ลมหายใจของเมื่อวาน
ลิปตา
เธอ เคยบอกเอาไว้ จะรักกันจน สิ้นลมหายใจ
จะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลง แต่วันเวลาได้พาเปลี่ยนหัวใจ
ให้คำสัญญาต้องถูกลืมไปเหลือเพียงฉันอยู่ตรงนี้
เมื่อชีวิตของเธอเลือกอยู่เพื่อวันพรุ่งนี้
แต่ชีวิตของฉันต้องอยู่ด้วยลมหายใจของเมื่อวาน
แต่ก่อนยังไงวันนี้ฉันยังคงเหมือนเดิม
ไม่มีใครมาเพิ่มเติม ทุกอย่างยังคงเหมือนอดีตในวันนั้น
และแม้วันนี้เธอนั้นจะไม่รักกัน
แต่หัวใจฉันคงยังไม่พร้อม ที่จะก้าวเดินต่อไป
เมื่อชีวิตของเธอเลือกอยู่เพื่อวันพรุ่งนี้
แต่ชีวิตของฉันต้องอยู่ด้วยลมหายใจของเมื่อวาน
แต่ก่อนยังไงวันนี้ฉันยังคงเหมือนเดิม
ไม่มีใครมาเพิ่มเติม ทุกอย่างยังคงเหมือนอดีตในวันนั้น
และแม้วันนี้เธอนั้นจะไม่รักกัน
แต่หัวใจฉันคงยังไม่พร้อม ที่จะก้าวเดินต่อไป
แต่ก่อนยังไงวันนี้ฉันยังคงเหมือนเดิม
ไม่มีใครมาเพิ่มเติม ทุกอย่างยังคงเหมือนอดีตในวันนั้น
และแม้วันนี้เธอนั้นจะไม่รักกัน
แต่หัวใจฉันคงยังไม่พร้อม ที่จะก้าวเดินต่อไป
แต่ก่อนยังไงวันนี้ฉันยังคงเหมือนเดิม
ไม่มีใครมาเพิ่มเติม ไม่มีใครมาแทนที่เธอ
ทั้งใจของฉันอยู่กับอดีตในวันนั้น
และแม้วันนี้เธอนั้นจะไม่รักกัน
แต่หัวใจฉันคงยังไม่พร้อม
(ชีวิตชั้นยังไม่พร้อม)
ที่จะก้าวเดินต่อไป
ลมหายใจของเมื่อวาน - เพลงประกอบละคร รักซ่อนแค้น
ทุกข์และสุขอยู่ที่ใจคนเรานั่นเป็นเรื่องจริง...วันเวลาที่ผ่านเจอทั้งทุกข์และสุข ครั้งใดที่เจอความสุขก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะลืมความทุกข์ที่เคยได้รับผ่านมา เพราะไม่นานก็ต้องเจอกับทุกข์อีกและอีกไม่นานเช่นกันก็เจอความสุขอีกสลับกันไปแบบนี้ ตอนนี้ถามตัวเองว่าอยู่ในช่วงไหนเหรอ...ตอบได้ว่าอยู่ในช่วงทรงๆ ทรุดๆ เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์เดี๋ยวเศร้าเคล้าน้ำตาสับสนปนเปกันไป ถ้าหากไม่คิดอะไรก็สุข แต่เมื่อคิดขึ้นมาครั้งใดก็เจ็บปวดและทุกข์เศร้าเมื่อนั้น อาจมีใครบอกว่างั้นอย่าคิดสิ คงทำไม่ได้ เพราะบางปัญหามันเกิดชนเฉพาะหน้า อยู่ในระหว่างแก้ไขด้วยเวลา แต่มันก็ไม่ทันใจคนกำลังแก้ก็เลยทุกข์...
