ไม้ตัดดอกเขตร้อน "ขิงอินโดนีเซีย"
ขิงอินโดนีเซียอยู่ในสกุล Tapeinochilus Miq. วงศ์ ZINGIBERACEAE สกุลนี้มีประมาณ 15 ชนิด เป็นไม้เนื้ออ่อนอายุหลายปี มีลักษณะใกล้เคียงกับสกุลเอื้องหมายนา (Costus) เป็นไม้เนื้ออ่อน มีเหง้าใต้ดิน ลำต้นเหนือดินแตกเป็นกอ ใบเดี่ยวเรียงเวียนสบับ ช่อดอกเกิดบนปลายลำต้นเหนือดิน หรือแทงออกมาจากดินโดยตรง บนลำต้นที่ไม่มีใบ กาบรองดอกสีแดง เรียงเวียนสบับ ดอกสีเหลืองหรือสีน้ำตาล แต่ละกาบรองดอกรองรับ 1 ดอก เกสรตัวผู้ที่ไม่สมบูรณ์ 1 อันเปลี่ยนไปมีลักษณะคล้ายกลีบดอก เกสรตัวผู้ที่ไม่สมบูรณ์ด้านข้างมีขนาดเล็ก พืชในสกุลนี้มีถิ่นกำเนิดในมาเลเซีย อินโดนีเซีย นิวกินี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย พืชในสกุลนี้มีการนำเข้ามาปลูกเป็นไม้ประดับ 1 ชนิด คือ ขิงอินโดนีเซีย ชื่อไทย ขิงอินโดนีเซีย, เล็บเหยี่ยว ชื่อสามัญ Indonesian Wax Ginger; Indonesian Ginger; Malaysian Ginger; Giant Spiral Ginger; Pineapple Ginger ชื่อวิทยาศาสตร์ Tapeinochilus ananassae Hassk. วงศ์ Zingiberaceae ไม้เนื้ออ่อน มีเหง้าใต้ดิน อายุหลายปี สูงได้ถึง 2.5 เมตร ลำต้นบอบบาง แตกกิ่ง ใบรูปไข่กลับแคบ ๆ ปลายใบแหลม ใบยาวได้ถึง 15 เซนติเมตร ช่อดอกแทงออกจากเหง้าโดยตรง ช่อตั้งตรง ยาว 005 - 1 เมตร ตัวช่อดอกรูปไข่ กว้าง 10 เซนติเมตร ยาว 15 - 20 เซนติเมตร มีลักษณะคล้ายผลสับปะรด กายใบประดับสีแดงหรือแดงเข้ม แข็ง เกลี้ยง เป็นมัน ปลายแหลมและโค้งออก มีประมาณ 12 ชั้น เรียงเวียนซ้อนทับกัน เป็นทรงกลม ดอกมีสีเหลืองสด ตัวดอกสั้นกว่ากาบรองดอกเล็กน้อย หมายเหตุ ทั้งสกุล Costus, Tapeinochilos เคยถูกจัดอยู่ในวงค์ COSTACEAE แต่ภายหลังถูกย้ายมาอยู่ในวงศ์ Zingiberacead นิเวศน์วิทยา : เป็นพืชที่เจริญได้ดีในที่ที่มีร่มเงาสูง การกระจายพันธุ์พันธุ์ : มีถิ่นกำเนิดที่โมลุคคัส มาเลเซียถึงออสเตรเลีย การขยายพันธุ์ : แบ่งตัดลำต้นปักชำ, แยกกอ ประโยชน์ : พืชต้นนี้นำเข้าไปยังฮาวายในปี 1959 ปลูกเป็นไม้ตัดดอก และไม้ประดับในที่มีร่มเงา ในไทยมีการปลูกเลี้ยงบ้างแต่ไม่เป็นที่แพร่หลายนัก ช่อดอกของเล็บเหยี่ยว มีความสวยงามและใช้เป็นไม้ตัดดอกได้ดี ขอขอบคุณแหล่งความรู้จาก
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- ห้องสมุดความรู้การเกษตร
- กรมส่งเสริมการเกษตร
ชอบกด Like & Share เป็นกำลังใจให้ด้วยน่ะจ๊ะ ==>
Create Date : 21 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2555 13:24:32 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1759 Pageviews. |
|
|
|