริ่มหิวกันเลยซัดกันซะในรถนั่นล่ะคนละหนุบละหนับก็พอหายหิวไปได้ แต่คนขับรถคงหิวหน่อยล่ะ กะว่าจะแวะไปทานกันที่ปากช่อง แต่พวกเราดั๊นหลับ ตื่นมาอ้าวอยู่ที่เขาเขียวใกล้ทางไปเขาแผงม้าซะแล้ว เผลอแป๊บเดียวเลี้ยวไปทางเขาแผงม้าเป็นถนนคดเคี้ยว เนวิเกเตอร์หน้ารถบอกเดี๋ยวจะพาไปทานอาหารอร่อยๆ แต่จำไม่ได้ว่าชื่อร้านอะไรอยู่ตรงไหน (แล้วจะได้ทานกันม่ะคะเนี่ย) ในที่สุดก็เป็นจริง คือไม่ได้ทานเพราะจำร้านไม่ได้หาไม่เจอก็ขับไปตามทางคดเคี้ยวตามไหล่เขาไปเรื่อยๆ พี่เค้าบอกว่าเจอร้านอาหารไหนก็แวะนะ แต่เท่าที่เห็นทุกร้านก็ไม่มีผู้คนแวะเข้าไปทานซะเกือบทุกร้าน จนเกือบสุดทางนั่นล่ะยังไม่ได้ทานอะไรเลยและนี่เป็นร้านหนึ่งในหลายร้านที่เป็นร้านร้างไม่มีอาหารขายในวันธรรมดา






ผล จขบ.ท้องไส้ปั่นป่วนหิวจนคลื่นไส้ไม่สบายเกิดอาการเวียนหัวเหมือนคนแพ้รถซะงั้น...ก็แปลกใจเพราะไม่เคยเป็นเหมือนกันแต่ก็สงสัยคงเป็นเพราะหิวนี่ขนาดทานของที่ตุนมาจากโรงทานนะคะเนี่ย (ตอนแรกจะไม่มีใครเอามาแล้วนะนั่น) เลยต้องขับออกไปถนนมิตรภาพตรงปากช่อง แวะทานข้าวกันที่ไก่ท่าช้าง ตอนนี้สั่งอะไรมาก็อร่อยหมดล่ะ สำหรับตัวเองติดใจผัดโคราช สั่งอีกจานมาปิดท้ายซะงั้นมื้อนี้หัวหน้าจ่ายอยู่ดี....555555....

ด้วยหลงเข้าไปที่เขาแผงม้าซะเกือบสองชั่วโมงทำให้ถึง กทม.สองทุ่มเป๊ะพอดี (ถึงที่ทำงานนะ) ผลการหลงทำให้สองวันนี้ จขบ.เกงานสองวันค่ะ เป็นการประท้วงที่ทำให้ จขบ.กลับบ้านดึก อีกอย่างรู้สึกเหนื่อยและไม่ค่อยสบาย อีกอย่างก็คือไม่ได้เตรียมตัวพรีเซนส์งานเป็นวิทยากรที่หัวหน้านัดพวกเราทุกคนไว้เมื่อวานนี้ เลยถือโอกาสหยุดงานอย่างมีเหตุผล เพื่อเตรียมตัวช่วยงานจัดประชุมในวันจันทร์และอังคารที่จะถึงนี้

ขอขอบคุณหัวหน้าตัวเองที่มีน้ำใจให้ลูกน้องไปดูงานที่อุดรธานี ขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานและเอื้อเฟื้อความสะดวก ขอบคุณคณะทำงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่วัดป่าบ้านตาดที่อำนวยความสะดวกให้ทุกๆ คนที่ไปวัด ขอบคุณโรงทานทุกโรงที่มอบอาหารอร่อยๆ ให้กับผู้คนที่แวะไปที่วัด ได้เห็นน้ำใจจากผู้คนต่างๆ ไม่ว่าพระ แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา ที่ออกมาช่วยงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อย ตอนแรกคิดว่าคงจะต้องลำบากและเหนื่อยที่ต้องเจอผู้คนล้นหลามมากมาย แต่พอไปแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่คิดทุกอย่างสะดวกสบายไร้กังวล ทุกอย่างเตรียมพร้อมและเตรียมการดีเลยล่ะ..ถือเป็นโชคดีของ จขบ. ที่ได้ไปค่ะ เป็นบารมีที่หลวงตาแผ่มาให้ทุกคนที่มีจิตศรัทธาและเลื่อมใสในท่านค่ะ ขอกราบหลวงตามหาบัวตรงนี้พร้อมคำสอนของท่านที่ได้จากแผ่นป้ายในวัดค่ะ







