ความยึดมั่นถือมั่น คือ บ่อเกิดแห่งทุกข์
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
กาละ ตอนที่ 19

ตี๊ดๆๆตี๊ดๆๆ กาละโทรมา

“สวัสดีครับกาละ...อะไรนะครับ โรงพยาบาลไหนครับ ครับๆๆ ทำใจดีๆนะครับ อย่าเป็นอะไรไปนะครับ ผมไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”

คุณแม่ ของกาละท่านโดน คนร้ายกระชากสร้อยระหว่างที่ท่านออกไปวิ่งตอนเช้า แต่คุณแม่เกิดขัดขืนมันจึงใช้มีดด้ามยาว กระหน่ำแทงอย่างบ้าคลั่ง อาการตอนนี้สาหัส โอกาสรอดน้อยมาก

ตอนที่ผมได้รับรู้แทบจะหมดลมหายใจอยู่ตรงนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่เราเคยทำใจเผื่อเอาไว้เลย ผมไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยด้วยซ้ำไปว่ามันเป็นไปได้ยังไง
ผมเพิ่งเจอท่านเมื่อวานตอนเย็นเอง เรายังทานข้าว พูดคุย หัวเราะ หยอกเล่น เวลาเพิ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง

อาหารที่ผมทานเข้าไปเมื่อวานตอนเย็นที่คุณแม่เป็นคนทำ มันยังอยู่ในกระเพราะอาหารของผมด้วยซ้ำไป ผมรีบไปที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เพราะที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดตอนนี้คือกาละเธอจะเป็นยังไง เธอจะรู้สึกอย่างไร ในเมื่อคนที่เธอรักมากที่สุดมาพบกับเหตุการณ์แบบนี้

เมื่อผมมาถึงโรงพยาบาลผมรีบวิ่งเข้าไป เพื่อที่จะสวมกอดคนที่ผมรักที่สุด แต่ ภาพที่ผมพบเห็น คือ คนที่ผมรักที่สุด กำลังยืนร้องให้ โดยมีผู้ชายที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน โอบกอดเธออยู่

ผมต้องฝืนใจตัวเองไม่ให้ร้องให้ ไม่ให้ดูเศร้าไปกว่านี้ แล้วพยายามกลั้นน้ำตา ยังไงผมก็ต้องเข้าไปปลอบใจเธอ

“กาละ ทำใจดีๆนะครับ ผมอยู่กับคุณแล้วนะครับ ท่านต้องไม่เป็นอะไรครับ”
“แม่เป็นคนดีทำไมต้องมาทำกับท่านแบบนี้ด้วย ทำไมไม่มาเอาชีวิตกาละไป ยังไงกาละก็ต้องตายอยู่แล้ว ทำไม ทำไม”

เธอร้องให้เหมือนกับชีวิตได้แตกสลายออกเป็นชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย มันไม่มีวันที่จะกลับมาประสานให้เหมือนเดิมได้...

เหมือนคนกำลังจะขาดอากาศหายใจ...ต้องพยายามดิ้นรนไขว่คว้าเอามันมาให้ได้ไม่เช่นนั้นชีวิตก็คงสูญสิ้นอยู่ตรงนี้...ผมไม่รู้จะปลอบใจเธอให้หายเสียใจได้ยังไง เพราะตัวผมเองก็รู้สึกเสียใจไปไม่น้อยไปกว่าเธอเลย

ทำไมโชคชะตามันมักคอยส่งแบบทดสอบมาให้เราได้ทำตลอดเวลา ถ้าคุณผ่านแบบทดสอบนี้ไปคุณก็ ต้องไปเจอกับแบบทดสอบใหม่ๆต่อๆไปอีก มันไม่มีจบสิ้น จนกว่าคุณจะไม่มีลมหายใจ

ในชีวิตผม ผมเจอเรื่องน่าเศร้ามาไม่มากนัก แต่ สำหรับบางคนนั้นได้พบเจอซะจนมากมายเกินจะรับไหว จนบางครั้งผมคิดว่าคนที่เข้มแข็งที่สุด เท่านั้นที่จะใช้ชีวิตบนโลก ที่ซับซ้อน และวุ่นวายใบนี้ได้

ผมพยายามพูดคุยกับเธอตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เธอคิดมาก แต่ในใจก็ยังสงสัยว่าผู้ชายคนนั้นคือใครกันแน่ แต่มันคงไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาคาดคั้นอะไรจากเธอตอนนี้

“กาละมองหน้าผมนะครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะอยู่กับกาละ ขอให้กาละเชื่อใจผม ผมจะไม่มีวันทอดทิ้งกาละ”

“นนท์ ...นนท์ ต้องอยู่กับ กาละนะ ชีวิต กาละไม่เหลือใครอีกแล้ว”

ในขณะเดียวกันนั้นเวลาของคำตัดสินจากโชคชะตา ก็เริ่มเดินเข้ามาหาเรา 2 คน

“คุณ 2 คนเป็น อะไรกับผู้ป่วยครับ”

“ฉันเป็นลูกสาวค่ะ”

“ทำใจดีๆนะครับ หมอเสียใจจริงๆครับ เราพยายามช่วยจนสุดความสามารถ แล้วจริงๆ แต่ผู้ป่วยไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้ หมอเสียใจจริงๆครับ”

เวลานั้น มันเหมือนมีเงาปีศาจร่างยักษ์ เดินตรงเข้ามาที่ หญิงสาวคนนี้ คนที่จิตใจมีแผลลึกฉกรรจ์อยู่แล้ว และเจ้าปีศาจมันก็เงื้อมกรงเล็บที่คมปานใบมีดโกน กรีดเข้าไปที่แผลลึกอย่างสุดแรงเกิดของมัน แล้วมันก็เดินจากไปอย่างช้าๆ ปล่อยให้ร่างของหญิงสาวผู้นั้น ค่อยๆตายไปอย่างช้าๆ

ผมทำอะไรไม่ถูกจริงๆ รู้แต่เพียงว่าผมต้องดูแล และรักกาละให้มากที่สุดเท่าที่ชีวิตผมจะทำได้ ผมคงต้องปล่อยให้เธอร้องให้ไป และให้เวลาคอยช่วยรักษาแผล แต่เธอจะมีเวลาอีกนานเท่าไหร่

นี่สิคือสิ่งที่ผมกังวลมากที่สุด...คืนนี้ผมคงต้องอยู่ที่บ้านเธอ เพราะดูแล้ว เธออาการแย่มาก แล้วเรื่องงานแต่งงาน ผมยังไม่รู้ว่ามันจะมีต่อไปรึเปล่า แล้วชีวิตของเราจะเป็นยังไงต่อไป...เธอไม่ยอมนอน เอาแต่ร้องไห้ จนผมต้องปล่อยให้เธอร้องไปเรื่อยๆแล้วเธอก็ถามผมว่า

“นนท์ ถ้ากาละตายไป นนท์จะเสียใจรึเปล่า”

“ผมว่าเราอย่าพูดเรื่องนี้ดีกว่านะครับ ขอแค่วันนี้ ตอนนี้ผมได้อยู่กับกาละก็ดีที่สุดแล้วครับ วันข้างหน้าจะเป็นยังไงผมไม่อยากรู้ครับ เพราะผมเริ่มไม่แน่ใจในชีวิตแล้วว่า อะไรมันจะเกิดขึ้นบ้าง”

“ก็จริงนะค่ะ คุณแม่เมื่อวานยัง นอนอยู่ข้างๆกาละอยู่เลย แต่วันนี้ท่านไม่อยู่แล้ว”

เธอพูดไปก็ร้องไห้ไป...

“กาละ ผมขอถามคำถามที่ค้างคาใจผมได้ไหมครับ”

“อะไรค่ะ...”

