ช่วงนี้ในหน่วยงานเป็นช่วงการแต่งตั้ง ผอ.กองของ จขบ. รอคอยและลุ้นกันมานานว่าโผออกจะมาเป็นใคร...ความจริงแค่เดือน ต.ค ก็รู้ผลแล้วว่า..ใครจะได้เป็น ผอ. ...แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดก็ลากมาจนถึงเดือน ก.พ ซึ่งมีคนบอกว่าไม่เคยมีมาก่อน และก็เป็นเรื่องธรรมดาที่นานขนาดนี้เพราะมีการพลิกโผ..ก็พูดกันไปต่างๆ นานาว่าเกิดจากการวิ่งเต้นตำแหน่งหรืออย่างไร คนที่วิ่งแรงวิ่งเร็วเส้นใครใหญ่ก็ได้ไป จริงเท็จไม่มีใครรู้นอกจากเจ้าตัวจะรู้ว่าทำหรือไม่ก็พูดกันไป
คนสองคนเหมือนกันในแง่ความมั่นใจ แต่แตกต่างกันในแง่การทำงาน คนหนึ่งอาวุโสกว่า อายุใกล้เกษียณอีกไม่กี่เดือน (หากแต่งตั้งตั้งแต่เดือน ต.ค ก็จะมีอายุการทำงาน 1 ปีเต็ม)เป็นคนสุขุมรอบคอบ ทำงานเก่ง เข้าใจคนอื่น รู้จักการยืดหยุ่น มีเหตุผล กล้าพูดกล้าทำไม่กลัวใครแต่รู้กาละเทศะและทันคน ลูกน้องส่วนมากรักและชอบ มาจากมหาวิทยาลัยปิดอันดับหนึ่งในเมืองไทย กับอีกคนมีอายุการทำงานเหลืออยู่เกือบ 6 ปี เป็นคนใจร้อนเอาแต่ใจ คล่องแคล่วคิดอะไรไว ปากไว ขาดเหตุผลใช้อารมณ์ในการตัดสิน ไม่ชอบให้คนอื่นเก่งเหนือตนเอง วางตัวเหนือคนอื่น ใช้อารมณ์กับคนที่คิดว่าด้อยกว่าชอบดุว่าคนอื่นโดยไม่ไว้หน้า เป็นคนดวงดีและโชคดีผู้ใหญ่ส่งเสริมสนับสนุน กล้าพูดลูกน้องมีทั้งรักและไม่ชอบ มาจากมหาวิทยาลัยเปิดที่มีชื่อเสียง
ผลออกมาว่าคนหลังได้เป็น ผอ.สร้างความตื่นตะลึงอย่างไม่คาดคิด เพราะเกือบทุกคนคิดว่าน่าจะเป็นคนแรก สิ่งที่น่าขำ คือเมื่อรู้ว่าคนที่สองได้เป็น ผอ. ก็มีเสียงพูดออกมาถึงความน่ากลัวของคนๆ นี้ไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ทุกคนที่พูดๆ อย่างไม่มีความสุข บางคนบ่นว่าเบื่อเซ็ง บางคนบอกต้องปรับตัวซะแล้ว บางคนบอกต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้างมีสีหน้าวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด จขบ.นั่งดูแล้วพูดได้คำเดียวว่า "เวรกรรม" เพราะไม่มีคำพูดใดได้ดีเท่าคำนี้..เป็นสิ่งที่น่าแปลกทุกครั้งที่มีการขึ้นตำแหน่งมีคนยินดีหรือไม่ก็เฉยๆ ไม่รู้สึกอะไรมากมายเหมือนเช่นครั้งนี้ แต่ทำไมครั้งนี้คนถึงหวั่นไหวหวาดกลัวถึงปานนี้...แต่ก็มีบางกลุ่มยินดี ดีใจที่เจ้านายตัวเองได้เป็นใหญ่ บางคนลับหลังนินทาแต่ไปแสดงความยินดีเป็นคนแรกกลุ่มแรก...555555...