มีแต่ความสุขโดยสมบูรณ์สอนโลก

ธรรมสอนโลกมานานแล้ว พวกเราเป็นทุกข์ ท่านผู้มาสอนเราไม่ใช่ผู้มีทุกข์ เป็นผู้ทรงบรมสุขไว้จึงควรจะนำธรรมะเหล่านี้มาเป็นคติเครื่องเตือนใจเรา ให้มีพักมีผ่อน พักเครื่องร่างกายวิ่งเต้นขวนขวายก็ให้พัก พักทางด้านจิตใจ มันคิดว้าวุ่นขุ่นมัวอยู่ตลอดเวลา นี่คืองานของของจิต ไม่มีใครคิดจะหักงานแต่เอาธรรมจับปุ๊บเข้าไปเลย จิตภาวนา นี่คือ โรงพักงาน ให้พักจิตดวงนี้ ถ้าเอาธรรมเข้าไปจับแล้วงานทั้งหลายจะสงบลงๆ เอาพุทโธ เอางานอันเดียว งานพุทโธคืองานดับทุกข์ เอาพุทโธหรือธัมโม บทใดก็ตามถ้าถูกกับจริต เอาสติจับเข้าไปไม่ให้ยุ่งกับงานทั้งหลาย ให้ยุ่งอยู่กับงานพุทโธเป็นต้นนี้อย่างเดียว แล้วงานทั้งหลายจะสงบเข้ามาๆ งานพุทโธเป็นงานเพื่อความสงบ ท่านจึงสอนให้อบรมภาวนาพุทธศาสนาเด่นที่ภาวนา กลายเป็นอมตธรรม มหานิพพานขึ้นภายในใจ กิเลสเป็นไฟ ราคคฺคินา โทสคฺคินา โมหคฺคินา เป็นไฟทั้งนั้นดับหมดโดยสิ้นเชิงแล้วก็เป็นอมตนิพพาน หมดงานที่นี่ ตั้งแต่นั้นจนกระทั่งถึงวันนิพพาน ถึงธาตุขันธ์กาลเวลาของมันที่มันจะพังทลายก็เอา พังเวลามีชีวิตอยู่ ก็พากิน พาหลับ พานอน พาขับถ่ายเหมือนกันกับโลกทั่วไป แต่ไม่ยึดไม่ถือหากรับผิดชอบกันอยู่อย่างนั้น พออันนี้หมดสภาพแล้วปล่อยพรึบดีดผึงเลย นิพพานเที่ยงนี่ตลอดอนันตกาลเลย




ถึงเวลาเด็ดก็เด็ดไปตาม

เรามุ่งหมายต่อชาติไทยของเราเต็มหัวใจเราถึงขนาดเสียสละทุกอย่างเลย ท่านทั้งหลายจะเห็นเวลาขึ้นเวทีออกสนาม มีอ่อนข้อย่อหย่อนย่อแย่ๆ ไหม ไม่มี เพราะหัวใจไม่พามีหัวใจเด็ดตลอดเลย ขาดอะไรก็ขาด ขาดไปเลย ฆ่ากิเลสเราก็ฆ่าแบบเดียวกัน นี่ละเวลาเด็ด เด็ดถึงขนาดนั้นนะ เราได้พิจารณาย้อนหลังถึงเรื่องความเพียรของเรา ยังไม่ปรากฏเลยว่าเราอ่อนข้อย่อหย่อนท้อแท้เหลวไหลตรงไหนๆ ตั้งแต่เริ่มแรกมาล้มลุกคลุกคลานก็ซัดกันอยู่ตลอด เรื่องกำลังใจไม่มีถอย เพราะมุ่งจะให้เป็นพระอรหันต์ในชาตินี้ พูดให้มันตรงๆ นี่ละจุดใหญ่ที่ดึงตลอดๆ นี่ก็ช่วยพี่น้องทั้งหลายเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทุกสิ่งทุกอย่างเราเพื่อพี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทยของเราทั้งนั้น เราไม่ได้เพื่อเราเลย ฟังซินะ

