วัชพืชที่สำคัญและการป้องกันกำจัด
วัชพืช นับว่าเป็นปัญหาสำคัญในการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ของเกษตรกรที่มีพื้นที่ปลูก ตั้งแต่ 1-2 ไร่ ขึ้นไป ซึ่งจำเป็นต้องจ้างแรงงานคนถอนวัชพืช เพื่อดูแลไม่ให้วัชพืชขึ้นบนเครื่องปลูก วัชพืชที่พบมีทั้งวัชพืชประเภทพืชชั้นต่ำ และพืชชั้นสูงที่งอกจากเมล็ด วัชพืชที่ขึ้นบนเครื่องปลูก พบว่าติดมากับวัสดุปลูก ปลิวมาจากต้นวัชพืชที่ขึ้นอยู่ใต้โต๊ะ บริเวณทางเดินระหว่างโต๊ะ และปะปนมากับน้ำคลอง หรือน้ำชลประทานที่ใช้รดกล้วยไม้ นอกจากนี้ นกยังเป็นสัตว์พาหะนำเมล็ดวัชพืชมาแพร่กระจายบนเครื่องปลูก วัชพืชประเภท เฟิน มอส และตะไคร่ เจริญเติบโตได้ดีในเครื่องปลูกที่มีความชื้นสูง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนขึ้นปกคลุมเครื่องปลูกเร็วมาก ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่กำจัด ปุ๋ยที่ใส่ให้กับกล้วยไม้ไม่สามารถซึมลงสู่ส่วนของรากกล้วยไม้ มีผลให้กล้วยไม้ชะงักการเจริญเติบโตและวัชพืชยังทำให้เครื่องปลูกผุพังไว ต้องรื้อปลูกซ่อมใหม่ เพิ่มต้นทุนการผลิตให้สูงขึ้น นอกจากนี้วัชพืชยังเป็นที่อาศัยของแมลงศัตรูกล้วยไม้ ได้แก่ เพลี้ยไฟ ไรแดง และหอย วัชพืชที่พบทั่วไปในโรงเรือนและบนเครื่องปลูกกล้วยไม้ จำแนกตามลักษณะทางพฤกษศาสตร์เพื่อการป้องกันกำจัด ได้ดังนี้ วัชพืชชั้นสูง วัชพืชชั้นสูง คือ ประเภทมีดอกและเมล็ดแบ่งเป็น 3 ประเภทได้แก่ วัชพืชประเภทใบแคบ,ใบกว้าง,กก วัชพืชใบแคบ ได้แก่ หญ้านกสีชมพู Echinochloa colonum ( L. ) Link หญ้าดอกขาว Leptochloa chinensis ( L. ) Nees หญ้าข้าวนก Echinochloa crus – galli ( L. ) P. Beauv. หญ้าตีนนก Digitaria adscendens ( H.B.H ) Henr. หญ้าตีนกา Eleusine indica ( L. ) Gaertn. พะดอเงี่ยว Dichantium annulatum ( Fotssk. ) Stapf หญ้ารังนก Chloris barbata Sw. วัชพืชใบกว้าง ได้แก่ ส้มกบ Oxalis corniculata L. ผักกะสัง Peperomia pellucide ( L. ) H.B.&K. ผักม่วง Sfauragyne obtusa ( Nees ) O. Ktze. ผักโขม Amaranthus gracilis Desf. เทียนนา Ludwigia hyssopifolia ( C. Don ) Exell พิเลีย Pilea microphylla Liebm กะเม็ง Eclipta alba ( L. ) Hassk น้ำนมราชสีห์ Euphorbia hirta L. หญ้าละออง Vernonia cinerea (L.)Less. ลูกใต้ใบ Phyllanthus amarus Schum & Th.kongl. สร้อยนกเขา Mollugo pentaphylla L. หางปลาช่อน Emillia sonchifolia (L.) DC.ex