ยังจำได้ในหลายๆ เหตุการณ์เกี่ยวกับปากของ ผอ.คนใหม่นี้ ครั้งหนึ่งเคยประชุมร่วมกันในฐานะคณะทำงานและมี ผอ.เป็นประธาน ระหว่างประชุมก็จะสั่งๆๆ และสั่งว่าทุกคนทำเสร็จตามที่ตัวเองต้องการแล้วหรือไม่ ถ้ามีคนไหนทำงานที่ตนเองต้องการไม่เสร็จทันใจก็จะประจานกลางที่ประชุมโดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะมีเหตุผลอะไร บางคนที่โดนประจานมีอายุมากกว่าก็อับอายไปด้วยเด็กไม่ไว้หน้า..อีกครั้งเจอกับตัวเองเรื่องการทำบอร์ด ใครมาเห็นบอร์ดที่ จขบ.ทำต่างก็ชื่นชมเพราะแปลก และสวยมีแนวคิดใหม่ๆ แต่ ผอ.คนนี้กลับใช้คำพูดในฐานะกรรมการตัดสินในขณะนั้นว่า "เป็นบอร์ดที่น่าเกลียดที่สุด" แต่เราก็ชนะถึงเป็นอันดับรอง แค่สองเรื่องในหลายๆ เรื่องที่ได้สัมผัสกันโดยตรง เป็นความทรงจำที่ จขบ.ประทับใจในทางลบกับ ผอ.ใหม่คนนี้แต่ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้รู้สึกไม่ดีและไม่ดีใจที่ ผอ.คนนี้ได้ตำแหน่งนี้ไป มีบางคนเล่าให้ฟังว่า..คนที่ลาออกและคนที่ย้ายไปทำงานที่อื่นคนๆ นี้ก็มีส่วน เคยมีคนที่ขอย้ายไปทำงานที่อื่นเข้าไปร่ำลาก็โดนไล่ออกมาด้วยคำพูดว่า ใครอนุญาตให้เข้ามา จริงเท็จจากที่เค้าเล่าเราไม่รู้แต่ก็ทำให้เรารู้สึกไม่ดี..
จขบ. คิดใคร่ครวญว่าเป็นเพราะอะไรตัวเองถึงไม่ชอบและไม่อยากได้ ผอ. คนนี้เพราะไม่ชอบเป็นการส่วนตัวหรือ บางส่วนอาจจะใช่ ส่วนหนึ่งก็มาจากที่เล่ามาข้างต้น...และส่วนหนึ่งก็มาจากการทำงานร่วมกัน สัมผัสอุปนิสัยบางประการยอมรับการทำงานเชิงรุกของเธอ แต่เป็นการรุกจนลูกน้องเหนื่อย โชคดีที่ขณะนั้น จขบ.ไม่ใช่ลูกน้องโดยตรงของเธอ สิ่งที่ไม่ชอบเธอมากๆ ก็คือ การพูดจาที่ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่าแต่ตำแหน่งต่ำต้อยกว่าเธอ และไม่ชอบการวางอำนาจเหนือคนอื่น สิ่งที่ดีที่เห็นคือ เธอเป็นคนพูดจาโผงผางดูง่าย การทำงานเชิงรุกก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะงานสำเร็จเร็วและได้เนื้องาน แต่ต้องดูบุคลากรในหน่วยงาน เครื่องไม้เครื่องมือ เวลาด้วย การคิดอะไรไวก็ถือเป็นสิ่งดีที่จะพัฒนางานและบุคคลให้เจริญก้าวหน้า ทั้งหมดจะสังเกตได้ว่าข้อเสียของเธอ คือ ปาก
จำได้ว่ากวีเอกของไทย คือท่านสุนทรภู่ได้กล่าวไว้ในนิราศภูเขาทองว่า
ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา
การพูดถือเป็นการสื่อสารอย่างหนึ่ง ที่จะสื่อให้คนอื่นเข้าใจหรือไม่เข้าใจ คำพูดที่หลุดออกมาจะเป็นที่พึงปราถนาหรือไม่น่าพึงปราถนาต่อผู้อื่นก็อยู่ที่เจตนาของคนพูด การพูดที่ดีนั้นควรหลีกเลี่ยงการพูดแบบประเมินคนอื่น ไม่พูดยกตนข่มท่าน ไม่พูดให้คนอื่นเกิดความรู้สึกรู้สึกแย่ เป็นปฏิปักษ์แบบ ผอ.คนนี้ คำพูดที่ดีนั้น ควรหลีกเลี่ยงคำพูดแบบดุด่าว่ากล่าวตักเตือน ข่มขู่ สั่งการ ออกคำสั่ง วิจารณ์และชี้นำ ไม่พูดคลุมเครือ ไม่ชัดเจน หรือไม่เปิดเผยไม่ตรงไปตรงมาหรือที่เรียกว่าการพูดแบบมีเล่ห์เหลี่ยมซึ่งจะทำให้คนอื่นสับสน ขาดความไว้วางใจ ไม่พูดแบบยกตนข่มท่าน วางตนอยู่เหนือคนอื่น กรณีนี้ควรเปลี่ยนเป็นพูดแบบเชิงปรึกษากัน เห็นคล้อยตามกันเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน หรือพูดแบบให้กำลังใจคนทำงานเพื่อให้งานบรรลุผลสำเร็จ รู้จักรับฟังความคิดเห็น ให้คุณค่าความคิดตลอดจนการกระทำของผู้อื่น เปิดโอกาสให้คนอื่นได้แสดงทัศนะความเห็น ที่อาจไม่ถูกใจตัวเองนัก แต่จะได้ประเด็นและแง่คิดที่แตกต่างกันออกไป