เราไม่ได้เพื่อเราเลย แม้นิดหนึ่งเราก็ไม่มี ตะเกียกตะกายพี่น้องทั้งหลายเห็นไหมล่ะ เป็นอยู่อย่างนี้ ไปที่ไหนเราก็ตะเกียกตะกายไปอยู่ตลอดเวลา เพราะเห็นแก่บรรดาพี่น้องชาวไทย เราจึงบึกบึน แต่เราก็ชมเชยสำหรับพี่น้องทั้งหลายที่บึกบึ้นไปตามเรานี้ เราก็ไม่เห็นที่ไหนที่จะให้เกิดความอ่อนใจว่าพี่น้องทั้งหลายไม่เอาใจใส่ หรืออ่อนแอท้อแท้ หรือแบบที่ว่าหัวหดอยู่ในกระดองนี้เราก็ไม่เห็นมี พูดทุกสิ่งทุกอย่างเปิดหัวอกให้พี่น้องทั้งหลายฟังได้ทราบทั่วถึงกัน แล้วเป็นคติเครื่องเตือนใจแก่ตน เพื่อเป็นมหามงคลแก่ตนในกาลต่อไปต่างหากนะ เวลานี้เราหายสงสัยหมดแล้ว ไม่มีอะไรเหลือแล้วในหัวใจนี้ หมดทุกสิ่งทุกอย่าง ขึ้นชื่อว่าสมมุติในสามแดนโลกธาตุนี้เปิดออกหมดเลย เหลือตั้งแต่พูดให้มันเต็มสัดเต็มส่วนเหลือแต่ธรรมธาตุเท่านั้นเอง นี่ล่ะให้พี่น้องทั้งหลายทราบเสียว่า เรามุ่งอย่างนี้ มุ่งต่อพี่น้องชาวไทย เรามุ่งอย่างเด็ดขาด มุ่งหวังที่เราจะอุ้มชูคือชาติไทยของเราแล้ว เราชีวิตแลกเข้าไปเลย
16 มีนาคม พุทธศักราช 2546




ความมืด ความสว่าง ความโง่ ความหลง อยู่ในตัวของเรานี้ ความรู้ความฉลาดก็อยู่ในใจของเรานี้ ใจดวงนี้จึงเป็นเหมือนเก้าอี้ตัวเดียว แต่คนนั่งมีสองคน เช่นเดียวกัน ความโง่ ความฉลาด แทรกกันอยู่ในใจดวงเดียว จะว่าโง่จริงๆ ก็ยังรู้อยู่ ถ้าจะว่ารู้จริงๆ ก็ยังมีความโง่ ความฉลาดแทรกอยู่ด้วย ท่านพูดเรื่องคนโง่ เราก็ได้ยินและเข้าใจ ท่านพูดเรื่องคนฉลาด เราก็ได้ยินและเข้าใจ ท่านพูดเรื่องปุถุชนคนหนาเราก็รู้และเข้าใจ ท่านพูดเรื่องพระอริยเจ้า นับแต่ขั้นต้นจนถึงพระอริยเจ้าชั้นสูงสุด เราก็รู้และเข้าใจเป็นลำดับ เพราะเราเองยังไม่สามารถทำตัวให้เป็นอย่างนั้นได้ แต่มีความสนใจใคร่อยากจะสดับเรื่องราว ความดีที่ท่านอบรมมา และทางดำเนินของท่าน ท่านดำเนินอย่างไร จึงเป็นไปเพื่อธรรมเช่นนั้น...