เมื่อวานชวนกันไปเขาดินเพราะเจ้าตัวน้อยบ่นมาหลายวันแล้วว่าอยากไปสวนสัตว์ อยากไปดูม้าลาย ยีราฟ สิงโตที่สำคัญอยากดูไดโนเสาร์....55555....แล้วจะไปหาไดโนเสาร์ได้ที่ไหนหนอ ช่วงที่มีการแสดงไดโนเสาร์ก็ไม่ได้จองบัตร อีกอย่างเป็นช่วงที่กำลังมีปัญหาแบบคอขาดบาดตายปลีกตัวไปไหนไม่ได้ เจ้าตัวน้อยก็เลยอดดูไปตามระเบียบ วันนี้อยู่ๆ ชวนกันไปเขาดินแบบไม่ได้ตั้งตัวคิดจะไปก็ไป ขับรถไปเส้นทางปิ่นเกล้าตรงไปซังฮี้ออกสวนจิตรลดา เข้าทางประตู 3 ใกล้วังเสียค่าผ่านประตูทั้งคนและรถไป 160 บาทนำรถไปจอดด้านในได้เลย
ตอนที่ไปใกล้เที่ยงแล้วก็เลยแวะทานอะไรกันในเขาดินนั่นล่ะเป็นร้านอาหารวังวนา ทานกัน 3 คนเองแต่สั่งมาซะ 5 อย่างไม่รวมข้าวเหนียวได้รสชาติที่แปลกดีแท้ ทานข้าวเหนียวกะไส้กรอกและยำไข่ดาว....55555....อาหารที่นี่รสชาติโอเคมากๆ ราคานับว่าสูงหมดไป 600 กว่าบาทอิ่มถึงเย็นเลยนะนั่น
ออกจากร้านอาหารก็เจอสระใหญ่พร้อมจักรยานวารี ที่เจ้าตัวน้อยอยากถีบมากๆ แต่ไม่มีใครอนุญาตและพาลงไปหน้าสระประตูสามจะเห็นสมันรูปปั้นตั้งเด่นอยู่กลางน้ำพุที่สวนสัตว์บอกเป็นสัญลักษณ์ของเขาดินมีแต่คนถ่ายด้านหน้าแต่เราถ่ายด้านหลังซะงั้น จะได้ไม่เหมือนชาวบ้านไงคะ...
รอบๆ บริเวณสวนสัตว์จะมีนานาสารพัดสัตว์ที่อยู่ในกรงและนอกกรงเป็นอิสระให้คนที่เข้าชมได้ชมกันมากมาย แต่ดูเหมือนว่าสัตว์น้อยกว่าแต่ก่อนมาก หรือว่าเราไม่ได้เดินดูทั่วๆ กันนะเนี่ย
เจ้าตัวน้อยร่าเริงสนุกสนานมีความสุขอยู่คนเดียว จะมีทุกข์ในบางภาพที่ถูกทุบทำโทษเพราะดื้อ...55555....ไม่ใช่ฝีมือ จขบ.นะที่ทุบ หันมาอีกทีเจ้าตัวน้อยหน้าก็บูดบึ้งเพราะถูกทุบไปซะแล้ว....
มีหลุมหลบภัยหลบซ่อนอยู่ในเขาดินด้วย เจ้าตัวน้อยชวนให้เข้าไปดู จูงมือต้อยๆ บอกไปดูกันๆ ลงไปไม่เห็นมีอะไรข้างในมี ตุ๊กตาปูนสองสามตัวแทนคนหลบซ่อนอยู่เพื่อแสดงให้เห็นว่า สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้คนลงไปหลบระเบิดกันยังไง แต่สมัยนี้กับสมัยก่อนคงไม่เหมือนกันคือไม่เจริญเท่าปัจจุบันนี้ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีปูนคอยฉาบในหลุมคงเป็นแค่หลุมดินเหนียวที่คนขุดลงไปเพื่อหลบระเบิดจากเครื่องบิน ในนั้นคงมีอากาศเล็กน้อยและชื้นแฉะเพราะเคยอ่านหนังสือคู่กรรมที่คุณทมยันตีแต่ง บางหลุมก็มีน้ำท่วมขังแสงก็ไม่มีมืดตึ๊ดตื๋อคงน่ากลัวพิลึกบวกกับเสียงลูกระเบิดลงด้วยแล้ว คนที่ลงไปในหลุมคงเหมือนลงนรกเลยนะนั่นว่าป่ะคะ....(จินตนาการเข้าไป)