“กาละ รักผมรึเปล่าครับ”

“กาละ รัก นนท์ ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันแล้วค่ะ มันเหมือนว่า นนท์คือคนที่กาละรอคอยมานานแสนนาน กาละสัมผัสได้ว่า นนท์จะไม่ทำให้เสียใจ และเป็นผู้ชายคนเดียวที่เกิดมาเพื่อกาละ”

“กาละ คิดว่าผมเป็นคุณพ่อ ที่กลับมาเกิดรึเปล่าครับ”

“คุณแม่เล่าให้ฟังหมดแล้วใช่ไหมค่ะ”

“ครับ...แต่ผมบอกท่านเองว่าไม่ให้บอกกาละ ว่าผมรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ผมไม่อยากให้กาละไม่สบายใจ”

แล้วเธอก็เริ่มเล่าเรื่องราวที่แท้จริงของเธอ

“เมื่อตอนเด็กๆ กาละฝันเห็นคุณพ่อโดยภาพในฝันว่า กาละกำลังวิ่งตามหาพ่อ แต่ไม่เจอค่ะ มันมืดมากมองอะไรไม่เห็น แต่จู่ๆก็มีคนเดินผ่านมา แต่กาละกลัวมากค่ะก็เลยวิ่งหนีไป”

“แต่แม่เคยเล่าให้กาละฟังว่า เคยได้ยินกาละละเมอเหมือนกับคุยกับใครอยู่ว่า พ่อๆ แล้วก็ หนูมาตามหาพ่อค่ะ แต่กาละจำไม่ได้ค่ะ รู้แต่ว่าหน้าของนนท์ คล้ายๆกับคนที่กาละฝันเห็น เขาเข้ามาทักกาละ

แล้วก็จำไม่ได้แล้วค่ะ พอกาละเห็นหน้านนท์ครั้งแรก รู้สึกตกใจว่าทำไมหน้าถึงไปคล้ายกับคนในฝัน แล้วยังมาคล้ายกับคุณพ่อ ตอนหนุ่มๆ ก็เลยไม่รู้จะหาเรื่องยังไงให้ เรา 2 คนได้รู้จักกันมากขึ้น”

“กาละก็เลย แกล้งผมไม่ยอมเรียกประกัน เพื่อที่จะได้รู้จักกับผมใช่ไหมครับ”

“นนท์ คงไม่โกรธนะที่ ตอนนั้น งี่เง่าไปหน่อย”

“ผมจะโกรธทำไมหละครับ เพราะถ้าเรื่องมันไม่เป็นตามนั้น แล้วเรา 2 คนจะได้ รู้จักกันเหรอ จริงไหมครับ”

“แต่ผมก็มีเรื่องไม่เข้าใจเหมือนกัน คือผมเคยพบเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ คอนโด หน้าเหมือนกาละ ตอนเด็กๆมาก และที่สำคัญกำลังตามหาพ่ออยู่ด้วย มันจะเป็นเรื่องบังเอิญได้ไหมครับ”

“กาละ ก็ไม่แน่ใจค่ะ”

“แล้วเรายังจะจัดงานแต่งงานอีกรึเปล่าครับ”

“งานแต่งงานไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอกค่ะ...แล้วร้านที่กาละพาไปดูชุดแต่งงาน ชุดที่กาละใส่ก็เป็นของกาละเองค่ะ กาละเคยไปถ่ายรูปที่ร้านนี้ คือ อยากถ่ายรูปชุดแต่งงาน เพราะไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้แต่งจริงๆ

และเคยบอกพี่เจ้าของร้านไว้ว่า ถ้าภายในปีนี้กาละไม่ไปรับชุด ถือว่านกยกให้ทางร้านไว้ให้คนอื่น ที่อยากแต่งงานแต่อาจมีเงินไม่พอ ก็ให้เขายืมฟรีๆ”
“ทีนี้ นนท์รู้แล้วว่ากาละมีเวลาเหลืออีกไม่นาน นนท์จะทำยังไงค่ะ”

“ผมไม่ได้สนใจเรื่องนั้น ผมสนใจแต่ว่าผมจะอยู่กับกาละ รัก และดูแล ให้ดีที่สุดเท่านั้นเองครับ ส่วนเรื่องอื่นมันยังไม่เกิดเราจะไปกังวลทำไมครับ...”
จริงๆแล้ว ผมแค่พูดไปให้เธอสบายใจ...

