กล้วยไม้สกุลม้าวิ่ง
สกุลม้าวิ่ง (Doritis) ชื่อวิทยาศาสตร์ Doritis pulcherrima Lindl. ชื่อพื้นเมือง ม้าวิ่ง แดงอุบล ละเม็ด หญ้าดอกหิน กล้วยหิน ชื่อพ้อง Phalaenopsis esmeralda Rchb.f. Phalaenopsis pulcherrima (Lindl.) J.J.Sm. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ราก เป็นแบบรากกึ่งอากาศ (Semi-epiphytic) ลำต้น สั้น ใบ ใบอวบน้ำค่อนข้างหนาแข็ง ยาวประมาณ 15 ซม. กว้างประมาณ 2-5 ซม. สีเขียวหรือเขียวอมม่วง ดอก เป็นช่อ ก้านช่อดอกยาวประมาณ 20-30 ซม.ดอกมีความหลากหลายของสีตั้งแต่สีเกือบขาวขาวอมชมพูชมพูอ่อนไปจนถึงสีม่วงอมชมพูเข้มกลีบดอกสีม่วงอมชมพูอ่อนจนถึงสีม่วงแดงสดโคนปากแคบบางพันธุ์ดอกสีขาวกลีบเลี้ยงมีจุดแต้มเหลือง สถานที่พบ ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ราคาต้นที่ไม่ออกดอก 50 บาท ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล้วยไม้สกุลม้าวิ่งเป็นกล้วยไม้ที่ขึ้นอยู่ตามพื้นดิน ซอกหินหรือแอ่งหิน ที่มีอินทรีย์วัตถุทับถมตามป่าโปร่งทั่วๆ ไป ลักษณะต้นจะสั้นๆ ใบแบนกว้างและค่อนข้างหนา ใบมีสีเขียวหรือสีเขียวอมม่วง ช่อดอกตั้ง ช่อดอกยาวแข็งและตรง ดอกมีสีแดงอ่อนๆ ไปจนถึงสีแดงอมม่วง ลักษณะเด่นของม้าวิ่งคือ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกคู่ล่างจะกางและลู่ไปทางด้านหลัง ทำให้เห็นเส้าเกสรเด่นชัด ดอกจะทยอยบานขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงปลายช่อดอก โดยดอกที่อยู่ด้านล่างก็จะค่อยๆโรยไป กล้วยไม้สกุลม้าวิ่งกระจายพันธุ์อยู่ในพม่า ไทย ลาว กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย พบในธรรมชาติมีเพียงชนิดเดียวคือโดไรติส พูลเคอไรมา (Doritis pulcherrima) หรือเรียกว่าม้าวิ่ง และมีอีกชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อย หรือวาไรตี้ (variety - var.) มีดอกใหญ่กว่าธรรมดา พบทางภาคเหนือและภาคอีสานของไทย คือ แดงอุบล แยกเป็นพันธุ์ บีสโซเนียนา (Doritis pulcherrima var. buyssoniana) ซึ่งแดงอุบลนี้ จากการตรวจนับโครโมโซมของศาสตราจารย์ ระพี และคณะ พบว่ามีโครโมโซมเป็น 2 เท่าของม้าวิ่งทั่วๆ ไป กล้วยไม้ในสกุลม้าวิ่งส่วนใหญ่นิยมนำไปผสมกับสกุลฟาแเลนนอปซิส ได้สกุลใหม่ว่า โดไรเตนอปซิส (Doritaenopsis) นอกจากนี้ยังมีการนำไปผสมกับสกุลอื่นอีก เช่น ผสมกับสกุลเข็มได้เป็นสกุล Doricentrum ผสมกับแวนด้าได้ Vandoritis หรือผสมกับช้าง ได้เป็นสกุล Doristylis เป็นต้น การปลูกเลี้ยงม้าวิ่ง ควรปลูกใส่กระถางดินเผา ใช้เครื่องปลูกเช่นเดียวกับรองเท้านารี คือ อิฐ เศษหิน หรือใช้ถ่านรองก้นกระถาง โรยทับด้วยปุ๋ยหมักผสมทราย หรือปุ๋ยหมักอย่างเดียวก็ได้ เพื่อปรับสภาพการปลูกให้เหมือนกับในธรรมชาติ ส่วนวิธีปลูกจะต้องให้โคนต้นอยู่สูงกว่าผิวบนของเครื่องปลูก อย่าให้โคนต้นจมอยู่ในเครื่องปลูก โดยวางให้เห็นโคนรากโผล่พ้นเครื่องปลูกประมาณ 1 นิ้ว จะทำให้กล้วยไม้งอกงามกว่าปลูกชิดกับเครื่องปลูก
ขอขอบคุณแหล่งความรู้จาก
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- กรมส่งเสริมการเกษตร
- orchidsiam.com แหล่งความรู้เรื่องกล้วยไม้
ชอบกด Like & Share เป็นกำลังใจให้ด้วยน่ะจ๊ะ
Create Date : 17 ธันวาคม 2555 |
Last Update : 17 ธันวาคม 2555 13:38:54 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1775 Pageviews. |
|
|
|