ส่วนอันนี้ชอบมากที่สุดเป็นการแสดงของสุนัขที่นำมาจากค่ายทหารที่ จ.กาญจนบุรีที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเป็นการแสดงที่น่ารักมากๆ มีทั้งสุนัขไทยและสุนัขเทศที่นำมาฝึก ตัวแรกเป็นหมาไทยแท้ๆ สีดำที่สั่งให้ลุกนั่งเดินหมอบเดินถอยหน้าถอยหลังได้ตรงเป๊ะดุจทหาร อีกสามตัวก็ช่างน่ารักถ่ายรูปมาได้แค่นี้เองเพราะแบตกล้องหมดเกลี้ยง ถือเป็นการแสดงที่เรียกเสียงหัวเราะให้คนชม โดยเฉพาะเจ้าตัวน้อยที่ปรบมือให้ตลอดเวลา หลังการแสดงโชว์มีให้คนชมกอด และถ่ายรูป กับนักแสดงด้วยนะ
หมดไปหนึ่งวัน...สำหรับวันหยุดพิเศษวันรัฐธรรมนูญ ที่เคยหวังว่าจะเป็นวันที่แสดงความปรองดองที่แท้จริงด้วยการปล่อย นปช. ที่ถูกคุมขังไว้แต่แล้วก็หายไปกับสายลม พร้อมกับคดีสองยุบที่ไม่บุบสลายเพราะรู้ๆ กันอยู่...ทำให้รู้ว่าโลกนี้ยุติธรรมไม่มีจริง พูดไปบ่นไปด่าไปก็เท่านั้นหนาได้อีก เลยต้องหาอะไรดูแก้หนากันดีกว่ามาดูคลิปแมวตบแปะที่คนทำขยันทำและทำเก่งซะด้วยขอบคุณนะคะที่อย่างน้อยโลกนี้ยังมีสิ่งดีที่ทำให้ใครหลายๆ คนหัวเราะและยิ้มได้ในวันที่ฟ้าขาดความยุติธรรมแบบนี้...รับรองไม่หัวเราะก็ได้รอยยิ้มบนใบหน้าคนเปิดบ้างหรอกน่ะ...
คลิปแมวตบแปะ
ยังๆ ไม่พอขอแถมคลิปแมวน่ารัก เผื่อใครบางคนยังไม่หายเศร้า ทุกข์เหมือนที่ จขบ.กำลังเป็นก็ได้แต่หาคลิปดูคลิปแก้เบื่อ แก้เหงาทุกข์ โศกเศร้า ใครที่มีสภาพแบบนี้ลองดูนะคะเผื่อช่วยได้...
สำหรับคนเคยมีความรักถึงวันนี้ความรักจะหมดลงเพราะเหตุอะไรก็ตาม อย่าคิดอะไรมากเลยค่ะถือว่าฟ้ากำหนดเวลาให้เรามาคู่กันแค่นั้น ทั้งที่ตอนที่รักกันเราจะหวังไว้ว่าจะเป็นความรักครั้งเดียวหรือเป็นความรักครั้งสุดท้ายแต่ไม่มีใครรู้อนาคต เรื่องอกหักรักร้างเป็นเรื่องที่ไม่มีใครห้ามได้ ไม่ว่าจะเป็นเราที่บอกเลิกหรือเป็นคนที่ถูกบอกเลิก ไม่ว่าจะจากกันด้วยดีหรือจากกันแบบซาดิสถ์ก็ตาม ทุกอย่างจะเป็นประสบการณ์ที่ดี อย่ามัวจมอยู่กับความเศร้าแต่ให้เอาความผิดหวัง ผิดพลาดที่ได้รับเป็นสิ่งเรียนรู้ในเรื่องราวของความรักครั้งต่อไปน่าจะดีกว่า