ความรู้สึกข้างในผมตอนนี้มัน สุดแสนจะทรมาน สุดจะเหงาเหมือนกับว่าเธอกำลังเดินจากผมไปทีละนิด ทีละนิด โดยทิ้งผมไว้ให้อยู่เพียงลำพัง
“แล้ว นนท์จะคิดถึง และรัก กาละ ตลอดไปรึเปล่าค่ะ”

“ตลอดไปครับ จนกว่าผมจะหมดลมหายใจ”

“นนท์ รักงานที่ ทำมากรึเปล่าค่ะ”

“ทำไมเหรอครับ”

“นนท์ อยู่กับ กาละ ตลอดไปเลยได้ไหมค่ะ”


++++ติดตามต่อนะครับ ใกล้จะจบแล้วหละครับ++++




Create Date : 27 ธันวาคม 2552
Last Update : 27 ธันวาคม 2552 10:37:21 น. 4 comments
Counter : 273 Pageviews.

 
มาเร้ววววว
แหมเผลอแป๊บเดียวสองตอนรวดเลยเหรอค่ะ...

พอดีเมื่อเช้ายุ้งยุ่งค่ะ ตอนนี้ก็ยังยุ่งอยู่เลย
แต่ไม่เป็นไรทำไปอ่านไปได้ค่ะ สามารถ อิอิ

ดีจังเลยค่ะไม่ทานเหล้า เมื่อก่อนเคยทานเยอะด้วย
ตอนที่ยังไม่ได้เข้าวัด แต่มาตอนหลังบุญเก่าอาจจะหนุนส่ง
ทำให้เลิกได้ แล้วก็เลิกเที่ยว หันมาเข้าวัดแทน แล้วก็เข้าวัด
ฝึกสมาธิมาเรื่อยๆค่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่ถือว่าเก่ง แต่ก็ยอมรับว่า
ดีขึ้นตามลำดับ ถ้าเราขยันฝึกก็ต้องดีได้สักวัน หลวงพ่อบอกมา

งั้นเดี๋ยวขอไปหากาละก่อนนะค่ะ
ไม่สบายเป็นไงมั่งก็ไม่รู้ เป็นห่วงจัง


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:13:05:46 น.  

 
หว้า..จะจบแล้วเหรอ
ไม่อยากเดาเลยว่าจะเป็นยังไง
แต่อย่าเศร้ามากนักนะ
ไม่อยากเสียน้ำตา.......

ว่าแต่อีกกี่ตอนจบน๊า.......


โดย: นุ่มณอ่อนนุช วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:13:40:08 น.  

 
อีก 3 ตอนครับ.....

น่าจะไม่เกินนี้นะ หรืออย่างมากก็ไม่เกิน 5 ตอนครับ พูดไป งง ไป

................................................


โดย: ผัสสะ วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:14:00:59 น.  

 
ไม่ว่าจะผ่านไปสักกีปี
ยังมีความปรารถนาดีมามอบให้
แม้ว่าอยู่ห่างไกลยัง
มีน้ำใจส่งถึงกัน
ปีนั้นปีนี้ปีไหน
ยังมีพลังใจเติมฝัน
สืยทอดมานานวัน
ขอให้สุขสันต์ทุกวันไป

จากไผ่ค่ะ


โดย: chabori วันที่: 27 ธันวาคม 2552 เวลา:16:23:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผัสสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สิ่งที่รู้ รู้อะไร รู้ในสิ่งจริง หรือ สิ่งลวง หรือ ลวงในสิ่งจริง

คิด คิด ...คิด แล้ว จะ รู้ หรือ รู้ เพราะ ไม่คิด

".. ผัสสะ
Friends' blogs
[Add ผัสสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.