Wight หญ้ากาบหอย Lindernia crustacean (L.)F. Muell หญ้าเงี่ยงน้ำ Lindernia anagallis (burm.f.)Penn. วัชพืชประเภทกก เป็นวัชพืชใบแคบ ลำต้นเป็นเหลี่ยม ไม่มีข้อและปล้อง บางชนิดมีหัวใต้ดินเช่น กกทราย และหนวดปลาดุก กกทราย Cyperus iria L. หนวดปลาดุก Fimbristylis miliacea (L.)Vahl แห้วหมู Cyperus rotundus L. วัชพืชชั้นต่ำ วัชพืชชั้นต่ำประเภทไม่มีดอกและเมล็ดแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้ เฟินข้าหลวงหลังลาย Asplenium nidus L. เฟินก้างปลา Nephrolepis biserrata Schott เฟินกูดสร้อย Nephrolepis cordifolia (L.)Presl. เฟินปีกไก่ Pyrrosia adnascens (Sw.)Ching ปรงทะเล Acrostichum aureum L. เฟินผักกูดช้าง Thelypteris interrupta (Willd.)k.Iwats. ประเภทมีท่อลำเลี้ยงน้ำและอาหาร ขยายพันธ์ด้วยสปอร์ ได้แก่ ประเภทไม่มีท่อลำเลียงน้ำและอาหาร ขยายพันธุ์ด้วยสปอร์ ประเภทไม่มีท่อลำเลียงน้ำและอาหาร ขยายพันธุ์ด้วยสปอร์ ได้แก่ มอส และประเถทไม่มีท่อลำเลียงน้ำและอาหาร ขยายพันธุ์แบบอาศัยเพศ และไม่อาศัยเพศได้แก่ สาหร่าย หรือตะไคร่น้ำ มีทั้งสาหร่ายสีเขียวอมน้ำเงิน (blue green algae) และสาหร่ายสีเขียว (green algae) วัชพืช ชั้นต่ำ เฟิน มอส และตะไคร่ พบมากบนเครื่องปลูกที่เป็นกาบมะพร้าว เนื่องจากเก็บความชื้นได้นานเหมาะต่อการงอกและการเจริญเติบโตพืชชั้นต่ำ โดยทั่วไปเครื่องปลูกที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป จะมีปัญหาและตะไคร่ขึ้นปกคลุม ถ้าไม่รีบกำจัดจะขึ้นหนายิ่งขึ้นทั้งบนเครื่องปลูกและตามราก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ที่เครื่องปลูกไม่มีโอกาสแห้ง ปุ๋ยและน้ำที่ให้กับกล้วยไม้ไม่สามารถซึมลง สู่รากได้ จีงเป็นสาเหตุของการเกิดตะเกียงบนลำต้นของกล้วยไม้บางชนิด มีผลให้ผลผลิตลดลง ถ้ามอสและตะไคร่ขึ้นปกคลุมหนามากรากจะแห้ง ต้นกล้วยไม้เริ่มไม่แข็งแรง และเน่าตายในที่สุด
การป้องกันกำจัด - กำจัดวัชพืชรอบบริเวณโรงเรือนปลูกกล้วยไม้ ใต้โต๊ะ และบริเวณทางเดินก่อนวัชพืชออกดอก - ล้างวัสดุปลูกก่อนนำมาใช้ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของวัชพืช หรือเมล็ดวัชพืชซึ่งติดมากับวัสดุปลูก - กำจัด วัชพืชด้วยแรงงานขณะที่วัชพืชยังเป็นต้นอ่อน หรือยังไม่ออกดอก ถ้าเป็นวัชพืชที่ขยายพันธุ์โดยสปอร์ เช่น เฟิน ต้องรีบกำจัดก่อนสร้างสปอร์ แต่ต้องปฏิบัติติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง การป้องกันกำจัดวัชพืชในโรงเรือนบนเครื่องปลูกกล้วยไม้ แบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ การป้องกันกำจัดวัชพืชโดยไม่ใช้สารเคมี - ปรับสภาพโรงเรือน สภาพของโรงเรือนเป็นสาเหตุที่สำคัญในการชักนำให้เกิด ปัญหาวัชพืช การปรับสถาพ ปรับปรุงสภาพโรงเรือนให้ไม่ทึบ หรือชื้นเกินไป ให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกบริเวณรอบๆ โรงเรือน ถ้ามีต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบให้ตัดทิ้ง เพื่อให้ลมผ่านได้สะดวก สวนกล้วยไม้ที่อยู่ในที่โล่งหรือที่มีลมพัดผ่านสะดวก เครื่องปลูกแห้งเร็วไม่อับชื้น การเกิดตะไคร่บนเครื่องปลูกจะลดลง สวนที่มีปัญหาตะไคร่ปกคลุมบนเครื่องปลูกมาก อาจเกิดจากโรงเรือนที่ใช้ตาข่ายพรางแสงทึบไป ทำให้เกิดร่มเงาในโรงเรือนมาก เป็นโอกาสให้เกิดตะไคร่เกาะบนเครื่องปลูกได้ง่ายกว่าโรงเรือนที่มีแสงส่อง ผ่านได้มากกว่า แต่การเลือกตาข่ายพรางแสงต้องเหมาะกับชนิดกล้วยไม้นั้นๆด้วย วัสดุปลูก ก่อนนำวัสดุมากปลูกกล้วยไม้ ควรปฏิบัติดังนี้ - กาบมะพร้าว กระถางปลูก ถ่าน หรือ ก้อนอิฐ ควรล้างน้ำก่อนนำมาใช้ เพื่อป้องกันเมล็ดวัชพืชติดมากับวัสดุปลูก - กาบ มะพร้าวสดที่นำมาเป็นวัสดุปลูก ควรคัดเลือกกาบมะพร้าวที่แก่จัด เพราะกาบมะพร้าวอ่อนเกิดการเกาะของตะไคร่ได้ง่ายกว่ากาบมะพร้าวที่แก่ นอกจากนี้กาบมะพร้าวอ่อนเปื่อยและผุง่าย มีอายุการใช้งานไม่นาน - การนำกาบมะพร้าวนำไปเผาก่อนนำมาปลูกกล้วยไม้ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันการเกิดวัชพืชบนเครื่องปลูกได้ แต่การปลูกกล้วยไม้โดยการใช้กาบมะพร้าวเผา ต้องการรดน้ำมากกว่าปกติ เนื่องจากกาบมะพร้าวเผาเก็บความชื้นได้ไม่นาน - ไม่ควรปลูกกล้วยไม่แน่นเกินไป หรือปลูกชิดมาก จนแสงแดดไม่สามารถส่องลงไปถึงรากกล้วยไม้ โอกาสที่เฟิน ตะไคร่ และมอส จะขึ้นบนรากและเครื่องปลูกได้ง่าย น้ำ คุณภาพ ของน้ำ น้ำที่ใช้รดกล้วยไม้ ควรเป็นน้ำที่ปราศจากเมล็ดวัชพืช แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้น้ำคลองหรือน้ำชลประทานรดกล้วยไม้และใช้ผสมสารเคมี แต่น้ำคลองหรือน้ำชลประทานจะมีเมล็ดวัชพืชปะปนมากับน้ำ ซึ่งตรวจพบอยู่เสมอ สวนที่ใช้น้ำคลองรดกล้วยไม้โดยไม่ปล่อยให้เมล็ดวัชพืชตกตะกอนหรือกรองเอา เมล็ดวัชพืชออกก่อน จะมีปัญหาวัชพืชชั้นสูงขึ้นบนเครื่องปลูก การรดน้ำ การให้น้ำด้วยสายยางโดยใช้แรงงานคน มีข้อดีที่ทำให้ทราบว่า