คำว่า พระอริยเจ้านั้น แปลว่าผู้ประเสริฐ มีอยู่สี่ขั้น คือ ขั้นพระโสดาบัน ขั้นพระสกิทาคามี ขั้นพระอนาคามี และขั้นพระอรหันต์



ขั้นพระโสดาบัน

ผู้สำเร็จขั้นพระโสดาบัน ท่านกล่าวไว้ว่า...อะสังโยชน์ได้สาม คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีสัพพหปรามาส ได้แล้ว

คุณสมบัติประจำใจ ของพระโสดาบันบุคคลนั้น คือ หลักความเชื่อมั่นประเภท อจลศรัทธา เป็นผู้เชื่อมั่น ต่อผลที่รู้เห็นประจักษ์ใจแล้ว และเชื่อมั่นต่อคุณธรรมเบื้องสูงที่ตนยังไม่รู้ไม่เห็น สมานตตตา ความเป็นผู้วางตนเสมอ ไม่ถือตัวด้วยมานะชนิดใดชนิดหนึ่งกับคนทุกชั้น เป็นผู้มีธรรมครองใจ ไม่ถืออะไรให้ยิ่งกว่าเหตุการณ์ ที่เห็นว่าถูกต้องด้วยเหตุผล พระโสดาบันยอมรับและปฏิบัติตามทันที ไม่ยอมฝ่าฝืนหลักความจริง ไม่ว่า ชาติ ชนชั้น วรรณะใด ตลอดสัตว์เดรัจฉาน ก็ไม่รังเกียจ โดยเห็นว่า เขากับเราตกอยู่ในวงกรรมดี-ชั่ว เหมือนกัน ใครมีกรรมประเภทใดจำต้องยอมรับ ตามหลักกรรมที่ตนทำมา ตามความจริงที่เขาทำเชื่อกรรมและผลของกรรมฝังใจ เชื่อความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และพระธรรมว่าเป็นสวากชาตธรรมเป็นนิยยานิกธรรม สามารถนำผู้ปฏิบัติตามให้ถึงความพ้นทุกข์ได้ เป็นผู้แน่วแน่ในศิลที่ตนรักษาไม่รับศิลแล้วรับศิลเล่าเหมือนสามัญชน ท่านรักษาศิลด้วยความระมัดระวัง ไม่ยอมให้ศิลขาดหรือด่างพร้อยด้วยเจตนาล่วงเกิน นี้เป็นหลักธรรมประจำอัธยาศัยของพระโสดาบันบุคคล



อุปนิสัย 4 ประเภท ในจริตนิสัยของสัตว์โลก

อุคฆติตัญญู คือ ผู้รู้อย่างรวดเร็ว
วิปจิตัญญู คือ ผู้ที่รู้รองลำดับกันมา
เนยยะ คือ ผู้ที่พอแนะนำสั่งสอนกันไปได้
ปทปรมะ คือ ประเภทที่สุดวิสัย ไม่สนใจในศิลในธรรม สร้างแต่บาป ผู้นี้เอง เป็นผู้ที่จะรับเหมาในเรื่องกองทุกข์ทั้งหลาย


