ระหว่างเดินทางไปทำงานได้เปิดฟังข่าวไปด้วย..ได้ฟังนักการเมืองบางคนพูดถึงเรื่องการจัดตั้ง รบ. ในครั้งนี้ว่า ไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ตามที่นักการเมืองบางคนพูดถึง ดูนักการเมืองผู้นี้ช่างกล้าหาญที่พูดออกมาปฏิเสธแบบนี้ เพราะเท่าที่ความจำตัวเองถ้าไม่สั้นนัก คือ มีนักการเมืองค่ายไหนไม่รู้ก่อนการเลือกตั้งและหลังเลือกตั้งก่อนจะได้เป็น รบ.ไปอาศัยอยู่ที่ กรมทหารราบ 11 รอ. ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ตรงข้ามวัดพระศรีฯ เป็นเวลาเกือบเดือนจนกลายเป็นนักการเมืองอ่อนหัด ที่ต้องซบกับอกทหารเพื่อให้ทหารคุ้มครองและปกป้องจนได้เป็นหัวหน้า รบ.ได้ไปเสริชหาในหัวข้อ...การจัดตั้ง รบ....ก็เจอข้อความนี้.."การจัดตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ภายหลังการพ้นจากตำแหน่งของนายสมชาย ได้มีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ผลปรากฏว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้รับคะแนนเสียงมากกว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ทำให้การเมืองพลิกขั้ว พรรคประชาธิปัตย์ได้จัตตั้งรัฐบาลผสม จากเดิมที่เป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลทักษิณ สมัครและสมชาย ในขณะที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบนักการเมืองเดิมจากพรรคพลังประชาชน รัฐบาลเก่า กลายเป็นฝ่ายค้านแทน โดยมีรายงานอย่างกว้างขวางว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก บีบบังคับให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชาชนย้ายมาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์" ค่ะเชื่อแล้วค่ะว่าไม่ได้จัดตั้งในค่ายทหาร..5555...ทั้งหมดนี้คัดลอกมาจากวิกิพีเดียค่ะ..

อีกเรื่องที่ได้จากข่าว ขณะที่นักการเมืองคนดังคนหนึ่งกำลังหาเสียงและพูดถึงนโยบายที่ทำสำเร็จผ่านมา มี 2 เรื่อง คือ เรียนฟรี กับ เงินช่วยเหลือคนชรา สำหรับเรื่องเรียนฟรี ฟังแล้วคิดตาม มันฟรีตรงไหนหว่าคะ ตรูข้ามีหลานยังศึกษาอยู่ แต่ทำไมตรูถึงหาเงินจนเหงื่อตกเป็นค่าเทอมค่าใช้จ่ายตอนเปิดเทอมหลายหมื่นอยู่ ค่าเสื้อผ้าที่แสนแพงชุดหนึ่งก็ปริ่มพันแล้ว ค่าหนังสือก็เป็นพัน แล้วยังค่าอุปกรณ์การเรียนต่างๆ พอเปิดเทอม ร.ร. ก็แจกซองขาวให้หลาน...55555...ไม่ใช่ค่ะ..แจกให้ผู้ปกครองต่างหาก... เราก็รับซองมาแบบ งงๆ ในซองมีตังค์อยู่ในนั้น 720 แจกแจงเป็น ค่าหนังสือเรียน 165 บาท ค่าเครื่องแบบนักเรียน 360 บาท ค่าอุปกรณ์การเรียน 195 บาท รวมทั้งหมด 720 ฟังครูพูดแบบ งงๆ (งง ตลอดเพราะจ่ายเงินค่าเรียนซะ งง ) บอกค่าโน่น นี่ นั่น พันกว่าบาทต้นๆ หักค่าอะไรก็จำไม่ได้เพราะไม่อยากจะจำเคงหลือจ่ายคืนผู้ปกครองนักเรียน 720 บาท....นี่หรือเรียนฟรี ที่ รบ. พูดถึง สงสัยคงตกภาษาไทยกันแน่ๆ แค่คำว่า ฟรี ก็แปลความหมายผิดแล้ว คำว่าเรียนฟรี น่าจะหมายถึงว่าประชาชนที่เป็นเด็กทุกคนเล่าเรียนฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นเป็นเวลา 15 ปี ซึ่งระยะเวลา 15 ปีเป็นพื้นฐานการศึกษาที่คนไทยต้องได้รับการศึกษา ซึ่ง รบ. นี้น่าจะบอกประชาชนที่มีลูกมีหลานว่า เงินช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง (อันน้อยนิด) หรือ เรียกว่าเงินอุดหนุนการศึกษา ถ้าหากอยากพูดให้โก้หรู ก็อย่างที่บอกเสียเงินค่าเทอมเป็นหมื่นแต่ได้เงินช่วยเหลือ ช่วยแบ่งเบาภาระไม่ถึงพันบาท (เงินที่ได้จริงๆ) ตอนรับคิดนะ แกจะให้พวกชั้นทำไมฟระให้ไปแยงขี้ฟัน ไม่พอยาไส้เด็กเอาไปพัฒนาเด็กก็ไม่ได้ พูดซะใหญ่โตยิ่งใหญ่ว่าให้ฟรี เพื่อประชาชนช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้ทุกคนได้ศึกษาด้วยการให้เรียนฟรี 15 ปี...แล้วมันฟรีจริงเหรอคะ...อ่อ..ยังไม่พอ นักการเมืองผู้นี้ยังกล่าวตอบโต้ผู้คนที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายเรียนฟรีด้วยคำพูดทำนองว่า..สงสัยคนที่ไม่เห็นด้วยจะไม่มีลูกหลานเล่าเรียนเลยไม่รู้ว่ามีนโยบายเรียนฟรี..โอ๊ะ โยะ โหยว...เค้าช่างกล้าดีแท้น๊อ...สมแล้วที่เค้าตอบกลับมาว่า ผมมีทั้งลูกและหลานเลยล่ะ...อ่ะฮ๊า...ฮ่าๆๆๆ..