เรียนรู้จากข้อผิดพลาด ซึ่งอาจได้ข้อคิดอะไรมากมาย มาปรับปรุงตัวเอง ได้คิดพิจารณาไตร่ตรองว่าสิ่งไหนคือความผิดพลาดในความรักที่ผ่านมาที่ทำให้ต้องเลิกกัน เช่น การเอาแต่ใจตนเองมากเกินไป ไม่รู้จักใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ไม่รู้จักแบ่งเวลาระหว่างงานกับเรื่องส่วนตัวให้สมดุล ได้รู้ข้อเสียของตัวเองเพื่อแก้ไขและไม่ทำแบบนั้นอีก
ไม่โทษตัวเองจนเกินเหตุ เพราะบางทีการเลิกราครั้งก่อนไม่ได้เป็นความผิดที่เราก็ได้ จงอย่าโทษตัวเองว่าไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ถ้าหากว่าได้พยายามทุกอย่างแล้วหรือได้แฟนไม่ดีมีกิ๊กเจ้าชู้ ขาดความรับผิดชอบ เห็นแก่ตัวอะไรแบบนี้
จงจำไว้ว่าทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง ไม่ว่าการเลิกกันเพราะเหตุอะไรเราก็ยังมีคุณค่าเหมือนเดิม ต้องมองโลกในแง่ดีเพื่อชีวิตจะได้ไม่เป็นคนไร้ค่า จงอย่าจมอยู่กับอดีตที่เจ็บปวด จงคิดว่าการอกหักใครๆ ก็อกหักกันได้ จงทำใจและเปิดใจรับสิ่งดีๆที่จะมีเข้ามาในวันข้างหน้า
เคยได้ยินไหมที่ว่า..จะรู้ว่าใครเป็นมิตรแท้ก็ต่อเมื่อมีความทุกข์ จะได้รู้ว่าใครคือเพื่อนแท้ ที่ดูแล สนใจ รับฟัง ปลอบใจ อยู่เป็นเพื่อนเราจนทำให้เรารู้สึกดีขึ้น
ทำตัวเองให้ดูดีขึ้น อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัว หันมาดูแลตัวเองให้สวยปิ๊งเหมือนที่เคยเป็นหรือดีกว่าเดิม ไม่ได้ทำเพื่อใครแต่ทำเพื่อตัวเองทำตัวเองให้ดูดีขึ้น เข้าฟิตเนสออกกำลังเพื่อสุขภาพที่ดี หรือพอเหนื่อยก็เพลียอยากนอน เวลานอนเมื่อเหนื่อยก็จะหลับสนิทไม่ต้องมานั่งคิดถึงใคร ไม่ต้องซึม เศร้า เหงาเศร้าใจ ทำตัวเองให้ดูดีขึ้น หรือไปเปิดหูเปิดตาพบกับโลกภายนอกบ้างจะได้เห็นว่ามีคนเป็นอย่างเราก็เยอะทำไมเค้ายังอยู่ได้ และเป็นการเปิดโอกาสให้คนใหม่ๆเข้ามาในชีวิต
จงจำไว้ว่าทุกชีวิตมีที่มาที่ไป ใครทำอะไรไว้อย่างไรก็จะได้อย่างนั้น เรียกกันง่ายๆ ว่ากฏแห่งกรรม งั้นจงทำความดี คิดดี ทำดี ไม่รังแกใครหลอกลวงใครหรือเอาเปรียบใครนะคะ เผื่อเวลาที่เกิดอะไรขึ้นความดีที่ทำจะได้ตอบสนองไม่ให้เกิดเรื่องราวที่แย่ๆ กับชีวิต สำหรับคนที่ทุกข์ท้อผิดหวังลุกขึ้นสู้ค่ะ อย่าล้ม อย่าขลาด อย่ากลัวที่จะลุกขึ้นมาสู้ชีวิตกันอีกครั้งค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังทุกข์ท้อเหงาเศร้านะคะ
สวัสดีครับแวะมาเยี่ยมครับ น่าสนุกจังเลยครับ ในชิวิตนี้ไปเขาดินแค่2ครั้งเองครับ เห็นแล้วอยากไปจังครับ ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ(หนุ่มน้อยโตขึ้นเยอะเลยนะครับ)