เราอยากให้เห็นเรื่องของเรา เราก็พยายามทำใจของเราให้สงบลองดูเป็นยังไง จิตใจของเราได้เกิดความสงบแปลกประหลาดอัศจรรย์ขึ้นมา คำว่า ความสงบนี้กรุณาอย่าได้คาดนะ ขอให้เป็นจิตใจของท่านผู้ปฏิบัติเอง ขณิกสมาธิ สงบเพียงเล็กน้อย สงบเพียงครู่หนึ่งยามเดียวแล้วถอนออกมาพอให้เสียดาย นี้ประการหนึ่ง อุปจารสมาธิ พอจิตสงบตัวเข้าไปแล้วไม่ลงถึงฐานแห่งความสงบกลับถอยตัวออกมาและไปรู้สิ่งต่างๆ จะเป็นรู้อะไรก็ตามทีแรกมักจะหลอกเสียก่อน เมื่อรู้จักวิธีปฏิบัติต่อความรู้ความเห็นต่อสิ่งที่รู้ที่เห็นนั้นแล้ว ความรู้ความเห็นของเจ้าของนั้นแหละเป็นครูเป็นเจ้าของ ผิดก็เป็นครู ถูกก็เป็นครูและสอนเจ้าของไปในตัวค่อยช่ำชองชำนิชำนาญต่อไป เป็นความจริงขึ้นมาเรื่อยๆ อัปปนาสมาธิ นั้นคือ ความแนบแน่นของใจ คือมีความมั่นคงอยู่ตลอด แม้เราจะคิดอ่านไตร่ตรองเรื่องอยู่ก็ตาม ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เข้าสมาธิ แต่จิตนั้นมีความแน่นปึ๋งเหมือนภูเขาทั้งลูกอยู่ภายในตัวเอง ขอให้พูดเต็มปากเถิดว่าอยู่ในท่ามกลางอก ไม่ได้อยู่บนสมอง สมองนั้นเป็นที่ทำงานของความจำ แต่เรื่องความจริงทางภาคปฏิบัติธรรมแล้วจิตจะทำงานอยู่ที่ตรงกลาง คือทรวงอกของเรานี้ จะตรงไหนก็ตามให้พึงเข้าใจเอาไว้ว่าตรงกลางอกของเรา จิตเป็นสมาธิก็เริ่มผ่องใสเริ่มสงบที่หัวอกของเรา ผ่องใสมากน้อยเพียงไรเห็นอยู่ตรงนี้เห็นอยู่ตรงนี้ นี้คือฐานแห่งสมาธิได้คงตัวแล้ว พอเราย้อนเข้ามาสู่สมาธิ จิตนี้ก็จะสงบตัวอย่างรวดเร็ว เหลือแต่ความรู้ที่อัศจรรย์อยู่เพียงอันเดียวเท่านั้น นี้ประการหนึ่ง อีกประการหนึ่ง พอเข้าถึงที่แล้วปล่อยหมดโลกธาตุนี้เหมือนไม่มี แม้ที่สุดร่างกายของเจ้าของก็หมดความรู้สึกไปโดยสิ้นเชิง เหลือสักแต่ว่ารู้เท่านั้น นั่นก็เป็นสมาธิประเภทหนึ่งซึ่งจะเป็นขึ้นตามจริตนิสัยของแต่ละราย ไม่เหมือนกันทุกรายไปในวงปฏิบัติ



โอวาทธรรมยามอาพาธ พระธรรมสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

"ผมอ่อนลงเรื่อยๆ จะหนักไปข้างหน้า แต่ผมมีสติอยู่ตลอดไม่เผลอ"
"แต่ก่อนหมู่เพื่อนไม่ได้เข้ามายุ่งกับผมที่กุฏิ แต่คราวนี้ผมช่วยตัวเองไม่ได้ จะจับจะยกอะไรให้ค่อยๆ คนแก่ก็เหมือนเด็ก"
24 พ.ย 53


"ถูกต้องแล้ว...พุทธบริษัท ต้องเป็นห่วงกัน จึงจะถูกต้องเป็นธรรม"
6 ธ.ค 53


แผนที่การเดินทางไปวัดป่าบ้านตาดเข้าดูได้ที่เวปนี้ค่ะ

//newsreport.truelife.com/blog2/entry/28263





เพลง: รู้สึกดีๆ
ศิลปิน: แหม่ม พัชริดา


รู้สึกดีๆที่มีให้กัน ตั้งแต่วันวันนั้นที่เจอ
รู้สึกดีๆ ที่มีให้เธอ ทำฉันเหม่อเพ้อถึงเธอทุกวัน

ปากก็พูดว่าเป็นเพื่อนกัน ถูกใจคุยกันเข้าใจ
แต่หัวใจมีมากกว่านั้น
อยากจะพูดว่าฉันรักเธอ อยากเพ้อให้เธอรู้ใจ
แต่ฉันกลัวเสียความรู้สึกนี้ไป