จงจำไว้ว่าคนเราทุกคน ล้วนต้องการการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เคารพสิทธิ ไม่ชอบการล่วงละเมิด ต้องการการยกย่อง ชอบความถูกต้อง ความมีเหตุมีผล ความพอเหมาะพอควร ไม่มีใครชอบคำพูด แบบทำดำให้เป็นขาว เหมือนนักการเมืองสมัยนี้ชอบทำ ควรพูดแบบมีมนุษยธรรมรู้เค้ารู้เรา พูดแบบตรงไปตรงมาจริงใจและสุภาพ เพื่อช่วยให้เกิดบรรยากาศความเข้าใจในการพูดคุยที่ดี สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการสื่อสารที่ดีและเหมาะสมที่ไม่ทำให้เกิดการขัดแย้งกัน และทำให้เกิดการยอมรับในกันและกัน ดังนั้นหลักการพูดที่ดี คือ "ควรคิดก่อนพูด" ในทุกครั้งที่ต้องสื่อสารกับผู้อื่นเห็นด้วยมั๊ยคะ เก็บเอาภาพการ์ตูนกุมภากะมีนา ของคุณลิงใจดี เรื่อง สื่อสารซึ่งไม่สื่อสาร มาฝากเพื่อเป็นแง่คิด ใครชอบฝีมือคุณลิงใจดีก็มีวางแผงให้เห็นแล้วนะคะ จขบ.เองก็ว่าจะติดตามหามาอ่านบ้างค่ะ
ได้อ่านบทความของ ศ.ดร เกรียงศักดิ์ ที่เวปที่นี่ดอทคอม ขอยกมาเพียงบางส่วน ท่านได้เขียนไว้ว่า...จะพูดอย่างไรให้ได้งาน ซึ่งในหัวข้อหนึ่งได้บอกไว้ว่า..ด้วยการหาตัวช่วย เพื่อให้เกิดความร่วมมือของคนในหน่วยงาน เนื่องจากการต่อต้าน ที่ จขบ. หยิบยกประเด็นนี้ก็จากเหตุข้างต้นที่กล่าวมา ซึ่งท่านได้บอกว่า...ความสำเร็จของงานส่วนหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับการประสานงานและการให้ความร่วมมือกัน การพูด เป็นวิธีการสื่อสารที่สำคัญ และสามารถให้คุณให้โทษได้เช่นเดียวกัน เลือกใช้ ภาษา ในการพูดให้เหมาะสมใช้น้ำเสียงดังฟังชัดเจน ระดับเสียงที่มีน้ำหนักสูงต่ำ มีจังหวะช้าเร็วพอดี ซึ่งจะช่วยให้การพูดน่าฟังขึ้นมาก ท่าทางที่แสดงออกผ่านสีหน้าและแววตาเป็นเสมือนกระจกสะท้อนให้ผู้อื่นเข้าใจว่าขณะนั้นมีอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร จึงต้องระมัดระวังการแสดงสีหน้าท่าทาง และผู้ที่ต้องการความสำเร็จในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว ต้องหมั่นฝึกฝนตนเองและพัฒนาการสื่อสารด้านการพูด ซึ่งท่านบอกว่าลักษณะการพูดที่ดี มีดังนี้ :-
1. มีถ้อยคำดี การพูดที่ใช้ถ้อยคำดีช่วยทำให้ผู้ฟังชื่นใจ มีความไพเราะ พูดจาสุภาพอ่อนหวาน มีหางเสียง ไม่กระโชกโฮกฮาก และไม่ขู่ตะคอก เป็นความจริง สิ่งที่พูดออกไปต้องใตร่ตรองแล้วว่าเป็นความจริงจึงพูดออกไป แม้สิ่งที่พูดเป็นความจริง แต่ต้องพิจารณาว่าความจริงนั้นเมื่อพูดไปแล้วมีประโยชน์ด้วย ผู้ฟังพอใจ ไม่ควรพูดให้ใครต้องเสียหาย ควรพูดไปแล้วให้เกิดพันธมิตรไมตรีต่อกัน