อีกเรื่องในวันเดียวกันที่ได้ฟัง คือ เงินช่วยเหลือคนชรา ขอเรียกแบบนี้และกันขี้เกียจหา ขี้เกียจสนใจ แต่ฟังแล้วขัดหูมาก นโยบายประสบความสำเร็จมากถึงต้องชูเป็นนโยบายหลักที่ภาคภูมิใจ จนไปที่ไหนๆ ก็ชูเป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จในการทำงานสองปีกว่า ให้เงินคนแก่ใช้ฟรี (อันนี้เรียกได้ว่า ฟรี ) เดือนละ 500 คนแก่ไม่คิดมากหรอกค่ะ ก็แค่คิดว่าได้รับก็ดีนะ ดีกว่าอยู่เปล่าๆ และไม่ได้อะไรเลย แต่ท่านก็คง งง ว่า 500 ฉันจะเอาไปทำอะไรดี ไปซื้อข้าวสัก 10 กว่ากิโลคงพอได้เก็บไว้กินทั้งเดือนกับน้ำปลา นโยบายเป็นแบบนี้หรือเปล่าให้คนแก่คิดแบบนี้หรือเปล่า จขบ.ไม่รู้แต่มันคิดได้ใช่ไหม 500 บาทแทบจะไปทำอะไรไม่ได้ และ รบ. นี้เค้าจะรู้บ้างไหมว่าตั้งแต่มีนโยบายรับเงินเบี้ยยังชีพคนชรานี้คนแก่ส่วนมากประสบปัญหาได้เงินล่าช้า บางคนป่านนี้ก็น่าจะยังไม่ได้ บางคนสองสามเดือนได้เงินสักครั้งได้ครบบ้างไม่ครบบ้าง หรือว่าเป็นนโยบายแอบแฝงของ รบ.นี้ที่จะพัฒนาคนแก่ทางความคิด ให้คนแก่ต้องกลายเป็นคนหยิ่งไปโดยอัตโนมัติ และไม่คิดจะเอาหรือขอความช่วยเหลือใคร หรือพัฒนาการประหยัดของคนแก่ในการใช้เงินไม่ให้สุรุ่ยสุร่าย ต้องใช้เงิน 500 บาทให้ชนเดือน ถ้าไม่พอก็ตายๆ ไปซะเลยอะไรแบบนี้...อะไรจะยากเย็นขนาดนั้นกับการรับเงิน...แค่ 500 บาท...ไม่ได้ดูถูกค่าของเงินที่ได้ขอให้คนที่เข้ามาอ่านตรงนี้โปรดแยกประเด็นด้วยนะคะ เงิน 500 ในเวลานี้อย่างที่เห็นกันอยู่ตอนนี้หรือเวลาก่อนหน้านี้ คนแก่ซื้อข้าวกินถึงอาทิตย์ป่ะคะนั่น...เฮ้อ...เอาเหอะต่อให้เขียมก็ตามจะอยู่รอดไหมนั่น... คนแก่ที่โชคดีมีลูกหลานเลี้ยงก็ดีไป แต่คนแก่ที่ไม่มีลูกหลานนี่สิน่าคิดนะคะนั่น..แต่ที่ฟังแล้วต้องคิดตามและนำมาเขียนถึงก็เพราะคำพูดนักการเมืองผู้นั้นที่พูดตอบโต้รายเดิมเรื่องนี้ว่า...คงอยู่บ้านนอกไม่มีญาติผู้ใหญ่เลยไม่รู้นโยบายนี้อะไรประมาณนี้...กระแนะกระแหนเค้าตลอดปากแบบนี้ถนัดนัก

แค่สองเรื่อง...ที่ จขบ.คิดตามก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะทำให้เราตัดสินใจว่าจะเลือกใคร...จขบ. ไม่ต้องการนักการเมืองที่หลอกลวง คำพูดดูสวยหรูดูดี ถนัดพูดดีเข้าตัวพูดชั่วให้คนอื่นถนัดนักอะไรแบบนี้ ที่ดูเหมือนเป็นพวกข้างนอกสุกใสแต่ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง ช่วงนี้เป็นช่วงหาเสียงหาคะแนนจากประชาชน เมื่อหลายปีก่อน่จำพี่ที่นับถือคนหนึ่งเคยบอกว่า...น้องดูไว้นะนักการเมืองพวกนี้เวลาใกล้เลือกตั้งมาไหว้พวกเราปะหลกๆ พอหลังเลือกตั้งพวกเราสิต้องกลับไปไหว้พวกเค้าปะหลกๆ แทนเพื่อขอความเห็นใจ ขอความช่วยเหลือในสิ่งที่เค้าออกมาพูดไว้ และแล้วทุกอย่างก็หายเข้ากลีบเมฆไป...