รู้สึกดีๆใฝ่ใจคนนึง
คิดถึงเธอคิดถึงความรู้สึกดีๆ

รู้สึกดีๆที่เธอให้มา จะรักษาเอาไว้ไม่ลืม
รู้สึกดีๆสุขที่หวานชื่น แต่ต้องฝืนซ่อนรักนี้ไว้อีกกี่นาน

ปากก็พูดว่าเป็นเพื่อนกันถูกใจคุยกันเข้าใจ
แต่หัวใจมีมากกว่านั้น
อยากจะพูดว่าฉันรักเธอ อยากเพ้อให้เธอรู้ใจ
อยากกอดเธอไว้นานๆ

อยากจะพูดว่าฉันรักเธอ อยากเพ้อให้เธอรู้ใจ
อยากกอดเธอไว้นานๆ

รู้สึกดีๆ....คิดถึงเธอคิดถึงความรู้สึกดีๆ







Create Date : 05 มีนาคม 2554
Last Update : 6 มีนาคม 2554 22:51:50 น. 38 comments
Counter : 2821 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ภัทร

ผู้คนหลั่งไหลไปยังอุดรธานีมืดฟ้ามัวดินเลยนะครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:7:25:14 น.  

 
สวัสดีเช้าวันเสาร์ค่ะคุณภัทร นึกว่าหายไปไหน ที่แท้ก็แอบไปเที่ยว เอ๊ยไปทำงานนี่เอง แถมยังแกล้งป่วยเสียอีก ฮิฮิ



โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:8:18:12 น.  

 
คนเยอะไหมครับพี่ภัทร.. ผมอยู่หนองคายแท้ๆ แต่ยังไม่ได้ไปสักครั้ง อิอิ

คือเรื่องที่ถามเมื่อวานน่ะครับ ผมอยากให้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นครับ ที่เข้ามาดูบล๊อคผมได้ครับ แต่ไม่รู้ว่าเขาทั้งยังไงกัน

อีเมล์ผมครับ : dek-meepuha@hotmail.com


โดย: ฮูโต๋ (กุหลาบเหมันต์ ) วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:9:19:00 น.  

 
ขอบมากครับพี่ภัทร สำหรับเพลง เพราะมากครับ อิอิ ..

เมื่อวานผมไม่ได้Login แล้วผมเข้าไปอ่านบล๊อคของคนอื่น มีบล๊อคหนึ่งมันขึ้นบอกว่า ''เฉพาะสมาชิกเท่านั้น'' ผมอยากรู้ว่าทำยังไงครับ ???


โดย: ฮูโต๋ (กุหลาบเหมันต์ ) วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:11:00:05 น.  

 
มาดามก็เล่นเน็ตทางมือถือได้
แต่ผมไม่รู้เรื่องและไม่ถนัดเลยครับพี่ภัทร

เคยชินกับการเล่นบล้อกกับคอมมากกว่าครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:11:19:22 น.  

 

วันนี้เห็นเมื่อตอนสายๆ
เห็นเขาถ่ายทอดทางทีวี
คนเยอะมากๆ เลยนะคะคุณภัทร



โดย: อุ้มสี วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:12:48:34 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยคนนะคะพี่ภัทร


โดย: I_sabai วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:12:57:46 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณภัทร

ดีใจด้วยนะคะที่ได้ไปอุดรฯ

ฟังข่าวว่าคนไปเยอะมากๆ

ขอบคุณที่เล่าเรื่องราวให้อ่านด้วยจ้า































โดย: อิ่ม_Aim วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:13:05:48 น.  

 
ดูการถ่ายถอดสด
คนเยอะมากๆนะคะ
ด้วยแรงศรัทธาจริงๆ

..
สงสัยบลูจาหวงรั้วจริงๆ


โดย: coji วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:14:35:22 น.  

 
โอกาศดีจังนะคะที่ได้ไป
คนเยอะมากที่ไปด้วยแรงศรัทธา
ขอบคุณสำหรับเรื่องและแง่คิดดีๆนะคะ


โดย: -:ราชินีแห่งรัตติกาล:- วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:15:28:59 น.  