2. มีความเหมาะสม ในการพูดจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมเหมาะสมกับกาล ต้องรู้ว่าเวลานี้ควรพูดหรือไม่ และพูดอย่างไร เหมาะสมกับเทศะ สถานที่ใดควรพูดเรื่องอะไร เช่น ไม่ควรพูดเรื่องบันเทิงในงานศพ เหมาะสมกับบุคคล ต้องคำนึงถึงเพศ วัย สถานะ ของผู้ฟัง รู้ว่าพูดทำไม เพื่ออะไร จะช่วยให้การพูดได้เนื้อหาสาระไม่เสียเวลา
3. มีศิลปะ เช่น การใช้สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียงและสายตา รวมทั้งใจจิตวิทยาในการพูดด้วย เว้นวจีทุจริต ไม่พูดเท็จ ไม่พูดคำหยาบ เพ้อเจ้อ และส่อเสียด
จขบ. อาจรู้สึกอคติในความรู้สึกบ้างเมื่อรับรู้ แต่ในแง่การทำงานเราเป็นลูกน้องเราก็ต้องรู้จักการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ชอบหรือไม่ชอบก็ต้องเก็บไว้ในใจ ต้องให้โอกาสผู้อื่น บางครั้งการที่คนๆ หนึ่งเป็นแบบนี้ก็อาจมีเหตุผลของตัวเองหลายๆ อย่างที่คนอื่นไม่เข้าใจและก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ การมองโลกในแง่ดีจะมีส่วนช่วยให้มุมมองลบๆ เปลี่ยนไปพร้อมโอกาสที่ให้ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็ไม่น่าจะทำงานร่วมกันไม่ได้ เพราะหลังจากที่ได้ตำแหน่งเธอก็รู้ตัว และรับปากว่าจะแก้ไขในสิ่งที่เธอรับทราบว่าเธอเป็นอย่างนั้น และจะพยายามทำงานอย่างถูกต้องมีระบบเพื่อให้ทุกคนทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข..ซึ่งควรขอบคุณพี่คนแรกได้ฝากวาทะศิลป์ที่ทำให้เธอ ผอ.คนใหม่ได้ปรับเปลี่ยนลดท่าทีบางอย่างให้น้อยลง แต่สิ่งที่จะบอกลูกน้องอย่างเราๆ ว่าเธอทำได้หรือไม่ก็เป็นเรื่องของอนาคตล่ะ..
เพลง : ใจบางๆ
ศิลปิน : อ้อน เกวลิน
ไม่ได้เก่งมาจากไหน
ผู้หญิงคนนึง ก็มีเพียงหนึ่ง หัวใจ
หากจะบีบ ก็ตาย
เหมือนลูกไก่ อยู่ในกำมือ ของเธอ
ถึงบางที อาจดูก้าวร้าว
หรือบางคราว อาจดูเข็มแข็ง
ถ้าทิ้งกัน ฉันคงสิ้นแรง สิ้นใจ
หัวใจฉันบางๆ ไม่มีทางรับมือ
ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง ก็คือผู้หญิงต้องเข้าใจ
รู้เพียงคำว่ารัก ไม่รู้จักคำว่าลา
สงสารฉันเถิดหนา ไม่ได้ต่อรอง
แต่ขอร้องเธอ อย่าทิ้งฉันไป
ไม่ได้เก่งมาจากไหน
จะลบความจำ ล้างเธอออกจาก...หัวใจ
รวดเร็วเกิน ตั้งตัว
กลัวเหลือเกิน ขาดเธอจะเดิน เช่นไร
ถึงบางทีอาจดู ก้าวร้าว
หรือบางคราว อาจดูเข็มแข็ง
ถ้าทิ้งกัน ฉันคงสิ้นแรง สิ้นใจ
หัวใจฉันบางๆ ไม่มีทางรับมือ
ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง ก็คือผู้หญิงต้องเข้าใจ
รู้เพียงคำว่ารัก ไม่รู้จักคำว่าลา
สงสารฉันเถิดหนา ไม่ได้ต่อรอง
แต่ขอร้องเธอ อย่าทิ้งฉันไป
จะทำ อะไร ก็ดูขวางตา
พูดจา ก็ไม่เข้าที ทำดี ที่สุดแล้ว
อยากให้เธอรัก อยากให้เรา เหมือนเดิม
หัวใจฉันบางๆ ไม่มีทางรับมือ
ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง ก็คือผู้หญิงต้องเข้าใจ
รู้เพียงคำว่ารัก ไม่รู้จักคำว่าลา
สงสารฉันเถิดหนา ไม่ได้ต่อรอง
แต่ขอร้องเธอ อย่าทิ้งฉันไป
หัวใจฉันบางๆ ไม่มีทางรับมือ
ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง ก็คือผู้หญิงต้องเข้าใจ
รู้เพียงคำว่ารัก ไม่รู้จักคำว่าลา
สงสารฉันเถิดหนา ไม่ได้ต่อรอง
แต่ขอร้องเธอ อย่าทิ้งฉันไป
ขอร้องเธอ อย่าทิ้งฉันไป
เห็นด้วยเลยค่ะพูดดีเป็นเป็นศรีกับตัวเองจ้า