เหมือนเค้าเอาคืน...และวันนี้ก็เห็นภาพที่พี่คนนั้นพูดอีกครั้ง นักการเมืองพูดจริงบ้างเท็จบ้าง แล้วแต่จิตสำนึกของความเป็นคนดีหรือไม่ รับผิดชอบคำพูด การกระทำตัวเองหรือไม่...จขบ. เองใฝ่ฝันมากๆ เลยที่อยากเจอะเจอนักการน้ำดีที่ไม่เอารัดเอาเปรียบประชาชน ทำเพื่อประชาชนจริง ๆโดยเฉพาะประชาชนตอนนี้ที่ต้องเจอกับทุกข์ยากจากข้าวยากหมากแพง จากการปั่นของแพงของใครบางคน เพื่อหวังกำไรเข้ากระเป๋าตัวเองและไปโทษภาวะเศรษฐกิจโน่น นี่ นั่น ซึ่ง ศ.ก ก็มีส่วนแต่ถ้าพวกเรา หรือ รบ.ช่วยกันคนละไม้ละมือ ก็คงไม่เกิดข้าวยากหมากแพงแบบนี้ ที่ว่าช่วยก็คือ ลดความเห็นแก่ตัว ที่ทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง และพรรคพวก วงศาคณาญาติเพื่อสร้างความร่ำรวย ที่เมื่อพวกคุณตายไปก็ไม่สามารถนำความร่ำรวยนี้ติดตัวไปด้วยได้เลย สิ่งที่ติดตัวพวกคุณไปได้ คือ ความดีเท่านั้น ความร่ำรวยที่พวกคุณแสวงหามา ในที่สุด...เป็นสมบัติที่ปล่อยให้ลูกหลานพวกคุณล้างผลาญไม่เห็นค่าเพราะได้มาอย่างง่ายๆ เป็นเงินร้อนเป็นเงินไม่บริสุทธิ์เป็นเงินที่เกิดจากความเดือดร้อนของผู้อื่น ที่เค้าอาจสาปแช่งอยู่ก็ได้

แค่สองเรื่องที่ได้ฟังจากข่าวก็ทำให้ จขบ. พล่ามได้ซะยาวแล้วคิดดูและกัน จะพูดจะทำอะไรอย่าให้ใครโต้แย้งได้อย่าหน้าหนาหน้าทนที่พูดอะไรแล้วไม่รับผิดชอบคำพูด คิดว่าเวลาผ่านมาทุกคนคงลืม จขบ.อาจเป็นคนขี้ลืมแต่เป็นการลืมในบางเรื่องที่ไม่อยากจำเพราะจำแล้วไม่มีประโยชน์ใดๆ แต่เรื่องแบบนี้ที่พวกคุณคิดว่าประชาชนจะลืมเมื่อผ่านเวลาหนึ่งไปแล้ว ขอบอกว่าคิดผิดถนัดค่ะ ประชาชนแบบ จขบ. ไม่เคยลืมและจะไม่ลืมจนตาย..ภาพต่างๆ สิ่งต่างๆ ที่ รบ. นี้ทำไว้ยังจำได้ติดตาติดใจไม่มีวันลืมมีลูกจะบอกลูก มีหลานจะบอกหลาน ในสิ่งที่นักการเมืองทำ ถึง จขบ.ไม่จำ ในวิกิพีเดียเค้าก็ช่วยจำให้ค่ะ....555555... คำพูดของคนเรา จขบ.รู้อยู่อย่างว่า ถ้าคนเราทำในสิ่งที่ถูกต่อให้พูดสักกี่ครั้งก็พูดเหมือนเดิม พูดเหมือนกันและภูมิใจที่ได้พูด แววตา ท่าทางคำพูดก็จะพาให้น่าเชื่อถือ แต่เมื่อใดที่พูดโกหก และโกหกทุกครั้ง ต่อให้พูดคำๆ เดียวซ้ำๆ ซากๆ ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเพราะเป็นคำพูดโกหกไม่จริงใจจะพูดเมื่อไรคนก็สัมผัสได้ว่าเป็นคำพูดโกหกทั้งเพ ไม่น่าเชื่อถือ หรือเค้าอยากให้เป็นแบบนี้กันหนอนี่หน้าด้านจริงๆ ที่มาดูถูกปัญญาประชาชนในความจำที่ผ่านมา...สำหรับข้างล่างนี้เป็นของธรรมดาที่ จขบ. จะเสริมสาระให้กับบล๊อกตัวเองด้วยการเอาคติ ข้อคิด คำคมมาใส่ในบล๊อกตัวเอง