 
ได้ข่าวว่า
คนเป็นแสน เป็นล้าน
ทุก ๆ คนหลั่งไหลไปกราบลา
ท่านพระอาจารย์หลวงตามหาบัว

เป็นโอกาสดีจริง ๆ ด้วยค่ะ
ที่ได้ไปอุดร


โดย: โสดในซอย วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:17:08:17 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณภัทร์ เข้ามาเจอธรรมะ คนสองภาคร้อนเลยคุณภัทร์


โดย: คนสองภาค วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:17:55:33 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ดีจังเลยนะค่ะที่มีโอกาสได้เดินทางไปกราบ
ท่านเป็นครั้งสุดท้าย .. เห็นข่าวคนเยอะมาก
โอกาสที่ตัวเองจะได้เดินทางไปก็ไมมีเลยค่ะ
เพราะว่าคงเลี่ยงคนเยอะๆ แต่ว่าคนแถวบ้าน
เค้าขับรถไปกันด้วยล่ะค่ะ มีชวนด้วยแต่ว่า
ก็ทิ้งบ้านไปไม่ได้ เลยคิดว่าคอยติดตาม
เอาทางข่าวและทางบล็อกของเพื่อนๆ อย่างนี้
ก็ดีไปอีกอย่างนะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:19:18:59 น.  

 
สวัสดีครับแวะมาเยี่ยมครับ ขอบคุณสำหรับภาพและข้อมูลนะครับ อ่านเพลินเลยครับ ภาพท้องฟ้าสวยครับ น่าจะถ่ายมาเยอะๆนะครับ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ


โดย: บูรพากรณ์ วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:1:47:36 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:6:15:24 น.  

 
ไม่รู้จะเม้นอะไร เม้นไม่ถูกเลยค่ะ ได้แต่อิ่มเอิบใจ รู้สึกปลื้มใจในโอวาทคำสอนของหลวงตาที่เอามาฝาก
ปกติฉัตรไม่ค่อยได้ติดตามข่าวคราวของท่าน แต่เคยร่วมทำบุญกับหลวงตามหาบัวค่ะ รู้สึกดีใจที่ได้เห็นพระแท้ อีกรูปหนึ่ง
สาธุอนุโมทนาบุญ และขอกราบขอขมาในบาปต่างๆ หากจะพึงมีหรือเกิดขึ้นต่อข้าพเจ้า หากเผลอพลั้งพลาดล่วงเกินในหลวงตามมาหาบัว ขอให้ละเว้นโทษด้วยเถิด...สาธุ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:8:52:25 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภัทร

แวะมาบอกว่าผมทำเป็นแล้วครับ ให้เฉพาะสมาชิกเข้าชมบลอคได้ อิอิ




โดย: ฮูโต๋ (กุหลาบเหมันต์ ) วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:9:04:55 น.  

 
*กลบทนายโรงลืมกรับ*

แอบรักเธอบอกใครอาจช้ำจิต
ทั้งแง่สิทธิ์แง่หญิงล้วนประจักษ์
ครั้นทิ้งฝันยิ่งเศร้าเหมือนทะลัก
สุดห้ามหักหัวใจอย่าระทด

ชอบจริงจังโยงเกิดเร่าระอุ
พอปะทุเงาหวงก็ปรากฏ
อยากทำลายทุกทางอย่างประชด
เหมือนเก็บรสบูดเปรี้ยวมาหมักทับ

เรื่องรักใคร่พูดยากเหมือนเสพทิพย์
แค่ได้จิบกระชุ่มกระชวยลืมทางกลับ
ยิ่งถ้อยความซึ้งใจถูกดูดซับ
ก็ยิ่งขับอาการหลงโอชะ

เกิดอารมณ์ร้อนไหวไร้จำกัด
เรื่องรัดขัดพินิจควรหรือผละ
พลอยเลือนหายฉาวโฉ่เลื่อนมาคละ
ทุกขณะเรา ฤ ไม่สะทก

รักแอบไว้ในฝันไม่กร่อน,สึก
หัดตรองตรึกงำงามซ่อนในอก
อย่าวาดหวังเป็นเจ้าด้วยง่ายงก
จะไม่ตกบ่อตรมระทมแคะ



*บอกรัก..ไม่เคยผิด
ทว่า
ต้องดูอีกฝ่าย..พร้อมรับรู้... ฤ “ยัง”*



สวัสดีค่ะคุณภัทร พักผ่อนมากๆ แล้วค่อยเริ่มงานวันต่อไปนะคะ


โดย: ญามี่ วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:14:37:33 น.  