ควรจะรดน้ำมากน้อยแค่ไหนในแต่ละจุด สามารถป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำบนเครื่องปลูกได้ แต่ปัจจุบันสวนกล้วยไม้มีขนาดใหญ่ขึ้น ต้องใช้แรงงานคนเป็นจำนวนมากในการรดน้ำกล้วยไม้ เกษตรกรจึงนิยมให้น้ำด้วยระบบสปริงเกลอร์ การให้น้ำแบบนี้เป็นสาเหตุที่สำคัญของการเกิดตะไคร่บนเครื่องปลูก ดังนั้นการให้น้ำแบบนี้ต้องควบคุมปริมาณและระยะเวลาในการปล่อยน้ำออกจากหัว ฉีด ให้พอเหมาะ ถ้าให้น้ำมากเกินไปเครื่องปลูกจะชื้นมากและไม่มีเวลาให้แห้งช่วยให้ตะไคร่ เกาะเร็วขึ้น ควรงดการให้น้ำชั่วคราวเพื่อให้เครื่องปลูกแห้ง จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของพืชชั้นต่ำได้ระยะหนึ่ง การใช้แรงงาน การ ใช้แรงงานคนถอนวัชพืชบนเครื่องปลูก เป็นวิธีกำจัดวัชพืชในกล้วยไม้ที่ดีวิธีหนึ่งเนื่องจากสารกำจัดวัชพืชค่อน ข้างจะเป็นพิษต่อต้นกล้วยไม้ แต่ค่าแรงงานคนถอนวัชพืชสูงกว่าการใช้สารกำจัดวัชพืชมาก การถอนวัชพืชจึงควรปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ คือ กำจัดตั้งแต่วัชพืชเป็นต้นอ่อน ยังไม่ออกดอก ถ้าเป็นวัชพืชชั้นต่ำไม่มีดอกและเมล็ด เช่น เฟิน รวมทั้งการกำจัดวัชพืชที่ขึ้นใต้โต๊ะด้วย เพื่อป้องกันเมล็ดปลิวมาตกบน เครื่องปลูกและต้องปฏิบัติต่อกันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ปล่อยให้วัชพืชออกดอกหรือสร้างสปอร์เพื่อการขยายพันธุ์ในรุ่นต่อไป การถอนวัชพืชด้วยแรงงานคนจึงจะได้ผลดี การป้องกันกำจัดวัชพืชโดยใช้สารเคมี การ กำจัดวัชพืชในกล้วยไม้ด้วยสารกำจัดวัชพืชควรเป็นทางเลือกเมื่อใดปฏิบัติตาม ข้อ 1-4 แล้วไม่ได้ผลหรือในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้สารกำจัดวัชพืชเนื่องจากขาด แคลนแรงงานและแรงงานมีราคาแพงกล้วยไม้เป็นรากอากาศเกาะบนเครื่องปลูก โอกาสที่รากจะสัมผัสสารกำจัดวัชพืชจึงมีมาก สารกำจัดวัชพืชจึงเป็นพิษต่อกล้วยไม้ได้ง่าย การใช้สารกำจัดวัชพืชที่ไม่ถูกต้องรากกล้วยไม้จะแห้ง ใบบิด ดอกกลาย และเน่าตายได้ การกำจัดวัชพืชด้วยสารกำจัดวัชพืชในกล้วยไม้ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท - พ่นบนเครื่องปลูกกล้วยไม้ - พ่นใต้โต๊ะกล้วยไม้ และทางเดินระหว่างโต๊ะ ขอขอบคุณแหล่งความรู้จาก
ชอบกด Like & Share เป็นกำลังใจให้ด้วยน่ะจ๊ะ
Create Date : 20 ธันวาคม 2555 |
Last Update : 20 ธันวาคม 2555 11:34:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1415 Pageviews. |
|
|
|