 
ขอบคุณที่ไปแสดงความเห็นที่บล๊อกผมมานะครับ

ดีใจที่มีคนเห็นความรู้สึก

ผมขออนุโมทนาบุญร่วมกับ จขบ.ด้วยคนนะครับ


โดย: แอบมาซุ่ม วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:15:21:40 น.  

 
ดีค่ะที่ได้มีโอกาสได้ไปร่วมงาน ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ


โดย: Lcristatus วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:17:07:08 น.  

 
ขอบคุณมากครับที่เป็นกำลังใจให้ ผมจะทำให้ได้และจะเต็มที่เลยครับ !!!


โดย: ฮูโต๋ (กุหลาบเหมันต์ ) วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:19:15:44 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


หลับฝันดีนะคะคุณภัทร
ไปดูมาแล้วค่ะสนุกมาก



โดย: หอมกร วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:21:16:12 น.  

 
ดีจังค่ะ ที่มีโอกาสได้ไปร่วมงาน

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ


โดย: บ้านฟ้าซอย 5 วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:22:38:36 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภัทร










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:6:39:13 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจคะพี่


โดย: blog pu วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:18:09:17 น.  

 
Photobucket

อัพบล๊อคเพิ่มใหม่แล้ว แวะไปนะค่ะ :)


โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:21:37:09 น.  

 
ดูภาพข่าววันนี้
คนไปงานหลวงตามกามายมหาศาลเลยนะครับพี่ภัทร

ปล. ขอบคุณเม้นท์ดีดีที่บล้อกผมด้วยนะครับ
ผมก็คิดเห็นเหมือนพี่ภัทรนี่ล่ะครับ
ถ้ามองหาข้อดีในงานที่เราทำ
เราก็พบความสุขได้ง่ายๆเลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:22:14:42 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณภัทร
เข้ามาอ่านบล็อกแล้วใจอิ่มบุญกับคุณภัทรด้วย...ขอบคุณค่ะ


โดย: รัตตมณี (kulratt ) วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:5:36:58 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ภัทร








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:07:32 น.  

 
แวะมาเยี่ยม ยามเย็น สวัสดีครับ


โดย: **mp5** วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:18:03:33 น.  

 
ท้องฟ้าสี่ภาพนั้น งามจริงๆนะคะคุณภัทร

มาทักทายด้วยความคิดถึง

และส่งข่าวเรื่องสั้นมาใหม่จร้า


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:20:29:43 น.  

 

สวัสดีค่ะ...

ไม่ได้ไปงานพระราชทานเพลิงหลวงตาบัวค่ะ

หลายคนไปกันมา เห็นเทวดาเยอะแยะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:23:38:14 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภัทร









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:6:47:34 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภัทร










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:6:54:34 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภัทร










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:6:43:24 น.  

 
แวะมาบอกว่า...

หลับฝันหวานนะครับ


โดย: **mp5** วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:23:21:42 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มีนาคม 2554 เวลา:6:55:00 น.  

 


ขอกราบหลวงตาบัวค่ะ(ถึงหลินจะไม่ใช่ลูกศิษย์ท่าน)

" กายากัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง อโหสิกัมมัง"

(((((((((หวัดดีค่ะคุณภัทร 55หลินเอ๋อ ค่ะ))))

หนีไปหลงในฟาร์มวิลเฟซบุกค่ะ กำลังจะพยายามถอนตัวออกมาค่ะ เพราะตาพัง5555

สบายดีนะค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

ยังคิดถึงเสมอค่ะ

หลินเอ๋อ


โดย: ย่าชอบเล่า วันที่: 12 มีนาคม 2554 เวลา:16:44:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.